สำหรับการค้าแข้งของโทนี่ โครส กับสีเสื้อของเรอัล มาดริด สโมสรที่เขาเก็บเกี่ยวความประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ลาลีกา, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และสโมสรโลก
ช่วงนี้ เขาจะมาพูดคุยสบายๆ เกี่ยวกับเป้าหมายที่มีต่อ “ราชันชุดขาว” รวมไปถึงการย้อนวันวาน กับการทำงานร่วมทีมยอดกุนซือของเป็ป กวาร์ดิโอล่า และการเกือบที่จะย้ายไปเป็นนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
พูดถึงการทำงานภายใต้ ซีเนอดีน ซีดาน : เขาถือวาสเป็นคนที่ควบคุมห้องแต่งตัว นั่นเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับสโมสรอย่างเรอัล มาดริด คุณจำเป็นต้องให้ผู้เล่นทั้งหมดหนุนหลังคุณให้ได้ ทุกคนต้องรู้สึกมีค่า และเป็นส่วนหนึ่งของทีม นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะนักเตะแต่ละคนจะได้รับโอกาสลงสนามไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม ซีดาน ถือว่าจัดการได้อย่างยอดเยี่ยม
เมื่อผมย้ายมาร่วมทีม ในช่วงปี 2014 โดยพื้นฐานแล้ว เรายังเน้นการโต้กลับเร็ว พร้อมกับเปิดพื้นที่ให้กับนักเตะอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้, แกเร็ธ เบล และคาริม เบนเซม่า อย่างไรก็ตาม ปรัชญาของซีดาน มีการเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ เขาต้องการให้เราครอบครองบอลเอาไว้
นอกจากนี้ ยังต้องการให้เราแย่งบอลกลับมาครองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราดันเกมบุกขึ้นสูง และมีรายละเอียดในการเล่นมากขึ้น เราชอบที่จะครอบครองบอลเอาไว้ พร้อมกับให้ฝ่ายตรงข้ามพยายามวิ่งเข้ามาหาบอลเอง ผมได้รับประโยชน์จากแท็คติกของซีดาน เขาสมควรได้รับเครดิตนะ เพราะเขาเป็นคนเข้ามาเปลี่ยนแปลงสไตล์ และรวมผู้เล่นให้เข้ากันได้เป็นอย่างดี
พูดถึงคริสเตียโน่ โรนัลโด้ : ตำแหน่งที่เขาชอบมากที่สุด คือการขยับออกไปทางกราบซ้าย บางครั้ง เขาก็มีส่วนร่วมกับแดนกลาง รวมถึงการเป็นกองหน้าอีกหนี่งคน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดีที่สุดของเขา นั่นคือการขึ้นเกมทางกราบซ้าย พร้อมกับการกระชากเข้ามาด้านใน ทุกอย่างมาจากการเล่นที่เป็นอิสระ เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ
พูดถึงเป็ป กวาร์ดิโอล่า : (ทั้งสองคนเคยร่วมงานกันที่บาเยิร์น มิวนิค) เขาเป็นบุคคลสำคัญ สำหรับวงการฟุตบอลของเยอรมัน เลยล่ะ สำหรับผมแล้ว เขาเข้ามาเปิดหูเปิดตาทุกคน กับความสำคัญในการควบคุม โค้ช และเจ้าหน้าที่สโมสรหลายคนเดินทางมายังศูนย์ฝึกซ้อมของบาเยิร์น มิวนิค เพื่อมาดูแนวทางการคุมลูกทีมลงฝึกซ้อม รวมถึงวิธีการเล่นแบบใหม่ๆของเขาด้วย
กองกลางถือเป็นจุดสำคัญของเป็ป เสมอมา เนื่องจากความสามารถของสโมสรฟุตบอล ทำให้ความเข้าใจต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป เขาถือเป็นคนที่เข้ามาสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาอย่างแท้จริง หากคุณไปถามผู้คนที่บาเยิร์น มิวนิค ในทุกวันนี้ พวกเขาจะบอกว่า เป็ป คือโค้ชที่ดีที่ที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยมีมาในแง่ของกีฬา แม้จะมีคนอื่นมากมายให้เปรียบเทียบ ผมชอบการเป็นลูกทีมของเขา ตลอดช่วงระยะเวลา 1 ปีที่บาเยิร์น มิวนิค
พูดถึงความเป็นไปได้ ในการกลับมาร่วมงานกับเป็ป อีกครั้ง : ผมต้องการจบเส้นทางการค้าแข้งที่เรอัล มาดริด ดังนั้น ผมจึงต้องบอกว่า โอกาสร่วมงานกันอีกครั้ง ถือเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก อย่างไรก็ตาม ผมชอบเล่น โดยมีเขาเป็นกุนซือนะ และมีความคิดที่อาจจะต่อสัญญากับบาเยิร์น มิวนิค ออกไป ถึงกระนั้น ผมว่าไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก หากว่าเราจัดสินใจต่อสัญญากับสโมสรใดสโมสรหนึ่ง เพียงเพราะเหตุผลในแง่กุนซือเพียงอย่างเดียว เป็ป ต้องการให้ผมต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไป แต่เราจะได้อะไรล่ะ หากเราต่อสัญญาออกไปอีก 5 ปี แต่จู่ๆ ตัวของผู้จัดการทีมกำลังจะย้ายไปคุมทีมใหม่ในอีกไม่ช้า
พูดถึงการเกือบย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เดวิด มอยส์ เดินทางมาเจอผม แน่นอนว่า มีการทำสัญญาทั่วไปเอาไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม มอยส์ กลับโดนไล่ออกจากตำแหน่ง และเป็นหลุยส์ ฟาน กัล ที่เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมแทนที่
สำหรับผมมองว่า มันเป็นเรื่องที่น่าซับซ้อน ฟาน กัล ต้องการเวลา สำหรับการเดินหน้าสร้างโครงการของตัวเอง หลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้ยินอะไรจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียงไม่นาน มันก็เลยเกิดข้อสงสัยขึ้นมา กระทั่งฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายเริ่มต้นขึ้น กุนซือของเรอัล มาดริด ในเวลานั้นอย่างคาร์โล อันเชล็อตติ โทรเข้ามาหา นั่นคือเรื่องราวทั้งหมด
source : the athletic
