:::     :::

ทีมแห่งดาวยิง

วันเสาร์ที่ 11 เมษายน 2563 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
1,288
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฟุตบอลเป็นเกมกีฬาที่ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่างเพื่อนำไปสู่ชัยชนะ นำไปสู่แชมป์ แต่การจะเอาชนะใจแฟนบอล ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องเป็นเรื่องการทำประตู

นอกจากกองหน้าที่มีหน้าที่ผลิตประตูเป็นหลักแล้ว ตำแหน่งอื่นๆ ก็มีบทบาทในการทำประตูที่แตกต่างกันไปเช่นกัน อาทิ กองกลางยิงไกลจากแถวสอง หรือ เซนเตอร์แบ็กโหม่งประตูจากเซตพีซ เป็นต้น

นี่คือโฉมหน้าของทีมที่มีตัวเลขการยิงประตูสุดแจ่มในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ เป็นการคิดตามเปอร์เซนต์ที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับโอกาสที่มี จากทั้งสิบเอ็ดตำแหน่งในระบบการเล่น 4-3-3
ผู้รักษาประตู - เบน ฟอสเตอร์ (วัตฟอร์ด)
ฤดูกาลนี้ยังไม่มีนายประตูคนไหนสร้างชื่อซัลโวในพรีเมียร์ลีกได้ แต่มีเพียง ฟอสเตอร์ นายทวารประสบการณ์สูงจาก วัตฟอร์ด คนเดียวที่สามารถส่องบอลตรงกรอบประตูได้หนึ่งหน จึงติดอยู่ในทีมชุดนี้ไปเลย
แบ็กขวา - ริคาร์โด้ เปเรร่า (เลสเตอร์)
กองหลังโปรตุกีสจอมบุกจาก เลสเตอร์ ซัลโวไปแล้ว 3 ประตูจาก 27 เกม ซึ่งมาจากการเล่นแบ็กขวาล้วนๆ (ฤดูกาลที่แล้วมีเล่นปีกขวาบ้าง) และที่เจ๋งไปกว่านั้น นั่นคือสามประตูที่มาจากการยิงเข้ากรอบทั้งสามครั้งด้วย
ประตูแรกมาจากเกมในรัง คิงพาวเวอร์ ที่ยิง สเปอร์ส จากนั้นก็ยิงสวยๆ ใส่ นิวคาสเซิ่ล ติดๆ กันในเกมถัดมา และอีกประตูก็ยังคงเป็นเกมในบ้านที่เจอ เวสต์แฮม ซึ่งเป็นชัยชนะทั้งสามเกม
แบ็กซ้าย - มาร์กอส อลอนโซ่ (เชลซี)
อลอนโซ่ เคยมีซีซั่นที่ดียุค อันโตนิโอ คอนเต้ ที่รับบทวิงแบ็กซ้าย ซัลโว 6 ประตูจาก 31 เกม ซีซั่น 2016-17 และ 7 ประตูจาก 33 เกม ซีซั่นถัดมา แต่พอกลายเป็นฟูลแบ็ก ประตูก็ลดเหลือ 2 จาก 31 เกมยุค เมาริซิโอ ซาร์รี่
อย่างไรก็ตาม ซีซั่นนี้กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ในระบบการเล่นหลังสี่ อลอนโซ่ คืนฟอร์มซัลโวแหลก 4 ประตูจากเพียง 11 เกมในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น เป็นแบ็กซ้ายที่ยิงแหลกในฤดูกาลนี้ไม่มีใครแซงหน้า
เซนเตอร์แบ็ก - เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล)
ฟาน ไดค์ ยิงไปแล้ว 4 ประตูในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ กลายเป็นผู้นำดาวซัลโวร่วมในฐานะกองหลัง (ซึ่งก็ร่วมกับ มาร์กอน อลอนโซ่ นั่นแหละ) มาจากโอกาสลุ้นประตูทั้งหมด 23 ครั้ง
โดยประตูที่ติดตาตรึงใจที่สุด ก็คือลูกโหม่งเตะมุมในเกมเปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมแดงเดือด 2-0 กลายเป็นเซนเตอร์แบ็กร่างโย่งที่คู่แข่งต้องเกรงขามทุกครั้งที่เติมขึ้นมาเล่นเซตพีซ
เซนเตอร์แบ็ก - อดัม เว็บสเตอร์ (ไบรท์ตัน)
คู่ขาของ ฟาน ไดค์ คือ เว็บสเตอร์ เซนเตอร์แบ็กของ ไบรท์ตัน ที่มีผลงานการทำประตูที่ไม่น่าเชื่อ 3 ประตูในพรีเมียร์ลีกเข้าให้แล้ว จากโอกาสลุ้นประตูเพียง 14 ครั้ง เรียกได้ว่าดีกว่า 'วีวีดี' เสียอีก
ซีซั่นนี้ อาวุธเด็ดของ ไบรท์ตัน ก็อยู่ที่การลุ้นประตูจากลูกตั้งเตะทั้งคอร์เนอร์และฟรีคิกนี่แหละ เพราะคู่ขาของ เว็บสเตอร์ คือ ลูอิส ดังค์ ก็ทำประตูแล้ว 2 ประตูด้วย
กองกลาง - เดเล่ อัลลี (สเปอร์ส)
ผลงานของมิดฟิลด์ สเปอร์ส อาจตกลงไปแบบน่าใจหาย แต่จำนวนประตูยังมีให้เห็นถึง 8 ประตูจากโอกาสทั้งหมด 40 ครั้งในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ทำให้เสียงวิจารณ์ต่างๆ นาๆ ถูกกลบไปได้บ้างนิดหน่อย
สาเหตุที่ยิงเยอะ ก็ไม่ใช่อะไรหรอก มาจากตำแหน่งที่ยืนกองกลางตัวสูง จนแทบไม่มีส่วนร่วมในแดนกลางเลยด้วยซ้ำ แถมยังมีจังหวะไปยืนกองหน้าด้วยตอนที่ทั้ง เคน และ ซน บาดเจ็บ
กองกลาง - จอนโจ เชลวี่ย์ (นิวคาสเซิ่ล)
ในช่วงเวลาที่ศูนย์หน้า นิวคาสเซิ่ล แต่ละคนนัดกันฝืดสุดๆ เชลวี่ย์ ก็โผล่ขึ้นมาเป็นดาวซัลโวของทีม สาลิกาดง ในพรีเมียร์ลีก จากการยิงไปแล้ว 5 ประตูในฤดูกาลนี้ จากโอกาสทั้งหมด 10 ครั้งเท่านั้น
น่าเสียดายที่กองกลางหัวโล้นประสบปัญหาบาดเจ็บยุบยิบไปหน่อย จึงได้ลงเล่นไปเพียง 17 นัดเท่านั้น มิเช่นนั้นตัวเลขการยิงประตูอาจมากกว่า 5 ลูกก็เป็นได้
กองกลาง - ทอดด์ แคนท์เวลล์ (นอริช)
ปีกจาก นอริช ผลงานดร็อปลงไปบ้าง โดยเฉพาะนับตั้งแต่วันปีใหม่เป็นต้นมายังยิงประตูไม่ได้เลย แต่ครึ่งซีซั่นแรกฝากประตูเอาไว้แล้วถึง 6 ลูก จนกลายเป็นปีกเนื้อหอมขึ้นมาทันที
ถึงตอนนี้ แคนท์เวลล์ ยังคงเป็นตัวหลักของ นอริช ที่ลงเล่นไป 28 เกมในพรีเมียร์ลีก จึงมีโอกาสสูงที่ปีกวัย 22 ปีจะรอดตกชั้น แม้ต้นสังกัดต้องกระเด็นกลับสู่แชมเปี้ยนชิพก็ตาม
กองหน้า - เจมี่ วาร์ดี้ (เลสเตอร์)
ทีมชุดนี้จะต้องมีชื่อผู้นำดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก วาร์ดี้ อยู่ในทีมอย่างแน่นอน เพราะ 19 ประตูที่ยิงมาจนถึงตอนนี้ เกิดขึ้นเกือบๆ หนึ่งในสามของโอกาสทั้งหมด
แม้อายุอานามปาเข้าไป 33 ปีแล้ว แต่ซีซั่นนี้มีโอกาสได้เห็น วาร์ดี้ ทุบสถิติยิงประตูในพรีเมียร์ลีกหนึ่งฤดูกาลมากที่สุดที่เคยทำเอาไว้ 24 ประตู ซีซั่น 2015-16 ปีที่ เลสเตอร์ ครองแชมป์พรีเมียร์ลีกนั่นแหละ
กองหน้า - ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมยัง (อาร์เซน่อล)
รองผู้นำดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก โอบาเมยัง ก็เป็นอีกคนที่จะต้องมีชื่ออยู่ในทีมเช่นเดียวกับ วาร์ดี้ เพราะ 17 ประตูที่ยิงได้ในลีกซีซั่นนี้ เพียงพอต่อการทำให้ค่าเฉลี่ยการยิงประตูมาเป็นอันดับสอง
ถึงเวลานี้มีโอกาสได้เห็น โอบาเมยัง ยิงแซง 22 ประตูที่ทำให้เป็นดาวซัลโวร่วมพรีเมียร์ลีกซีซั่นที่แล้ว แต่ซีซั่นนี้จะไล่ตามผู้นำได้หรือไม่ ต้องถามใจ วาร์ดี้
กองหน้า - ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล)
หากวัดที่จำนวนประตู เซร์คิโอ อเกวโร่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, แดนนี่ อิงส์ มีตัวเลขที่ดีกว่า แต่ 14 ประตูของ มาเน่ กลับแซงเข้าป้ายมาอยู่ในทีมชุดนี้ร่วมกับ วาร์ดี้ และ โอบาเมยัง หน้าตาเฉย
เพราะหากวัดค่าเฉลี่ยจากการยิงประตูออกมาเป็นเปอร์เซนต์แล้ว มาเน่ เฉือนชนะ อเกวโร่ กับ อิงส์ เพียงแค่เปอร์เซนต์เดียวเท่านั้น

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด