แม้เกมการแข่งขันฟุตบอลยุโรปจะหยุดลงไป แต่เราก็ยังหาหัวข้อที่น่าสนใจมาพูดคุยกับท่านผู้อ่านได้เรื่อยๆเพราะประเด็นที่น่าพูดถึงมีมากมายเต็มไปหมด ในช่วงเวลาที่บอลหยุดเช่นนี้เราแฟนบอลจึงอยู่ในสถานะที่ไม่มีความตึงเครียดเกี่ยวกับแมตช์และผลการแข่งขันมากนัก จึงเป็นช่วงดีที่จะพูดคุยกันถึงเรื่องสบายๆสักเรื่อง และนี่ก็คืออีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจนั่นก็คือ เรื่องราวของสองนักเตะใหม่ที่เหมือนเข้ามาเพื่อช่วยชุบชีวิตแมนยูไนเต็ดให้ฟื้นคืนชีพมาอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาพร้อมกัน แน่นอนพวกเขาเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ..

เจสซี่ ลินการ์ด กับ อันเดรส เปเรร่า! (ผ่าง)

ใช่ที่ไหนละว้อย!!!! โอดิออน อิกาโล่ และ บรูโน่ แฟร์นันดส์ ต่างหากกกกกกกก

นักเตะทั้งสองคนนี้เข้ามาแมนยูไนเต็ดในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน โดยดีลของบรูโน่ประสบความสำเร็จก่อน จากนั้นก็ได้ดีลการยืมตัวของโอเดียน อิกาโล่ในเดดไลน์วันสุดท้ายเลย ซึ่งจนถึงตอนนี้เชื่อว่าแฟนผีทุกคนน่าจะขนลุกไม่ต่างกันว่า ดีลของอิกาโล่กำลังจะเป็น"panic dealช่วงทดเวลาเจ็บ" ที่สุดยอดที่สุดครั้งหนึ่งเลยทีเดียวเมื่อเขาเข้ามาแล้วก็สร้างความแตกต่างและImpactให้กับทีมได้เต็มๆ เมื่อใดที่ลงเล่นก็ตาม ทีมมีคุณภาพการเล่นและเกมบุกที่ดีมากๆ เมื่อมารวมกับเวทมนตร์ของบรูโน่แล้ว สองคนนี้จึงทำให้แมนยูไนเต็ดกลายเป็นอีกทีมนึงจากก่อนหน้านี้แบบแทบจะจำไม่ได้เลยว่า เราเคยมีเกมรุกง่อยๆแบบไหนมาก่อน

สองคนนี้ดูเหมือนจะเป็นความบังเอิญที่สโมสรเซ็นสัญญาเข้ามาในจังหวะเดียวกันพอดี

แต่ดูเหมือนมันจะเป็นพรหมลิขิตเสียแล้วที่เขียนให้เป็นอย่างนั้น..

"นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะที่ผมได้เล่นกับบรูโน่  ผมได้เคยเล่นกับเขาที่Udinese ย้อนไปราวๆ2010 เขาเป็นนักเตะที่เยี่ยมมาก มีวิชั่นบอลที่ดี เขาเรียกบอลมาเล่นตลอดเวลาเพราะว่าเขาสามารถทำอะไรมหัศจรรย์ได้เสมอถ้าทีมเปิดช่องให้เขาสำเร็จ"

"คุณจะได้เห็นอะไรเยอะกว่านี้ และโหดกว่านี้อีกจากเขาแน่นอนเพราะตอนนี้ยังต้องปรับตัวเข้ากับพรีเมียร์ลีกอยู่ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาคุ้นชินและปรับตัวได้สมบูรณ์เรียบร้อยเมื่อไหร่ เขาจะทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมให้กับทีมได้แน่"

"ก่อนผมจะย้ายมาที่นี่ ผมรู้ว่าแมนยูสนใจเขาอยู่ ผมนี่ภาวนาขอให้พวกเขาซื้อบรูโน่ได้สำเร็จจริงๆเพราะหมอนี่เป็นนักเตะที่ดีมากๆ ผมรู้ว่าเขาจะเข้ามาเปลี่ยนไดนามิคพลังงานการเล่นของทีมได้ทันที"

"บรูโน่อาจจะไม่ได้ลงเล่นแล้วเทพได้ซะทุกนัดหรอก แต่สิ่งที่เขาจะมอบให้กับทีมนั้นจะต้องเหลือเชื่อแน่นอน"

คำสัมภาษณ์นี้น่าจะแสดงให้เห็นถึงการที่อิกาโล่นั้นรู้ซึ้งถึงฝีเท้าของบรูโน่เป็นอย่างดี ซึ่งจากปากคำการเล่นนี้คิดว่า ตอนที่ย้อนไปที่อูดิเนเซ่ก็น่าจะเป็นช่วงที่บรูโน่ย้ายมาราวๆปี2013 ตอนนั้นบรูโน่เพิ่งจะอายุ18เต็มๆ อยู่อูดิเนเซ่ ส่วนอิกาโล่นั้นมีcontractอยู่กับอูดิเช่นกันในปีนั้น แต่ว่าถูกปล่อยยืมไปให้กับCesenaภายหลัง (เสื้อในภาพปกก็ของปี2013)

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ บรูโน่เป็นตัวจักรสำคัญของอูดิฯมาตั้งแต่อายุ18จนถึง21  สามปีที่นั่นเขาลงสนามไปทั้งหมด95นัด ยิงไป11ประตู แอสซิสต์13 สำหรับเด็กวัย18ค่าเฉลี่ยราวๆ 4นัดจะมี1ประตูหรือไม่ก็1แอสซิสต์ให้ทีมชุดใหญ่นั้นถือว่าเยี่ยมยอดแล้ว

ดังนั้นนี่จึงเป็นเหมือนพรหมลิขิตเล็กๆอะไรบางอย่างที่พวกเขาเคยอยู่ด้วยกันมาก่อน หลังจากแยกย้ายกันไปตามเส้นทางในฐานะที่เป็นนักเตะจอมพเนจรทั้งคู่  บรูโน่เองเปลี่ยนสโมสรมา5แล้ว ส่วนอิกาโล่ ตลอดชีวิตของเขาถูกปล่อยยืมตัวมาแล้วทั้งหมด7ซีซั่น แต่สุดท้าย พวกเขากลับมาเจอกันอีกครั้งที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

สิ่งสำคัญสำหรับประเด็นนี้นอกจากการจะมาเจอกันอีกครั้งแล้วนั้น ที่ต้องโฟกัสเลยก็คือ ภาคของการ"เล่นร่วมกัน"ของทั้งสองคนนี้ดูเหมือนว่า ลักษณะจังหวะการเล่นของทั้งคู่แทบจะเท่ากันเป๊ะๆในคนละตำแหน่งหน้าที่  บรูโน่เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่สร้างสรรค์เกมให้ตัวจบสกอร์ด้านหน้า ส่วนอิกาโล่เองก็เคลื่อนไหวอยู่ในตำแหน่งที่ดีเสมอ ทำให้บรูโน่นั้นมีทางเลือกดีๆที่จะได้ใช้ความสามารถของเขาอย่างเต็มศักยภาพในการเปิดบอลสวยๆให้เพื่อน

ใครว่าอิกาโล่แค่รอความยอดเยี่ยมของบรูโน่อันนี้ไม่จริง  กลับกัน  "อิกาโล่" ต่างหากที่เป็นคนทำให้บรูโน่สามารถดึงศักยภาพออกมาใช้ได้อย่าง100%เช่นนี้

ผมค่อนข้างเชื่อว่าคนเล่นบอลโดยเฉพาะพวกสายรุกทั้งหลาย จะตัวจบ หรือตัวปั้น แม้กระทั่งปีกก็ตามที  สิ่งที่ตัวรุกพวกนี้ต้องการมากที่สุดก็คือ "เป้าหมายในการเปิดบอล"  ถ้าเพื่อนเรามักจะไปอยู่ในจุดดีๆที่เราสามารถเปิดให้เขามีโอกาสทำประตูอยู่เสมอล่ะก็ มันจะเป็นอะไรที่เหมือนสวรรค์ของตัวรุกมากๆ เมื่อเงยหน้าแล้วมีเพื่อนอยู่ในจุดที่เราสามารถจ่ายไปยังจุดนั้นได้

อิกาโล่เป็นนักเตะที่มีการเล่นโดยไม่มีบอลดีมากๆ ยามไม่มีลูกบอลกับตัวเขาจะยืนอยู่ในตำแหน่งที่ดีกับshapeการเล่นของทีมอยู่เสมอ, เขายืนเป็นหลักให้ไปฝากบอลแดนหน้าได้  ช่วยเหลือลงต่ำมาเชื่อมเกมได้,อิกาโล่สามารถที่จะวิ่งทำทางให้เพื่อนเปิดทะลุช่องไปยังจุดนัดพบได้เพราะเขามีความเร็วในการวิ่ง และการเข้าถึงบอลสูงมากๆ แถมร่างกายยังแข็งแกร่งเอาชนะตัวประกบได้อย่างดี

และเขามักจะอยู่ในกรอบเขตโทษเสมอในยามที่ตัวรุกต้องการเปิดให้ใครสักคนทำประตู 

ตัวรุกที่อาวุธเยอะมากแบบ มิสเตอร์บรูโน่ "เล่นของทั้งตัวแมน" แฟร์นันดส์ ผู้นี้ หากมีตัวรุกที่พร้อมจะสร้างโอกาสให้เขาโชว์พรสวรรค์ได้ตลอดอย่างอิกาโล่นั้น เขาจะยิ่งเปล่งประกายได้มากขึ้นเรื่อยๆแบบไม่มีที่สิ้นสุด เพราะสกิลโน่มันเยอะมากจริงๆ เราจะเห็นได้ว่า นักเตะประเภทที่เคลื่อนที่ยืนตำแหน่งไม่เก่งอย่างแดเนียล เจมส์ มักจะไม่ค่อยอยู่ในจุดที่ดีที่บรูโน่จ่ายบอลไปให้ได้ แต่กลับกัน อิกาโล่บอลมักจะผ่านไปถึงเขาได้อยู่เสมอ และได้โอกาสยิงบ่อยครั้ง

นักเตะอย่างอิกาโล่ ใครๆก็ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นแค่กองหน้าตัวเป้าโนเนมที่รอจบสกอร์เฉยๆ แต่ยิ่งนานวันยิ่งแสดงให้เห็นว่า เขาคือกองหน้าที่เซนส์สูงอีกคนนึง จากลูกยิงLASKเมื่อวันก่อนก็น่าจะเห็นเทคนิคอันเอกอุของเขากันแล้ว เมื่อรวมกับการหาตำแหน่งที่ดีมากๆ แบบนี้ผมถือว่ามันคือ "เซนส์ที่ยอดเยี่ยมในหน้าที่ของกองหน้า" ไม่แพ้ตัวเพลย์เมคเกอร์อย่างบรูโน่เลย

ถ้าพรสวรรค์การจ่ายบอลของบรูโน่คือความมหัศจรรย์ของตัวรุกนั้น  การเคลื่อนที่หาตำแหน่งของอิกาโล่ก็เป็นพรสวรรค์สุดยอดอันนึงที่กองหน้าเก่งๆควรมีเช่นกัน

สองคนนี้จังหวะทันกันพอดีเป๊ะๆ อิกาโล่ที่ใครมองว่าเขามาจากทีมเล็กๆ เล่นแต่ทีมรองๆนั้น ใครจะเชื่อว่า คลาสบอลจะเท่าเทียมกันกับตัวโหดอย่างบรูโน่เช่นนี้  ตอนนี้มันเป็นไปแล้ว และส่วนผสมที่เข้ากันพอดีของทั้งสองคนนี้ สามารถพูดได้ว่ามันมี "เคมีฟุตบอล" อะไรบางอย่างที่พอเหมาะพอเจาะของคนเล่นตัวรุกเลยทีเดียว

คนนึงจ่ายบอลให้เพื่อนดีมาก ส่วนอีกคนก็ไปยืนในตำแหน่งที่ดีทำให้เพื่อนมีโอกาสจ่ายได้ และก็จบสกอร์ได้ด้วย

มันเหมือนกับสองคนนี้เกิดมาคู่กันจริงๆ แค่ย้ายมาเล่นร่วมกันเต็มๆช้าไปหน่อย และอายุมันห่างกัน5ปีเท่านั้น แต่เหมือนสองคนนี้จะมี "พันธสัญญาแห่งการถล่มประตู" ร่วมกันยามที่ได้ลงสนามศึกสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันในสนามฟุตบอล และที่น่าเหลือเชื่อคือ นักเตะสองคนนี้นั้น "เล่นอยู่ในตำแหน่งRoleที่แมนยูขาด" พอดิบพอดีซะอีก [กองหน้าตัวเป้า + มิดฟิลด์ตัวรุก]

เมื่อเอาส่วนที่ขาดสองคนนี้เข้ามาใส่ในแมนยูไนเต็ด หากให้เห็นภาพให้นึกถึง "กระสือ"

แมนยูไนเต็ดก่อนที่สองคนนี้มา เหมือนร่างต้นของกระสือที่มีแต่ร่างกายนิ่งๆ นอนอยู่ในบ้านไม้ทรงไทยชั้นสอง แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะมีแต่ร่าง ..แล้วหัวกับไส้อย่างลินการ์ดกับเปเรร่าก็ลอยออกไปแดกขี้ไปวันๆ

ร่างนั้นจึงมีสภาพพังยับเยินและเหม็นกลิ่นขี้เหมือนที่เราเป็นมา

เมื่อไหร่ก็ตามที่ หัวกับไส้ที่แท้จริงกลับมา ซึ่งนั่นก็คืออิกาโล่ (หัว-หอก) และ บรูโน่ (หัวใจของทีม) เมื่อประกอบรวมร่างกันแล้ว แมนยูไนเต็ดกลับกลายเป็นเหมือนหุ่นรบมาชินก้าZ ร่างมันสมบูรณ์แบบเหมือนแมนยูในตอนนี้เป็นในที่สุด

ถึงตอนนี้แล้ว เราก็แค่รอเวลาให้สถานการณ์ดีขึ้น แล้วจะได้เห็นสองคนนี้กลับมาล่าตาข่ายกันอย่างเมามันส์อีกครั้งอย่างแน่นอนอีกไม่นาน เมื่อถึงเวลานั้นก็จะเป็นความสุขของแฟนแมนยูไนเต็ดที่ได้เห็นฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของทีม และการเข้าขากันของสองตัวรุกแห่งพรหมลิขิตคู่นี้

ก่อนสองคนนี้ย้ายมา ใครพูดว่ามันจะเข้ากันได้ดีนี่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ใครจะเชื่อ

แต่ถึงตอนนี้ หากใครมาพูดว่าบรูโน่เก่งและแบกทีมอยู่คนเดียวนั้น ก็น่าเอาบอระเพ็ดยัดปากจริงๆ

เพื่อนร่วมทีมทุกคนต่างหาก ที่เป็นส่วนสำคัญของทีมและทำให้บรูโน่โชว์ความเฟี้ยวได้ขนาดนี้

และอิกาโล่นี่แหละ คือพรหมลิขิตของบรูโน่ที่แท้จริง

-ศาลาผี-

คนนี้ก็อูดิเนเซ่นะ แต่ย้ายออกปี2011 อิกาโล่มาทันชายเล็ก แต่บรูโน่ไม่มา