:::     :::

ยุคทองของนอร์เวย์

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2563 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
32,281
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ถ้าตัดความวุ่นวายเรื่องโควิด-19 ออกไป ตัวเลข 2020 คือปีของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เลยก็ว่าได้

    หลังจากย้ายไปร่วมทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หัวหอกวัย 19 ปี ก็ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม แฮตทริกจากเกมเปิดตัว การยิงประตู ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ในแชมเปี้ยนส์ลีก และแข้งยอดเยี่ยมประจำเดือนของบุนเดสลีกา

    อันที่จริง ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทุกสายตาควรจะได้เห็นเขาเป็นแกนนำของ นอร์เวย์ ในยูโร 2020 รอบเพลย์ออฟ กับ เซอร์เบีย

    แต่โลกฟุตบอลก็ถูกบังคับให้ต้องหยุดชะงักไปทั่วทุกมุมโลก เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า

    แต่หากเรามองไปยังเรื่องของเกมลูกหนังเพียงอย่างเดียว ทีมชาติ นอร์เวย์ กำลังมีจุดเริ่มต้นสุดพิเศษด้วยขุมกำลังเลือดใหม่

    เทรนเนอร์ นอร์เวย์ คนปัจจุบันอย่าง ลาร์ส ลาเกอร์บัค สร้างชื่ออย่างมากในการพาชาติเล็กๆ อย่าง ไอซ์แลนด์ ไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ยูโร 2016 ด้วยการโค่นยักษ์ใหญ่อย่าง อังกฤษ

    นอร์เวย์ ยังไม่เคยไปลุยทัวร์นาเมนต์ใหญ่ได้เลยนับตั้งแต่ยูโร 2000 ซึ่งเวลานั้นเต็มไปด้วยดาราอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา, เฮนนิ่ง เบิร์ก และ ทอร์เร่ อังเดร โฟล  และก็จอดป้ายแค่รอบแบ่งกลุ่ม

    ตั้งแต่นั้นมา พวกเขาก็ทำได้เพียงเป็นผู้ชม และเฝ้ามองเพื่อนบ้านของพวกเขาในแถบสแกนดิเนเวีย อย่าง สวีเดน, เดนมาร์ก และ ไอซ์แลนด์ ประกาศศักดาให้คนทั่วโลกได้เห็น

    แต่ยุคมึดของพวกเขากำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว

    โมเมนตัมทุกอย่างดูจะเหวี่ยงมาหาพวกเขาอย่างจัง โดยเฉพาะฟอร์มอันร้อนแรงแบบไม่เอาช้างมาฉุดก็คงไม่อยู่ของ ฮาแลนด์ โดยเขายิงรวมไป 10 ประตู ในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกกับทั้ง ซัลซ์บวร์ก และ ดอร์ทมุนด์

    อีกหนึ่งชื่อที่ถือเป็นสตาร์ในการทำทีมของ ลาเกอร์บัค ก็คือ มาร์ติน โอเดการ์ด เพลย์เมกเกอร์ดาวโรจน์ของ เรอัล มาดริด ซึ่งกำลังเฉิดฉายอย่างเต็มที่ภายใต้สัญญายืมตัวกับ เรอัล โซเซียดาด

    ด้วยฟอร์มอันเด็ดดวงสมัยที่ถูกยืมตัวไปเล่นกับ ฮีเรนวีน และ วิเทสส์ ดาวเตะวัย 21 ปี ถูกโยนไปพัฒนาฝีเท้าที่ซาน เซบาสเตียน เป็นเวลา 2 ปี

    แต่ด้วยผลงานอันทรงพลังก็มีโอกาสที่ ราชันชุดขาว จะเรียกตัวมิดฟิลด์รายนี้คืนมายังถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว ได้ก่อนกำหนดเช่นกัน

    คะแนนจากเว็บไซต์ WhoScored ซึ่งเป็นพวกเก็บสถิติให้ค่าเฉลี่ยเขาสูงถึง 7.29 เลยทีเดียว หลังจากทำไป 4 ประตู และอีก 5 แอสซิสต์

    ขณะเดียวกัน จากการรวบรวมสถิติก็แสดงให้เห็นว่า โอเดการ์ด เป็นเพลย์เมกเกอร์ที่ดีที่สุดในลา ลีกา ฤดูกาลนี้ โดยมีส่วนร่วมมากถึง 65% กับประตูทั้งหมดที่ โซเซียดาด ทำได้

    ด้วยเหล่าซูเปอร์สตาร์ในแผงมิดฟิลด์อย่าง ลูก้า โมดริช และ โทนี่ โครส นั้นอายุแต่ละคนก็ปาไปแตะหลัก 30 ปี แล้ว โอเดการ์ด จึงได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นตัวแทนในตำแหน่งกองกลางระยะยาวของ มาดริด และยังถูกยกยอให้มีโอกาสเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของโลกในเวลาอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

    ด้วยพรสวรรค์ระดับโลกของทั้ง 2 ดาวรุ่งนั้น ทีมชาติ นอร์เวย์ สามารถพบว่าตัวเองอาจประสบความสำเร็จในเวทีระดับสูงได้ในช่วงเวลาไม่อีกไม่กี่อึดใจในแบบเดียวกับที่ เบลเยียม ทำได้จากช่วงเวลาเพียง 10 ปีที่ผ่านมา

    มองภาพย้อนกลับไป เบลเยียม เองก็ไม่ต่างอะไรกับ นอร์เวย์ ก่อนหน้านี้ที่ล้มเหลวในเวทีระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง และพลาดเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ใหญ่มา 5 ครั้งติดต่อกันนับตั้งแต่ยูโร 2004 ถึงยูโร 2012 ก่อนที่จะมาเจอรุ่นเจเนอเรชั่นทองอย่าง แว็งซ็องต์ ก็องปานี, มูซ่า เดมเบเล่, โธมัส แฟร์มาเล่น, ยาน แฟร์ต็องเก้น, เอแด็น อาซาร์, โรเมลู ลูกากู, ติโบต์ กูร์กตัวส์ และ เควิน เดอ บรอยน์ พร้อมๆ กัน

    แม้ตอนนี้ นอร์เวย์ จะยังไม่ได้มีนักเตะระดับท็อปเหมือน เบลเยียม มากมายขนาดนั้น แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีดีแค่ ฮาแลนด์ กับ โอเดการ์ด

    นอกเหนือจากดาวเตะทั้ง 2 รายนั้น โจชัว คิง ก็เป็นที่รู้จักอย่างดีของแฟนๆ พรีเมียร์ลีก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกองหน้าที่เจ๋งที่สุดนอกทีมกลุ่ม 'ท็อปซิกซ์' ขณะที่ ซานเดอร์ เบอร์เก้ กองกลางมากความสามารถก็เคยเป็นที่สนใจจากทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป ก่อนจะลงเอยกับ เชฟฯ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนมกราคม

    มองไปยังเกมรับ ก็มีป้อมปราการที่สูงตระหง่านอย่าง คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ ซึ่งสร้างชื่อได้กับ เซลติก สโมสรที่ช่วยต่อยอด เฟอร์จิล ฟาน ได์ ให้กลายเป็นเซนเตอร์แบ็กอันดับหนึ่งของวงการลูกหนังโลก ขณะที่ฟูลแบ็กพวกเขาก็ยังมี ไฮตาม อาลีซามี่ และ โอมาร์ เอลับเดลลาอุย ซึ่งเต็มไปด้วยประสบการณ์

    แน่นอน ก่อนอื่น นอร์เวย์ จะต้องกรุยทางไปโชว์ตัวในเวทีชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบสุดท้ายในซัมเมอร์ 2021 ให้ได้เสียก่อน

    เซอร์เบีย คู่แข่งของพวกเขาในรอบเพลย์ออฟ ก็ไม่ใช่หมูอะไรด้วย ดังนั้นอะไรก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้

    แต่ นอร์เวย์ ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ต้องบอกว่า อนาคตของพวกเขาช่างสดใสเสียเหลือเกิน

    พาสต้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด