'การจากไปของเนย์มาร์ทำให้เราต้องปรับสไตล์การเล่น เราสูญเสียประสิทธิภาพการเกมเล่นเกมรุก แต่การเสียเขาไปทำให้เราแข็งแกร่งมากขึ้นในแง่ของการเล่นเกมรับ มันทำให้เราต้องปกป้องพื้นที่การเล่นบริเวณกลางสนามมากขึ้นและนั่นทำให้เราเป็นทีมที่แข็งแกร่งขึ้น'
   
    ลิโอเนล เมสซี่ ซุปตาร์อาร์เจนไตน์ของ บาร์เซโลน่า กล่าวถึงผลกระทบต่อทัพอาซูลกราน่าหลัง เนย์มาร์ ตีจากไปโกยเงินก้อนโตกับเปแอสเชในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
   
    ความเห็นของเมสซี่พิสูจน์ได้จากผลงานในฤดูกาลนี้ ทีมอาซูลกราน่าเสียเพียง 5 ประตูบนเวทีลีกาและรักษาคลีนชีตถึง 8 จาก 13 นัด ซึ่งเป็นผลงานดีสุดในประวัติศาสตร์สโมสร
   
    หากนับรวมผลงานบนเวที โกปา เดล เรย์ รอบ 32 ทีม บาร์เซโลน่า ยังกด เรอัล มูร์เซีย 2 นัดรวมกัน 8-0 ทำให้ทีมอาซูลกราน่าไม่เสียประตูถึง 10 จากการลงเล่น 15 เกม
   
    ประสิทธิภาพการเล่นเกมรุกของบาร์เซโลน่าอาจจะด้อยลงจากช่วงที่มีสามประสาน'MSN' แต่ทีมอาซูลกราน่ายังกระทุ้งคู่แข่งมากสุดบนเวลีลีกา 34 ประตูจาก 13 เกม มีค่าเฉลี่ยยิงนัดละประมาณ 2.6 ประตู ถ้านับรวมผลงานบนเวทีโกปา ทีมยักษ์กาตาลุนย่ายิง 42 ประตูจาก 15 เกม มีค่าเฉลี่ยยิงนัดละประมาณ 2.8 ประตู
   
    บาร์เซโลน่า ลงเล่นทุกรายการในซีซั่นนี้รวมกัน 20 เกมหากนับรวมรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก 5 นัด ทัพอาซูลกราน่ายิงรวมกัน 49 ประตู มีค่าเฉลี่ยยิงนัดละ 2.45 ประตู เสียรวมกันทั้งหมดเพียง 6 ประตู หรือเฉลี่ยเสียเพียงเกมละ 0.3 ประตูและยังรักษาคลีนชีตถึง 14 จากการลงเล่น 20 นัดในซีซั่นนี้
   
    ทั้งหมดมาจากการปรับสไตล์การเล่นในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิมของ บาร์เซโลน่า ตามแนวทางการทำทีมของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ซึ่งมีหลายนัดที่เทรนเนอร์ชาวบาสโก้เลือกใช้งาน ลิโอเนล เมสซี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ ลงเล่นเป็นกองหน้าคู่กันพร้อมส่งตัวพิเศษอย่าง เปาลินโญ่ ลงสนามพร้อม เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ซึ่งมิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนมีส่วนช่วยให้กองหลังรับภาระน้อยลงกว่าเดิม
       
    ต่างจากยุุคที่มีสามประสาน'MSN'ที่ผู้เล่นแนวรับมักจะเจองานหนักเป็นประจำหากผู้เล่นแนวรุุกเสียการครองบอลโดยเฉพาะ เนย์มาร์ ซึ่งชอบเก็บบอลไว้กับตัวนานจนมีส่วนทำให้เพื่อนร่วมทีมเสียจังหวะการเล่นหลายครั้ง
   
    ขณะที่ อีวาน ราคิติช มิดฟิลด์ชาวโครแอตมีความเห็นไม่ต่างจากเมสซี่ แม้อดีตดาวเตะเซบีย่าจะคิดถึงเนย์มาร์ก็ตาม แต่ก็ยอมรับว่าการไม่มีกองหน้าชาวบราซิเลียนทำให้ทัพอาซูลกราน่าเป็นทีมที่มีความสมดุลมากขึ้น
   
    'จากภาพรวม เราเป็นฝ่ายครองเกมไว้ได้ทุกนัด ในช่วงที่เนย์มาร์ยังอยู่กับทีม เราเล่นกันแบบไม่มีความสมดุล แต่พวกเราเป็นทีมที่มีลูกเล่นแพรวพราวตลอดช่วง 3-4 ปีที่มีเขาอยู่กับทีม เราอาจต้องการอะไรแบบนั้นบ้าง ซึ่งเนย์มาร์สามารถทำอย่างนั้นได้ด้วยตัวเองสบายมาก'
   
    'เมื่อมีการเปลี่ยนระบบ ทุกอย่างเปลี่ยนไปนิดหน่อย เรามีสมดุลมากขึ้นเวลาเล่นด้วยกันไม่ว่าจะเป็นเกมรุกหรือเกมรับ ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำคือการแก้ไขข้อผิดพลาดและพยายามปิดเกมให้ได้'ราคิติชเผย
   
    บาร์เซโลน่า ลงเล่นทุกรายการ 20 นัด ทำสถิติชนะ 16 เสมอ 4 ยิง 49 ประตู เสีย 6 ประตู ตัวเลขดังกล่าวเป็นหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าทีมอาซูลกราน่ายุุุคไร้เนย์มาร์มีความสมดุลมากแค่ไหนโดยเฉพาะการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่นจนหลายเป็นทีมที่เสียประตูน้อยสุดบนเวทีลีกาเหนือกว่าต้นตำรับเกมรับอย่างทีมตราหมีของซิเมโอเน่ด้วยซ้ำ
   
    การเปลี่ยนแปลงของบาร์เซโลน่าเกิดขึ้นหลังถูก เรอัล มาดริด ไล่ถลุงในรายการ ซูเปรืโกปา เด เอสปันญ่า ด้วยสกอร์ 5-1 จากการพบกัน 2 นัด ซึ่งบัลเบร์เด้ทดสอบระบบการเล่นที่เหมาะสมกับทีมทั้งสองเกม
   
    แมตช์แรกที่'คัมป์ นู' เทรนเนอร์ชาวบาสโก้ยึดรูปแบบเดิมในเล่นระบบ 4-3-3 ด้วยการส่ง เคราร์ด เดวโลเฟว ลงเล่นแนวรุกฝั่งซ้ายแทน เนย์มาร์ ขณะที่ เมสซี่ เล่นฝั่งขวา โดยมี หลุยส์ ซัวเรซ ลงเล่นหน้าเป้า ผลปรากฏว่าทีมอาซูลกราน่าพ่ายคาบ้าน 1-3
   
    บัลเบร์เด้ ปรับหมากมาเล่นระบบ 3 เซนเตอร์ฮาล์ฟในเกมเยือน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'ด้วยการส่ง ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ลงเล่นพร้อม เคราร์ด ปีเก้ และ ซามูแอล อุมติตี้ ขณะที่ อันเดร โกเมส ได้โอกาสลงเล่นแดนกลางร่วมกับ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และ อีวาน ราคิติช โดยมี เซร์จี้ โรเบร์โต้ กับ จอร์ดี้ อัลบา รับบทวิงแบ็กสองฝั่ง ส่วน เมสซี่ ลงเล่นกองหน้าคู่ หลุยส์ ซัวเรซ แต่ เรอัล มาดริด ใช้การเล่นเกมรุกที่เฉียบคมกว่าสอยทีมเยือนด้วยสกอร์ 2-0
   
    จากนั้นเทรนเนอร์ชาวบาสโก้พยายามหาระบบที่สร้างความสมดุลกับทีมอาซูลกราน่ามากที่สุด แต่แนวคิดของบัลเบร์เด้ไม่ยึดติดตายตัวสามารถยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสมกับคู่แข่งทั้ง 4-3-3 หรือ 4-4-2
   
    แม้บาร์เซโลน่าจะสูญเสียกองหน้าระดับสตาร์อย่าง เนย์มาร์ แต่ทัพอาซููลกราน่าได้การเล่นกับเป็นทีมเป็นระบบเข้ามาทดแทนจึงอาจมองได้ว่าการย้ายสังกัดของกองหน้าชาวบราซิเลียนไม่ส่งผลกระทบต่อการลุ้นความสำเร็จของทีมยักษ์กาตาลุุนย่าก็ว่าได้
   
    บัลเบร์เด้สลับใช้งานนักเตะอย่าง อุสมาน เดมเบเล่, เคราร์ด เดวโลเฟว, ฟรานซิสโก้ อัลกาเซร์, เดนิส ซูอาเรซ หรือ เซร์จี้ โรเบร์โต้ ตามความเหมาะสมพร้อมกำชับให้นักเตะแต่ละคนไม่เล่นยากเกินความจำเป็นและลงมาช่วยงานกองหลังยามที่ตกเป็นฝ่ายตั้งรับด้วย ซึ่งสาวกบาร์เซโลนิสต้าจะไม่ค่อยเห็นภาพแบบนี้ตอนที่ยังมีเนย์มาร์อยู่กับทีม
   
    'มันเป็นเรื่องปกติสำหรับแนวคิดใหม่ๆ เหมือนการจากไปของเนย์มาร์ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่าง รวมทั้งเทรนเนอร์ ผมพยายามที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่เจ้านายต้องการ เราคุยกันเยอะทีเดียว ผมคิดว่าผมเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับแนวทางฟุุุุตบอลของเขาและผมคิดว่าผมสามารถทำในสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ได้ดี'ราคิติชเผย
   
    ราคิติช ย้ายจาก เซบีย่า มาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ในยุคของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาร์ตีเนซ แต่มิดฟิลด์ชาวโครแอตยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมอาซูลกราน่าของบัลเบร์เด้ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าพร้อมทุ่มเต็ม 100 เปอร์เซนต์ให้ต้นสังกัดเสมอ
   
    'เราค่อยๆเก็บชัยชนะไปเรื่อยๆ ผมย้ายมาในยุคของหลุยส์และตอนนี้อยู่กับเทรนเนอร์ที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าผมได้เล่น 2 นัดหรือน้อยกว่านั้น ผมคิดว่าผมทุ่มเต็ม 100 เปอร์เซนต์ให้กับทีมเสมอ มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีช่วงดีหรือไม่ดีตลอดทั้งฤดูกาล ผมหวังว่าผมจะได้ลงเล่นสัก 60 เกม ซึ่งมันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเรากำลังเดินหน้าไปได้ดี'
   
    มิดฟิลด์ทีมชาติโครเอเชียยอมรับว่าถ้าเป็นไปได้เขาอยากให้เนย์มาร์อยู่กับทีมต่อไป แต่ถึงอย่างไรตอนนี้ทีมอาซูลกราน่ากำลังไปได้สวยแม้ว่าจะไม่มีซุปตาร์บราซิเลียน
   
    'ผมอยากให้เขาอยู่ที่นี่นะ ถ้าผมมีไม้กายสิทธิ์ ผมจะเสกให้เขามาอยู่เคียงข้างผม'
   
    'เราพูดถึงกันมากเกี่ยวกับเนย์ แต่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วและตอนนี้เรากำลังทำได้ดีจริงๆ'
   
    'ผมคิดถึงเขานะ ไม่ใช่เฉพาะแค่ในสนามเท่านั้น แต่ยังหมายถึงในห้องแต่งตัวด้วย มันเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับผมก่อนหน้านี้ ตอนที่ผมออกจากเยอรมันมาเล่นกับเซบีย่า ผมคิดถึงทุกคน จากนั้นผมก็ย้ายมาที่นี่ ผมยังกลับไปที่เซบีย่าทุกครั้งที่ผมสามารถทำได้'
   
    'ต่อมา คุณจะคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมและเพื่อนร่วมทีมใหม่ๆของคุณ'
   
    'ความแข็งแกร่งของทีมนี้อยู่ในห้องแต่งตัว พวกเราคิดถึงเนย์ แต่เขาจะเสียใจหรือไม่ที่ตัดสินใจจากไป คุณต้องไปถามเขาเอง'
   
    เนย์มาร์ เป็นเพียงอดีตหรือส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสรบาร์เซโลน่าและสาวกบาร์เซโลนิสต้า ทัพอาซูลกราน่ากำลังไปได้สวยบนเส้นทางลุ้นความสำเร็จในฤดูกาลนี้ ซึ่งมันเป็นความท้าทายของทีมยุคบัลเบร์เด้ว่าจะก้าวข้ามอุปสรรคจนไปถึงฝั่งฝันหรือไม่เท่านั้น