:::     :::

"หยุดก่อน"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"ศุกร์ 13" สามารถโยงได้อีกครั้งว่าไม่เหมือนศุกร์ทั่วไปเมื่อกลายเป็นวันที่ฟุตบอลใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป "ระงับ" การแข่งขันครบทุกลีกหลังการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโคโรน่า สายพันธ์ใหม่ 2019 หรือ "โควิด-19"

บุนเดสลีกา กลายเป็นลีกสุดท้ายที่ไม่ยอมฝืนและเลื่อนการแข่งขันไปจนถึงต้นเดือนเมษายนหลังจากตอนแรกวางแผนจะเลื่อนหลังแข่งตามโปรแกรมในสุดสัปดาห์นี้ให้จบ

ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง พรีเมียร์ลีก ที่มีการประชุมเร่งด่วนหลังกรณีการติดเชื้อของ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ก็ได้ข้อสรุปว่าต้องหยุดเช่นกันจนถึงศุกร์ที่ 3 เมษายนนี้เป็นอย่างน้อยซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นจะประเมินสถานการณ์ร่วมกันอีกที

เช่นเดียวกับ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ที่ตอนแรกวางแผนแข่งแบบปิดสนาม ไม่ให้แฟนบอลเข้าชม สุดท้ายก็ประเมินว่า "เสี่ยง" เกินไปอยู่ดี จึงต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปแบบไม่มีกำหนด 

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และ ลา ลีกา เป็น 2 ลีกแรกที่พักการแข่งขันเอาไว้ก่อนซึ่งเมื่อดูจากยอดติดเชื้อและเสียชีวิตในอิตาลีกับสเปนก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ทันทีว่าไปต่อไม่ได้จริงๆ ตัวเลขพุ่งสูงขึ้นในทุกวัน 

  เมื่อรวมกับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูโรปา ลีก ที่มีคิวลงเล่นในกลางสัปดาห์หน้าและถูกระงับเอาไว้เช่นเดียวกัน ฟุตบอลรายการสำคัญของยุโรปก็ "หยุด" หมดทุกรายการ 

ปัญหาไวรัสโควิด-19 กำลังลุกลามไปทั่วทุกมุมโลกและส่งผลกระทบในวงกว้างต่อทุกคนจนทำให้องค์การอนามัยโลกต้องประกาศให้เป็นโรคระบาดครั้งใหญ่ (Pandemic) อย่างเป็นทางการ ซึ่งตามความหมายคือ เชื้อโรคใหม่ที่ระบาดไปทั่วโลกและทำให้อัตราการป่วยรวมถึงเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

วงการฟุตบอลได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้ เริ่มต้นจากในละแวกเอเชียที่อยู่ใกล้แหล่งกำเนิดเชื้อโรคในประเทศจีน 

ลีกจีน และ เกาหลีใต้ ต่างเลื่อนเปิดฤดูกาลออกไปแบบไม่มีกำหนด ขณะที่ญี่ปุ่นกับไทยเตะได้ไม่กี่นัดก็ต้องหยุดเอาไว้ก่อน ส่วนชาติอื่นๆ ในเอเชียก็เริ่มทยอยเว้นวรรคตามๆ กัน 

เมื่อเชื้อโรคเริ่มแพร่ระบาดหนักในยุโรป ลีกดังก็เริ่มเจอผลกระทบ กัลโช่ เซเรีย  อา เป็นลีกใหญ่ลีกแรกที่ต้องเลื่อนการแข่งขันคู่แล้วคู่เล่า ความพยายามขั้นแรกในการปิดสนามแข่งก็ทำได้ไม่กี่คู่ สุดท้ายต้องระงับไปแบบไม่มีกำหนดพร้อมกับการ "ปิดประเทศ" เพื่อรับมือกับปัญหาไวรัสนี้อย่างเต็มตัว 

จากนั้นก็เป็น ลา ลีกา สเปน ที่ตอนแรกมีมาตรการแข่งแบบปิดสนามไม่ให้แฟนบอลเข้าชม แต่ล่าสุดเดินตามแนวทางของอิตาลีคือ ระงับการแข่งขันไปก่อนชั่วคราว 2 สัปดาห์ และพร้อมจะยืดเวลาออกไปอีกหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น

แฟนบอลรู้สึกว่าอันตรายใกล้ตัวมากขึ้นก็เมื่อมีนักเตะดังๆ เริ่มติดเชื้อไล่ตั้งแต่ ดานิเอเล่ รูกานี่ กองหลังทีมชาติอิตาลีของ ยูเวนตุส โดยที่ก่อนหน้านี้ก็มีนักเตะของ ฮันโนเวอร์ ทีมดังในเยอรมันติดเชื้่อไปแล้วด้วย

ต่อมาก็เป็น มาโนโล่ กับเบียดินี่ กองหน้าของ ซามพ์โดเรีย ที่ 24 ชั่วโมงให้หลังมีเพื่อนร่วมทีมอีก 4 รายติดเชื้อด้วยเช่นกัน 

ในพรีเมียร์ลีกเริ่มได้รับผลกระทบเมื่อ เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยว่ามีผู้เล่นในทีม 3 คนเข้าข่ายว่าอาจติดเชื้อ แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการและสโมสรก็ให้กักตัวดูอาการที่บ้าน

แต่ที่ยืนยันเลยคือ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือหนุ่มของ อาร์เซน่อล ที่สโมสรประกาศข่าวร้ายให้แฟนบอลรับทราบเมื่อช่วงดึกของคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ต่อด้วย คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ปีกดาวรุ่งของ เชลซี ทีมร่วมกรุงลอนดอน

กรณีของ อาร์เตต้า ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ท่าทีของพรีเมียร์ลีกและหลายสโมสรในลีกต้องเปลี่ยนไปเพราะก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที พรีเมียร์ลีกเพิ่งยืนยันจะลงแข่งกันตามปกติในสุดสัปดาห์นี้ 

นอกจากนี้ก็คนดังเช่น ทอม แฮงค์ นักแสดงชื่อดังของฮอลลีวู้ดที่แจ้งข่าวน่าตกใจให้แฟนบอลรับทราบว่าตัวเขาและภรรยาติดเชื้อโควิด-19หลังเดินทางไปถ่ายทำภาพยนตร์ที่ประเทศออสเตรเลีย 

ขนาดคนใหญ่คนโตในรัฐบาลของหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นระดับรัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ หรือกระทั่งประธานาธิบดีของบราซิลก็โดนไวรัสตัวร้ายเล่นงาน 

มันเป็นสัญญาณบ่งชี้ชัดเจนว่า "โควิด-19" ร้ายแรงมากเพียงใด ขนาดนักกีฬาที่ออกกำลังกายตลอดก็ต้านไม่ไหว เช่นเดียวกับคนดังหรือผู้นำประเทศที่น่าจะมีการป้องกันและดูแลที่เข้มงวดมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป 

ดังนั้นจึงสมควรอย่างยิ่งที่ต้องหยุดทุกอย่างเอาไว้ก่อนโดยเฉพาะกิจกรรมทางการกีฬาที่เป็นกิจกรรมของคนหมู่มาก เป็นการรวมกันของคนหลายคนที่เสี่ยงอย่างยิ่งต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค 

ทุกวินาที ทุกชั่วโมง ทุกวันที่ผ่านไป คนติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นหากมีวิธีการป้องกันได้ทำได้ก็ต้องลงมือทำทันที ไม่ต้องรีรอหรือห่วงผลประโยชน์บางอย่างที่อาจเสียไป

ในส่วนของฟุตบอล องค์กรลูกหนังยุโรป จะจัดประชุมด่วนในวันอังคารที่ 17 มีนาคมนี้ โดยมีตัวแทนจากสมาชิกทั้ง 55 ชาติ สมาคมสโมสรฟุตบอลยุโรป สมาคมลีกยุโรป รวมถึงฟิฟโปร เพื่อตัดสินว่าจะเอาอย่างไรต่อไปกับทั้งรายการระดับสโมสรทั้งในและระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับ ยูโร 2020 ในช่วงซัมเมอร์นี้ 

ไม่รู้ว่าจะได้ทางออกร่วมกันอย่างไร แต่ที่ชัดเจนคือ "โควิด-19" ทำให้โลกหยุดนิ่ง ชะงักงัน โลกฟุตบอลที่เป็นสิ่งบันเทิงสำหรับคนหลายร้ายล้านคนทั่วโลกก็หนีไม่พ้น 

ไม่มีใครบอกได้เลยว่าทุกอย่างจะกลับมาปกติและทำให้เราจะได้ดูฟุตบอลที่รักได้แบบสบายใจไร้กังวลได้อีกเมื่อไหร่ 

สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือ "ภาวนา" และดูแลตัวเองรวมถึงคนที่รักให้ดีที่สุด 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด