:::     :::

'โอบา'กับการเล่นตัวรุกฝั่งซ้าย

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แฟนบอลหลายคนต่างเคยตั้งคำถามว่าทำไม อาร์เซน่อล ชอบจับ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ออกไปเล่นด้านข้างโดยเฉพาะกราบซ้ายบ่อยครั้ง

ที่ไม่เข้าใจเพราะด้วยคุณภาพระดับหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกควรต้องปักหลักอยู่ใกล้ประตูให้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม อาร์แซน เวนเกอร์, อูไน เอเมรี่ และปัจจุบัน มิเกล อาร์เตต้า ต่างเคยใช้งาน โอบาเมย็อง ลงเล่นด้านข้างหลายต่อหลายครั้ง 

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ โอบาเมย็อง ไม่เพียงสร้างประโยชน์อย่างมากให้ทีม แต่ทำให้เกมรุก อาร์เซน่อล มีมิติมากขึ้น รวมถึงสถิติการทำประตูที่ยอดเยี่ยม 

นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม อาร์เซน่อล ในต้นปี 2018 โอบาเมย็อง ลงเล่นในตำแหน่งหน้าเป้าเป็นหลัก 

ครั้งแรกที่ถูกโยกออกไปเล่นกราบซ้ายคือนัดเยือน นิวคาสเซิ่ล ที่ได้สัมผัสบอลมากถึง 70 ครั้ง (มากสุดในการเล่นให้อาร์เซน่อล) และเป็นคนแอสซิสต์ให้ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ทำประตู

ผลการแข่งขันวันนั้นลงเอยไม่ดีนักเพราะ นิวคาสเซิ่ล แซงชนะ 2-1 แต่การเล่นของ โอบาเมย็อง ได้ทำให้เห็นถึงทางเลือกสำหรับ เวนเกอร์ และกุนซือคนอื่นที่ต้องการส่ง โอบาเมย็อง ลงเล่นร่วมกับ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ 

โอบาเมย็อง ลงเล่นทางฝั่งซ้าย 28.4 เปอร์เซ็นต์จากเวลาทั้งหมดในสนาม หรือคิดเป็นราวๆ 1 ใน 4 

ส่วนใหญ่แล้ว โอบา ยังคงเล่นหน้าเป้าทั้งในระบบ 4-2-3-1 และ 4-3-3 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่หลายคนมองว่าเหมาะกับเจ้าตัวมากที่สุด 

หากรวมช่วงเวลาที่เล่นระบบ "หน้าคู่" เข้าไปด้วย โอบาเมย็อง ก็เล่นในตำแหน่งกองหน้าเกือบ 2 ใน 3 จากทั้งหมด (65.6 เปอร์เซ็นต์) ของช่วงเวลาทั้งหมด 

อย่างไรก็ตาม มีสถิติที่น่าสนใจคือ โอบาเมย็อง ยิงประตูจากการลงเล่นด้านข้าง/ริมเส้นได้มากกว่าตำแหน่งหน้าเป้าเสียอีก 

ค่าเฉลี่ยการยิงประตูของ โอบาเมย็อง ในตำแหน่งกราบซ้ายอยู่ที่ 0.83 ประตูต่อการเล่น 90 นาที 

ส่วนตำแหน่งหน้าเป้าไม่ว่าจะหน้าเดี่ยวหรือหน้าคู่มีค่าเฉลี่ยใกล้เคียงกันที่ 0.57 และ 0.56 ประตูต่อการเล่น 90 นาที 

ขณะที่การเล่นทางกราบขวาไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมากนักเพราะทำประตูได้เพียง 0.5 ประตูต่อ 90 นาที


โอบาเมย็อง ถูกโยกไปเล่นฝั่งซ้ายบ่อยครั้งในการเล่นให้ อาร์เซน่อล 

การหาโอกาสทำประตูในจังหวะจะแจ้งต้องได้ (Expected goals) จากตำแหน่งหน้าเป้ามีสัดส่วนมากสุด 0.63 ครั้งต่อ 90 นาที แต่ก็ใกล้เคียงกับการเล่นทางฝั่งซ้าย 0.59 ครั้งต่อ 90 นาที

ตำแหน่งการยิงประตูส่วนใหญ่ของ โอบาเมย็อง คือข้างในและรอบๆ กรอบ 6 หลาไม่ว่าจะถูกวางให้เล่นในตำแหน่งหน้าเป้าหรือกราบซ้ายก็ตาม

เรื่องน่าแปลกนิดๆ คือ ในเวลาที่ โอบาเมย็อง เล่นทางกราบซ้าย เขาแทบไม่ยิงประตูในสไตล์ปั่นหรือแปเสียบเสาไกลแบบ เธียร์รี่ อองรี ที่แฟนบอลคุ้นเคย

หัวหอกทีมชาติโตโกมีอิสระในการเล่นและมักพรวดจากด้านข้างเข้าไปทำประตูในระยะใกล้ซึ่งเป็นการเล่นที่อันตรายสำหรับคู่แข่งอย่างยิ่ง

ในเวลาที่เล่นระบบหน้าคู่ โอบาเมย็อง ได้โอกาสจะแจ้งน้อยกว่าการเล่นหน้าเป้าคนเดียวซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ไม่ยากเพราะมีกองหน้าอีกคนคอยหาจังหวะยิงเช่นกัน 

จุดเด่นของ โอบาเมย็อง คือความเฉียบคมในการทำประตูที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีตที่ก็มีหลายครั้งถูกวิจารณ์ว่าใช้โอกาสค่อนข้างเปลือง

แม้โอกาสลุ้นยิงประตูในการเล่นทางกราบซ้ายจะลดน้อยลง แต่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูในสัดส่วนที่มากขึ้น 


สัดส่วนการยิงประตูในการเล่นทางกราบซ้ายทำได้ดีสุด 

การเล่นในตำแหน่งที่ต่างออกกัน บทบาทความรับผิดชอบก็ต่างกันด้วย โอบาเมย็อง ต้องช่วยเกมรับมากขึ้นกับการเล่นทางฝั่งซ้าย หลายครั้งต้องลงมาช่วยแบ็กซ้ายรับมือเกมรุกคู่แข่ง ทว่าหน้าที่หลักในเกมรุกก็ยังคงทำได้ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม  

ข้อดีอีกอย่างในการเล่นกราบซ้ายของ โอบาเมย็อง คือสามารถเก็บบอลได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับการเล่นตำแหน่งหน้าเป้า

สไตล์การเล่นเกมรุกของ อาร์เซน่อล ที่เน้นพาบอลเข้าใกล้ประตูคู่แข่งมากสุดเท่าที่เป็นไปได้จำเป็นต้องมีคนที่เก็บบอลแดนหน้าที่ดี เพื่อให้ผู้เล่นคนอื่นเติมขึ้นมาสนับสนุนได้ทัน โอบาเมย็อง ตอบโจทย์การเล่นแบบนี้มากขึ้นในเวลาที่ลงเล่นด้านข้าง 

แต่คนที่ทำได้ดีกว่าในการเก็บบอลแดนหน้ายังเป็น ลากาแซ็ตต์ ซึ่งมีสถิติจ่ายบอลสำเร็จในแดนคู่แข่ง 73 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ โอบาเมย็อง ทำได้ 68 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วย เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่ 64 เปอร์เซ็นต์

ลากาแซ็ตต์ เป็นคนที่เข้าใจการเล่นของ โอบาเมย็อง มากสุดและแอสซิสต์ให้เพื่อนซี้ยิงไปแล้ว 6 ประตู ส่วนคนอื่นในทีมที่จ่ายให้ โอบาเมย็อง ยิงมากสุดคือ เอคตอร์ เบเยริน กับ เซอัด โคลาซินัช ที่คนละ 3 แอสซิสต์เท่ากัน 

ในการเล่นตำแหน่งหน้าเป้าเดี่ยวๆ โอบาเมย็อง สัมผัสบอลในพื้นที่สุดท้าย (ตั้งแต่หน้าเขตโทษคู่แข่งถึงสุดเส้นหลัง) น้อยกว่า ลากาแซ็ตต์ และ เอ็นเคเทียห์ เมื่อเทียบกับการเล่นตำแหน่งเดียวกัน 

แต่หากโยก โอบาเมย็อง ไปเล่นฝั่งซ้าย อาร์เซน่อล สามารถใช้ประโยชน์จากความเร็วของเจ้าตัวในการพุ่งเข้าไปในพื่นที่ว่างข้างหน้าซึ่งเป็นการเล่นที่คล้ายกับ สตีฟ บรูช ใช้งาน มิเกล อัลมิรอน และ อัลลัน แซงต์-มักซิแม็ง ในทีมนิวคาสเซิ่ล 

ฟุตบอลคือกีฬาที่เล่นเป็นทีม การโยกย้ายตำแหน่งการเล่นไปบ้างเพื่อให้ทีมลงตัวขึ้นคือเรื่องปกติ โอบาเมย็อง คือนักเตะอีกคนที่พร้อมทำเพื่อทีมอย่างเต็มที่แม้กระทั่งก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้เป็นกัปตันทีม 


ตำแหน่งการยิงส่วนใหญู่อยู่ตรงกลางแม้ถูกโยกเล่นด้านข้าง

ในปีสุดท้ายของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ ดอร์ทมุนด์ โอบาเมย็อง ก็เคยถูกโยกออกไปเล่นด้านข้างเพื่อเปิดโอกาสให้ ชิโร อิมโมบิเล่ ได้เล่นหน้าเป้าซึ่งตอนนั้นก็มีข้อถกเถียงในหมู่สาวกเสือเหลืองถึงตำหน่งของ โอบาเมย็อง เหมือนเช่นที่เกิดขึ้นกับ อาร์เซน่อล ในตอนนี้ 

ปัจจัยอย่างหนึ่งที่ มิเกล อาร์เตต้า ต้องคำนึงมากขึ้นคือ การเล่นกราบซ้ายของ โอบาเมย็อง ต้องคัฟเวอร์พื้นที่ค่อนข้างเยอะ ยิ่งช่วงที่ต้องช่วยเกมรับยิ่งต้องออกแรงวิ่งอย่างมาก 

โอบาเมย็อง จะอายุครบ 31 ปีในช่วงซัมเมอร์นี้ถือว่าเริ่มปลายอาชีพของนักฟุตบอลแล้ว การเล่นด้านข้างที่วิ่งและใช้พลังค่อนข้างมากอาจส่งผลต่อสภาพร่างกาย ดังนั้นการปักหลักอยู่ข้างในน่าจะเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดกับช่วงอายุ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ โอบาเมย็อง แสดงให้เห็นในสนามยังคงเต็มไปด้วยความปราดเปรียว คล่องแคล่ว และไม่มีท่าทีว่าจะดร็อปลงตามวัยในช่วงนี้ 

เมื่อฟุตบอลกลับมาแข่งกันได้อีกครั้ง อาร์เตต้า ก็พร้อมใช้งาน โอบาเมย็อง ทางด้านข้างเหมือนเดิมเพราะหลายอย่างชี้ชัดเจนว่ามีประสิทธิภาพสูงไม่แพ้การเล่นด้านใน ... ถ้าเจ้าตัวไม่ย้ายออกจากทีมเสียก่อน



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด