:::     :::

เขี้ยวสมุทรที่ยัง "เขี้ยวกุด"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งให้วงการลูกหนังทั่วโลก ทยอยปิดกิจการหยุดเตะไปชั่วคราว

ฟุตบอลลีกประเทศไทย คือ 1 ในชาติที่กำลังเผชิญอยู่กับไวรัสตัวนี้ระดับ “อันตราย” และสมาคมฟุตบอลฯเลือกที่จะ “ไม่เสี่ยง” ประกาศพักลีกไปกว่า 1 เดือน

ทำให้กิจวัตรของพ่อค้าแข้งโมงยามนี้ จากปกติที่มีโปรแกรมลงแข่งขัน ถูกเปลี่ยนเป็น “ดูแลตัวเอง” ทำตัวไม่ให้ติดเชื้อไวรัส กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ มีเจล และ หน้ากากอนามัย เป็นปัจจัยที่ 5 ในชีวิต

รวมถึงซ้อมเพื่อรักษาสภาพความฟิตร่างกาย และทำการบ้านอย่างหนัก ในการปรับปรุงแก้ไขจุดต่าง ๆ ที่ยังไม่ลงตัวในทีม

สมุทรปราการ ซิตี้ คือหนึ่งในนั้น




เขี้ยวสมุทร ก่อนเปิดฤดูกาล พวกเขาถูกมองเป็น “ม้ามืด” เข้ามาเขย่าบัลลังก์แชมป์ไทยลีกในฤดูกาลนี้ กับผลงานปีกลายที่จบอันดับ 6 และรักษาแข้งหลักไว้ได้เกือบทั้งหมด

กอปรกับการดึงตัว มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น ผู้มาพร้อมโปรไฟล์พา คาชิมา อันท์เลอร์ส ยักษ์ใหญ่ในศึกเจลีก กวาดแชมป์ในประเทศเป็นขนม รวมถึงยังพาทัพ “กวางเขาเหล็ก” แห่งอิบารากิ คว้ารองแชมป์สโมสรโลกได้อีก

เมื่อรวมกับทรัพยากรผู้เล่นที่มี ไม่ว่าจะเป็นวัยโจ๋ห้าวเป้ง และวัยเก๋าประคองทีม ไม่แปลกที่ชื่อของพวกเขาจะถูกหยิบมาพัวพันการแย่งชิงแชมป์ในฤดูกาลนี้

แต่ความจริงที่พบคือ สมุทรปราการ นอนดิ้นอยู่ในโซนสีแดง หลังผ่าน 4 เกม ด้วยผลงานที่ยัง “ไม่ชนะใคร” มีเพียง 1 แต้มให้โอบกอด

อาจแย้งว่าโปรแกรมช่วงออกสตาร์ทดูโหดร้าย หลังต้องพบกับทีมกลุ่มลุ้นแชมป์ทั้ง สิงห์ เชียงรายฯ, ทรู แบงค็อกฯ และ การท่าเรือ เอฟซี

หากแต่ใครชมเกม จะเห็นได้ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นมวยแพ้แบบ “หลังพิงฝา” เลย กลับกัน ลูกทีม อิชิอิ เล่นได้อย่างมีระบบ เพรสซิ่งเป็นจังหวะ สู้คู่แข่งได้อย่างไม่เป็นรอง ทว่าสิ่งที่ขาดหายไปของ “เขี้ยวสมุทร” คือ “ความเฉียบขาด” ในพื้นที่สุดท้าย




การเสีย อิบสัน เมโล ดาวซัลโวหน้าเก่าออกไป แต่ได้ เปโดร จูเนียร์ เข้ามาทดแทน ซึ่งยี่ห้อของบราซิเลียนรายนี้น่าจะมาทดแทนในแดนหน้าได้ไม่ยาก เพราะมีประสบการณ์บนเวทีไทยลีกมาแล้ว ทว่าความจริงที่พบ เจ้าตัวไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งออกมาได้

ขณะแนวรุกคนอื่นที่รังสรรค์เกมรุกร่วมกัน ยังขาดความหลากหลายในการเข้าทำ และไม่ลงล็อกกันเสียที

อีกหนึ่งปัญหาที่ผู้เขียนมองเห็นคือ โควตานักเตะต่างชาติ สมุทรปราการ ถูกทุ่มไปกับผู้เล่นตำแหน่ง “ตัวรับ” มากเกินไป หากไม่นับ อริส ซาริโฟวิช ปราการหลังร่างยักษ์หน้าเดิมที่อยู่มาตั้งแต่ปีก่อน ทีมเสริม 2 ผู้เล่นเอเชียอย่าง ยูโตะ โอโนะ และ ทัตสึยะ ซากาอิ เข้ามา ซึ่งทั้งคู่คือ มิดฟิลด์ตัวรับ และ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

ทำให้ เปโดร จูเนียร์ เป็นต่างชาติที่โดดเดี่ยวในแดนหน้าเกินไป และไม่มีคู่ขาต่างชาติคอยซัพพอร์ต ขณะที่ ชญาวัต ศรีนาวงษ์ คู่ขายังไม่ได้อยู่ในฟอร์มดีสุดของตัวเอง

รวมถึงรายละเอียด ข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในทีม อันส่งผลต่อจังหวะเกม สิ่งเหล่านี้คืออุปสรรคก้อนโตที่ ทำให้ สมุทรปราการ จมอยู่ก้นตาราง แม้รูปเกมจะดูเริ่ด แต่สุดท้ายฟุตบอลก็วัดกันที่ผลการแข่งขันอยู่ดี




ล่าสุด มาซาทาดะ อิชิอิ ได้ออกมาเปรยผ่านสื่อสโมสร ถึงปัญหาดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า สิ่งที่ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วนคือ “การจบสกอร์” ที่ยังทำได้ไม่ดีพอ และสภาพทีมเวลานี้กำลังดีขึ้นตามลำดับ หลังผู้เล่นที่บาดเจ็บเริ่มกลับมาซ้อมได้

“เรายังพอมีเวลาเตรียมทีม การแข่งขันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าลีกจะหยุด แต่การเตรียมทีมของเรายังเดินหน้าต่อ เพื่อปรับปรุงจุดต่าง ๆ ให้ดีที่สุด”    

มองในแง่ดีการถูกพิษไวรัสวิด-19 “ช่วยเบรก” ลีกให้หยุด อาจส่งผลดีต่อ สมุทรปราการ เพราะจะได้มีเวลาเตรียมพร้อม ทำการบ้านได้อย่างเต็มที่

ถึงตรงนี้ยังไม่รู้ว่าฟุตบอลลีก จะถูกกลับมาเริ่มเขี่ยเล่นต่อได้ตอนไหน

ได้แต่หวังว่าเมื่อกลับมา “เขี้ยวสมุทร” จะไม่เป็น “เขี้ยวกุด” เหมือน 4 เกมแรก


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด