:::     :::

"แบกขนาดนี้ เจ็บทีจะว่ายังไง" และการแก้ไขปัญหายามไม่มีน้าหนวด

วันอังคารที่ 10 มีนาคม 2563 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
5,889
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ตอนนี้แฟนผีกำลังมีความสุข แต่ลองคิดดูหากสักวันนึงบรูโน่เจ็บขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น และนี่คือวิธีการเตรียมรับมือกับสิ่งดังกล่าวที่อาจจะช่วยแมนยูไนเต็ดได้

ตำแหน่ง PFA Player of the month ของเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา น่าจะเป็นเครื่องบ่งบอกในเชิงรูปธรรมที่ดีที่สุดแล้วสำหรับความยอดเยี่ยมของ Bruno Fernandes มิดฟิลด์ตัวรุกคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่กำลังฟอร์มร้อนแรงอยู่ ณ ขณะนี้ ซึ่งหากใครเป็นแฟนแมนยูไนเต็ดก็คงจะทราบเรื่องนี้กันดีว่า บรูโน่เข้ามายกระดับแมนยูไนเต็ดได้มากมายขนาดแทบจะเรียกได้ว่า เปลี่ยนเป็นคนละทีมไปโดยสิ้นเชิงเลย

ก่อนหน้านี้ยูไนเต็ดในยุคที่บรูโน่ยังไม่เข้ามา และเป็นช่วงที่มาร์คัส แรชฟอร์ดยังไม่เจ็บ จะเห็นภาพชัดเจนว่า แมนยูไนเต็ดเป็นทีมที่เน้นเกมรุกที่รวดเร็วจากจังหวะสวนกลับเป็นอาวุธเด็ดที่ร้ายกาจ เน้นการบุกเข้าทำในรูปแบบโอเพ่นเพลย์ใน"พื้นที่เปิด" ยูไนเต็ดมักจะทำได้ดีเสมอจากนักเตะที่มีความรวดเร็วสูงอย่างแรชฟอร์ด และการพาบอลขึ้นหน้ามาโดยแดเนียล เจมส์

นอกจากนี้แล้วจุดเด่นก่อนหน้านี้ที่มักจะเป็นวิธีการเล่นของแมนยูไนเต็ด ก็คือสิ่งที่เป็นเกมบุกจากวงนอกกรอบเขตโทษ ในลักษณะของActionวงนอกที่เน้นการทำประตูจากด้านกว้าง ทั้งการเลี้ยงตัดเข้ามาด้านใน / การยิงระยะไกลเพื่อหวังผล โดยจะรุกจากวงนอกเป็นหลัก

โดยที่แกนหลักของเกมรุกที่ว่านี้นั้นส่วนใหญ่จะมีมาร์คัส แรชฟอร์ดเป็นแกนหลักแทบทั้งสิ้น ทั้งการวิ่งสวนกลับจนได้ประตูสวยๆ การลากและยิงไกลด้วยตัวเองซึ่งแรชเป็นนักเตะที่ยิงระยะนอกกรอบได้ดีและอันตรายหากตรงกรอบ และท้ายสุด ภาระยิงประตูหลายๆครั้งก็เป็นเขาอีกนั่นแหละที่เป็นคนทำประตูได้

เรียกง่ายๆว่าก่อนหน้านี้ ตัวแบกทีมจนเอาตัวรอดมาได้ก็คือแรชฟอร์ดเสียเป็นส่วนใหญ่


รูปแบบการบุกของยูไนเต็ดมักจะเป็นเช่นนั้น ซึ่งจุดอ่อนของเราที่มีมาตลอดก็มักจะเป็นการ "ขาดไอเดียสร้างสรรค์เกมรุก" มาโดยตลอด อย่างที่บอกไปเวลาที่ครองบอลได้นั้น แมนยูไนเต็ดตอนที่ยังไม่มีบรูโน่มักจะทำได้แค่การถ่ายบอลไปมา ซ้ายไปขวา ขวากลับมาซ้าย โดนบีบหน่อยก็คืนหลังเพลย์เซฟ  จากนั้นวนไปข้อ1ใหม่ แบบนี้ไปเรื่อยๆจนบางทีเขาบีบสำเร็จ เราจ่ายพลาด ก็โดนสวนทีนึง หายอีกเพราะว่า สองเซ็นเตอร์ตัวหลักอย่างแมกไกวร์กับลินเดอเลิฟก็ไม่ถนัดกับการดวล 1-1 ซะด้วยอันนี้คือเรื่องจริง สองคนนี้เป็นกองหลังสายทีมเวิร์คซะมากกว่าที่หากมีเพื่อนช่วยกันจะฟอร์มดีมากและกล้าเล่นมากกว่าเดิม

ส่วนปัญหาอื่นๆนั้นก็เกิดจากการขาดนักเตะบางตำแหน่งเช่น แมนยูไนเต็ดขาดมิติของการเล่นหน้ากรอบเขตโทษ รอยิงรอชาร์จซ้ำจังหวะสองนั่นเอง ซึ่ง ณ ตอนนี้สิ่งที่ว่านั้นก็แก้ปัญหาได้แล้วเมื่อเราได้ยืมตัว โอดิออน อิกาโล่เข้าทีมมา.. ยามใดที่อิกาโล่ได้ลงสนาม มักจะยิงประตูจากในกรอบเขตโทษให้เราได้เสมอ

ย้อนกลับไปสู่เรื่องราวของบรูโน่นั้นจะเห็นได้ว่า ณ ตอนนี้เขาได้เข้ามาอยู่กับทีมเราในฐานะ "ตัวแบก" คนใหม่แล้วเรียบร้อยที่ต้องเรียกได้ว่า "รับภาระเกมรุกทุกอย่างให้กับทีม" ตั้งแต่การเชื่อมบอลจากแดนกลางไปตัวรุกด้านหน้า, ยิงลูกฟรีคิก เปิดลูกนิ่ง เตะมุม, ช่วยทำประตู ยิงไกลจากแถวสองเพื่อเพิ่มโอกาสยิงให้ทีม และที่สำคัญที่สุดคือ สร้างสรรค์โอกาสยิงให้เพื่อนด้านหน้าได้นับไม่ถ้วนด้วยจินตนาการในเกมรุก อย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อนัดที่แล้วในเกมเชือดแมนเชสเตอร์ซิตี้ 2-0 ที่ผ่านมาซึ่งเขาเล่นลูกนิ่งและยกบอลให้มาร์กซิยาล เข้าไปวอลเล่ย์ตามน้ำแบบไม่จับอย่างสุดสวย

เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว แม้ว่าเธอไม่เคยเป็นอะไรกับฉันเลยยยย

พูดง่ายๆว่า บรูโน่ทำทุกอย่างให้ทีมจริง และเป็นเหตุที่ทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดฟอร์มติดลมบนอยู่ในขณะนี้แบบแทบจะเรียกได้ว่า ไม่ต้องกลัวใครหน้าไหนในลีกอีกแล้วหลังจากแม้เจองานหนักอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ ก็ยังเอาชนะได้อย่างสวยงามด้วยคลีนชีตอีกครั้ง รวมถึงจำนวนประตูในแต่ละนัดที่ แตกต่างจากยุคก่อนหน้านี้สิ้นเชิงที่ว่า กว่าแมนยูจะยิงได้แต่ละลูก ลำบากยากเย็นเลือดตาแทบกระเด็น พอบรูโน่เข้าทีมมา แมนยูไนเต็ดก็ทำประตูได้เยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งหากเจอเกมง่ายที่พวกเขาปิดตายคู่ต่อสู้ได้เมื่อไหร่ ประตูมักจะไหลให้เห็นอยู่เป็นประจำ

สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เหมือนอยู่ในภาพฝันของแฟนบอลปีศาจแดงว่าเรากำลังจะกลับมายิ่งใหญ่ได้แน่ๆ ด้วยความหวังอันเกิดจากการเล่นของบรูโน่เช่นนี้ที่ทำให้ทีมยกระดับฝีเท้าขึ้นหลายเท่าโดยเฉพาะเกมรุกที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพจริงๆ จนตอนนี้เรากลายเป็นทีมที่สามารถลุ้นอันดับในลีกเพื่อโควตายูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้อย่างเต็มตัวแล้ว ..แต่ในระหว่างที่เรากำลังแฮปปี้และวาดฝันกันอย่างสวยงามถึงปีหน้านั้น ก็เกิดคำถามที่น่ากังวลอย่างหนึ่งขึ้นมาว่า

"ถ้าบรูโน่เจ็บไปคนนึงจะทำยังไง"

เชื่อว่าแฟนผีทุกคนคงจะเสียวทุกครั้งเวลาเห็นบรูโน่โดนเข้าแทคเกิลหนักๆ

เป็นคำถามที่หลายๆคนอาจจะนึกไม่ถึงว่า ในขณะที่เรากำลังฟินกับทีมอยู่นั้น ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ตัวสำคัญของเราเจ็บขึ้นมา แล้วทำให้ไม่สามารถลงสนามได้ ไม่ว่าจะนานหรือชั่วคราวก็ตามนั้นจะทำยังไง ทีมที่กำลังมีเกมไหลลื่นอยู่นี้ ฟอร์มคงจะติดขัดแน่ๆเมื่อตัวสำคัญที่เป็นหัวใจของเกมรุกหายไป  และตัวอื่นที่เหลือนั้นก็ไม่สามารถสร้างมาตรฐานได้ใกล้เคียงกับบรูโน่เลย 

สิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนเลยอันดับแรกหากบรูโน่ไม่ได้ลงสนามนั่นก็คือ ทีมจะขาดศูนย์กลางในเกมรุกไปทันที จะไม่มีใครที่เป็นตัวหลักในการตั้งเกมรุกให้ทีมอีกต่อไป เพราะนักเตะที่เหลือไม่มีใครเป็นผู้นำเกมรุกได้เลย มีก็เพียงแรชฟอร์ดที่ก่อนนี้มักจะเป็นตัวเริ่มเกมบุกทุกครั้งด้วยการวิ่งสวนกลับ หรือกระชากบอลไปตั้งเกมเอง แต่แรชก็ไม่อยู่แล้ว  ดังนั้นภาคเกมรุกจะติดขัดทันที ซึ่งทีมจะหยุดชะงักทั้งสปีดความเร็วในการรุกจะหายไป กลับไปต่อบอลกันช้าๆเหมือนเดิมแน่เพราะไม่มีตัวเปลี่ยนจังหวะช้าเร็วทันทีแบบบรูโน่ได้ 

ความหลากหลายของเกมรุกจะหายไป เราจะกลับไปเป็นการบุกจู่โจมจากวงนอกอย่างเดียว การฝืนยิงไกลจะมีให้เห็น เพราะไม่มีคนที่สามารถจ่ายบอลทำลายแนวรับคู่ต่อสู้ได้ และเมื่อขาดไอเดียการเข้าทำ แมนยูไนเต็ดจะเกิดอาการฝืดในการทำประตูอีกครั้งแน่นอน

และยังไม่รวมถึงความไหลลื่นในทีมเวิร์คที่จะขาดหายไปแน่ๆ หากมีตัวอื่นอย่าง 14/15 ลงมาแทน ทีมจะเสียบอลกันง่ายและจังหวะเกมรุกจะติดขัดจากการเล่นของตัวห่วยๆเหล่านี้อย่างแน่นอน นี่คือผลที่จะเกิดขึ้นทันทีหากบรูโน่ไม่ได้ลง

แค่คิดก็สยองแล้ว

ส่วนในรายของฆวน มาต้านั้นยังไม่สามารถทดแทนบรูโน่ได้เต็มตัว การเล่นของเขาจะเหมาะมากกว่าหากเล่นคู่กันกับบรูโน่ ซึ่งหากคู่ต่อสู้พุ่งเป้าหลักไปที่บรูโน่ เขาจะสามารถทำหน้าที่เป็นตัวสอดแทรกที่อันตรายที่สุดทุกครั้งที่เล่นด้วยกัน  แต่หากมาต้าต้องรับภาระเกมรุกด้วยตัวเอง หลายๆครั้งเขาจะไม่สามารถสร้างสรรค์เกมได้หากเจอคู่ต่อสู้พุ่งเกมรับเข้าใส่อย่างที่แล้วๆมา

แน่นอนว่าไม่ต้องนับไปถึง 14/15 เลย นอกจากจะใช้การไม่ได้แล้วยังจะพาคนอื่นๆในทีมให้เล่นติดขัดไปด้วย

หนีไปหนวด หนีไป!!!!!

สาเหตุที่บทความนี้ยกตัวอย่างเรื่องราวการเล่นของทีมในตอนที่มี "มาร์คัส แรชฟอร์ด" อยู่นั้นเพื่อจะเทียบให้เห็นว่า นัดก่อนๆในซีซั่นนี้ เราได้ความยอดเยี่ยมของแรชฟอร์ดที่พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างโดดเด่นจากปีก่อน ปีนี้เขารับภาระการทำประตูให้ทีมค่อนข้างเยอะมากๆ

และเมื่อถึงคราวที่ "ตัวแบกที่ว่าเจ็บยาว" ไปนั้น(แบกจนหลังหักจริงๆ) ก็เกิดปัญหาหนักทันทีเมื่อคนที่เหลือไม่มีใครสามารถช่วยทีมได้เลย ยิ่งในช่วงเดดแอร์ของทีมตอนที่แรชฟอร์ดเจ็บไปนั้น แมนยูไนเต็ดมีสภาพที่ย่ำแย่มากๆ เมื่อเราไม่สามารถทำประตูได้ แม้กระทั่งเล่นในบ้านยังแพ้คาบ้านเลย สภาพจิตใจของแฟนบอลและทีมงานต่างก็ดาวน์ลงไปกันหมดเมื่อไม่มีใครทดแทนตรงนี้ได้

เปรียบเทียบ แรชฟอร์ด กับ บรูโน่ ในตอนนี้ก็สถานภาพเดียวกัน ทีมไม่สามารถขาดบรูโน่ได้เลยเพราะการเล่นจะดรอปลงไปทันทีเขาไม่ได้ลงสนาม / เราเหลือแต่เพียงแค่มาต้า และอาจจะจำเป็นต้องเอาเบอร์14 หรือไม่ 15 (หรือทั้งสองคน) ลงสนามพร้อมกันซึ่งแฟนบอลก็รู้ๆอยู่แล้วว่าเป็นยังไง  แค่คิดก็เครียดแล้ว ดังนั้นนี่จึงเป็นประเด็นสำคัญที่เราจะต้อง "เผื่อ" เหตุการณ์นี้เอาไว้ในฐานะ Worst Case Scenario ด้วย(สถานการณ์กรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้) นั่นก็คือ

บรูโน่ แฟร์นันดส์เจ็บยาว ลงสนามไม่ได้อีกหลายนัด กรณีเดียวกับแรชฟอร์ด

นี่คือสถานการณ์ที่เราจำเป็นต้องลองคิดดูว่า หากเป็นเช่นนั้นจะทำยังไง เป็นคำถามที่ควรจะลองมาถกให้คิดกันเล่นๆว่าถ้าเกิดขึ้นจะทำยังไง แก้ปัญหายังไง รวมถึงอนาคตของทีมด้วย


1.ปัจจุบัน

ลองมาคิดกันในกรณีที่ บรูโน่เจ็บไปในช่วงนี้ซึ่งอยู่ในฤดูกาลแข่งขันกันอยู่  เอาง่ายๆสมมติพรุ่งนี้เจ็บระหว่างซ้อมขึ้นมา เกมที่เหลือในซีซั่นเราจะเอายังไงดี จะแก้ยังไงถ้าตัวแบบนี้เจ็บไป  ทีมจะดรอปหรือจะเป๋เลยหรือไม่ น่าสนใจมาก ต้องพิจารณากันทีละอย่าง

1.1 หมุนเวียนนักเตะที่ทดแทนตำแหน่งกันได้

วิธีการแรกนี้ก็คือการขยับตำแหน่งเอาจากนักเตะที่มีในมือของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่นในแผน 4-2-3-1 ลองคิดสภาพว่า หากจะเล่นแผนนี้แล้วบรูโน่เจ็บออกไปจะทำยังไง วิธีการแรกสุดก็คือการเอานักเตะสำรองที่มีคุณภาพพอ เอามาลงสนามขยับตำแหน่งเอา ซึ่งจากตัวที่มีในทีมนั้น เราสามารถปรับเอา อิกาโล่ ที่ปัจจุบันเป็นสำรองอยู่ เช่นเดียวกันกับ มาต้า นั้น เอามาลงสนามเป็นตัวจริงเลย โดยมี หมาก กับ เจมส์ ที่เป็นตัวยืนอยู่แล้วนั้นลงไปด้วย

แดนหน้า4ตัว ในยามที่ไม่มีบรูโน่อาจจะเป็น

James-----------Mata--------------Martial

------------------Ighalo------------------

เช่นนี้เป็นต้น โดยให้มาต้าลงแทนตำแหน่งบรูโน่เลยโดยตรง และใช้อิกาโล่ มาแบ่งเบาภาระเก็บบอลในแดนหน้า เพื่อให้เจมส์หมากมาต้า สอดขึ้นมายิงได้ทั้งสามคน ซึ่งสูตรนี้น่าจะเป็นตัวที่ดีที่สุดแล้วเท่าที่เรามี หากตัดบรูโน่ออกไปแล้วยังคงจะเล่นในสูตรบุกที่ถนัดอย่าง4-2-3-1 รูปแบบนี้ถือว่าใช้ได้และน่าดูไม่แพ้กัน

และอีกเคสหนึ่งซึ่งเป็นไปได้นั่นก็คือ "ปอล ป็อกบา" ถ้าใกล้จะกลับมาลงสนามได้แล้วช่วงท้ายซีซั่นนี้(ก่อนที่เขาจะย้ายทีม ซึ่งดูทรงย้ายชัวร์) เขาอาจจะเป็นตัวเลือกลงมาแทนบรูโน่ได้โดยตรงหากว่ามีการบาดเจ็บหรือพักrotationไป การใช้ป็อกก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางรองรับความเสี่ยงที่ว่านั่นได้

แม้จะไม่อยากนับก็ตาม แต่ถ้าพูดกันใน"บริบทของซีซั่นนี้" เขาก็ยังอยู่กับเรา และนับเป็นตัวเลือกอยู่ แม้ไลฟ์สไตล์ของเจ้าตัวแทบจะไม่เอ่ยอะไรถึงแมนยูไนเต็ดเลยในระหว่างที่พักรักษาอาการบาดเจ็บก็ตามที..


1.2 เปลี่ยนแทคติก ปรับFormation แผนการเล่น

กรณีนี้คืออีกวิธีหนึ่งที่สามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์หากบรูโน่เจ็บยาวไปได้ นั่นก็คือ "เปลี่ยนแผนการเล่นไปเลย" โดยที่จะไม่ใช้สูตรที่ใช้AMC(กลางรุก) ในการทำเกม และกระจายภาระเกมบุกไปหลายๆตำแหน่ง เช่น ในกรณีที่ปรับเป็นสูตรหลัง3 นั้น จากล่าสุดจะเห็นว่าเราเล่นเป็น 3-4-1-2 โดยมีบรูโน่ยืนอยู่ในตำแหน่งเลข1 ที่ซัพพอร์ตสองกองหน้าดังกล่าว

เราอาจจะเปลี่ยนเป็นสูตร 3-5-2 ได้โดยที่ กองหลังสามคน โดยมี แดนกลางสามคนยืนเป็นสามเหลี่ยมหัวกลับ+วิงแบ็ค แล้วใช้กองหน้าคู่ยืนสูงสองตัวเลย โดยไม่ต้องมีหน้าต่ำคอยรับบอลเชื่อมตรงกลางระหว่าง มิดฟิลด์กับกองหน้า อาจจะจัดได้ดังนี้

---------------------De Gea--------------------

----Lindelof---------Maguire------Shaw------

AWB------------------Matic------------Williams

------------Mctominay--------Fred--------------

----------------James-------Martial-----------

แบบนี้เป็นต้น โดยใช้ Box to Box สองคนในการวิ่งขึ้นลงและเล่นเกมซัพพอร์ตสองกองหน้าก็ได้

ซึ่งสองวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ดีที่สามารถพาให้ทีมเอาตัวรอดไปได้ หากเกิดเหตุที่ทำให้บรูโน่ลงสนามไม่ได้ เราจึงจำเป็นต้องหาคนมาลงแทนบรูโน่ หรือไม่ก็เปลี่ยนแผนไปเลยเพื่อที่จะกระจายไปใช้ศักยภาพของนักเตะคนอื่นๆในทีมแทน


2.อนาคต

ส่วนในกรณีของอนาคต นั่นก็คือในฤดูกาลหน้านั้น เราจะหาทางแก้ไขปัญหาที่ สักวันนึงบรูโน่อาจจะขาดหายไปไม่ได้ลงสนาม มันมีวิธีไหนไหมที่ช่วยทำให้ทีม "ไม่เสี่ยงมาก" หากต้องเสียพี่หนวดเบอร์18คนนี้ไป  ซึ่งในการเตรียมตัวรับมือเผื่ออนาคตที่ว่านั้นค่อนข้างง่ายกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะนั่นคือยามที่เราพร้อมแล้ว ในปีหน้าเราจะหามาตรการใดได้บ้างในการรับมือโควิด-19 .. เอ๊ย รับมือกับการขาดหายไปของบรูโน่ แฟร์นันดส์ได้บ้าง ไปดูกัน

2.1 หาตัวรุกที่มีคุณภาพใกล้เคียงบรูโน่เพิ่มเข้ามาในทีม

ซึ่งก็คือการหาซื้อตัวสร้างสรรค์เกมเข้ามาอีกคนหนึ่งนั่นเอง อาจจะไม่ต้องเก่งระดับบรูโน่ก็ได้ แต่ขอให้ใกล้เคียง และเป็นกลางรุกที่มีคุณภาพพอจะใช้งานได้จริง ไม่เอาเหมือน14/15ที่ลงมาแล้วทีมบรรลัย เป็นตัวที่ลงแล้วคาดหวังได้ ทำอะไรให้ทีมได้ในฐานะตัวเปลี่ยนที่ดีของบรูโน่ที่สามารถสลับกันเล่น หรือกระทั่งเอามาเล่นด้วยกันได้เลย

กลางรุกที่น่าสนใจที่สมควรจะซื้อมาช่วยบรูโน่นั้นก็ แน่นอนว่า จะต้องเป็นตัวที่เรากำลังจับตามองอยู่ขณะนี้ นั่นก็คืออาจจะเป็น "Jack Grealish" ก็ได้ที่เมื่อวานทีมก็เพิ่งจะโดนเลสเตอร์ยำมา 4-0 สภาพร่อแร่ใกลจะตกชั้นเต็มที ซึ่งนักเตะเองก็มีฝีมือดี และดูเหมือนจะมีใจกับทางแมนยูไนเต็ดค่อนข้างมากด้วยผ่านการแสดงออกให้ผู้คนได้รับรู้


ซึ่งในกรณีของเฉพาะตัวกรีลิชนั้น ถือเป็นOptionตัวช่วยของบรูโน่ที่ "ดีที่สุด"แล้ว หากจะซื้อเข้ามา นั่นเป็นเพราะว่า ในยามที่บรูโน่ไม่ได้เจ็บนั้น  กรีลิชยังสามารถที่จะลงสนามเล่นคู่กับบรูโน่ไดโดยที่ตำแหน่งไม่ทับกัน เพราะกรีลิชเองสามารถเล่นได้ทั้งกลางรุก และตัวรุกจอมเลื้อยทางฝั่งซ้ายได้ การจะลงพร้อมกันก็ถือว่าน่าดูชมมากๆแล้ว หากบรูโน่เจ็บไป เขายังสามารถมาแทนตำแหน่งกันได้ทันทีอีกด้วย

หากไม่ได้กรีลิช ก็ไปดูตัวรุกคนอื่นในตลาดที่มีเก่งๆอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็นJames Maddison ที่ก็อาจจะยังพอมีลุ้นในการซื้อตัวมาร่วมทีม / Kai Havertz ตัวรุกฟอร์มร้อนแรงของเลเวอร์คูเซ่น / Donny van de Beek กองกลางสายบุกจากค่ายอาแจ็กซ์ เรียกง่ายๆว่ายังมีนักเตะอีกมากให้แมนยูไนเต็ดไปซื้อมาเพื่อร่วมประสานงานกับบรูโน่อีกมาก ในscenarioที่ว่า ปอล ป็อกบา น่าจะไม่อยู่กับทีมอีกต่อไปแล้วในฤดูกาลหน้า เราจะต้องมีที่ว่างในsquadให้มีคนเข้ามาอีกอย่างแน่นอน อาจจะได้เงินระดมทุนมาจากการขายป็อกบา มาซื้อตัวที่ว่าด้วยซ้ำ

นี่คืออีกหนึ่งวิธีที่เราจะสามารถลดความเสี่ยงของการไม่มีบรูโน่ได้ในอนาคต นั่นก็คือซื้ออีกตัวนึงเข้ามาร่วมทีมเพิ่มเพื่อที่จะทดแทนมิติตรงนี้ให้กันได้ ไม่ต้องให้บรูโน่อยู่ในสถานะ "กลางรุกตัวเดียวที่ทีมใช้งานได้จริงๆ" เช่นนี้


2.2 เราต้องซื้อนักเตะระดับสูงเพิ่มเข้ามา"แบกทีมในตำแหน่งอื่น"ด้วยเพื่อกระจายความเสี่ยง

นี่คือวิธีที่"ดีที่สุด" ในการป้องกันความเสี่ยงจากการขาดหายไปของบรูโน่ นั่นก็คือ ฤดูกาลหน้าเราควรที่จะมีนักเตะระดับท็อปที่เลเวลเท่าๆกับบรูโน่ในตำแหน่งอื่น เข้ามาร่วมทีมให้ได้เพื่อที่จะกระจายความเสี่ยงออกไป อย่างเช่น หากเราได้กองหน้าระดับพระกาฬอย่าง แฮรี่ เคนเข้ามา (สมมตินะ) หรือไม่ก็ปีกอย่าง เจดอน ซานโช่ .. หรือไม่ก็ทั้งสองคนเลย นั่นแปลว่า เราจะมีนักเตะระดับเดียวกับ บรูโน่ อยู่ในทีมเพิ่มอีกสองคนหรือมากกว่านั้นในแนวรุกของฤดูกาลหน้า

เมื่อทีมมีตัวแบกเพิ่มขึ้น หากรวมเอาแรชฟอร์ดที่หายเจ็บกลับมาอีก นั่นจะแปลว่า เกมรุกจะไม่ได้มีแต่เพียงบรูโน่ที่พึ่งพาได้คนเดียว เรายังมีการโซโล่ของแรชฟอร์ดได้ การจบสกอร์ของแฮรี่เคนที่พึ่งพาได้(ถ้าเคน หรือใครสักคนเก่งๆเข้ามา) หรือแม้กระทั่งการทำประตูจากฝั่งขวาของปีกขวาคนใหม่ ไม่ว่าจะซานโช่หรือใครก็ตาม

วิธีนี้มันจะทำให้เรา น่ากลัวทุกตำแหน่ง ไม่ใช่แค่บรูโน่คนเดียว

ถ้าได้สองคนนี้มาเข้าทีม บรูโน่สบายแฮแน่นอน

ลองคิดง่ายๆ หากมีหน้าเป้าใหม่เข้ามาโหดๆ มีปีกขวาที่ซานโช่ข่าวแรงสุดๆ และหากได้กรีลิชเข้ามาปุ๊บ ความเสี่ยงของบรูโน่จะลดลงไปแทบจะเหลือ0เลยหากเขาบาดเจ็บไป เพราะทีมจะมีนักเตะราวๆนี้

Sansho/James/Mason--------Bruno/Grealish/Mata---------Rashford/Martial/Grealish/James

----------------------------------Martial/Rashford/Ighalo/????----------------------------

จะเห็นได้เลยว่า เราสามารถใช้ตำแหน่งอื่นๆในการแบกทีมได้อีกเพียบถ้าบรูโน่ไม่อยู่ เช่น ขวาก็มีซานโช่ กองหน้าก็มีแรชไม่ก็ หน้าเป้าเทพเจ้าดีๆสักตัวเข้าทีมมา  ปีกซ้ายก็มีแรชฟอร์ดที่บันดาลประตูให้ทีมได้เรื่อยๆ หมากก็ยังอยู่ตัดสินเกมได้ เป็นต้น

ซึ่งเรื่องนี้ก็เกี่ยวพันกับปัญหาเดิมๆของSquad Depthอีกครั้ง(ฮา) ซึ่งเรื่องนี้เรายังไม่สามารถแก้ไขได้ทันทีในซีซั่น 2019/20 นี้ คงจะต้องอดใจรอตลาดนักเตะรอบหน้าที่เอ็ด วู้ดเวิร์ดให้คำมั่นว่าเขาจะลงทุนอย่างถูกต้อง เหมือนอย่างการซื้อแมกไกวร์ บิสซาก้า เจมส์ เข้ามาเพื่อจะหาทีมไปสู่ความสำเร็จระดับสูงในอนาคตอย่างแน่นอน

Offensive Captain & Defensive Captain

ดังนั้นทั้งหมดนี้คือเหตุการณ์ทั้งหมดที่เป็นไปได้ หากเราจะเตือนตัวเองกันถึงฟอร์มอันร้อนแรงของทีมขณะนี้ มาจากการเป็นศูนย์กลางเกมรุกของบรูโน่ แฟร์นันดส์ ที่ทำทุกอย่างให้ทีมจนมีความหวังกันเหมือนเช่นตอนนี้ หากสิ่งที่ว่าเกิดขึ้นมา และเราไม่มีบรูโน่ลงสนาม สิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็เป็นไปตามหัวข้อ 1.ใหญ่มานั่นแหละ นั่นก็คือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนด้วยการ ปรับเปลี่ยนนักเตะที่ดีที่สุดมาลงแทนตำแหน่งกัน (อย่าเอาตัวกากมาลงก็พอแล้ว) 

หรือวิธีการเปลี่ยนแทคติกและแผนการเล่น ก็อาจจะสามารถคัฟเวอร์ช่วงเวลาที่ขาดบรูโน่ หรืออยากจะให้เขาได้พักการลงเตะบ้างเพื่อลดอาการเหนื่อยล้าและบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ  วิธีการหมุนเวียนปรับเปลี่ยนทีมเช่นนี้ ถือเป็นสิ่งที่อยู่ในข่ายความสามารถในการManagementของผู้จัดการทีมโดยตรง ซึ่งก็ได้แต่หวังว่า "สถานการณ์แย่ที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้" อย่างการที่บรูโน่เจ็บยาวนั้น จะไม่เกิดขึ้น  ได้แต่ภาวนาไว้เช่นนั้น แต่ผมเชื่อว่ายังไงเสีย นักฟุตบอลอย่างบรูโน่ก็เป็นคนๆนึงเหมือนกันที่อาจจะบาดเจ็บได้ แถมพรีเมียร์ลีกแม่งก็ยิ่งเล่นกันหนักๆอยู่ ดูทรงแล้วอาจจะมีเจ็บบ้างแน่ๆในปีนี้(พี่หนวดยังไม่โดนรับน้องนี่นา อิอิ)

ยังไงเสีย กันไว้ดีกว่าแก้ และหากเกิดขึ้นจริง เชื่อว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจะผ่านพ้นไปได้อย่างแน่นอน

แต่ถ้าจะให้ดี พี่ห้ามเจ็บห้ามตายห้ามปวดขี้ห้ามไปไหน ลงแม่งทุกนัดเลยนั่นแหละดีสุด

-ศาลาผี-


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด