:::     :::

ย้อนรอยเสือใต้ชุด'ทริเปิ้ลแชมป์'

วันพฤหัสบดีที่ 07 พฤษภาคม 2563 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
4,772
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บาเยิร์น มิวนิค ชุดคว้า'ทริเปิ้ลแชมป์'ซีซั่น 2012-2013 เป็นขุมกำลังที่ประสบความสำเร็จมากสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรยักษ์ใหญ่แคว้นบาวาเรีย

ย้อนกลับไปดูทีมของ จุ๊ปป์ ไฮย์นเกส ในซีซั่น 2012-2013 ซึ่งเป็นขุมกำลังชุดประวัติศาสตร์ของ บาเยิร์น มิวนิค จากการคว้า'ทริเปิ้ลแชมป์' ฤดูกาลดังกล่าวจากการคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล และ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก 

นั่นคือขุมกำลังชุดดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ซึ่งหลายคนมีส่วนช่วยทีมยักษ์ใหญ่แคว้นบาวาเรียกวาดแชมป์ลีกเมืองเบียร์ 7 ฤดูกาลติดต่อกันและมีโอกาสชูถาดบุนเดสลีกาต่อเนื่องเป็นสมัยที่ 8 หากซีซั่นนี้กลับมาสานต่อจนกระทั่งจบฤดูกาล

หากถามว่า 11 ผู้เล่นชุดประวัติศาสตร์ของ บาเยิร์น มิวนิค ณ ปัจจุบัน พวกเขายังคงอยู่กับสโมสร, ย้ายไปเล่นกับสโมสรอื่น หรือ ยุติอาชีพค้าแข้ง ใครเป็นอย่างไรบ้างไปติดตามกันครับ


1.มานูเอล นอยเออร์ (ผู้รักษาประตู)

นอยเออร์ ย้ายจาก ชาลเก้ มาเฝ้าเสากับ บาเยิร์น มิวนิค ช่วงหน้าร้อนปี 2011 หลังนำทีมราชันสีน้ำเงินคว้าแชมป์ เดเอฟเบ แต่เขาต้องทนรับความเจ็บปวดราวหนึ่งปีหลัง ดอร์ทมุนด์ ยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ ฟาด'ดับเบิ้ลแชมป์' ทั้ง บุนเดสลีกา กับ เดเอฟเบ โพคาล ในซีซั่น 2011-2012 ก่อนลงเอยด้วยการเป็นพระรองทั้ง 3 รายการหลังการดวลเป้าพ่าย เชลซี ในนัดชิงชนะเลิศของเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก 

ความผิดหวังจากซีซั่นดังกล่าวกลายเป็นแรงผลักดัน นอยเออร์ และชาวคณะจนพลิกสถานะจาก'รองแชมป์'ทั้ง 3 รายการมาเป็นการคว้า'ทริเปิ้ลแชมป์' นายทวารทีมเสือใต้ยังทำสถิติเก็บคลีนชีต 26 นัดจากการลงเฝ้าเสา 49 เกมทุกรายการ ซึ่งรวมถึง 2 เกมรอบควอเตอร์ไฟนัลกับ ยูเวนตุส และรอบตัดเชือกกับ บาร์เซโลน่า อีกสองนัด 

นอยเออร์ มีส่วนสำคัญต่อการคว้าแชมป์บุนเดสลีกาตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เขายังคว้าแชมป์ เดเอฟเบ 4 สมัย, เดเอฟแอล ซูเปอร์ คัพ 4 ครั้ง, แชมป์ ซูเปอร์ คัพ กับ แชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ รายการละครั้ง ปัจจุบัน นอยเออร์ ยังมีสัญญากับ บาเยิร์น มิวนิค จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2021 แต่การเจรจาเพื่อขยายสัญญากับนายทวารวัย 34 ปียังไม่ลงตัว ทว่าน่าจะมีความชัดเจนหลังจบฤดูกาลนี้ 


2.ฟิลิปป์ ลาห์ม (แบ็กขวา)

ฐานะกัปตันทีมเสือใต้ มันคือเกียรติยศของ ลาห์ม ที่เป็นคนชูโทรฟี่แชมป์ทั้งสามรายการในปี 2013 หลังอยู่กับสโมสรบ้านเกิดมานานกว่า 11 ปี เขาลงเล่น 46 เกมจากทุกรายการและยังมีส่วนร่วมกับการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกอีก 12 เดือนหลังจากนั้นพร้อม มานูเอล นอยเออร์ และเพื่อนร่วมค่ายอีกหลายคน 

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้สืบทอดตำแหน่งจาก'ป๋าจุ๊ปป์' ยกว่า ลาห์ม ว่า 'หนึ่งในผู้เล่นยอดเยี่ยมที่สุดที่ผมเคยฝึกสอนและเป็นหนึ่งในผู้เล่นฉลาดที่สุด' ก่อนอดีตบอสบาร์เซโลน่าจะปรับตำแหน่ง ลาห์ม มาเล่นแดนกลาง ซึ่งนักเตะทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมในบทบาทดังกล่าวและไม่ทำฟาวล์แม้แต่ครั้งเดียวนานกว่าหนึ่งปีที่ลงเล่นตำแหน่งนั้น ขยายความถึงคำยกย่องของ'เป๊ป'ได้เป็นอย่างดีว่าเป็นนักเตะที่เล่นด้วยสมอง

ในปี 2017 ด้วยวัย 33 ปี ลาห์ม ตัดสินใจยุติอาชีพค้าแข้งหลังการกอบโกยความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับ บาเยิร์น มิวนิค จากการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 8 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 6 สมัย, เดเอฟแอล ซูเปอร์ คัพ 3 ครั้ง, เดเอฟแอล ลีกาโพคาล 1 ครั้ง, ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย และ แชมป์ฟุตบอลโลก โดยไม่เคยถูกไล่ออกจากสนามแม้แต่ครั้งเดียว 

ต่อมา ลาห์ม ได้รับการแต่งตั้งเข้าสู่'ฮอล ออฟ เฟม'ของ บาเยิร์น มิวนิค เขามีส่วนร่วมกับการทำธุรกิจหลายอย่างและเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของศึกยูโร 2024 ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศเยอรมัน


3.เยโรม บัวเต็ง (เซนเตอร์)

บัวเต็ง ย้ายจาก แมนฯซิตี้ มาค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงเวลาเดียวกับ นอยเออร์ ดังนั้นเขาจึงประสบกับความเจ็บปวดในการค้าแข้งกับทีมเสือใต้ซีซั่นแรกไม่ต่างจากนายทวารเพื่อนร่วมทีม ณ ตอนนั้นอายุ 24 ปี อดีตแนวรับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน, ฮัมบูร์ก และ แมนฯซิตี้ ได้เติบโตขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์ดีที่สุดในโลก แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเปิดเกมรุกจากแดนหลังด้วยการเปิดบอลยาว 

กองหลังชาวเบอร์ลินลงเล่น 40 เกมทุกรายการในช่วงซีซั่น 2012-2013 เขามีส่วนช่วย บาเยิร์น มิวนิค เสียเพียง 33 ประตูจากการลงเล่นฤดูกาลนั้นมากกว่า 50 เกมและผ่านมาถึงตอนนี้ บัวเต็ง มีส่วนร่วมกับทีมเสือใต้มากกว่า 300 เกม และเป็น 1 ใน 5 นักเตะชุด'ทริเปิลแชมป์'ที่ยังคงอยู่กับทีมยักษ์ใหญ่แคว้นบาวาเรีย 

อย่างไรก็ตามด้วยอายุที่มากขึ้น (31 ปี) และการบาดเจ็บทำให้ บัวเต็ง มีส่วนร่วมกับทีมเสือใต้น้อยลง เขาลงเล่นเพียง 27 เกมต่อซีซั่นและไม่เคยลงสนามมากกว่า 20 เกมบนเวทีบุนเดสลีกาตลอด 5 ฤดูกาลหลังสุด แต่อดีตแนวรับชุดแชมป์ฟุตบอลโลกยังพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นเซนเตอร์ที่่เชื่อถือได้หากร่างกายฟิตสมบูรณ์ เขายังคงเป็นผู้เล่นตัวหลักของเทรนเนอร์ ฮันซี่ ฟลิค ภายใต้สัญญาที่ยังเหลืออีกหนึ่งซีซั่น


4.ดานเต้ บอนฟิม (เซนเตอร์)

ดานเต้ บอนฟิม คอสต้า ซานโตส ย้ายจาก มึนเช่นกลัดบัค มาค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์ปี 2012 เขาปรับตัวเข้ากับทีมเสือใต้ของ'ป๋าจุ๊ปป์'อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะการจับคู่เล่นเป็นกองหลังตัวกลางร่วมกับ เยโรม บัวเต็ง มีส่วนช่วย บาเยิร์น มิวนิค ทำลายสถิติเก็บคลีนชีตมากสุดและเสียประตูน้อยสุดบนเวทีบุนเดสลีกา แม้เขาจะทำฟาวล์ มาร์โค รอยส์ จนเสียลูกจุดโทษแบนเกมชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ก็ตาม แต่เซนเตอร์ชาวบราซิเลียนยังเป็นที่ชื่นชอบของสาวกทีมเสือใต้และวิก'อาโฟร'ซึ่งเลียนแบบทรงผมของเขายังฮอตฮิตในหมู่แฟนบอลช่วงเวลานั้นด้วย

เขาค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยความโดดเด่นตลอด 3 ซีซั่นแรก ดานเต้ มีส่วนร่วมกับทีมชาติบราซิลชุดทำศึกฟุตบอลโลกปี 2014 เขาลงเล่นเพียงเกมเดียวแต่เป็นแมตช์ที่น่าอับอายมากสุดของทัวร์นาเมนต์ หลังทีมแซมบ้าพ่ายทัพอินทรีเหล็กยับเยิน 1-7 ในรอบรองชนะเลิศ ก่อน บาเยิร์น มิวนิค จะปล่อยเขาย้ายมาค้าแข้งกับ โวล์ฟสบวร์ก ในช่วงซัมเมอร์ปีถัดมา จากนั้นจึงย้ายมาเล่นกับ นีซ ของฝรั่งเศสและยังคงเล่นจนถึงปัจจุบันด้วยวัย 36 ปี


5.ดาวิด อลาบา (แบ็กซ้าย)

มันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งสำหรับ อลาบา ที่ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนจะมีส่วนร่วมคว้า'ทริเปิลแชมป์'กับทีมเสือใต้ก่อนหน้าเขาอายุครบ 21 ปีเพียงไม่กี่สัปดาห์ แม้เขาจะพลาดการลงเล่นช่วงต้นฤดูกาล 12 เกมเนื่องจากการบาดเจ็บ แต่เมื่อฟูลแบ็กชาวออสเตรียนฟิตสมบูรณ์ เขากลับมาลงเล่นทุกนาทีบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบน็อกเอาท์ เขายิงประตูในเกมดวล ยูเวนตุส รอบควอเตอร์ไฟนัลและทำแอสซิสต์ทั้งสองเกมในรอบรองชนะเลิศกับ บาร์เซโลน่า

ปัจจุบัน อลาบา อายุเพียง 27 ปี แต่เขายังสะสมความสำเร็จสร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลต่อเนื่องจากการคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา 8 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 4 สมัย, เดเอฟแอล ซูเปอร์ คัพ 2 ครั้ง, ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 1 ครั้ง และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 ครั้ง เขาลงเล่นกับทีมเสือใต้มากกว่า 370 เกมและพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นอาวุธเอนกประสงค์โดยเฉพาะการรับผิดชอบพื้นที่ฝั่งซ้ายทั้ง แบ็ก และ ปีก หรือแม้กระทั่งการเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง รวมถึงบทบาทล่าสุดฐานะเซนเตอร์ หลังทีมเสือใต้มีปัญหานักเตะตำแหน่งดังกล่าวบาดเจ็บหลายคน 


6.ฆาเบียร์ มาร์ตีเนซ (มิดฟิลด์ตัวรับ)

ฆาบี มาร์ตีเนซ พบความผิดหวังในช่วงฤดูกาล 2011-2012 หลังย้ายจาก แอธเลติก บิลเบา มาค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งเป็นการสะสมความชอกช้ำเพิ่มเติมหลังเคยปราชัยทั้งในเกมชิงชนะเลิศของศึก โกปา เดล เรย์ และ ยูโรปาลีก ร่วมกับทีมดังแคว้นบาสก์ยุค มาร์เซโล่ บีเอลซ่า ซีซั่นก่อนหน้านั้น แต่ความผิดหวังดังกล่าวกลายเป็นแรงผลักดันจนกระทั่งประสบความสำเร็จด้วยการคว้า'ทริเปิลแชมป์'กับทีมเสือใต้ในปี 2013 ซึ่งเขาลงเล่นในช่วงซีซั่นดังกล่าวมากกว่า 40 เกม

อดีตมิดฟิลด์ของ แอธเลติก บิลเบส ลงเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค มากกว่า 230 เกม ส่วนใหญ่จะรับบทบาทเป็นมิดฟิลด์ตัวโฮลด์บอลหรือเซนเตอร์ขึ้นอยู่กับความต้องการของทีมหรือโค้ช เขาน่าจะมีโอกาสลงเล่นกับทีมเสือใต้มากกว่านี้หากไม่มีอาการบาดเจ็บมาเป็นอุปสรรค แต่ถึงกระนั้นมิดฟิลด์ชาวสเปนยังเป็นนักเตะที่คว้าชัยชนะครบ 100 เกมเร็วสุดบนเวทีบุนเดสลีกสจากการลงเล่น 120 เกม ทำลายผลงานเดิมของ อาร์เยน ร็อบเบน ที่ใช้เวลาลงเล่น 126 เกม และจากการลงเล่น 142 เกมในเมืองเบียร์ ฆาบี มาร์ตีเนซ ยังพ่ายแพ้เพียง 12 ครั้งเท่านั้น 


7.บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ (มิดฟิลด์) 

เขารู้จักในมิวนิคในฐานะ 'เทพเจ้าฟุตบอล' เขาเป็นเด็กท้องถิ่นที่เปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ของ บาเยิร์น มิวนิค หลังการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกปี 2001 'บาสตี้'เติบโตขึ้นมาจากทุกระดับของสโมสร ขณะที่พวกเขายังคงมีความทะเยอทะยานนานกว่าทศวรรษในการครองบัลลังก์ยุโรปอีกครั้ง หลังจาก ชไวน์สไตเกอร์ ยิงจุดโทษคนสุดท้ายพลาดในนัดชิงชนะเลิศของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่น 2011-2012 จนพ่าย เชลซี 3-4 ก่อนจะแก้ตัวการคว้าชัยชนะในเกมชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์ในอีก 12 เดือนต่อมาหลังการคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา และ เดเอฟเบ โพคาล ก่อนหน้านั้น

ชไวนี่ เป็นอีกหนึ่งแข้ง บาเยิร์น มิวนิค ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2014 ในช่วงซัมเมอร์ปีถัดมาที่ประเทศบราซิล ก่อนเขาจะตัดสินใจย้ายออกจาก บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์ปี 2015 หลังการลงเล่นกับทีมเสือใต้มากกว่า 500 เกม คว้าแชมป์บุนเดสลีกา 8 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 7 ครั้ง โดยย้ายไปร่วมงานกับ หลุยส์ ฟาน กัล ที่ แมนฯยูไนเต็ด ก่อนร่วมกับทัพปีศาจแดงคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ, ลีก คัก และ ยูโรปาลีก จากนั้นจึงย้ายไปหาความท้าทายบนเวทีเมเจอร์ลีกกับ ชิคาโก้ ไฟร์ เขาช่วยต้นสังกัดผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟในซีซั่นแรกและตัดสินใจอำลาเกมลูกหนังในช่วงเดือนตุลาคมปี 2019 หลังการลงเล่นในสหรัฐอเมริกาเกือบ 100 เกม 


8.โธมัส มุลเลอร์ (มิดฟิลด์ตัวรุก)

มุลเลอร์ อยู่กับทีมดังแคว้นบาวาเรียตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ก่อนก้าวขึ้นมาสร้างชื่อกับ บาเยิร์น มิวนิค กับความสำเร็จอันน่าทึ่งและสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนใคร เขาทำ 23 ประตูกับ 17 แอสซิสต์จากการลงเล่น 47 เกมในซีซั่น 2012-2013 โดยเฉพาะผลงานบนเวทียุโรปที่กระทุ้ง 8 ประตู ซึ่งรวมถึง 3 ประตูในการเอาชนะ บาร์เซโลน่า ในรอบรองชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 2 นัด 7-0 

ตลอดอาชีพการค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค นาน 12 ฤดูกาล มุลเลอร์ ลงเล่นกับทีมเสือใต้มากกว่า 500 นัด รวมถึงกับทีมชาติเยอรมันอีกมากกว่า 100 เกม เขาทำประตูกับทีมดังแคว้นบาวาเรียเกือบ 200 ประตู เคยคว้ารางวัลดาวซัลโวฟุตบอลโลกปี 2010 และดาวซัลโวอันดับ 2 ของศึกฟุตบอลโลกปี 2014 เขาคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 8 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 5 สมัย, เดเอฟแอล ซูเปอร์ คัพ 5 ครั้ง, ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 1 ครั้ง และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 ครั้ง 

ทว่าความสำเร็จของ มุลเลอร์ ยังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้หลังเขาขยายสัญญาค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2023 


9.โทนี่ โครส (มิดฟิลด์ตัวรุก)

หนึ่งในผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จมากสุดที่เติบโตมาจากทีมเยาวชนเสือใต้ เขาเป็นส่วนสำคัญของ บาเยิร์น มิวนิค ชุดคว้า'ทริเปิ้ลแชมป์'ซีซั่น 2012-2013 หลังกลับมาจากสัญญายืมตัวกับ เลเวอร์คูเซ่น 3 ฤดูกาลก่อนหน้านั้น ซึ่งเขาทำ 9 ประตูกับ 12 แอสซิสต์ระหว่างการค้าแข้งในถิ่น'ไบอารีน่า' ก่อนหวนคืนสู่ถิ่น'อัลลีอันซ์ อารีน่า' แต่ก็ประสบความปวดร้าวในฐานะรองแชมป์ 3 รายการในซีซั่น 2011-2012 

ตอนนั้น โครส อายุเพียง 23 ปี ยังไม่ใช่เพลย์เมกเกอร์ที่มีความสามารถรอบด้านเหมือนทุกวันนี้ แต่น่าเสียดายที่เขาบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาจนพลาดการลงเล่นรอบรองชนะเลิศ รวมถึงนัดชิงชนะเลิศกับ ดอร์ทมุนด์ แต่ บาเยิร์น มิวนิค ยังมี อาร์เยน ร็อบเบน ที่ลงเล่นตัวจริงในเกมดังกล่าวก่อนเป็นผู้ทำประตูชัยนำทีมเสือใต้เชือดทีมเสือเหลือง 2-1 

โครส ลงเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค อีกปีเดียวในซีซั่น 2013-2014 ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หลังจากมีส่วนช่วย เยอรมัน คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ซึ่ง โครส ยิงสองประตูในเกมสอย บราซิล 7-1 ในรอบตัดเชือก เขาย้ายไปค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด หลังจากนั้นเนื่องจากฝ่ายบริหารทีมเสือใต้มองว่าเขาไม่ดีพอสำหรับการขยายสัญญาเพื่อรับเงินก้อนโต แต่ โครส พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นยอดแข้งและมีส่วนช่วยทัพ'โลส บลังโกส'คว้าแชมป์ยุโรป 3 สมัยติดต่อกัน 


10.ฟร้องค์ ริเบรี่ (มิดฟิลด์ตัวรุก)

ริเบรี่ สร้างชื่อฐานะนักเตะที่คว้าแชมป์บุนเดสลีกามากสุด 9 สมัยจากการค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค นาน 12 ปี เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะยิ่งใหญ่สุดตลอดกาลของลีกเมืองเบียร์ เขายังมีส่วนสำคัญต่อการคว้า'ทริเปิ้ลแชมป์'ซีซั่น 2012-2013 ซึ่งถือเป็นฤดูกาลดีที่สุดของเขาฐานะแข้งเสือใต้ ปีกชาวฝรั่งเศสยิง 11 ประตูและทำ 23 แอสซิสต์จากการลงเล่น 43 เกมในซีซั่นนั้นและตบท้ายในฐานะอันดับ 3 ของรางวัล บัลลง ดอร์ ตามหลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของ เรอัล มาดริด กับ ลิโอเนล เมสซี่ ของ บาร์เซโลน่า 

ปีกชาวฝรั่งเศสคว้าแชมป์กับ บาเยิร์น มิวนิค รวมกัน 24 รายการตลอด 12 ปีที่เขาเล่นกับทีมเสือใต้ โดยลงสนามรวมกัน 425 เกม ยิง 124 ประตู ก่อน ริเบรี่ จะตัดสินใจอำลาถิ่น'อัลลีอันซ์ อารีน่า'หลังจบฤดูกาล 2018-2019 พร้อมเพื่อนสนิทอย่าง ร็อบเบน ปัจจุบันปีกชาวฝรั่งเศสยังค้าแข้งอยู่กับ ฟิออเรนติน่า ซึ่งปีกวัย 37 ปีลงเล่น 11 เกมในซีซั่นนี้ก่อนฤดูกาลจะถูกระงับเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 


11.มาริโอ มานด์ชูคิช (กองหน้า)

มานด์ชูคิช เลือกช่วงเวลาเหมาะสมที่สุดในการค้าแข้งเพียง 2 ปีกับ บาเยิร์น มิวนิค เขาย้ายจาก โวล์ฟสบวร์ก ในช่วงซัมเมอร์ปี 2012 และมีส่วนร่วมกับการคว้า'ทริเปิ้ลแชมป์' ตั้งแต่การเล่นกับทีมเสือใต้ซีซั่นแรก เขายิง 21 ประตูจากการลงเล่น 39 เกมทั้งบนเวที บุนเดสลีกา, ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก และ เดเอฟเบ โพคาล บทบาทสำคัญสุดของกองหน้าโครแอตคือการทำประตูให้ บาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำในนัดชิงชนะเลิศของ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ที่เวมบลีย์ ก่อนทีมเสือใต้จะเบียดคว้าชัยด้วยสกอร์ 2-1

เขาลงเล่นกับทีมเสือใต้ในฤดูกาลถัดมา โดยยิง 18 ประตูจากการลงเล่น 30 นัดพร้อมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาสองสมัยติดต่อกัน ปิดท้ายด้วยสถิติน่าประทับใจด้วยการยิง 48 ประตูจากการลงเล่น 88 เกมกับ บาเยิร์น มิวนิค 

มานด์ชูคิช ย้ายมาค้าแข้งกับ แอตเลติโก มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ก่อนโยกมาอยู่กับ ยูเวนตุส ซีซั่นถัดมา ปัจจุบันเขาค้าแข้งกับ อัล-ดูฮาอิล สโมสรกาตาร์หลังย้ายมาร่วมทีมในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา 


สำรอง : ทอม ชตาร์เค่ (ผู้รักษาประตู), โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ดาเนียล ฟาน บุยเตน, ลุยซ์ กุสตาโว่, อนาโตลี ตีมอชชุค, เซอร์ดาน ชากิรี่, อาร์เยน ร็อบเบน, มาริโอ โกเมซ, เคลาดิโอ ปีซาร์โร่ 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด