:::     :::

คุยกับ โคโล่ ตูเร่

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
โคโล่ ตูเร่ คือหนึ่งในนักฟุตบอลต่างชาติที่พิสูจน์ฝีเท้าตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดช่วงเวลามากกว่าสิบปีที่ค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล, แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล

จุดสูงสุดของชีวิตคือเป็นแชมป์ "ไร้พ่าย" กับ อาร์เซน่อล ในปี 2004 ทั้งที่ 2 ปีก่อนหน้านั้นเพิ่งย้ายจากบ้านเกิดไอวอรี่ โคสต์ มาค้าแข้งในยุโรเป็นครั้งแรกด้วยค่าตัวเพียง 150,000 ปอนด์

นอกจากนี้ แข้งอเนกประสงค์ที่เล่นได้สารพัดตำแหน่งก่อนปักหลักเอาดีในบทบาทเซนเตอร์แบ็ก ยังเป็นหนึ่งใน 8 ผู้เล่นที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้กับ 2 สโมสรเมื่อได้แชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้งกับ แมนฯ ซิตี้ ในปี 2012 

ในช่วงปลายอาชีพ โคโล่ ตูเร่ ได้สัมผัสการเป็นแชมป์แบบไร้พ่ายอีกครั้งกับ เซลติก ที่ไม่แพ้ใครในลีกตลอดฤดูกาล 2016/17 และยังฟาดแชมป์สกอตติช  คัพ และลีก คัพ กลายเป็นเทรเบิ้ลแชมป์ปีกต่างหาก

จึงไม่อาจก้าวแบบเกินเลยนักว่า โคโล่ ตูเร่ คือหนึ่งในแข้งต่างชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการค้าแข้งบนเกาะอังกฤษรวม 15 ปีเต็มหรือระหว่างปี 2002 จนถึง 2017 

ผ่านมาถึงตรงนี้เกือบ 3 ปี อดีตกองหลังที่ผ่านการรับใช้ทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ มากถึง 120 นัด ได้โอกาสมานั่งคุยและเปิดใจถึงเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจนของตัวเอง

"ผมต้องการส่งต่อประสบการณ์และความรู้ไปถึงคนรุ่นใหม่"


จุดเริ่มต้นเมื่อ 18 ปีก่อน 

โคโล่ คือหนึ่งในนักเตะจากไอวอรี่ โคสต์ กลุ่มแรกๆ ที่เข้ามาสร้างชื่อในพรีเมียร์ลีก เขาย้ายจาก เอเซ็ค มิโมสาส มาร่วมทีมในปี 2002 ในแบบโนเนมสุดๆ ไม่มีนักข่าวหรือนักฟุตบอลคนใดรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อมาก่อน 

ความคิดในตอนนั้นของเด็กหนุ่มจากกาฬทวีปคือ "ล้มเหลวไม่ได้" เพราะอาจส่งผลต่อแข้งร่วมชาติอีกหลายคนในการเดินตามรอย

"ผมรู้สึกแบบนั้น ผมรู้สึกว่าต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง เมื่อคุณทำสิ่งต่างๆ ออกมาดี ผู้คนก็จะคิดได้ว่า 'โคโล่ มาจากไอวอรี่ โคสต์ และเขาทำได้เยี่ยมมากๆ แสดงว่าต้องมีนักเตะเจ๋งๆ คนอื่นในไอวอรี่ โคสต์ อีกแน่' จากนั้นพวกเขาจะออกไปเสาะหานักเตะที่มีพรสวรรค์คนใหม่มาร่วมทีม"

"ผมภูมิใจอย่างมากเพราะ (ดีดิเย่ร์) ดร็อกบา, ยาย่า, ดีดิเย่ร์) โซโกร่า, แชร์วินโญ่, ซาโลมอน กาลู และอีกหลายต่อหลายคนจากไอวอรี่ โคสต์ ต่างมาแสดงศักยภาพของตัวเองที่นี่"


"มี 2 สิ่งที่ผมจำเป็นต้องเรียนรู้ให้เร็ว นั่นคือ ภาษา และ อากาศ มันยากนะในการใช้ชีวิตที่ห่างครอบครัว และที่นี่ก็ดูเหมือนฝนตกอยู่ตลอดเวลา"

"มีอยู่วันหนึ่ง ผมต้องเข้าไปในลอนดอน (กลางเมือง) เพื่อเข้ารับการสแกน ผมมองออกไปที่หน้าต่างและท้องฟ้าก็สีฟ้าสวย ผมคิดว่าช่างเป็นวันที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้ ผมก็เลยใส่เสื้อและออกไป แต่ให้ตายเถอะ! ผมเหมือนถูกแช่แข็งเลย ผมรู้ในตอนนั้นทันทีว่าคุณต้องสวมเสื้อคลุมตลอดเวลาในประเทศนี้"

โคโล่ พาทีมได้แชมป์เอฟเอ คัพ ตั้งแต่ปีแรก ก่อนต่อยอดด้วยแชมป์ประวัติศาสตร์ไร้พ่าย และปีต่อมาก็กลับมาซิวแชมป์เอฟเอ คัพ 

กราฟชีวิตของ ตูเร่ เองรวมถึง อาร์เซน่อล ชุดนี้ควรไต่ระดับถึงขีดสุดและจบด้วยตำแหน่งแชมป์ยุโรปเมื่อได้เข้าชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2006 ทว่ากลับพ่ายต่อ บาร์เซโลน่า 1-2 อย่างน่าเสียดาย ทำให้ได้เพียงตำแหน่งรองแชมป์


ร่วมงานกับน้องชายที่ แมนฯ ซิตี้ 

โคโล่ ตูเร่ ย้ายออกจาก อาร์เซน่อล ไปร่วมทีม แมนฯ ซิตี้ ในซัมเมอร์ 2009 ด้วยค่าตัว 14 ล้านปอนด์

12 เดือนต่อมา ยาย่า ตูเร่ น้องชายของเขาก็ย้ายมาเล่นด้วยกัน ทั้งคู่ร่วมกันคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2012 ขณะที่เพลงเชียร์ที่แฟนบอลเรือใบสีฟ้าแต่งให้พี่น้องตูเร่ยังคงฮิตติดหูจนถึงทุกวันนี้

"ผมไม่มีโอกาสได้กล่าวขอบคุณคนที่ช่วยแต่งเลย มันซาบซึ้งใจผมมาก เมื่อคุณมาอีกประเทศและผู้คนก็โอบกอดคุณ ขอบคุณ ยกย่องคุณ หรือกระทั่งแต่งเพลงชื่อคุณ มันเหลือเชื่อเลยสำหรับผมและน้องชาย"

"หากมีคนมาบอกผมเมื่อ 15 ปีว่า 'โคโล่ จะมีคนร้องเพลงชื่อนายในทุกที่ที่อังกฤษนะ' ผมคงตอบกลับไปว่า 'เล่นมุกอะไรเนี่ย?'

"ผมเอาตัวเองไปเปรียบกับน้องชายไม่ได้หรอก เขาเก่งกว่าผม ผมรู้ว่าเขารัก แมนฯ ซิตี้ แต่เพราะว่าภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาบ้านเกิดของเรา บางครั้งเราพูดออกไป เราไม่ได้หมายความแบบนั้น"


"เขาทำได้ดีกว่าผมที่นี่ และเขาก็มีพรสวรรค์มากกว่า แต่ผมสู้มากกว่าเขานะ ผมวิ่งเร็วกว่าและทำงานอย่างหนัก" 

"หาก ยาย่า ขยันได้แบบผม บวกกับพรสวรรค์ที่เขามีอยู่แล้ว เขาต้องได้ บัลลงดอร์ แน่นอน"

แข้งจอมแกร่งอำลา แมนฯ ซิตี้ ในปี 2013 ก่อนย้ายร่วมทีม ลิเวอร์พูล ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ซึ่งเกือบช่วยกันคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จหากไม่สะดุดในช่วงท้าย 

ร็อดเจอร์ส ที่แยกทางกับ ลิเวอร์พูล ในปี 2015 ก่อนได้งานใหม่ที่ เซลติก หอบหิ้วเอา โคโล่ ตูเร่ ไปร่วมงานกันอีกรอบซึ่งในสกอตแลนด์นี่เองที่ ตูเร่ ได้เป็นแชมป์ไร้พ่ายครั้งที่ 2 ในชีวิต และครั้งแรกในรอบ 13 ปี ก่อนตัดสินใจยุติบทบาทนักฟุตบอลอาชีพ


บทบาทใหม่ข้างสนาม 

ในเดือนกันยายนปี 2017 โคโล่ ตูเร่ ประกาศแขวนสตั๊ดเพื่อขยับไปเริ่มงานโค้ชร่วมกับ ร็อดเจอร์ส ที่ เซลติก จากนั้นก็ตามกันมาที่ เลสเตอร์ ในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อปีทีแล้ว 

ตอนนี้ โคโล่ เป็นสตาฟฟ์โค้ชทีมชุดใหญ่ เขาหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับโค้ชคนอื่นจากแอฟริกา

"ในบั้นปลายของอาชีพผม ผมคิดถึงสิ่งที่สามารถมอบให้โลกใบนี้ อะไรคือความแข็งแกร่งในชีวิตผม? ผมถึงคิดเรื่องอื่นนะ แต่สิ่งเดียวที่ผมรู้จริงๆ และสนุกกับมันด้วยคือ ฟุตบอล มันเป็นสิ่งเดียวที่ผมรู้สึกว่าสามารถสร้างสรรค์ให้ดีขึ้นได้" 

"ผมต้องการส่งต่อประสบการณ์และความรู้ไปถึงคนรุ่นใหม่"

"หนึ่งในสิ่งสำคัญสุดซึ่งเป็นสิ่งที่ตราตรึงใจผมคือผมมาจากแอฟริกา อย่างที่คุณรู้ ไม่ได้มีผู้จัดการทีมชาวแอฟริกันมากนักในลีกชั้นนำของยุโรปหรืออังกฤษ ผมคุ้นเคยกับการเดินทางอันแสนไกลเพราะว่าเราไม่มีไอดอล ไม่มีต้นแบบให้เฝ้าตามดู นั่นคือเหตุผลที่ผมกำลังเรียนงานโค้ชในตอนนี้"

"เพื่อนผมบางคนที่เล่นฟุตบอลอาจไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ แต่ผมต้องการทำเพราะจำเป็นสำหรับแอฟริกา"


"คุณพาตัวเองก้าวออกมาและทำงานอย่างหนัก แต่ในทุกครั้งต้องมีคนแรกเริ่มต้นเสมอ จากนั้นคนอื่นก็ได้ทำตาม"

"ผมฝันเอาไว้ว่าทีมจากแอฟริกาจะคว้าแชมป์โลกได้ในสักวัน บางทีอาจใช้เวลา 20 ปี หรือ 30 ปี บางทีผมอาจจะเป็นหนึ่งในคนที่ได้พยายามทำมันซึ่งหากมันไม่สำเร็จ มันก็ยังเป็นสิ่งที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป นี่คือสิ่งที่ผมกำลังทำ มันเป็นเป้าหมายของผม" 

"การประสบความสำเร็จในสิ่งใดก็ตาม คุณต้องฝันถึงมัน หากคุณไม่ฝันถึงฝัน คุณจะไม่มีทางทำได้"  



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด