:::     :::

เมื่อลีกอังกฤษสนิทสนมกับโควิด-19อีกสักปี

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พยายามจะจบฤดูกาล 2019-20 ให้ได้กับ 92 เกมรวมซึ่งเหลืออยู่ แต่หากมองความเป็นจริงณ ตอนนี้ สถานการณ์โคโรน่าไวรัสยังไม่ปลอดภัยพอสำหรับการกลับมาเตะตามแผน ดังนั้นจึงขอหยิบทฤษฎที่อาจเกิดกับลีกสูงสุดผู้ดีซีซั่นหน้า

จำนวนสมาชิกของลีกที่เพิ่มขึ้น 

มติที่ประชุมลีกและเจ้าของทีมเมื่อวันแรงงานปี 2020 ยืนยันจะสะสางให้จบซีซั่นนี้ แต่สมมุติไม่สามารถจริงๆ อาจมีการเสนอแนวทางไร้ทีมตกชั้น แล้วผลักดันสโมสรจาก แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ขึ้นมาอีก 2-3 ทีม ตามความเหมาะสม 

นั่นทำให้ฤดูกาล 2020-21 อาจมีสมาชิพพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มากถึง 22 หรือ 23 สโมสร 

หากเลือกแนวทางนี้จากเดิมเตะ 38 แมตช์เดย์ ก็จะเพิ่มเป็น 42 หรือ 44 แมตช์เดย์ ตามจำนวนทีม นั่นทำให้คิวแข่งแน่นขึ้น หาช่วงปลีกพักกลางซีซั่นลำบาก


พรีเมียร์ลีก 2020-21 อาจมี 23 ทีมโม่เกือก

ซีซั่นหน้าหากเลือกแนวทางเพิ่มทีมแข่ง ก็ต้องเพิ่มมตกชั้นด้วย 5-6 สโมสร จากปกติแค่ 3

มุกนี้คิดเผื่อไว้เผื่ออนาคตไม่สามารถเตะแบบปิดสนามเพราะการระบาดของไวรัสคงสุ่มเสี่ยง 

ไม่มีการแข่งขันลีก คัพ 

พวกบรรดาบิ๊กทีมไม่เห็น ลีก คัพ เป็นรายารสำคัญอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีการเพิ่มสโมสรสมาชิกของพรีเมียร์ลีก เข้ามาจริงๆ มีโอกาสสูงว่าฟุตบอลถ้วยเล็กสุดเมืองผู้ดีต้องถูกพับการแข่งขัน 

มันอาจแค่ชั่วคราว 1 ซีซั่น หรือหายยาวไปเลย 

ทั้งนี้ไม่ใช่เพียง ลีก คัพ ซึ่งสุ่มเสี่ยงโดนพักการแข่งขัน 1 ฤดูกาล แม้แต่รายการ เอฟเอ คัพ ก็ด้วย 


ลีก คัพ สุ่มเสี่ยงโดนระงับใน 2020-21 

ทว่าด้วยความสำคัญฟุตบอลถ้วยเก่าแก่สุดโลกยากจะโดนระงับ 

โชคร้ายคงตกที่ ลีก คัพ แล้วไม่แน่ใจด้วยว่าซีซั่น 2021-22 จะได้กลับมาหรือเปล่า? 

สะสางบอลลีกจบก็เตะบอลยุโรปเลย

สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ให้ความสำคัญลีกในประเทศของชาติสมาชิกเป็นลำดับแรก ปล่อยให้พวกเขาสะสางจนเสร็จสิ้นเสียก่อน ส่วนแชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ยูโรปา ลีก แขวนไว้รอ 

ก็ไม่สามารถเดาได้ว่าการแข่งขันชิงแชมป์สโมสรยุโรปทั้งสองรายการ จะสามารถกลับมาแข่งต่อตามกรอบเวลาที่ยูฟ่าคาดไว้ราวสิ้นสิงหาคมได้หรือเปล่า 

สำหรับสโมสรอังกฤษที่เหลือบนเวทียุโรปคือ แมนฯ ซิตี้, เชลซี รายการ ชปล. ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน อยู่ยูโรปา ลีก นั่นหมายความว่าหากเตะพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เสร็จสิ้นปลาย ก.ค. ทั้งสี่ค่ายก็โม่เกือกบอลยุโรปต่อเลย 


ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปไร้กำหนดแข่ง

ซึ่งทีมที่ยิ่งเข้ารอบลึก ยิ่งเตะถี่ในเดือน ส.ค. ทำให้เวลาพักผ่อนก่อนฤดูกาล 2020-21 น้อยกว่าปกติ 

เพราะไหนนจะบอลลีกซีซั่นใหม่ ไหนจะบอลยุโรปรอบแบ่งกลุ่มซึ่งปกติเริ่มฟาดแข้งกลาง ก.ย. - เรียกว่าเป็นซัมเมอร์ที่ไม่พักกันเลย 

รูปแบบที่ต่างไปจากเดิมในตลาดซื้อ-ขาย 

ผลกระทบทางเศรษฐกิจของโคโรน่าไวรัสต่อสโมสรฟุตบอล สร้างความเสียหายในทุกมิติทั้งรายได้ซึ่งควรรับจากแมตช์เดย์, การขายสินค้าที่ระลึก และแรงหนุนของบริษัท-ห้างร้าน 

ขณะที่กรอบเวลาในการเริ่มซื้อ-ขาย ก็ต้องขยับปรับเปลี่ยนเนื่องจากลีกฟุตบอลยุโรปต้องช้ากว่าปกติ 2 เดือน จนมีคนเสนอแนวคิดเปิดทำธุรกรรมตั้งแต่กลางสิงหาคม จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 

เมื่อเงินฝืดกันหมด ไอเดียนักเตะ-แลก-นักเตะ ก็มีโอกาสเกิดในตลาดรอบนี้ 


มูลค่า ป็อกบา ถูกตีราคาเป็นผู้เล่นอื่นแลกเปลี่ยน

ตัวละครหลักๆล้วนถังแตกไม่ว่า บาร์เซโลน่า เงินหล่น 174 ล้านปอนด์ ดังนั้นเรื่องคว้า เนย์มาร์ จูเนียร์ หรือ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ เป็นแค่วิมานบนอากาศ 

ยูเวนตุส ตกที่นั่งลำบากเช่นกันเพราะขนาดทีมใหญ่, แบกค่าจ้างนักเตะสูง แล้วสุ่มเสี่ยงผิดกฎไฟแนนเชี่ยล แฟร์เพลย์ หากไม่สามารถผ่องถ่ายใครออกได้บ้าง 

คนเคยรวยอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด จากตั้งงบประมาณสูงลิบ ก็กดลงมากว่า 50% จนแผนดูด แจ็ค กรีลิช กับ เจมส์ แม้ดดิสัน อาจต้องล่ม 

เราจึงลุ้นเห็นการเทรดแลกตัว ปอล ป็อกบา จาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไป เรอัล มาดริด หรือ ยูเวนตุส แลกผู้เล่น 1-2 คนซึ่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อยากได้ 

อาร์เซน่อล กับ ท็อตแน่ม สองทีมเงินฝืด ก็คงเทรดนักเตะเช่นกัน จะมีแค่ แมนฯ  ซิตี้, ลิเวอร์พูล หรือ เชลซี ซึ่งพอเหลือเงินเก็บในกระปุก  

ห้ามแฟนบอลเข้าชมในสนาม 

การรีสตาร์ตพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าห้ามแฟนเข้าชมในสนาม เท่ากับว่า 1 แมตช์เดย์ จะมีผู้เกียวข้องไม่เกิน 300 คนอันประกอบด้วย ผู้เล่น, สตาฟฟ์, ทีมแพทย์ และสื่อมวลชน เป็นสักขีพยาน 

เราเห็นตัวอย่างไปบ้างแล้วในเกมของสโมสรอิตาลี หรือรายการแชมเปี้ยนส์ ลีก บางคู่ ก่อนลีกสั่งระงับแข่งเพราะไวรัสระบาด แต่จากนี้มันจะชินตามากขึ้นสำหรับคอลูกหนังผู้ดี  


แข่งแบบเหงาๆจนชินตา

ยิ่งมีรายงานจาก 'ไทม์ส สปอร์ต' สื่อคุณภาพว่าฤดูกาล 2020-21 มีโอกาสที่รัฐบาลจะออกคำสั่งให้พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตะแบบร้างผู้ชมจนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันกันโคโรน่าไวรัส

แข่งขันที่สนามกลาง

ไอเดียเรื่องแข่งสนามกลางเพื่อสะสางฤดูกาล 2019-20 ให้จบนั้นถูกยกเข้ามาหารือในที่ประชุมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วานนี้ 

เพราะทั้ง 20 รังเหย้าของสโมสรสมาชิกไม่ได้มีความปลอดภัยพอสำหรับควบคุมการระบาดของโคโรน่าไวรัส 


ศูนย์ฝึกแห่งชาติ เซนต์.จอร์จส์ พาร์ค อาจต้องรับแขก

มีการชงชื่อสังเวียนแข้งที่ห่างไกลจากแหล่งชุมชนได้แก่ เอติฮัด สเตเดี้ยม (แมนฯ ซิตี้), เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม (อาร์เซน่อล), ลอนดอน สเตเดี้ยม (เวสต์แฮม), สนามกีฬาแห่งชาติเวมบลี่ย์ และศูนย์ฝึกแห่งชาติ เซนต์.จอร์จส์ พาร์ค 

แล้วมาตรการแข่งสนามกลางอาจขยายออกไปอีก 6 เดือนสำหรับฤดูกาล 2020-21 นั่นทำให้ความได้เปรียบฐานะทีมเหย้าหดหายไปเลย 

ประสบการณ์การรับชมใหม่ 

ขับรถยนต์ส่วนตัวมาชมการถ่ายทอดสดผ่านจอยักษ์ด้วยกัน, ร่วมก๊วนเชียร์บอลออนไลน์ และการติดตั้งคัตเอาต์สมมุติว่าคือแฟนบอลเอาไปตั้งในสนามวันแข่ง ... ทั้งหมดล้วนมีโอกาสเกิดขึ้นได้หมดในฤดูกาลหน้า 

มันไม่ใช่เรื่องโจ๊กด้วยเพราะเวลานี้สโมสรโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ของเยอรมันเอาคัตเอาต์ไปติดตั้งในโบรุสเซีย พาร์ค เป็นที่เรียบร้อย 

ขณะที่เครือข่ายถ่ายทอดสดอย่าง สกาย สปอร์ตส์ และ บีที สปอร์ต เริ่มมองถึงแผนฤดูกาลหน้า ว่าอาจต้องตกแต่งคอมพิวเตอร์กราฟฟิก จำลองบรรยากาศแฟนบอลในสนามทดแทนเก้าอี้ร้างๆ 


ตลกร้ายคัตเอาต์แฟนบอลประดับในสนาม

ส่วนเรื่องเสียงเชียร์ในสนาม เครือข่าย สกาย สปอร์ตส์ เสนอทางเลือกสามารถชมเกมแบบบรรยากาศการเชียร์เหงาหงอย หรือแข่งประกอบเสียงแห้งซึ่งอัดเอาไว้ 

มีการประชาสัมพันธ์ให้โหลดแอพลิเคชั่นสำหรับดูบอลออนไลน์ผ่านอุปกรณ์บ้านใครบ้านมัน 

นอกจากนั้นยังมีแนวทางฉายเกมถ่ายทอดสดผ่านจอยักษ์ที่ลานจอดรถ โดยชวนแฟนบอลขับรถยนต์ส่วนตัวมาจอดชม ทิ้งระยะห่างตามเหมาะสมซึ่งสโมสร มิดทิลแลนด์ ในเดนมาร์กทำไปแล้ว 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด