:::     :::

นับถอยหลัง...

วันอังคารที่ 03 มีนาคม 2563 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
1,432
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บาร์เซโลน่า มีโอกาสจบซีซั่นนี้แบบมือเปล่าหลังการปราชัยต่อ เรอัล มาดริด ในแมตช์'เอล กลาซิโก้'ยกล่าสุดและมีโปรแกรมลงเล่นช่วง 12 เกมสุดท้ายหนักกว่าทีมชุดขาว

สถานการณ์บนเวทีลีกาพลิกผันไปมาตลอดช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากที่ เรอัล มาดริด นั่งแท่นจ่าฝูงหลังผ่านพ้นเกมที่ 23 ของซีซั่น โดยทิ้ง บาร์เซโลน่า 3 คะแนน ก่อนตกบัลลังก์หลังจบเกมที่ 25 และตกเป็นฝ่ายตามหลังทีมอาซูลกราน่า 2 แต้ม จนกระทั่งทัพ'โลส บลังโกส'กลับขึ้นมานำอีกครั้งหลังเกม'เอล กลาซิโก้'เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 

เรอัล มาดริด สยบ บาร์เซโลน่า 2-0 จากการทำประตูของ วินิซิอุส จูเนียร์ กับ มาเรียโน่ ดีอาซ ที่ถูก ซีเนดีน ซีดาน ส่งลงเล่นลีกาเกมแรกของซีซั่นหลังเปลี่ยนลงเล่นแทน คาริม เบนเซม่า ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่กองหน้าเชื้อสายโดมินิกันยิงประตูปิดกล่องให้ทีมชุดขาวสำเร็จ

จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ เรอัล มาดริด แซงขึ้นแท่นจ่าฝูงลีกเมืองกระทิงอีกครั้ง แต่ก็นำ บาร์เซโลน่า เพียงแต้มเดียว ขณะที่อันดับ 3 กลายเป็นสมบัติผลัดกันชมของหลายทีม ล่าสุดตกเป็นของ เซบีย่า ตามมาด้วย เคตาเฟ่ 


ส่วน แอตเลติโก มาดริด เจ้าของอันดับ 3 ก่อนหน้านี้ตกไปอยู่นอกพื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีก โดยตามหลังทีมเซบียาโน่ 2 คะแนน แต่ทีมตราหมีนำ เรอัล โซเซียดาด กับ บาเลนเซีย เพียง 1 กับ 3 แต้ม

ดังนั้นการลุ้นแย่งตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นหน้าจึงเป็นการต่อสู้กันตั้งแต่อันดับ 3 อย่าง เซบีย่า ไปจนถึงอันดับ 7 อย่าง บาเลนเซีย แต่ประมาททีมตามหลังอย่าง บียาร์เรอัล ไม่ได้เช่นกันถ้าหากทีมเรือดำน้ำเหลืองทำซีรี่ส์เก็บชัย 3-4 เกมติด ส่วนการลุ้นแย่งแชมป์ลีกเมืองกระทิงฤดูกาลนี้คงเป็นการดวลกันตัวต่อตัวระหว่าง เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า

ซีดาน เคยกล่าวก่อนหน้าเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาแมตช์'เอล กลาซิโก้'ยังไม่ใช่เกมตัดสินแชมป์ลีกาซีซั่นนี้เพราะยังเหลือโปรแกรมให้ลงเล่นอีก 12 นัดหลังเกมดังกล่าว 


'ผมไม่คิดว่าจะมีฝ่ายใดต้องเสียอะไรในเกมสัปดาห์นี้ เพราะยังมีอีก 12 เกมให้ลงสนาม เรายังอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์โดยไม่ต้องคำนึงถึงผลการแข่งขัน แต่เรามุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะเต็มร้อย'

เรอัล มาดริด จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบชัดเจนถ้าหากพวกเขาพ่ายคารัง'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'เพราะนั่นหมายถึงการตามหลัง บาร์เซโลน่า 5 คะแนนและผลงานการพบกันเป็นรองด้วย แต่สถานการณ์พลิกผันเมื่อทัพ'โลส บลังโกส'เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะจนแซงกลับขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงอีกครั้งและยังเป็นต่อทีมอาซูลกราน่าหากทั้งสองทีมจบซีซั่นด้วยการมีคะแนนเท่ากัน

อย่างไรก็ตามการลุ้นแชมป์ลีกาซีซั่นนี้มีโอกาสออกได้ทั้งสองฝั่งขึ้นอยู่กับฝ่ายใดจะทำผลงานได้ดีกว่ากันในการลงเล่น 12 เกมสุดท้ายของฤดูกาล เพียงแต่บ่อนรับพนันที่ถูกต้องตามกฎหมายหลายสำนักยกทีมชุดขาวของ ซีดาน ขึ้นมาเป็นทีมเต็งหนึ่งเหนือทัพอาซูลกราน่าของ เอ็นรีเก้ เซเตียน เท่านั้น 

พิจารณาจากโปรแกรมช่วง 12 นัดสุดท้ายของทั้งสองทีมต่างมีคิวเตะในบ้านและเล่นนอกรังฝั่งละ 6 เกมเท่ากัน แต่คิวลงเล่นที่เหลือของทัพอาซูลกราน่าหนักกว่าทีมชุดขาว 


งานยากฐานะทีมเยือนของ เรอัล มาดริด นั่นคือโปรแกรมบุกแคว้นบาสก์เพื่อดวลกับทั้ง เรอัล โซเซียดาด และ แอธเลติก บิลเบา โดยเฉพาะทัพ'ลา เรอัล'ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมจนมีโอกาสลุ้นแย่งตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นนี้ ขณะที่ บิลเบา กำลังหวังแย่งตั๋วลุยศึกยูโรปาลีก แม้ บาร์เซโลน่า มีเกมเผชิญหน้ากับสองยักษ์ใหญ่แคว้นบาสก์เช่นเดียวกัน ทว่าเป็นการเล่นในถิ่น'คัมป์ นู'ทั้งสองนัด

ส่วนเกมในบ้านที่เด็กๆของ ซีดาน มีโอกาสสะดุดคือแมตช์รับมือ บาเลนเซีย, เคตาเฟ่ และ บียาร์เรอัล 

สำหรับ บาร์เซโลน่า มีโปรแกรมหนักมือกว่า เรอัล มาดริด โดยเฉพาะการเล่นนอกบ้านที่ปัญหาของพวกเขาในซีซั่นนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้บ่อนรับพนันยกให้ทัพ'โลส บลังโกส'มีโอกาสคว้าแชมป์ลีกเมืองกระทิงฤดูกาลนี้มากกว่า

ทัพอาซูลกราน่ามีเกมยากนอกบ้าน 3 นัดคือแมตช์เยือน เซบีย่า, บียาร์เรอัล และ เซลต้า บีโก้ สองค่ายแรกกำลังลุ้นทำอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรป ส่วนทีมหลังสุดกำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด 


ทีมของ เอ็นรีเก้ เซเตียน ยังพบโจทย์ยากอีก 3 นัดที่'คัมป์ นู' นอกจากเกมรับมือสองทีมดังแคว้นบาสก์ทั้ง เรอัล โซเซียดาด กับ แอธเลติก บิลเบา แล้ว ยังมี แอตเลติโก มาดริด ที่พร้อมเตะตัดขาทีมอาซูลกราน่าในการมาเยือน'คัมป์ นู'ด้วยเช่นกัน

จากโปรแกรมช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้ บาร์เซโลน่า จึงมีโอกาสสะดุดมากกว่า เรอัล มาดริด ซึ่งเป็นเหตุผลที่บ่อนรับพนันยกทีมชุดขาวขึ้นมาเป็นเต็ง 1 และมีการประเมินสถานการณ์ว่าแชมป์ลีกาซีซั่นนี้จะตกเป็นของทัพ'โลส บลังโกส'

อีกหนึ่งตัวแปรสำคัญคือเส้นทางบนเวทียุโรปของทั้งสอง ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งร่วงตกรอบก่อนก็จะเป็นการปลดเปลื้องภาระเหนือเฉพาะการปิดจ๊อบบนเวทีลีกาเท่านั้น


เรอัล มาดริด พลาดท่าพ่าย แมนฯซิตี้ 1-2 คารัง'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก แม้ ซีดาน กับลูกทีมยังมั่นใจว่าทัพ'โลส บลังโกส'ยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์ในอีก 90 นาทีบนสังเวียน'เอติฮัด สเตเดี้ยม'ก็ตาม แต่ต้องยอมรับความจริงว่าอดีตแชมป์รายการนี้ 13 สมัยมีโอกาส'ตก'มากกว่า'รอด'

ขณะที่เส้นทางบนเวทียุโรปของ บาร์เซโลน่า อาจไปไกลกว่าหลังการบุกเสมอ นาโปลี 1-1 ก่อนกลับมาเล่นเกมสองบในบ้าน ซึ่งถ้าไม่เกิดฟ้าผ่ากลาง'คัมป์ นู' ทีมของ กีเก้ เซเตียน จะเป็น 1 ใน 8 ทีมของแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นนี้ 

การผ่านเข้ารอบฟุตบอลยุโรปยิ่งลึกเท่าไหร่ยิ่งบั่นทอนพลังของนักเตะบาร์ซ่า โดยเฉพาะกับขุมกำลังปัจจุบันที่ไม่สดเหมือนเมื่อก่อนเพราะผู้เล่นแกนหลักหลายคนอายุแตะหลัก 30 ปี อาจยืนระยะได้ไม่ดีพอหากจะต้องลงสนามต่อเนื่อง 3-4 วันต่อเกม 


อีกหนึ่งประเด็นน่าสนใจคือบทสัมภาษณ์ของ ริวัลโด้ อดีตกองหน้าคนดังของ บาร์เซโลน่า ที่ระบุว่าทัพอาซูลกราน่ายุค กีเก้ เซเตียน แทบจะไม่พัฒนาไปจากยุค เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์คนก่อนหน้าที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งแม้แต่น้อย แถมระบบของเทรนเนอร์วัย 61 ปียังพึ่งพาความสามารถเฉพาะตัวของ ลิโอเนล เมสซี่ มากกว่าด้วยซ้ำ หรือพูดง่ายๆว่า กีเก้ เซเตียน ปล่อยให้ซุปตาร์อาร์เจนไตน์รับภาระแบกทีมเต็มตัว 

แน่นอนว่าวันไหนบอลเข้าทาง เมสซี่ สามารถยิงคนเดียว 4 ประตูเหมือนเกมขย่ม เออิบาร์ 5-0 แต่วันไหนออกมาในทิศทางตรงข้าม เขาก็แทบจะหายไปจากเกมเหมือนแมตช์'เอล กลาซิโก้'ยกล่าสุด 

'พวกเขาไม่มีการพัฒนาอะไรเลยภายใต้การทำงานของ กีเก้ เซเตียน และทีมก็ยังไม่อยู่ในฟอร์มดีที่สุดในฤดูกาลนี้' 

'ทีมมีกลุ่มนักเตะที่ยอดเยี่ยม แต่พวกเขาต้องครองบอลให้ดีกว่านี้ พวกเขายังต้องหาโอกาสยิงประตูจากนอกกรอบเขตโทษมากกว่านี้เพื่อสร้างความประหลาดใจให้คู่แข่งบ้าง'


'พวกเขาเล่นในระบบใหม่ซึ่งทำให้ทีมต้องพึ่งพา เมสซี่ มากขึ้น เขาต้องรับผิดชอบในการสร้างความแตกต่างในการเลี้ยงบอล, ยิงจากนอกเขตโทษและเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีม เมสซี่ จะเป็นเป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามและถ้าเขาเล่นไม่ออกทีมก็จะรู้ได้ในทันที'

ส่วนปัจจัยภายนอกอย่างการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าหรือ'โควิด-19'อาจจะมีผลกระทบบ้างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นๆ หากการแพร่ระบาดกระจายเป็นวงการก็อาจมีการพิจารณาจัดแมตช์แข่งขันโดยไม่เปิดสนามให้แฟนบอลเข้าชมหรือการเลื่อนโปรแกรมการแข่งขัน 

เส้นทางการลุ้นแย่งแชมป์ลีการะหว่าง เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า คงต้องลุ้นกันแบบนัดต่อนัด สัปดาห์ต่อสัปดาห์ เพราะสถานการณ์อาจพลิกผันได้ทุกเมื่อขึ้นอยู่กับฝ่ายใดจะก่อความผิดพลาดน้อยกว่ากันเท่านั้น 

โปรแกรมช่วง 12 เกมสุดท้ายบนเวทีลีกา

เรอัล มาดริด (56 คะแนน)

นัดที่ 27 - เรอัล เบติส (เยือน)

นัดที่ 28 - เออิบาร์ (เหย้า)

นัดที่ 29 - บาเลนเซีย (เหย้า)

นัดที่ 30 - เรอัล โซเซียดาด (เยือน)

นัดที่ 31 - มายอร์ก้า (เหย้า)

นัดที่ 32 - เอสปันญ่อล (เยือน)

นัดที่ 33 - เคตาเฟ่ (เหย้า)

นัดที่ 34 - แอธเลติก บิลเบา (เยือน)

นัดที่ 35 - อลาเบส (เหย้า)

นัดที่ 36 - กรานาด้า (เยือน)

นัดที่ 37 - บียาร์เรอัล (เหย้า)

นัดที่ 38 - เลกาเนส (เยือน) 

บาร์เซโลน่า (55 คะแนน)

นัดที่ 27 - เรอัล โซเซียดาด (เหย้า)

นัดที่ 28 - มายอร์ก้า (เยือน) 

นัดที่ 29 - เลกาเนส (เหย้า) 

นัดที่ 30 - เซบีย่า (เยือน) 

นัดที่ 31 - แอธเลติก บิลเบา (เหย้า) 

นัดที่ 32 - เซลต้า บีโก้ (เยือน) 

นัดที่ 33 - แอตเลติโก มาดริด (เหย้า) 

นัดที่ 34 - บียาร์เรอัล (เยือน) 

นัดที่ 35 - เอสปันญ่อล (เหย้า) 

นัดที่ 36 - เรอัล บายาโดลิด (เยือน) 

นัดที่ 37 - โอซาซูน่า (เหย้า) 

นัดที่ 38 - อลาเบส (เยือน) 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด