:::     :::

"เขาเป็นนักเตะที่โคตรพ่อโคตรแม่เก่งโว้ย" จากหัวใจป๋า และความแมนของVERON

วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม 2563 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
5,627
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เรื่องราวที่แท้จริงจากปากฮวน เซบาสเตียน เวรอน เป็นหนึ่งในนักเตะที่ออกมาพูดอย่างแมนๆด้วยตัวเองถึงปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างค้าแข้งกับแมนยูไนเต็ด ไม่ต้องมโนไปฟังจากใคร

Juan Sebastian Veron สร้างกระแสฮือฮาที่สุดในโลกฟุตบอลขณะนั้นด้วยการย้ายจาก Lazio มาสู่ Manchester United ในปี2001 ด้วยค่าตัว 28.1 ล้านปอนด์ (เทียบค่าเงินปัจจุบันก็ราวๆ 51.4 ล้านปอนด์)

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันไม่ปลื้มมากนักเมื่อเกิดกระแสโจมตี หลังจาก10เดือนผ่านไปที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทำลายสถิติซื้อตัวของพรีเมียร์ลีกโดยเวรอนที่ตัวเลข28.1ล้านปอนด์ และถูกตั้งข้อสังเกตว่ามันเป็นการซื้อตัวที่ล้มเหลว ป๋าตอบกับคำถามเหล่านี้ด้วยประโยคเด็ดที่ทำให้เห็นชัดเจนที่สุดว่า ป๋ารู้สึกยังไงต่อเคสของเวรอนว่า..

"เขาเป็นนักเตะที่โคตรพ่อโคตรแม่เก่งโว้ย!"

กุนซือชาวสก็อตต์ของเราพูดคำนี้ตอบโต้ออกมา ก่อนที่จะระเบิดวงสนทนาในการให้สัมภาษณ์ใน press conference อีกดอกหนึ่งว่า

"พวกมึงทั้งหมดต่างหากล่ะที่เป็นไอ้โง่!!!"


ถึงแม้จะหนีความเป็นจริงไม่ได้ว่า เมื่อเทียบกับความสำเร็จของเขาก่อนที่จะย้ายมา ทั้งในอิตาลีและทีมชาติอาร์เจนติน่านั้น ฮวน เซบาสเตียน เวรอน ค่อนข้างลำบากจริงๆในการทำผลงานให้ได้ตามความคาดหวังที่เข้ามาในโอลด์แทรฟฟอร์ด

นั่นสิ แล้วทำไมมันไม่เวิร์ค?

"ผมไม่มีอะไรจะแก้ตัวครับ"

เวรอนกล่าวกับสื่อถึงสาเหตุที่เขาเผชิญความยากลำบากกับฟุตบอลอังกฤษ


"มันเป็นสิ่งใหม่สำหรับผมจริงๆ ถึงแม้ปกติผมจะเป็นคนที่รับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆได้ง่ายก็ตาม ด้านครอบครัวของผมมานี่ก็มีความสุข ตัวผมเองก็มีความสุขอยู่นะ"

"แต่สิ่งที่มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเลยคือเรื่องทางด้านกายภาพ ผมถือว่าการเทรนนิ่งด้านฟิตเนสเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ผมย้ายมาจากประเทศที่ฝึกซ้อมเตรียมทีมกันอย่างหนักช่วงปรีซีซั่น ย้ายมาสู่ที่ที่ ใช้แต่แมตช์การแข่งขันจริงเท่านั้นในการฝึกซ้อมตัวเองระหว่างแข่งเลย  ซึ่งที่ประเทศอังกฤษพวกเขาต้องลงเตะกันตลอดทั้งปีไม่มีพัก ไม่ว่าจะคริสต์มาส ปีใหม่ เตะแบบนอนสต็อปเลยล่ะ"

"หกเดือนแรกของผมมันดีมากเลยนะ ผมจัดการกับมันได้อยู่หมัด แต่นั่นแหละพอหลังจากเดือนธันวาคม มันเริ่มลำบากสำหรับผมแล้วที่จะรักษาฟอร์มไว้  ผมเริ่มที่จะมีความฟิตพื้นฐานไม่พอแล้ว ซึ่งทำให้อาจจะไม่สามารถยืนได้เต็มเกม และผมก็เสี่ยงจะบาดเจ็บด้วย"


แต่ถึงกระนั้นเองก็มีไฮไลต์สำคัญของเวรอนที่เกิดขึ้นกับเราอยู่ นั่นก็คือการที่เวรอนพังประตูที่4ให้กับทีมได้ ในแมตช์โคตรคัมแบ็คระดับตำนาน 5-3 เกมเจอกับสเปอร์ในเดือนกันยายนปี2001 และยังมีส่วนสำคัญกับทีมมากในช่วงแบ่งกลุ่มรอบแรกๆในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกของปีศาจแดงฤดูกาล 2002/03 ก่อนที่เขาจะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บซ้ำอีกครั้ง

นอกจากนี้ก็เป็นเวรอนนี่ล่ะที่เคยยิงประตูระดับที่ทำให้เฟอร์กี้พูดถึงว่า นั่นเป็นประตูที่เจ๋งที่สุดตั้งแต่เขาเคยเห็นมาในชีวิต ประตูนั้นคือการกระโดดวอลเล่ย์กลางอากาศด้วยท่าRabona (ไขว้ยิง ท่าไม้ตายเดอะตุ๊กนั่นแหละ) บอลพุ่งลอยตรงไปเสียบมุมบนเลยทีเดียว ซึ่งเสียดายว่ามันเป็นประตูที่เกิดขึ้นตอนที่นักเตะแมนยูซ้อมกันระหว่างทัวร์ที่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น


หลายๆสิ่งหลายๆอย่างอาจจะไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ แต่หากใครที่คิดว่าเวรอนจะเป็นพวกนักเตะอเมริกาใต้พวกใจฝ่อหนีปัญหาที่แมนเชสเตอร์นั้น บอกเลยว่าคิดผิด แม้เขาจะไม่ประสบความสำเร็จกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แต่มิดฟิลด์ผู้นี้ก็ยังคงต้องการพิสูจน์ตัวเองด้วยการขอไปลงใต้จากแมนเชสเตอร์ ไปลงหลักปักฐานใหม่ที่ทีมจากเมืองหลวงลอนดอนอย่าง เชลซี ในตลาดซัมเมอร์ปี2003  แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มได้

"มองย้อนกลับไป ผมว่าผมตัดสินใจผิดนะ"  เวรอนกล่าวถึงเรื่องนี้

"ผมควรจะอยู่ที่แมนเชสเตอร์ไปก่อน ซึ่งภรรยาผมตอนออกมาจากแมนเชสเตอร์ก็น้ำตาไหลเลยนะ เราเคยไปไหนมาไหนด้วยกันในตัวเมืองบ่อยๆ และผมไม่เคยเห็นเธอร้องไห้แบบนี้มาก่อนเลย เวลาที่ต้องย้ายที่อยู่ ผมได้พูดคุยกับเฟอร์กูสัน และเขาก็บอกผมตรงๆว่า เขาอาจจะไม่สามารถการันตีตำแหน่งของผมในทีมได้ นั่นคือสิ่งที่ผมต้องเจอ  และเมื่อคิดในเชิงตรรกะเช่นนั้นแล้ว ผมเลยคิดว่าผมน่าจะไม่ไหว"

ภาพระดับตำนาน เมื่อถึงคราวของกำแพงปีศาจแดงที่ต้องเผชิญหน้ากับบานาน่าชู้ตของโรเบอร์โต้ คาร์ลอส ยินดีด้วยคุณคือแข้งผีผู้โชคดี

เฟอร์กี้ได้ทำให้เรารู้ถึงอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้มิดฟิลด์อาร์เจนไตน์ผู้นี้เจอกับช่วงเวลาที่ยากกับยูไนเต็ด ป๋าเอ่ยเอาไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติของเขาในปี 2014 ว่า

"เขาเป็นคนที่สื่อสารกับคนอื่นไม่เก่ง" ป๋าเขียนเอาไว้

"แต่เขาไม่ได้เป็นพวกที่ต่อต้านสังคม หรือไม่เอาใครเลยนะ ไม่ใช่ เขาแค่ไม่ค่อยจะสื่อสารเท่านั้นแหละ อย่างเวลาบางทีมาทำงานตอนเช้า เราทักทายกันได้แค่  เฮ้ สวัสดีตอนเช้า เซบา  และเขาก็ตอบกลับมาว่า สวัสดีตอนเช้าครับนาย  และก็แค่นั้นแหละประโยคคุยมีแค่นี้จริงๆ เราเลยไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ หรือขาดเหลืออะไรเลย"

ไม่หรอก เซบาอาจจะแค่เป็นคนไม่ได้ชอบพูดคำสบถ หรือตลกโปกฮาเฉยๆเท่านั้นเอง..

ป๋าบอกว่าเขาไม่ใช่คนประเภทไปนั่งในมุม กินข้าวอยู่คนเดียวแน่นอน แค่พูดไม่ค่อยเก่งเฉยๆ เวรอนก็บอกเองว่าเขาอยู่แมนยูเขาแฮปปี้ดี

ความคิดเห็นที่มีต่อฮวน เซบาสเตียน เวรอน ของผู้คนในสโมสรเรา และบรรดานักเตะด้วยกันเองต่างเห็นเป็นเสียงเดียวกัน ทุกคนล้วนแล้วแต่ยืนยันว่า เวรอน "โคตรเก่ง" และมีทุกอย่างที่พร้อมจะประสบความสำเร็จที่นี่ก็ได้  จากปากคำอีกเสียงของริโอ เฟอร์ดินานด์

อดีตเด็กเก่าปาร์ม่าอย่างเขาเริ่มต้นสตาร์ทกับแมนยูไนเต็ดได้อย่างดีตามที่เจ้าตัวบอกเองจริงๆด้วยสามประตูของเขาและฟอร์มการเล่นที่ไฉไลในสัปดาห์แรกๆในฐานะนักเตะแมนยู ทำให้เขาได้รับความนิยมและศรัทธาจากแฟนบอลอย่างไว แต่สุดท้ายแล้วก็อย่างที่ทราบกันว่า เขาไม่สามารถเข้าเป็นเนื้อเดียวกับทีมได้สนิท และด้วยปัญหาของความฟิตทำให้เขาถูกขายให้ทีมภายในประเทศกันเองอย่างเชลซีในอีก2ปีให้หลังซึ่งได้ราคาเพียงครึ่งเดียวจากที่พวกเขาจ่ายให้ลาซิโอ (ก็ดีแล้วนะ)


นักเตะเก่าที่เคยเป็นเพื่อนร่วม ย้ายมาทันกันพอดี(แถมได้แชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยกันมาแล้วตามรูป) อย่างริโอ เฟอร์ดินานด์ ก็ยังหล่นคำพูดระดับที่ว่า "เขาเป็นผู้เล่นที่น่าเหลือเชื่อมากๆ" ซึ่งคนระดับริโอพูดเช่นนี้นั่นแปลว่า เวรอนเป็นของจริงในสายตานักฟุตบอลด้วยกันอย่างไม่ต้องสงสัย

สาเหตุที่เรื่องนี้กล่าวขึ้นมาเป็นเพราะการไลฟ์ตอบแฟนบนอินสตาแกรมของริโอ ต่อคำถามที่ถามเขาว่า ระหว่าง กูตี กับ เวรอน ใครเก่งกว่ากัน (มาอีกละไอ้คำถาม VS นี่ ปัญหาโลกแตก แม้กระทั่งนักบอลเองยังโดนถาม 555)

ซึ่งจากตรงนี้ทำให้เราได้เห็นมุมมองที่ดีมากเมื่อริโอ พูดถึงเพื่อนเก่าของเขาว่า เวรอนนี่แหละที่เป็นคนที่ยิงประตูที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาตลอดอาชีพเลยทีเดียว (พูดเหมือนป๋าเป๊ะ มันคงอลังการมากจริงๆ) "มันเป็นการยิงด้วยท่าราโบน่าจากเส้นครึ่งสนามเลยนะ  ทุกคนที่สนามซ้อมตรงนั้นอึ้งแดกกันหมดและต่างพากันพูดว่า เฮ้ย จริงดิ เห็นรึเปล่า เซบายิงเหรอวะนั่น"


ก่อนที่ริโอจะกล่าวต่อไปว่า "เวรอนเป็นนักเตะที่เหลือเชื่อมากนะ เป็นคนจ่ายบอลที่สุดยอด ซึ่งอย่างเดียวที่ผมคิดว่ามันทำให้เขาลำบากนั่นก็คือ บุคลิกของรอยคีนกลางสนามที่บางทีมันโดดเด่นมากเกินไปและก็มักจะกลายเป็นคนไปเอาบอลจากตำแหน่งของเวรอนเอง"  ซึ่งเวรอนก่อนจะย้ายมาแมนยู แฟนๆสายลึกบางคนน่าจะทราบดีว่า เขาเป็นมิดฟิลด์ที่จะเดินเกมและเป็นคนเลือกช็อตตั้งเกมเล่นด้วยตัวเองเป็นหลัก

คือพูดง่ายๆเป็นมิดฟิลด์ตัว"เดินเกม"เอง

แต่พอมาอยู่ที่นี่เขาไม่คุ้นเคยกับการที่มีผู้เล่นคนอื่นเล่นในพื้นที่ถนัดของเขา ซึ่งนั่นก็คือรอยคีนนั่นเองที่อยู่ตำแหน่งนั้นมาก่อนแล้ว และเขาก็ไม่ถนัดที่จะเล่นในลักษณะเป็นคนที่ตามการเล่นของคีนในกลางสนาม แทนที่จะได้เป็นคนเลือกวิธีเล่นเอง ดังนั้นเรื่องนี้เฟอร์ดินานด์จึงเป็นอีกคนที่ได้ออกมาช่วยยืนยันถึงความลำบากของเวรอนที่ย้ายจากลาซิโอมาอยู่ที่นี่ และก็สูญเสียฟอร์มเดิมไปด้วยเหตุผลต่างๆเหล่านี้นั่นเอง


และเมื่อมาดูความเป็นจริงที่เกิดขึ้น แฟนผีพวกเราก็รู้กันดีว่า นักเตะอย่างรอย คีนนั้นก็มีบุคลิกภาพแบบที่ใหญ่เกินกว่าเวรอนจะเล่นด้วยไหว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่แฟนยูไนเต็ดจะแปลกใจเลยว่านักเตะไอริชผู้นี้มีวิธีการสั่งเกมในสนามยังไง ด้วยการที่คีนเป็นคนประเภทที่จะไม่มีที่ว่างให้คนอื่นเด็ดขาด เขาจึงเป็นหนึ่งในคนที่ประสบความสำเร็จอย่างถึงที่สุดในฟุตบอลอังกฤษได้นั่นเอง

เมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นแฟนๆหลายคนอาจจะคงพอเคยสังเกตได้บ้างว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ เวรอนไม่ได้ต้องเล่นร่วมกับคีน เช่นในยามที่เขาได้จับคู่กับ "นิคกี้ บัตต์" เมื่อใด  เวรอนจะฟอร์มเฉิดฉายและเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมทันที เมื่อเขาไม่ได้จำเป็นต้องเป็นผู้ตาม และยินยอมให้รอยคีนเป็นคนเดินเกม ประหนึ่งหากเปรียบเทียบกับเกมMoba หรือROV เวรอนจะฟอร์มเทพทันทีที่ได้เล่นเป็นตัวjungle เล่นป่าและเดินเกมด้วยตัวเอง  แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาต้องกลายเป็นซัพพอร์ตเมื่อใด ความสามารถมันจึงถูกกดเอาไว้และพังอย่างที่เห็นนั่นเอง

ภาพนี้เวรอนอยู่ทางซ้ายมือนะ ไอ้ตรงกลางนั่นริโอ! ดูผ่านๆนึกว่าเวรอน หัวเหมือนกันเด๊ะเลย

และทั้งหมดนี้คือมุมมองของเพื่อนร่วมทีม หัวหน้างาน ที่มีต่อมิดฟิลด์ชาวอเมริกาใต้ผู้นี้ ซึ่งเอาจริงๆหากเวรอนไม่ย้ายมาอังกฤษ เขาจะยังคงขึ้นไปสูง และไปได้ไกลกว่านี้อย่างแน่นอน บางทีนักเตะชั้นยอดหลายๆคนก็ไม่จำเป็นต้องย้ายสถานที่เล่นฟุตบอลเพื่อพิสูจน์ตัวเองก็ได้ เพราะบางครั้งอาจจะมีที่ที่เขาใช้ศักยภาพที่แท้จริงได้มากกว่าย้ายมาในที่ที่ไม่รองรับเขา ทั้งนักเตะขาใหญ่เก่าในทีม ทั้งแผนการเล่นที่ไม่สามารถใส่เขาลงใน4-4-2 originalได้เพราะมีรอย คีนที่บทบาทเยอะดังกล่าว และมีสโคลส์อยู่ในทีมแล้ว, ครั้นจะพยายามติดตั้ง 4-4-1-1 ลงไปเพื่อใช้งานเวรอนให้ได้ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอยู่ดีเพราะไม่ใช่พื้นฐานการเล่นธรรมชาติของสโมสร ในขณะที่บอลอังกฤษยุคนั้นก็เป็นสไตล์อังกฤษจ๋าๆที่เน้นความเร็วความแรง พวกนักเตะสายเทคนิคจึงไม่สามารถเล่นได้สะดวกเท่าไหร่นักที่นี่

แต่ถึงจะเจอปัญหาขนาดนั้น ฮวน เซบาสเตียน เวรอน "ไม่เคยงอแง"

เขาโคตรแมนมากๆ ยอมรับว่ามันไม่สำเร็จเป็นเพราะตัวเขาเอง ไม่มีไปโทษคนอื่นเลยแม้แต่นิดเดียวจนกระทั่งเพื่อนอย่างริโอนั่นแหละที่ให้ความเห็นเพิ่มว่า อาจจะเป็นเพราะตำแหน่งและวิธีการเล่นของรอยคีนด้วย บวกกับแทคติกพื้นฐานของป๋าเอง ทุกอย่างมันมีปัจจัยเนิร์ฟเวรอนอยู่เยอะมาก


ซึ่งกระนั้นเอง ยังไงเสีย "เพชรแท้ก็ยังเป็นเพชรอยู่วันยังค่ำ" ต่อให้ที่นั่นจะไม่ได้เหมาะกับเขา แสงของเพชรไม่อาจจะส่องประกายออกมาจากที่ที่บดบังรัศมีของเขาอยู่ ยังไงก็ไม่มีอะไรสามารถสร้างรอยขีดข่วนให้เพชรนั้นได้อยู่ดี เหมือนกัน การที่เขามาเฟลกับแมนยู ไม่ได้หมายความว่าเวรอนมันกากลงทันที หรือฝีเท้าของเขาไม่ถึงระดับแมนยู  ตรงกันข้ามเลยด้วยซ้ำ

ของมีค่าก็ยังคงมีค่าอยู่เหมือนเดิม เหมือนดังที่ทั้งป๋าและริโอได้พูดถึงฮวน เซบาสเตียน เวรอน ที่เรียกฟอร์มกับแมนยูไม่ได้ว่า

"เขาเป็นนักเตะที่โคตรพ่อโคตรแม่เก่งต่างหากโว้ยยยยยยยยย!!!!"

-ศาลาผี-


References

https://www.fourfourtwo.com/features/whats-it-be-a-big-money-flop-five-players-whove-been-there-tell-fourfourtwo

https://utdreport.co.uk/2020/03/25/rio-ferdinand-explains-how-roy-keane-killed-juan-sebastian-verons-manchester-united-career/

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด