"ปรัชญาแห่งคาแรคเตอร์" วิถีการซื้อนักเตะที่เปลี่ยนไปและดีขึ้นทันตาของยูไนเต็ด
ในระหว่างที่สถานการณ์โรคระบาดของโควิด-19 ในโลกเรายังตึงเครียด และยังไม่สามารถกลับมาแข่งขันฟุตบอลกันได้ตามปกติล่วงเลยมาหลายต่อหลายวันนั้น ระหว่างนี้จึงมีช่องว่างให้เราได้พูดถึงประเด็นต่างๆที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับแมนยูไนเต็ด เพราะเรื่องราวในแง่มุมต่างๆมันมากไปหมดทั้งในด้านที่ดี และด้านที่ต้องขบคิดเพื่อพัฒนาต่อไป
หนึ่งในประเด็นสำคัญในนั้นคือเรื่องของ "วิธีดำเนินการซื้อนักเตะเข้ามาเสริมทีม" ของแมนยูไนเต็ด ที่เป็นเรื่องที่น่าจับตามองและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากๆในยุคของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาคุมทีมแบบถาวร ต้องบอกว่า นับจากนั้นการเสริมทีมใต้ยุคของเขาถือว่า "ประสบความสำเร็จ" แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในยุคของสามผู้จัดการทีมก่อนหน้านี้ที่ส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเสียเป็นส่วนมาก
ตั้งแต่สมัยเดวิด มอยส์ ไล่มาLVG จนกระทั่งมูรินโญ่ที่ปัญหาการซื้อขายนักเตะนั้นพีคสุดๆเมื่อถึงจุดที่เราไม่ได้ใครมาร่วมทีมเป็นหลักเลยนอกจากเฟร็ดแค่คนเดียว อันเนื่องมาจากปัญหาหลังบ้านของทีมซื้อขาย และการขาดความเชื่อมั่นในตัวผู้จัดการทีมของบอร์ด
เชื่อว่าแฟนผีก็คงจะเห็นว่า ในยุคของโอเล่ การซื้อขายเปลี่ยนไปมาก สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนสุดๆสามารถสรุปออกมาได้ก็คือ
1."เม็ดเงินมีการใช้อย่างคุ้มค่าถึงที่สุด"
ไม่มีการทุ่มซื้อสูงเกินความจำเป็น แต่จะทุ่มเมื่อดีลนักเตะคนนั้นมันสมเหตุสมผลกับราคาเท่านั้น (ต่างจากยุคอาจารย์หลุยส์อย่างชัดเจน) เราจะเห็นได้จากดีลแต่ละดีลชัดเจนว่า ตามข่าวแล้วนั้นทีมซื้อขาย และเอ็ด วู้ดเวิร์ด จะไม่ยอมถูกโก่งราคาอย่างเด็ดขาด เพราะพี่แกจะต่อราคาและดีลไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงจุดที่ทีมโอเคกับการซื้อขายและราคาที่ไม่เสียเปรียบคู่ค้ามากนัก พูดง่ายๆว่า ใช้เงินอย่างระมัดระวังมากที่สุด ทำให้เราประหยัดงบได้เยอะ ไม่ต้องเสียเงินมากเกินความจำเป็น
เป็นความงกที่สร้างสรรค์ และไม่ควรเรียกว่างก แต่เรียกว่า ฉลาดในการใช้งบประมาณ น่าจะตรงประเด็นซะมากกว่ากล่าวหาว่าทีมงก เพราะแม้หลายดีลจะเป็นมูลค่ามหาศาลอย่างเช่นแมกไกวร์ แต่ถ้าซื้อมาแล้วใช้งานได้เต็มที่และสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยม การจ่ายแพงที่สมค่าตัวแบบนั้นก็ถือว่าเป็นการใช้เงินคุ้มค่าเหมือนกัน
คุ้ม คุ้มจริงๆ ยิ่งกว่าคุ้ม คุ้มทุกสิ่ง คุ้มที่แฟลตปลาทองงงงง .. คุ้มสิไอสัด ส่งกูลงทุกนัดเลย!!!
2.นักเตะทุกตัวซื้อมาใช้งานได้จริง ดีจริง
พูดภาษาชาวบ้านว่า "ได้เน้นๆเนื้อๆทุกตัว" ทุกคนที่เข้ามาในยุคโอเล่ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนสำคัญในทีมทุกคน ต่างจากยุคก่อนที่บางทีซื้อมาแล้วก็ยึดตัวจริงไม่ได้(ดาร์เมี่ยน/ชไนเดอร์ลินเป็นต้น) บางตัวฟอร์มตกแบบไม่คุ้มค่าตัว ใช้งานไม่ได้จริงสมกับชื่อชั้นที่เข้ามา(เบอร์7คนล่าสุดนี่ไง) บางคนมาแล้วก่อปัญหาและก็ย้ายออกอย่างรวดเร็วจนสปิริตทีมเสีย และขาดเสถียรภาพในการสร้างทีมระยะยาว (มีอยู่ตัวเดียวเคสนี้)
ซึ่งสองข้อที่ว่านี้คือเรื่องดีๆของการซื้อขายนักเตะของเราที่พัฒนาขึ้นมาจากยุคก่อนมากๆที่ซื้อแล้วล้มเหลวค่อนข้างเยอะจนเหมือนเอาเงินไปตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ กว้านซื้อนักเตะดังๆเข้ามาร่วมทีมอย่างเดียว แต่ไม่มีความเหมาะสมกับทีม และนักเตะก็ไม่สามารถตอบรับปรัชญาที่เป็นจิตวิญญาณของสโมสรได้
ดังนั้นจะเห็นได้เลยว่า นี่คือสิ่งที่มัน "เปลี่ยนแปลง" อย่างเห็นได้ชัดเจนในภาคของการซื้อนักเตะ จึงเป็นเรื่องที่น่าคิดว่า เพราะเหตุใดอยู่ดีๆทีมซื้อขายของแมนยูจึงพัฒนาการซื้อนักเตะและประสบความสำเร็จเช่นนี้ ส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งน่าจะเป็นที่การเข้ามาของโอเล่นี่แหละที่สำคัญที่สุดเพราะเขาเป็นผู้ที่กำหนดเสปคนักเตะด้วยตัวเองมาตั้งแต่แรกๆแล้วว่า ชอบนักเตะแบบไหน และใครบ้างที่จะเข้ากับปรัชญาการทำทีมของโอเล่บ้าง
นอกจากไอ้ที่พูดๆกันมานานแล้วว่า แกชอบนักเตะสหราชอาณาจักร + นักเตะอายุน้อยนั้น แค่สองสิ่งนี้จริงๆแล้วยังไม่ใช่ทั้งหมดของที่โอเล่ต้องการ แต่เขาเคยให้สัมภาษณ์ผ่านตามาก่อนแล้วว่า ในการเลือกนักเตะ จุดสำคัญที่เราพิจารณานั่นก็คือ
คาแรคเตอร์ของนักเตะที่เราต้องการ
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีการปรับเปลี่ยน "แผนวิธีการเลือกซื้อนักเตะ" ในยุคของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดยที่เบื้องต้นเราจะพิจารณา "ฝีเท้าและความสามารถ" เป็นหลักๆอยู่แล้ว แต่ว่าเกณฑ์สำคัญอย่างหนึ่งที่สเก๊าท์ของทีมจะต้องรายงานเพิ่มเติมเป็นพิเศษด้วยก็คือ "คาแรคเตอร์ของผู้เล่นคนนั้น"
จะเห็นได้ว่า บิ๊กเนมที่ซื้อมาช่างต่างจากบิ๊กเนมยุคก่อนนี้โดยสิ้นเชิงอย่าง งูพิษ ลูพิษ และ เล็กพิษ เพราะมีรายงานว่าโซลชาไม่ปลื้มกับทัศนคติของนักเตะบางคนที่เป็นมรดกจากยุคโจเซ่ ดังนั้นโอเล่จึงพยายามที่จะเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรโดยการเพิ่มความรับผิดชอบและจรรยาบรรณในการทำงานให้มากขึ้นหลังจากที่เริ่มระบายนักเตะประเภท deadwood ออกจากทีมไปหลายราย
ห้าการเซ็นสัญญาในยุคโอเล่นั้น ล้วนแล้วแต่สามารถช่วยสโมสรให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน อย่างที่เรารู้กัน บรูโน่ แฟร์นันดส์, แฮรี่ แมกไกวร์ ทั้งคู่พิสูจน์ตัวเองให้แฟนบอลเห็นชัดเจนถึง "ทัศนคติ และตัวตนที่แข็งแกร่งเข้มแข็ง" (แบบสุดๆ)
สังเกตง่ายๆว่า ทำไมเราถึงมองหาสิ่งที่เรียกว่า "คาแรคเตอร์" เข้ามาด้วย ให้สังเกตจากนักเตะ5ตัวของโอเล่ได้เลย ชัดเจนซะยิ่งกว่าชัด ทุกตัวมีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นและสำคัญหมด แถมยังเป็นสิ่งที่ทีมขาดด้วย
แมกไกวร์ — คาแรคเตอร์ของผู้นำ ที่แฟนบอลรู้กันมาตลอดว่า ทีมเราขาดนักเตะที่เป็นผู้นำจัดๆอยู่ในทีมมานานแล้ว
บรูโน่ — ความกระตือรือร้น ความกล้าเสี่ยง กล้าบุก ไม่ว่าจะเข้าเป้าหรือไม่ก็ตาม แต่บรูโน่ทำให้ทุกคนเห็นว่าเขากล้าที่จะเล่นมากเพียงใด
วานบิสซาก้า — นี่คือตัวอย่างของนักเตะที่ไม่มีปากมีเสียงอะไรเยอะ เข้ามาก็ไม่ได้ทำตัวโดดเด่นอะไร แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานหนักและแสดงผลงานในสนามออกมาอย่างเข้มข้น นี่คือตัวอย่างของสิ่งที่เรียกว่า "ประสิทธิภาพ"
แดนเจมส์ — เจ้าหนูเจมส์คือ อีกพาร์ทของคาแรคเตอร์ที่เข้ากับ "เด็กคนอื่นๆในทีมของโอเล่" ได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือการหาเอาคาแรคเตอร์นักเตะอายุน้อยที่มีความพยายามสูง และพร้อมที่จะโต+พัฒนาไปพร้อมๆกับทีม เข้ากับทีมได้ดี
อิกาโล่ — คาแรคเตอร์ตัวนี้สำคัญสุดๆเมื่อมันแสดงให้เห็นแล้วว่า การเลือกนักเตะสักคนมาเข้าทีมนั้น ทัศนคติและ"Passion" ที่เขามีต่อสโมสรนั้นสำคัญขนาดไหน หากเลือกนักเตะที่มีใจให้กับสโมสรอย่างมาก ไม่ต้องห่วงเลย นักเตะคนนั้นจะเข้ามาเล่นอย่างเต็มที่ทุกวินาทีในสนาม และสร้างผลงานได้อย่างสุดยอดอย่างแน่นอน
จะเห็นได้ว่าทั้งห้าคนนี้นั้น "คาแรคเตอร์เฉพาะตัวชัดเจนโดดเด่นมากๆ" และล้วนแล้วแต่เป็น "คาแรคเตอร์แบบที่มีทั้งชนิดทีมขาด(แมกไกวร์ บรูโน่) และ เข้ากับทีมได้(เจมส์) แทบทั้งสิ้น
จากทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้น ... นั่นแหละ คือเหตุผลสำคัญว่าทำไม เป้าหมายเบอร์หนึ่งของเราอย่าง เจดอน ซานโช่ จากโบรุสเซียดอร์ทมุนด์นั้นจึงเป็นนักเตะที่เราอยากจะกระชากตัวมาให้ได้ซะเหลือเกิน เพราะทีมงานเชื่อว่า ปีกรายนี้นั้นมี "สภาวะจิตใจแบบที่เรากำลังต้องการ" อยู่ในตัว
และเชื่อว่าเขาจะมาโดดเด่นได้ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดอย่างแน่นอน ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ว่า "ทำไมถึงต้องซานโช่"
ส่วนรายอื่นๆที่มีข่าวหนาหูและมีแนวโน้มสูงสุดๆอย่าง "แจ็ค กรีลิช" นั้นคงไม่ต้องบอกว่า คาแรคเตอร์หมอนี่โดดเด่นมากเพียงใด ถึงขนาดที่แฟนแมนยูต่างพากันเรียกร้องให้เขาเข้ามารับ"เบอร์7ในตำนาน"ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยซ้ำ นี่คือนักเตะที่มีทั้งฝีเท้า ที่มาพร้อมกับคาแรคเตอร์สำคัญชัดเจน แถมดูจะมีใจกับสโมสรอีกด้วย
จริงๆไม่ต้องได้ทั้งหมด เอามาสัก2ใน3จากนี้ก็พร้อมชนทุกทีมแล้ว
ทั้งหมดทั้งมวลเราจึงได้เห็นแล้วว่า วิธีการซื้อนักเตะเข้ามาสู่สโมสรเรานั้น เปลี่ยนไปในทิศทางที่ "ดีขึ้น และมีลุ้นขึ้นมากๆ" ไล่ตั้งแต่3ตัวช่วงซัมเมอร์ก็ว่าดีมากๆแล้ว ยังมาตอกย้ำที่ตลาดมกราคมที่ผ่านมาว่า เราไม่ได้คิดไปเอง เพราะอีกสองตัวที่เข้ามาก็สร้างอิมแพ็คระดับมหาศาลให้ทีมแทบจะกลายเป็นคนละทีมไปเลย
ในเมื่อทิศทางการซื้อขายมันดี เพราะว่ากรอบความคิดและปรัชญาที่ถูก "Set" เอาไว้เป็นstandardในการเลือกนักเตะนั้นถูกกำหนดสเปคเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้นมันจึงสามารถทำให้เราคาดหวังได้แล้วเต็มๆว่า ตลาดนักเตะรอบต่อไป เมื่อใดที่การซื้อขายเกิดขึ้น เรามีลุ้นที่จะได้นักเตะดีๆเข้าทีมมาอีกแน่นอน ไม่ว่าตัวนั้นจะเป็นนักเตะบิ๊กเนม หรือนักเตะตัวละครลับก็ตามแต่ ไม่ว่าใครที่จะเข้ามา เชื่อว่าจะต้องเป็นนักเตะที่มีคาแรคเตอร์ที่เข้ากับจิตวิญญาณของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และสามารถนำพาสโมสรนี้ไปสู่อนาคตที่สดใสได้อย่างแน่นอน
ก็เพราะมันคาดหวังได้จริงนี่แหละ ตลาดนักเตะรอบต่อไปของแมนยูจึงเดือดแน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์!!!!
-ศาลาผี-
โอเล่ : เอ็งก็เป็นนักเตะที่มีคาแรคเตอร์เหมือนกันนะ / เจสซี่ : จริงเหรอครับบอส ดีใจจัง / โอเล่ : ใช่.. คาแรคเตอร์แย่ๆน่ะ!!!
Reference