ผลงานโดยรวมออกมาดีแม้ว่าจะโดนอาการบาดเจ็บลักพาตัวไปบางช่วง แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความร้อนแรงของหัวหอกวัย 22 ปีลดลงไป

ถึงจะเป็นเด็กใหม่ในทีม แต่ ปาทริค วิเอร่า มอบความไว้วางใจให้กองหน้าชาวเดนมาร์กรายนี้เป็นเบอร์ 1 ในการทะลวงตาข่ายของสโมสร ซึ่งเขามอบความไว้วางใจจากผลงานที่สร้างขึ้นมาในฤดูกาลนี้

จากเด็กหนุ่มที่ถูกจับตามองอย่างมากในเวที เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ เราลองมาอ่านเรื่องราวถึง 5 สิ่งที่น่ารู้กับเส้นทางสายนักเตะที่ผ่านมาของ ดอลเบิร์ก กันดีกว่า ...

1. จุดเริ่มต้น

เกิดในเมือง ซิลเคบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก ก่อนจะพัฒนาจนถูกทีมดังของเมืองอย่าง ซิลเคบอร์ก ไอเอฟ ดึงไปร่วมทีมด้วยวัยเพียง 13 ปี

ทักษะที่เกินวัยและไปไกลกว่าคนรุ่นเดียวกัน เข้าใช้เวลาไม่นานก็สามรรถดันตนเองขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่และได้โอกาสลงประเดิมในลีกสูงสุดแดนโคนมเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2015 หรือในวัยที่ยังไม่ครบ 17 ปีเต็ม

อย่างไรก็ตาม ชื่อของ ดอลเบิร์ก ถูกพูดถึงอย่างมากทั้งใน เดนมาร์ก และ ฮอลแลนด์ เพราะ อาแจ็กซ์ ประกาศการดึงตัวนักเตะไปร่วมทีมเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2015 ซึ่งจะมีในช่วงหน้าร้อนปีเดียวกัน

ที่น่าสนใจคือ จอห์น สตีน โอลเซ่น แมวมองคนดังชาวเดนมาร์ก (ที่ขุดเจอทั้ง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, วิคตอร์ ฟิสเชอร์ และ คริสเตียน เอริคเซ่น) เป็นคนไปพบเจอแข้งรายนี้ และจัดการส่งเรื่องไปให้ อาแจ็กซ์ เดินหน้าก่อนจะตกลงคว้าตัวมาครองก่อนที่บรรดาทีมอื่นๆ ในยุโรปจะโฉบตัดหน้า

การย้ายไปยังลีกแดนกังหันลมอาจจะส่งผลให้ ดอลเบิร์ก เจองานที่หนักว่า แต่ด้วยฝีเท้าที่กำลังพัฒนาอย่างรุดหน้าทำให้เขาผลักดันตนเองขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2016/17 ลากยาวไปจนถึงซีซั่น 2018/19

2. สถิติ

แฮตทริกแรกในสีเสื้อ อาแจ็กซ์ ของ ดอลเบิร์ก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2016 โดยเป็นเกมที่ทีมถล่ม เอ็นอีซี ไนจ์เมเกน 5-0 ของศึก เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์

เรื่องราวที่เกิดขึ้นส่งให้ ดอลเบิร์ก กลายเป็นนักเตะต่างชาติที่อายุน้อยที่สุดที่ทำ แฮตทริก ในลีกสูงสุดฮอลลแลนด์ให้ อาแจ็กซ์ ด้วยวัยเพียง 19 ปี 1 เดือน และ 1 วัน

นี่คือสถิติที่เขาทำได้เหนือบรรดาอดีตกองหน้ารุ่นพี่ก่อนหน้านี้ทั้ง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ยารี่ ลิตมาเน่น, เอ็นวานโก้ คานู และ หลุยส์ ซัวเรซ

3. เกิดมาเพื่อศึก 'ดาร์บี้ แมตช์'

ดอลเบิร์ก อาจจะถูกพูดถึงในเรื่องของฝีเท้าและการทำประตูอันยอดเยี่ยม แต่นอกเหนือไปจากนั้นเขายังมีสถิติที่ดียามเมื่อทีมต้องการ หรือยามที่ต้องลงเล่นในเกมสำคัญ

ประตูแรกของเขาในเกม 'คลาสซีเคอร์' ของลีกสูงสุดฮอลแลนด์ ระหว่าง ฮาแจ็กซ์ พบ เฟเยนูร์ด เกดขึ้นในช่วงปลายปี 2016 ก่อนที่เขาจะจัดการระเบิดฟอร์มทำคนเดียว 2 ประตูในเกมที่ต้นสังกัดถล่มอริไม่เผาผีไผได้ 4-1 เมื่อเดือนตุลาคมปีถัดมา

ความยอดเยี่ยมในเรื่องนี้ยังติดตาม ดอลเบิร์ก มาถึงเวที ลีก เอิง ฝรั่งเศส เพราะเขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นที่พึ่งของทีมในเกมสำคัญ อาทิ การเอาชนะ โอลิมปิก ลียง 2-1 ซึ่งเขาคนเดียว 2 ประตู

ยิ่งไปกว่านั้น ชื่อของ ดอลเบิร์ก เข้าไปอยู่ในใจแฟนบอล นีซ มากขึ้น เพราะเขาจัดการสอยคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ทีมเปิดรังเอาชนะ โมนาโก ในศึกดาร์บี้ เฟร้นช์ ริเวียร่า ไปได้ 2-1 ซึ่งเขาทำประตูชัยในนาทีที่ 93 ของเกม

4. คนที่เป็นที่นิยม

นีซ มักจะมีกองหน้าฝีเท้าดีขึ้นมาประดับสโมสรอย่างต่อเนื่องโดยช่วงที่ผ่านมามีทั้ง อาลาสซาน เปลอา และ มาริโอ บาโลเตลลี่ ให้ใช้งาน

แต่ตอนนี้เป็นยุคของ ดอลเบิร์ก ที่ได้โอกาสก้าวเข้ามาสร้างผลงานให้กับทีมดังของแถบ โก๊ต ดาซูร์ แม้ว่าช่วงแรกยังไม่สามารถระเบิดผลงานได้ดีเพราะเพิ่งย้ายมาแถมต้องถูกส่งลงสนามทันที 

กระนั้น หลังจากปรับตัวเข้ากับระบบทำให้แฟนบอลเริ่มเปิดใจ และด้วยผลงานในสนามรวมไปถึงการทำงานที่แฟนบอลเห็นได้ชัดเจน ทำให้กองเชียร์ของ นีซ ส่งเสียงเชียร์กองหน้าชาวเดนมาร์กอย่างต่อเนื่อง

"เขาสมควรได้รับเสียงปรบมือ (จากแฟนบอล) เพราะมากจากการทำงานของเขาที่เหมือนกับคนบ้างาน" มาล็อง ซาร์ กองหลังนีซเผย

"เขาคือนักฆ่า เขาเยือกเย็น เมื่อเขาทำประตูเขาจะเยือกเย็น เมื่อเขาเล่นเขาก็จะเยือกเย็นเช่นกัน เขาสงบอย่างมากและกับการที่เขามีคุณภาพในเรื่องนี้ด้วยวัยเพียงเท่านี้ มีกองหน้าไม่มากที่ทำได้แบบเขา เราจึงมีความสุขที่เขาอยู่กับพวกเรา"

5. แข้งเดนมาร์กคนที่ 74 ในเวที ลีก เอิง

นับตั้งแต่ คาย อันดรุ๊ป เดินทางมาเล่นในลีกแดนน้ำหอมและกลายเป็นนักเตะเดนมาร์กเป็นคนแรกของลีก ตอนนี้มีผู้เล่นจากแดนโคนมที่เคยลงเล่นในลีกสูงสุดแห่งนี้ 75 คนแล้ว

สำหรับ ดอลเบิร์ก คือแข้งเดนมาร์กรายที่ 74 ที่ได้โอกาสลงเล่นในลีกสูงสุดแดนน้ำหอม หลังตัดสินใจย้ายจาก อาแจ็กซ์ เมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา โดยคนที่ 75 คือ รีซ่า ดูร์มีซี่ อีกหนึ่งในทีมนีซ ซึ่งพวกเขายืมตัวมาจาก ลาซิโอ เมื่อตลาดเดือนมกราคมที่ผ่านมา

นอกจากนั้นแล้วยังมี โยอาคิน อันเดอร์เซ่น กองหลัง โอลิมปิก ลียง ที่ย้ายมาในช่วงหน้ารอนที่ผ่านมาเช่นกัน ทำให้ตอนนี้ ลีก เอิง มีผู้เล่นจากแดนโคนม 3 รายด้วยกัน