"ผมต้องพัฒนาตัวเองต่อไป" แทมมี่ อับราฮัม
สำหรับ "แทมมี่ อับราฮัม" กองหน้าของเชลซี หากนับเฉพาะพรีเมียร์ลีก เจ้าตัวยิงประตูไปแล้ว 13 ลูกด้วยกัน ถือว่าเป็นการต่อยอดฟอร์มการเล่นที่น่าชื่นชม สำหรับการก้าวมายึดตำแหน่งตัวจริงภายในทีมชุดใหญ่ของเด็กปั้นของเชลซี รายนี้ หลังจากทีมปล่อยไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทีมลีกล่างมาในช่วงหลัง ทั้งกับบริสตอล ซิตี้, สวอนซี ซิตี้ และแอสตัน วิลล่า
ช่วงนี้ เราไปดูบทสัมภาษณ์เล็กๆน้อยๆของเจ้าตัวกันหน่อย ผ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ได้รับมาจากลีกระดับล่าง, ความหมายในการเป็นนักเตะของเชลซี และการเตรียมความพร้อมในแง่มุมต่างๆ ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น
การเตรียมความพร้อม และความคิดของคุณเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ?
"คุณต้องแข็งแกร่งขึ้น ผมบอกแบบนี้ เป็นเพราะประสบการณ์ที่ได้รับมาในช่วงไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมา นี่คือสิ่งที่คุณต้องเพิ่มเข้าไปในเกมการเล่นของตัวเอง นี่คือสิ่งที่คุณต้องการในวันนี้ และช่วงอายุเท่านี้ ผมรู้ว่าตัวเองผ่านการลงเล่นมาหลายเกม มันเก่ียวข้องกับการดูแลตัวเอง และเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันเกมต่อไป"
อะไรคือความท้าทาย ในการก้าวขึ้นมาเล่นในเกมระดับสูงสุด เหมือนที่คุณกำลังทำอยู่ในเวลานี้ ?
"คุณรู้ดีว่า มันเป็นเรื่องที่ยากมาก มีหลายอย่างที่ขึ้นๆลงๆ แต่เหมือนกับที่ผมเคยพูดออกไป คุณรู้ตัวเองดีที่สุด และคุณรู้ว่าตัวเองดีเยี่ยมถึงจุดไหน คุณจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คุณต้องเดินหน้าทำมันต่อไป"
ผู้จัดการทีมอย่างแฟร้งค์ แลมพาร์ด มีอิทธิพลต่อตัวคุณแค่ไหน ?
"มากเลยล่ะ เขาคือคนที่เรามองเป็นแบบอย่าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง เพราะว่าเขาคือหนึ่งในกองกลางที่ยอดเยี่ยมที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก สำหรับผม เขาถือเป็นแบบอย่างเลยล่ะ ผมเติมโตมากับอะคาเดมี่ของเชลซี ผ่านการเฝ้าชมการแข่งขันเกมแล้วเกมเล่า พร้อมกับได้ดูสิ่งที่เขาทำในสนาม การก้าวมาเป็นผู้จัดการทีมของเขาถือเป็นการสร้างแรงจูงใจ เขารู้ดีว่า วิธีที่จะก้าวไปอยู่ระดับสูงต้องทำยังไง"
ตั้งแต่ต้นฤดูกาล จนถึงเวลานี้ แนวความคิดของทีมเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่า ?
"ใช่แล้ว เราต้องเข้มแข็ง และอยู่ร่วมกันในฐานะของความเป็นทีม อย่างที่ผมบอก เรายังเหลือเกมให้ลงสนาม ดังนั้น เราต้องรักษาความคิดในเชิงบวกเข้าไว้ ทั้งในห้องแต่งตัว, สนามซ้อม และการแข่งขันจริง เราต้องรวมตัวกันเป็นครอบครัวใหญ่ ที่มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน"
อะไรคือความท้าทายของการเล่นเป็นกองหน้า นี่คือหนึ่งในตำแหน่งที่เล่นยากที่สุดหรือไม่ ?
"ผมมองว่าเป็นหนึ่งในตำแหน่งที่เล่นยากนะ เมื่อคุณพลาดโอกาสทำประตูไป มันอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพโดยรวม แต่สุดท้ายแล้ว มันเป็นเรื่องของความเข้มแข็ง และความเชื่อมั่นในตัวเอง คุณไม่รู้หรอกว่า โอกาสจะมาถึงเมื่อไหร่ คุณต้องพร้อมอยู่เสมอ และต้องเข้มแข้งพอที่จะคว้าโอกาสนั้น"
คุณชอบทำอะไรก่อนเกมการแข่งขัน ?
"บางครั้ง ผมก็ชอบนั่งดูคลิปวิดีโอ ผ่านทางเว็บไซต์ยูทูป ผมชอบดูคลิปการเล่นของกองหน้าระดับโลก บางครั้ง ผมก็นั่งดูคลิปการเล่นของตัวเองเหมือนกัน นั่นช่วยสร้างความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง"
คุณมองใครเป็นแบบอย่างหรือเปล่า ?
"มันขึ้นอยู่กับว่า ผมรู้สึกอะไรในวันนั้น ผมชอบนักเตะอย่างเลวานดอฟสกี้, ฟีร์มิโน่, อเกวโร่, เคน และอดีตนักเตะดังอย่างอองรี รวมไปถึงดร็อกบา อีกคนหนึ่งด้วย"
คู่แข่งที่ยากที่จะต่อกรด้วยที่สุดในฤดูกาลนี้ล่ะ ?
"ฝ่ายตรงข้ามที่ยากต่อการเผชิญหน้าด้วยที่สุด ผมขอยกมันให้กับฟาน ไดจ์ค เขาทั้งตัวใหญ่, แข็งแกร่ง และฉลาด เขาเป็นคนที่รวมปัจจัยที่กองหลังพึงมีเข้าไว้ด้วยกัน"
ย้อนกลับไปศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2012 รอบชิงชนะเลิศ (เชลซี คว้าแชมป์ โดยชนะบาเยิร์น มิวนิค) คุณอายุประมาณ 13-14 ขวบ คุณได้ดูเกมนั้นหรือไม่ และสามารถจดจำอะไรได้บ้าง ?
"ผมดูเกมนั้นในห้องนั่งเล่น ร่วมกับครอบครัวของผม ในช่วงเวลานั้น ผมอาศัยอยู่ที่เซาธ์ ลอนดอน ผมจำนาทีที่แน่นอนไม่ได้นะ แต่ผมจำได้ว่า มาต้า เปิดเตะมุมมาให้กับดร็อกบา พร้อมกับโหม่งบอลเข้าประตูไป ผม และครอบครัวต่างกระโดดดีใจแบบตัวลอยเลยล่ะ"