:::     :::

ส่งแมวมอง...ส่องลีกรอง(2)

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน 2563 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
2,091
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เวลานี้แทบทุกสโมสรกำลังประสบปัญหาทางการเงินจากจากวิกฤติโควิด-19 ตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้จึงถูกคาดการณ์ว่าน่าจะเงียบเหงากว่าปกติ

ลีกรอง จึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับการช็อปปิ้งในช่วงตลาดหน้าร้อนนี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้บรรดาทีม พรีเมียร์ลีก ต้องกำชับแมวมองให้ทำงานหนักมากขึ้นในการหามองเป้าหมาย โดยเฉพาะจาก แชมเปี้ยนชิพ

ตอนที่แล้ว พูดถึงนักเตะดาวดังในเวที แชมเปี้ยนชิพ ที่ถูกมองว่าฝีเท้าสามารถเล่นใน พรีเมียร์ลีก ได้สบายๆ เหมือนที่ในอดีต อารอน แรมซี่ย์, โจ โกเมซ, เจมส์ แมดดิสัน, แดเนียล เจมส์ เคยพิสูจน์ให้เห็นมาแล้ว
และนี่นักเตะอีก 6 คนที่เหลือ ที่มีโอกาสลุยพรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้า ไม่ว่าจะเป็นการย้ายทีม หรือการเลื่อนชั้นกับต้นสังกัด
คัลวิน ฟิลลิปส์
นักเตะชาวเมืองลีดส์แท้ๆ เป็นผลผลิตจากรั้วเยาวชนของ ลีดส์ ยูไนเต็ด และก้าวขึ้นมารับใช้ทีมชุดใหญ่ครั้งแรกตอนอายุ 19 ปี จนถึงตอนนี้ นี่คือฤดูกาลที่ 6 ของ ฟิลลิปส์ ในถิ่น เอลแลนด์ โร้ด แล้ว
หลังจากเริ่มต้นตำแหน่งมิดฟิลด์ 'บ็อกซ์ทูบ็อกซ์' มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือคนปัจจุบันก็เริ่มจับ ฟิลลิปส์ ยืนกองกลางตัวรับ พร้อมกับสลับยืนเซนเตอร์แบ็กในยามจำเป็น หรือจับยืนเป็นหนึ่งในสามปราการหลังตัวกลาง
ฟิลลิปส์ ยังเป็นหนึ่งในนักเตะเพียงไม่กี่คนจาก แชมเปี้ยนชิพ ที่มีข่าวว่าถูก แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษจับตามองมาหลายครั้งแล้ว แม้ยังไม่เคยถูกเรียกชื่อมาก่อน แถมยังไม่เคยเล่นให้ทีมชาติชุดเยาวชนด้วย
ครั้งหนึ่ง ชื่อของ ฟิลลิปส์ ยังเคยพัวพันกับสโมสรใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และตอนนี้มีโอกาสสูงมากที่จะได้พิสูจน์ตัวเองในเวที พรีเมียร์ลีก ซีซั่นหน้ากับต้นสังกัด ลีดส์ ยูไนเต็ด หากซีซั่นนี้ไม่กลายเป็นโมฆะ
ซาอิด เบนราห์มา
ปีกแอลจีเรีย เป็นอีกหนึ่งในตัวรุกที่น่าจับตามองที่สุดใน แชมเปี้ยนชิพ เมื่อผนึกกำลังร่วมกับเพื่อนร่วมทีม เบรนท์ฟอร์ด อย่าง โอลลี่ วัตกิ้นส์ ด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มความอันตรายมากขึ้น
10 ประตูจาก 38 เกม แชมเปี้ยนชิพ ซีซั่นก่อนเป็นผลงานที่น่าพอใจ ขณะที่ซีซั่นนี้ก็มีไปแล้ว 10 ประตูจาก 34 เกม (ยังแข่งไม่จบซีซั่น) จนมีข่าวกับสองทีมดังพรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล กับ เลสเตอร์
พอเอ่ยถึง จิ้งจอกสีน้ำเงิน ทำให้นึกถึง ริยาด มาห์เรซ ปีกแอลจีเรียเช่นกัน เมื่อครั้งดึงตัวจากลีกฝรั่งเศสมาเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ และช่วยกันพาทีมเลื่อนชั้น ก่อนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในเวลาต่อมา
นั่นจึงทำให้ เบนราห์มา ถูกคาดหมายว่าอาจเดินตามรอยเท้ารุ่นพี่ขึ้นไปโชว์ลีลาเร้าใจใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้า ไม่ว่าจะด้วยวิธีย้ายทีม หรือเลื่อนชั้นกับ เบรนท์ฟอร์ด ก็ตาม
เอเบเรชี่ เอเซ่
กองหน้าเชื้อสายไนจีเรีย เคยมีช่วงชีวิตตกต่ำสมัยเป็นนักเตะเยาวชน ถูก มิลล์วอลล์ โละทิ้งตอนช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ 18 ฝน 18 หนาว จนต้องไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ เทสโก้ เพื่อเลี้ยงปากท้องแบบคนหาเช้ากินค่ำ
แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน หลังจากไปทดสอบฝีเท้ากับ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ในที่สุด เอเซ่ ก็ได้สัญญาอาชีพฉบับแรกอยู่ในถิ่น ลอฟตัส โร้ด
เอเซ่ ที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก ทั้งกองหน้า ปีก มิดฟิลด์ตัวรุก เริ่มต้นไปแบบเชื่องช้า มีเพียง 2 ประตูจาก 17 เกมซีซั่น 2017-18 และ 4 ประตูจาก 46 เกมซีซั่น 2018-19 แต่สถานการณ์ก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ซีซั่นนี้ เอเซ่ ระเบิดฟอร์มเก่ง ซัลโวไปแล้ว 12 ประตูจาก 37 เกม (ซีซั่นยังแข่งไม่จบ) กลายเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดใน แชมเปี้ยนชิพ ยิ่งไปกว่านั้น ทีมชาติอังกฤษ ชุดยู-21 ยังเรียกตัวติดทีมด้วย
ฤดูกาลหน้า มีโอกาสสูงที่ตัวรุกวัย 21 ปี จะได้ย้ายสู่ทีมพรีเมียร์ลีก เพราะหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่บีบต้นสังกัด คิวพีอาร์ ให้ต้องขาย ก็คือสัญญาที่กำลังจะหมดอายุในปี 2021
ดาเอล ฟราย
เด็กปั้นของ มิดเดิลสโบรช์ เคยเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองว่าจะมีอนาคตก้าวไกล โดยเฉพาะเส้นทางกับทีมชาติอังกฤษ ที่เล่นมาเกือบทุกชุด ตั้งแต่ยู-17, ยู-18, ยู-19, ยู-20 มาจนสุดที่ ยู-21
หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่หยุดพัฒนาการ และกำลังจะตัดเส้นทางที่รุ่งโรจน์ ก็คือผลงานของต้นสังกัด มิดเดิลสโบรช์ ที่มีแต่ดิ่งลงเหวนับตั้งแต่ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2017
ฟราย ได้รับความสนใจจากหลายสโมสรพรีเมียร์ลีก แต่ทีมที่จับตามองชัดเจนที่สุด และเคยยื่นข้อเสนอขอซื้อมาแล้วนั่นก็คือ เบิร์นลี่ย์ แต่ข้อเสนอ 8 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว และ 10 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ถูก เดอะ โบโร่ ตอบปฏิเสธทั้งสองครั้ง เพราะราคาที่ตั้งเอาไว้คือ 25 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง ตัวเลขดังกล่าวแทบไม่มีความเป็นไปได้เลย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากสัญญาของ ฟราย ในถิ่น ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม ที่เหลือถึงปี 2021 เท่านั้น
ไรอัน แมนนิ่ง
กองกลางไอริช กลายเป็นนักเตะที่โดดเด่นขึ้นมาทันทีใน แชมเปี้ยนชิพ หลังถูกจับเล่นบทบาทใหม่ แบ็กซ้าย ในยุคของกุนซือ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส คนปัจจุบัน มาร์ค วอร์เบอร์ตัน
ซีซั่นที่แล้ว แมนนิ่ง ถูกปล่อยให้ ร็อทเธอร์แฮม ยืมตัวใช้งานในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก และมีถึง 4 ประตู 1 แอสซิสต์ กับจาก 18 เกมในฐานะกองกลางและมิดฟิลด์ฝั่งซ้ายสลับกันไป
ถึงตอนนี้ มีโอกาสสูงที่จะได้เห็น แมนนิ่ง ยึดตำแหน่งแบ็กซ้ายตัวจริงในถิ่น ลอฟตัส โร้ด ต่อไปยาวๆ หาก คิวพีอาร์ ไม่ตอบรับข้อเสนอจากหลายทีมพรีเมียร์ลีกในช่วงซัมเมอร์นี้เสียก่อน
จู๊ด เบลลิงแฮม
นี่คือกองกลางแห่งอนาคตที่ถูกคาดหมายว่าจะย้ายไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่ในฤดูกาลหน้า ทั้งที่ปัจจุบันเพิ่งอายุ 16 ปี และยังไม่ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เลยด้วยซ้ำ
ฤดูกาลแรกในถิ่น เซนต์ แอนดรูว์ส คือซีซั่นที่น่าจดจำสำหรับ เบลลิงแฮม ที่รับหลายบทบาทในแดนกลางของกุนซือ เป๊ป โกลเทต ไม่ว่าจะเป็น มิดฟิลด์ 'บ็อกซ์ทูบ็อกซ์', กองกลางตัวรับ, ตัวริมเส้น, เพลย์เมคเกอร์ ฯลฯ
เบลลิงแฮม ฝากสถิติเอาไว้ทั้ง นักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ เบอร์มิงแฮม ตอนอายุ 16 ปีกับ 38 วัน ทำลายสถิติของตำนานสโมสร เทรเวอร์ ฟรานซิส 101 วัน และเป็นนักเตะอายุน้อยสุดของสโมสรที่ยิงประตูได้ในอีก 25 วันต่อมา
นั่นทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล้าๆ ทุ่มข้อเสนอระดับ 30 ล้านปอนด์ขอซื้อ เบลลิงแฮม มาแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม คาดว่า หลายทีมพรีเมียร์ลีก ไม่ใช่แค่ ผีแดง จะตามตื้อรอบใหม่หลังจบซีซั่นนี้
และนี่จะเป็นโอกาสทองในการเรียกค่าตัวสูงๆ ของ เบอร์มิงแฮม และเป็นโอกาสสำคัญในชีวิตของ เบลลิงแฮม ที่จะขยับค่าเหนื่อยจากปัจจุบันที่รับอยู่เพียง 145 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ให้พุ่งขึ้นหลายเท่า

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด