ตำแหน่งการเล่นคือ 1 ในนั้น
พ่อค้าแข้งอาชีพหลายคน เติบโตมากับตำแหน่งถนัดตั้งแต่วัยละอ่อน ทว่าเมื่อเดบิวต์ในสนามอาชีพ ตำแหน่งการเล่นดังกล่าวกลับไม่ “ตอบโจทย์” กุนซือ หรือ “ไม่ดีพอ” จะเป็น 11 คนแรกภายในทีม
ทางออกจึงต้องยอมเล่นในบทบาทอื่น ที่โค้ชมองเห็นว่าสามารถ “ทดแทน” หรือ “ขัดตาทัพ” ยามจำเป็นได้ และมีหลายคน “แจ้งเกิด” พลิกชีวิตอีกครั้งกับบทบาทที่ถูกขีดขึ้นมาใหม่เหล่านี้
ในอดีตเราอาจเคยเห็นนักเตะรุ่นเก๋าอย่าง ชลทิตย์ จันทคาม เบนเข็มจาก “นักล่าประตู” มาเป็น “ภูผาขาโหด” มาแล้ว
วันนี้เราขอนำเสนอ 5 แข้ง ที่บทบาทปัจจุบันบนเวทีไทยลีกโมงยามนี้ ไม่ใช่ตำแหน่งที่พวกเขาเริ่มเล่น ในช่วงที่ก้าวสู่ฟุตบอลอาชีพ
ปิยพล ผานิชกุล
มิดฟิลด์ดาวรุ่งจาก ชลบุรี ที่ย้ายสู่ชายคากิเลนผยองเมื่อ 10 ปีก่อน ทว่าในโมงยามนั้น คู่แข่ง “ลูกพี่ไดร์” ในตำแหน่งกองกลางมีนับไม่ถ้วน แม้เจ้าตัวจะแจ้งเกิดบนเวที เอเอฟซี คัพ ที่บุกชนะ อัล รายยาน ในถ้วยเอเชีย แต่ในลีกเจ้าตัวยังเป็นเพียง “อะไหล่” เช่นเดิม
จุดเปลี่ยนคือการที่เจ้าตัวถูกจับไปเล่นเป็น แบ็กขวา ขัดตาทัพ และเจ้าตัวกลับทำมันได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งเซนส์บอล เกมรับ เกมรุก จนกลายเป็นบทบาทของเขาบนเวทีไทยลีกปัจจุบันขณะ
ศุภนันท์ บุรีรัตน์
หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่า “เซฟ” คือตัวรุกสายธรรมชาติ บนเวทีอาชีพ ก่อนจับพลัดจับผลูถูกบิดบทบาทในตำแหน่ง “แบ็กขวา”
เรื่องเกิดขึ้นในวันหนึ่งช่วงฤดูฝน เจ้าตัวที่ชั่วโมงนั้นถูกส่งไปเล่นให้กับ นครนายก ทีมระดับดิวิชั่น 2 ที่เวลานั้นมี แอนดรูว์ ออร์ด คุมทัพ แต่ก่อนแข่งขันตัวเลือก “แบ็กขวา” ทั้งสองรายเกิดได้รับบาดเจ็บพร้อมกัน โค้ชจึงลองใช้ เซฟ เล่นขัดตาทัพแทนไปก่อน แต่เจ้าตัวกลับทะลึ่งโชว์ฟอร์มดีจนยิงประตูได้ด้วย จากนั้น แบ็กขวา คือบทบาทใหม่บนผืนหญ้าสีเขียวของ ศุภนันท์
ธนบูรณ์ เกษารัตน์
เชื่อว่าหลายคนคงรับรู้ดีว่า “ตั้ม” คือโคตรมิดฟิลด์ตัวรับ และ กองหลังชั้นยอด ของเมืองไทย จากผลงานในสโมสรและทีมชาติ อย่างไรก็ตามการ “บาดเจ็บ” ครั้งใหญ่บิดชะตาขาสองข้างของเขาให้ไม่เหมือนเดิมนัก
การกลับมา “คัมแบ็ก” ในบทบาทกองกลาง เป็นสิ่งที่หลายคนเรียกร้อง และต้องการเห็น แต่เมื่อได้รับโอกาส เขากลับไม่แกร่ง ไว เหมือนเก่า จนท้ายสุดเจ้าตัวถูกส่งไปเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟอีกครั้ง และดูเหมือนบทบาทนี้ จะเข้ากับตัวตั้มเองมากกว่าตำแหน่งเดิมเสียแล้ว
กฤษดา กาแมน
“เซ็นเตอร์ตัวเท่าลูกหมา มันไม่ดังหรอก ผมคงไม่เอาเล่นถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ” คือคำกล่าวที่ สะสม พบประเสริฐ เฮดโค้ชฉลามชล บอก “เจ้าและห์” พร้อมยื่นข้อเสนอให้ดาวรุ่งมาดเซอร์ว่า “ถ้ามึงอยากเล่น มาเล่นเป็นตัวรับ กูจะปั้นมึงติดทีมชาติเอง”
จากนั้นชีวิตลูกหนังของ กฤษดา พลิกจากหน้าเป็นหลังเท้า
การได้รับบทบาทใหม่ มิดฟิลด์ตัวกลาง ทำให้เขาได้ลงสนามสม่ำเสมอกับ ชลบุรี เอฟซี ทำผลงานได้ดีเด่นกว่าตำแหน่งเดิม นอกจากนี้ยังได้รับโอกาสจากทีมชาติไทย ในตำแหน่งใหม่อีกด้วย
สรวิทย์ พานทอง
เอาเข้าจริง หมอนี่คือปีกซ้ายไร้คนชายตามอง และถูกโลกโซเชียลตั้งคำถาม หลังทะลึ่งมีชื่อติดทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
แต่แล้วสิ่งที่ อากิระ นิชิโนะ เซอร์ไพรส์จนเตะลูกกะตาคือการยัดบทบทใหม่ของ “ยิ้ม” ให้ นั่นคือตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง คอยเปลี่ยนบอล คุมจังหวะเกม จนสลัดคาบปีกซ้ายข้างม้านั่ง กลายเป็นกองกลางที่น่าจับตามองในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว
และดูเหมือนว่ากับ เอสซีจี เมืองทองฯ อเล็กซานเดร กามา ก็พยายามใช้งานเจ้าตัวภายใต้บทบาทใหม่นี้เช่นกัน
