:::     :::

ข้อความฉลองภายใต้เสื้อแข่ง

วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2563 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
1,099
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การทำประตูถือเป็นของที่อยู่คู่กับเกมฟุตบอล และมันคือสิ่งที่แฟนบอลอยากเห็นมากที่สุดยามนั่งชมเกมไม่ว่าจะในสนามหรือผ่านจอทีวี

เมื่อมีการทำประตู ย่อมต้องมีท่าดีใจ ส่วนจะท่าไหนก็แล้วแต่ใครจะครีเอตเอา จะวิ่ง, กอดเพื่อน, ดีใจกับแฟนบอล, ขอบคุณคนแอสซิสต์ หรือดีใจแบบนิ่งๆก็แล้วแต่ชอบเลย

แต่หนึ่งในนั้นที่เรายังคงได้เห็นกันอยู่เรื่อยๆคือการโชว์ข้อความที่นักเตะนั้นๆต้องการสื่อถึงอะไรสักอย่างก็ตาม แม้ว่าสมัยนี้บางทีไม่ต้องถึงกับถอดเสื้อก็โดนใบเหลืองแล้ว

ทว่าการที่จะโชว์ให้เห็นข้อความเหล่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจะต้องทำประตูให้ได้นั้นเอง เพื่อที่จะได้โชว์ให้เห็นข้อความที่ตัวเองต้องการจะสื่อออกไปให้คนได้เห็น

เธียร์รี่ อองรี - ตูม 0-0 หายไปแล้ว

อาร์เซน่อล 2-0 ลิเวอร์พูล 

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2000/01


3 ฤดูกาลติดต่อกันที่ อาร์เซน่อล ไม่สามารถพังประตูใส่ ลิเวอร์พูล แถมไม่ชนะเลยในการเจอกันนับตั้งแต่ปี 1994 ซึ่งเกมในปี 2000 นั้นก็ถือเป็นเกมที่ดุเดือดอย่างที่ควรจะเป็น

เธียร์รี่ อองรี ย้ายมาค้าแข้งกับ "ปืนใหญ่" ในปี 1999 ซึ่งในปีแรกก็ทำประตูไม่ได้ กระทั่งในเกมแรกที่เจอกันของฤดูกาล 2000/01 ก็ทำสำเร็จ

ในเกมที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด โลร็อง เอตาเม่ ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมพังตาข่ายให้เจ้าถิ่นออกนำ แต่หลังจากนั้นเกมก็เดือดสุดๆเมื่อมีผู้เล่นโดนไล่ออกถึง 3 คน โดย 2 คนเป็นนักเตะของ ลิเวอร์พูล คือ แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ นาทีที่ 39 และ ดีทมาร์ ฮามันน์ นาทีที่ 78 ส่วนฝั่ง อาร์เซน่อล คือ ปาทริค วิเอร่า ในนาทีที่ 72

กระทั่งในนาทีที่ 89 ของเกม อองรี ก็มาพังประตูตอกฝาโลงให้ทีม และเจ้าตัวก็ไม่พลาดทำในสิ่งที่เตรียมไว้ก็คือเสื้อด้านในพร้อมข้อความ "ตูม 0-0 หายไปแล้ว"

ถือเป็นการปลดล็อคชั้นเยี่ยมหลังจากไม่ชนะคู่ปรับทีมนี้มานานถึง 6 ปี แต่มันจะเท่กว่านี้ถ้าเจ้าตัวเป็นคนยิงประตูเดียวของเกม 

ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ - ใจเย็นแล้วจ่ายบอลมาให้พี่

ฟูแล่ม 1-1 เซาธ์แฮมป์ตัน

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2012/13


ถือเป็นหนึ่งในวลีเด็ดที่แฟนบอลเอาไปใช้กันทั่ว เพียงแต่เปลี่ยนท้ายประโยคเท่านั้น

หลังจากประสบความสำเร็จกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ย้ายมาเล่นกับ ฟูแล่ม ที่ต้องบอกว่าไม่ได้เป็นสโมสรใหญ่และ แน่นอนว่าผลงานก็อยู่ในระดับกลางค่อนมาทางล่าง

นั่นทำให้ดาวยิงชาวบัลแกเรียคือตัวความหวังในการพังประตูของทีมไปโดยปริยาย

ในเกมบ็อกซิ่ง เดย์ทีมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เซาธ์แฮมป์ตัน, เบอร์บาตอฟ เป็นคนเบิกสกอร์ให้ทีมขึ้นนำก่อน และเจ้าตัวก็ถอดเสื้อพร้อมโชว์ข้อความบนเสื้อยืดด้านในว่า "ใจเย็นแล้วจ่ายบอลมาให้พี่" ซึ่งแน่นอนว่าจังหวะนี้เจ้าตัวโดนใบเหลืองไป

แต่ทว่าเกมนี้สกอร์จบลงที่ผมเสมอ 1-1 และแม้เพื่อน "จ่ายบอล" ให้ เบอร์บาตอฟ อย่างที่เขียนไว้ในเสื้อก็เถอะ แต่ซีซั่นนั้นเจ้าตัวก็กด 15 ประตู มากที่สุดในทีมช่วยให้ ฟูแล่ม จบที่อันดับ 12 ของตาราง

ฟรานเชสโก้ ต็อตติ - ขอโทษที่มาช้า

โรม่า 2-0 คิเอโว

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 2011/12

        

ไม่มีใครคาดคิดว่าการรอคอย "เจ้าชายหมาป่า" ยิงประตูให้กับทีมจะต้องใช้เวลานานถึง 7 เดือนครึ่ง!!!

หลังจากยิงประตูในเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2010/11 นอกจากจะลงสนามให้ทีมแล้วยิงไม่ได้แล้ว ยิงเจอกับอาการบาดเจ็บเล่นงานทำให้ชื่อของ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ ไม่ได้อยู่บนสกอร์บอร์ดให้กับ "หมาป่า" นานเกินครึ่งปี

กระทั่งในเกมหลังจากพักเบรกหนีหนาวในวันที่ 8 มการมคม 2012, ต็อตติ กลับมายิงประตูได้สำเร็จ ซึ่งในเกมนั้นเจ้าตัวกด 2 ประตูให้ทีมเอาชนะ คิเอโว 2-0

หลังจบเกม ต็อตติ เดินไปหาแฟนบอลพร้อมกับถกเสื้อที่มีข้อความ "อิล ริตอร์โน่ เดล เร" หรือ "ขอโทษที่มาช้า"หมายถึงการรอคอยทำประตูให้กับทีมนั่นเอง

เอียน ไรท์ - 179 สำเร็จจนได้

อาร์เซน่อล 4-1 โบลตัน

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 1997/98


สำหรับนักเตะที่กว่าจะได้เป็นนักเตะอาชีพต้องรอจนถึงอายุ 21 ปี ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยซึ่งนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เอียน ไรท์

หลังสร้างชื่อกับ คริสตัล พาเลซ กองหน้าทีมชาติอังกฤษถูก อาร์เซน่อล ดึงตัวมาร่วมทีมด้วยสถิติค่าตัวสูงสุดของสโมสรในเวลานั้น 2.5 ล้านปอนด์ และเขาก็ไม่ได้ทำให้ "ปืนใหญ่" ผิดหวังด้วยประตูแล้วประตูเล่าที่ยิงให้ทีมอย่างต่อเนื่อง

ระยะเวลาเพียง 6 ปีเศษในถิ่นไฮก์บิวรี่, ไรท์ ทะลวงตาข่ายจนก้าวขึ้นมารั้งในอันดับ 2 ของตำแหน่งดาวยิงสูงสุดตลอดกาล กระทั่งในฤดูกาลที่ 7 เขาก็สามารถทำลายสถิติได้สำเร็จ

ในเกมที่ทีมเปิดบ้านพบ โบลตัน ในวันที่ 13 กันยายน 1997 ตอนนั้น ไรท์ ทำไปแล้ว 177 ประตู ต้องการอีกแค่ลูกเดียวก็จะทำลายสถิติที่อยู่มานานถึง 51 ปีของ คลิฟฟ์ บาสติน 

ไม่เพียงแค่ทำสถิติทาบเท่านั้นแต่ ไรท์ ซัดแฮตทริค พร้อมแซงหน้าขึ้นเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสร โดยประตูที่สองของเกมเจ้าตัวโชว์เสื้อที่มีตัวเลข 179 พร้อมข้อความ "สำเร็จจนได้" 

สถิติของเขาอยู่แค่ราว 8 ปีเท่านั้นก่อนที่ เธียร์รี่ อองรี จะทำสถิติของเขาและอยู่ในตำแหน่งดาวยิงสูงสุดของสโมสรจนถึงปัจจุบัน

มาริโอ บาโลตเลลี่ - ทำไมต้องเป็นกูอยู่เรื่อยวะ?

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-6 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2011/12


ไม่มีใครคิดว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะโดนถล่มเละเทะคารัง แถมเป็นการเจอกับคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกด้วย

มันไม่ใช่แค่ความพ่ายแพ้ธรรมดา นี่เป็นการแพ้ในบ้านที่เละที่สุดของ "ปีศาจแดง" นับตั้งแต่ปี 1955 และยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1930 ที่ทีมโดนคู่แข่งมายิงที่บ้านถึง 6 ประตู

นอกจากความน่าเจ็บใจของเหล่าแฟนบอลที่โดน "เพื่อนบ้านอันน่ารำคาญ" จากวลีของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาชนะ แถมชนะด้วยสกอร์มโหฬารแล้ว ยังมีเรื่องที่ยิงทวีความน่าอัดอั้นมากที่สุด

เมื่อประตูแรกของเกมจาก มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่ยิงผ่าน ดาบิด เด เคอา พร้อมกับถกเสื้อให้เห็นข้อความจากเสื้อด้านในว่า "ทำไมต้องเป็นกูอยู่เรื่อยวะ?" ที่เหล่าสาวกเรือใบเอามาล้อเลียนกันอย่างสนุกสนาน

อันเดรส อีเนียสต้า - ดาเนี่ยล ฆาร์เก้ : อยู่กับเราเสมอ

สเปน 1-0 ฮอลแลนด์

ฟุตบอลโลก 2010


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 มีข่าวสะเทือนวงการฟุตบอลทั่วโลกเมื่อ ดาเนี่ยล ฆาร์เก้ กัปตันทีม เอสปันญ่อล หัวใจวายเสียชีวิตในโรงแรมที่ฟลอเรนซ์ระหว่างเดินทางไปเก็บตัวช่วงปรีซีซั่นกับสโมสรด้วยวัยเพียง 26 ปีเท่านั้น

ที่สำคัญคือในเวลานั้นแฟนสาวของเขากำลังตั้งท้องอยู่ 7 เดือนอีกด้วย

หนึ่งปีให้หลังในฟุตบอลโลก 2010 สเปน ที่กำลังอยู่ในช่วงที่พีคที่สุดของทีมกรุยทางถึงรอบชิงชนะเลิศไปเจอกับ ฮอลแลนด์ โดยเกม 90 นาทีจบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 ต้องเล่นกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ

และเมื่อเวลาเหลืออีกไม่ถึง 5 นาที อันเดรส อีเนียสต้า เป็นฮีโร่และยิงประตูชัยให้ สเปน ขึ้นนำพร้อมฉลองประตูด้วยการทอดเสื้อพร้อมข้อความภาษาสเปน "Dani Jarque: siempre con nosotros" แปลว่า "ดาเนี่ยล ฆาร์เก้ : อยู่กับเราเสมอ"

ดูเผินๆทั้งคู่ไม่น่ารู้จักกัน แถมเล่นอยู่กันคนละฝั่งในสโมสรของเมืองแต่ อีเนียสต้า กับ ฆาร์เก้ ซี้กันจากการรับใช้ทีมชาติตั้งแต่ยู-17, ยู-19, ยู-20 และ ยู-21 ที่สำคัญคือทั้งคู่อยู่ในทีมที่พาทัพกระทิงดุคว้าแชมป์ยุโรปชุดยู-19 เมื่อปี 2002 ด้วย


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด