แม้คุณภาพชีวิตไม่ได้เลิศหรูจนปลอดภัย แต่เมื่อแลกกับ "โอกาส" ที่อาจหาไม่ได้จากบ้านเกิด การใช้หยาดเหงื่อ ประสบการณ์ลูกหนังมาเปลี่ยนเป็นเม็ดเงินในสยามประเทศ จึงเป็นทางเลือก

บางคนอยู่ยาวเป็น 10 ปี ผูกผันกับไทย ใช้ชีวิตตั้งรกรากที่นี่ บ้างบินมาเสาะแสวงโชคสวมบทนักเตะพาร์ตไทม์ระยะสั้น มารับเงินก้อนโต เมื่อหมดสัญญา ต่างแยกย้ายบินกลับบ้านเกิดเมืองนอน หรือต่อยอดไปยังสถานีลูกหนังอื่นต่อ

แต่มีผู้เล่นบางกลุ่มที่เป็นทั้ง "ผู้รับ" และ "ผู้ให้"

ผู้รับ ที่ใช้วิชาสร้างเสริมประสบการณ์ฟุตบอล มาแลกกับธนบัตรก้อนโตในไทยลีก

ผู้ให้ ที่แสดงให้เห็นความเป็นนักเตะมืออาชีพ สอนทัศนคติ มุมมอง สกิลลูกหนัง และเป็นแบบอย่างให้นักเตะไทยหลายคน ไม่ใช่มาเพื่อโกยเงินแลกผลงานตนเองในสนามเพียงอย่างเดียว

วันนี้เราจะมาเขียนถึงนักเตะเหล่านี้

 

 

โนบุยูกิ ไซเซน

อดีตสตาร์ชาวญี่ปุ่น ย้ายจาก มอนเตดิโอ ยามางาตะ ในเจลีก มาค้าแข้งกับ เมืองทองฯ เมื่อ 10 ปีก่อน ในช่วงไทยลีกกำลังอยู่ในยุคตั้งไข่สู่ลีกอาชีพ แม้ตอนนั้นไซเซน จะอายุกว่า 33 ปีแล้ว และผ่านจุดพีคสุดของนักฟุตบอลอาชีพ และได้ลงสนามเพียงไม่กี่เกม ทว่าสิ่งที่เขาแสดงให้เห็นตลอดสมัยอยู่ที่ เอสซีจี สเตเดียม คือ ความเป็นมืออาชีพ มุ่งมั่นเสมอยามซ้อม เต็มที่ยามลงสนาม และเปรียบเสมือนครูลูกหนังของแข้ง กิเลนผยอง หลายคน ทั้งแบบอย่างการใช้ชีวิต รวมถึง ลูกจ่ายแบบเหนือชั้นที่ไม่มีใครทำเหมือน

 

แมตต์ สมิธ

อีกหนึ่งแข้งต่างชาติ ทีแบกประสบการณ์ข้ามน้ำข้ามทวีป มาใช้ชีวิตที่เมืองไทย กับ 4 ปี บนผืนหญ้า บีจี ปทุมฯ สมิธ แสดงให้เห็นถึงภาวะความเป็นผู้นำ ความเพอร์เฟกต์สมกับที่สวมปลอกแขนกัปตัน ทั้งสอนในแง่ความเป็นมืออาชีพแก่แข้งรุ่นน้อง มุ่งมั่นโฟกัสกับทีม เป็นแบบอย่างที่ดีทั้งในและนอกสนาม จนไม่มีเรื่องเสียอะไรให้เห็น นอกจากนี้เจ้าตัวยังอุปการะเด็กไทยที่กำพร้า ไปเป็นบุตรบุญธรรมอีกด้วย

 

ไดกิ อิวามาสะ

นี่คือ 1 ในดีลที่สาวก เทโรฯ จะไม่มีวันลืม สำหรับการมาของชายถูกถูกเรียกว่าเป็น “ซามูไรยิ้มยาก” เขาคือครูลูกหนังของบรรดาเด็กนรก ในยุคที่ มังกรไฟ เต็มไปด้วยยุคทองดาวรุ่ง ไดกิ เป็นผู้นำและแบบอย่างทั้งในและนอกสนาม เขาคือนักเตะที่มาถึงสนามซ้อมก่อนเวลา 2 ชั่วโมง คอยพร่ำสอน เป็นแบบอย่าง ทั้งในด้านทัศนคติ การใช้ชีวิตให้กับนักเตะไทยนับไม่ถ้วน จนเป็นหนึ่งในขุนพลหลักพา เทโรฯ คว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยได้สำเร็จ แม้จะอยู่กับทีมเพียง 1 ฤดูกาล แต่เขาคือ “เซนเซย์” ของแข้งเทโรในยุคนั้นตลอดไป

 

อันเดรส ตูเญซ

โวยวาย ดุดัน เกรี้ยวกราด ทุกครั้งยามทำหน้าที่ในสนาม แต่นั่นคือภาพที่แสดงให้เห็นความจริงจัง และเป็นมืออาชีพของ ปราการหลังชาวเวเนซุเอลารายนี้ 7 ปี 54 ประตู กับตัวหลัก บุรีรัมย์ กวาดแชมป์นับไม่ถ้วน คือสิ่งที่บอกถึงฝีตีน นอกจากมาตรฐานการเล่นที่แทบสม่ำเสมอ ความเป็นผู้นำ ไม่มีเรื่องลบทั้งในนอกสนาม  “ตูเญซคนดี” ยังมีส่วนช่วยพัฒนา หรือสอนทัศนคติให้แข้ง “ปราสาทสายฟ้า” อีกหลายคนด้วย

 

ดิโอโก ซานโต

แม้จะรับค่าเหนื่อยสูงหลัก 3-4 ล้าน ต่อเดือน แต่ ดิโอโก คือ “ผู้ให้” ในตัวด้วย สิ่งที่บราซิเลียนหัวหยองแสดงผ่านฟลอร์หญ้า นอกจากฝีตีนอันคุ้มเงินเดือนที่ได้รับแล้วคือ ทัศนคติการเล่นผ่านฝีเท้าเจ้าตัว ความเป็นมืออาชีพทั้งใน-นอกสนาม และเป็นผู้ให้ความสุขแฟนบุรีรัมย์ ให้วิชาแก่เด็กนรกในทีมอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด รวมถึง พี่น้อง ศุภณัฏฐ์-สุภโชค ที่ต่างบูชาเขาเป็นไอดอลลูกหนังคนหนึ่ง

 

คาซูโตะ คูชิดะ

1 ในผู้เล่นต่างชาติที่อยู่กับ “ฉลามชล” ทั้งในยุคลุ้นแชมป์ และสมัยที่กลายเป็นทีม “ระดับกลาง” อย่างเต็มตัว สิ่งที่มิดฟิลด์ชาวปลาดิบแสดงให้เห็นตลอดคือ การเป็น “นักเตะอาชีพ” ที่ไม่ใช่แค่ “อาชีพนักเตะ” ไม่ว่าเขาจะได้รับโอกาสมากน้อยแค่ไหน เจ้าตัวมุ่งมั่นเต็มที่เสมอ เหมือนที่ทางฝั่งผู้บริหาร ชลบุรี ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สาเหตุที่ดึง คูชิดะ กลับมาค้าแข้งอีกครั้ง เพราะเขาคือแบบฝึกหัดลูกหนัง ที่บรรดาลูกฉลามควรเรียนรู้ และเอาเป็นแบบอย่าง