:::     :::

"เลือดแห่งปีศาจ ลมหายใจจากป๋า จิตวิญญาณแห่งคันโตน่า" นั่นล่ะเขา Patrice Evra

วันศุกร์ที่ 08 พฤษภาคม 2563 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
10,837
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แบ็คซ้ายผู้กรีดเลือดออกมาเรียงกันเป็นชื่อแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เอฟร่าเผยถึง5เรื่องราวสำคัญในโรงละครแห่งความฝัน รวมถึงการเป็นหนึ่งในลูกเรือป๋าที่ทั้งคู่รักกันมากๆอย่างแท้จริง

อดีตดาวเตะแห่งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่าง ปาทริซ เอฟร่า ได้ร่วมพูดคุยกับepisodeใหม่ของUTD Podcastกับทางสโมสร โดยแข้งฝรั่งเศสผู้นี้ได้เล่าถึงเรื่องราวต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นการได้เรียนรู้จากเซอร์อเล็กซ์เฟอร์กูสัน และเปิดเผยถึงแมตช์ที่เขาประทับใจ รวมถึงเผยความจริงที่ว่า การเอาชนะทีมไหนได้มันเจ๋งที่สุด ก่อนที่จะย้อนความเรื่องที่เกือบจะออกจากยูไนเต็ดไปอยู่กับเรอัล มาดริด และท้ายสุด กับสิ่งที่เอริคเดอะคิงบอกกับเขาตอนที่ได้เจอกันเป็นครั้งแรกในที่สุด

นี่คือเรื่องราวทั้ง5ข้อที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นปีศาจแดงเข้าเส้นเลือดแดง ไหลซึมเข้ากระดูกดำของชายคนนี้ อ่านแล้วคุณจะยิ่งหลงรักเขามากยิ่งขึ้นไปอีก

1.การได้เรียนรู้เรื่องความจงรักภักดีจากบอส

ก่อนที่เขาจะย้ายมาสู่ชายคาโอลด์แทรฟฟอร์ดนั้น เอฟร่านั้นมีความสัมพันธ์ที่ระหองระแหงกับอดีตผู้จัดการทีมของเขาบางคน ถึงแม้แค่จะเอ่ยถึงเรื่องราวขึ้นมาเฉยๆก็ตาม มันมีรอยแผลบางอย่างหลงเหลืออยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขาอยู่กับยูไนเต็ด กองหลังรายนี้ก็เล่าให้ฟังถึงเรื่องที่ป๋านั้นรับฟังและให้คุณค่ากับความคิดเห็นของเขา และยกตัวอย่างขึ้นมาเป็นเรื่องราวตอนที่แข่งเกมยุโรปอยู่

"ผมคิดว่าผมได้เรียนรู้สิ่งที่เรียกว่าความจงรักภักดีนะ เขารับฟังทุกๆอย่างเสมอ ก่อนที่จะถึงช่วงซ้อมป๋าเรียกผม และผมก็ไปที่ห้องทำงานของเขา ป๋าถามผมว่า ในเกมถ้วยยุโรปเราจะใช้แผนอะไรเล่นดี  ผมนี่แบบ เฮ้ย นี่เขาขอความช่วยเหลือจากผมเหรอนี่ คนฝรั่งเศสตัวเล็กๆคนนึงเนี่ยนะ"

"ป๋าถามความคิดเห็นของผม และผมก็บอกไปว่า ถ้าเราเล่น4-3-3 เราจะมีม้าเร็วสายสปีดหลายคนเลยที่เล่นงานทีมต่างๆในยุโรปได้"   จากนั้นป๋าก็บอกผมว่า 'ขอบใจมากลูก ป๋าก็คิดเหมือนเอ็งนี่แหละ' และเกมยุโรปนัดต่อมาที่เกิดขึ้นป๋าก็ใช้ 4-3-3 เล่นจริงๆ"

"เฟอร์กูสันอาจจะเป็นคนที่ตรงไปตรงมาและก็มีความเฮี้ยบ แต่ว่าเขาจะยินดีรับฟังทุกอย่าง ถ้าเขารู้ว่าคุณเป็นคนที่มีความจงรักภักดีให้กับสโมสรในระดับที่ยอมตายเพื่อที่นี่ได้ เมื่อนั้นแหละเฟอร์กูสันก็จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้คุณเหมือนกัน"

ลงไปฟัดกับซุนจีไห่ของแมนซิตี้ในเกมเดบิวต์

2.ย้อนอดีตกลับไปสู่เกมเปิดตัววันแรก

ในการพูดคุยนี้ ปาทริซพูดถึงช่วงแรกๆที่ไม่มั่นคงของเขา ในตอนที่เพิ่งย้ายมาจากAS Monaco มาสู่ยูไนเต็ดในเดือนมกราคมปี2006 เขาคุยกับเอเย่นต์ส่วนตัวว่า เขารู้สึกว่าเขาตัดสินใจผิด, คุยถึงเรื่องเสื้อแจ็คเก็ตกากๆที่เขาใส่ตอนเปิดตัวครั้งแรก และยังเปิดเผยด้วยว่าเขาโดนป๋ากดอัลติ "แฮร์ดรายเออร์" ใส่เขาในช่วงพักครึ่งเกมเดบิวต์ที่เผชิญหน้ากับแมนเชสเตอร์ซิตี้

ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่ดาวเตะเฟร้นช์แมนผู้นี้ก็เท้าความว่า ยังไงก็ตาม นัดแรกของเขาในสีเสื้อแดงเพลิงนั้นเป็นอะไรที่เขาอยากจะนึกถึงทุกๆครั้งที่มีโอกาส

"ผู้คนชอบถามผมว่า ช่วงโมเมนต์ที่ดีที่สุดของผมคือตอนไหน และพวกเขาเหล่านั้นก็อยากจะฟังคำตอบที่เขาอยากฟัง แต่ว่าผมจะตอบว่า เกมดาร์บี้เมืองแมนนั่นแหละ เกมแรกเกมนั้น เพราะว่าทุกอย่างนั้นใหม่มากสำหรับผม ผมโดนตบหน้าฉาดใหญ่เลย เพราะตัวเองดันคิดว่าเรากลายเป็นนักเตะคนดังแล้ว

"เอเย่นต์บอกว่า เขาไม่เชื่อผม ซึ่งตอนนั้นภรรยาเขาก็อยู่ตรงนั้นด้วย คือเฟอร์กี้ hairdryer ใส่ผมจริงๆ มันทำให้ผมได้สติว่า เฮ้ นายจำเป็นต้องทำงานให้โคตรหนักสุดๆเลยนะถ้าหากอยาจะอยู่เป็นนักเตะแมนยูอยู่ที่นี่ นั่นแหละห้วงโมเมนต์นั้นมันจึงเป็นเหตุการณ์ที่ผมอยากย้อนรำลึกมันอีกครั้ง เพราะถึงแม้ว่ามันอาจจะดูแย่และเป็นช่วงที่ลำบาก แต่ว่าผมกลับได้รับสิ่งดีๆจากเรื่องราวนี้

3.การสอยอาร์เซนอล

คำถามหนึ่งที่น่าสนใจที่ได้ถามแบ็คซ้ายของเราผู้นี้นั้น นั่นก็คือ สโมสรไหนที่เขาชอบมากเวลาที่เอาชนะได้ในระหว่างที่ค้าแข้งให้ยูไนเต็ด ซึ่งเอฟร่าและเพื่อนร่วมทีมนั้นเอาชนะคู่ปรับตัวฉกาจมากมายหลายทีมมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล หรือว่าอริในถิ่นเดียวกันอย่างแมนซิตี้ แต่ว่าการจัดการกับไอ้ปืนใหญ่ได้ต่างหากที่ทำให้ปาทริซรู้สึกสะใจที่สุด

"โอ้ อาร์เซนอลไงล่ะ ผมจะบอกปรัชญาของผมให้นะ การชนะแมนเชสเตอร์ซิตี้มันเหมือนเราแค่เอาชนะคนข้างบ้านได้น่ะ พวกเขาทำตัวหนวกหู และเมื่อชนะได้คุณก็รู้สึกแบบว่า อื้ม เยี่ยม ส่วนถ้าเราชนะเชลซีได้ มันเหมือนกับว่า เราจะได้แชมป์ลีก เพราะผมคิดว่าเชลซีเป็นทีมเดียวที่ใกล้เคียงพวกเราที่สุด หมายถึงลักษณะทั่วๆไปของทีมน่ะนะ แบบว่าบุคลิก คาแรคเตอร์ การฝึกซ้อมที่ดี การที่ทีมมีพลังงานอัดแน่น สปีดที่เฟี้ยวฟ้าว ส่วนความรู้สึกที่ดีที่สุดมันคือการชนะลิเวอร์พูลได้ที่แอนฟิลด์ นั่นเยี่ยมสุด และแบบนั้นแหละการไปแพ้ที่แอนฟิลด์มันถึงได้แย่ที่สุดเช่นกัน"

น่อลโดนแมนยูเค้าท์เตอร์สวยๆยุคนั้นไปหลายดอก โดยใช้นักเตะเพียงสามคนเท่านั้นในเพลย์คือ ปาร์ค รูน โด้ วิ่งกันอย่างบ้าคลั่ง

"กับอาร์เซนอล ตอนที่เราชนะเขา 3-1 ที่เอมิเรตต์ คุณจำลูกที่เรายิงประตูจากลูกเคาท์เตอร์แอ็ทแท็คของปาร์ค รูนีย์ และโรนัลโด้ได้ไหม คือพอหลังจบเกมนักข่าวฝรั่งเศสพูดประมาณว่า โอ้ ผลการแข่งขันไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงของเกมเลย  ผมเลยสวนกลับไปว่า เฮ้ย นี่พูดจริงๆเหรอเนี่ย? ผมกลับคิดว่าวันนี้มันเหมือนการเล่นระหว่าง ผู้ใหญ่11คน รังแกเด็ก11คนของอีกทีมเลยนะ"

"ตัวผมเองนับถือสโมสรอาร์เซนอลมากๆ แต่ว่ามันเป็นแค่ความรู้สึกของผมตอนที่ได้ลงสนามเจอกับพวกเขา ผมรู้ว่าผมจะชนะแน่ๆด้วยความสัตย์จริงเลย ผมลงเล่นกับพวกเขา และพอผ่านไป34นาที เขาเดินมาคุยกับผมว่า เฮ้ย ปาทริซ ครึ่งหลังเราแลกทีมกันไหมเพื่อน?"

"ผมนี่แบบว่า โอ้.. กูชนะแล้วล่ะเกมนี้"

ภาพอดีตในขณะที่กำลังดวลแข้งกับนักบอลรายหนึ่งของมาดริด ทางเราขออนุญาตสงวนการเปิดเผยใบหน้าคนร้าย

4.เกือบจะย้ายไปเรอัล มาดริด

เรื่องราวนี้อาจจะแตกต่างออกไปสำหรับเอฟร่า ที่สารภาพว่าเขาเกือบจะย้ายจากยูไนเต็ดไปลงเอยกับเรอัล มาดริดแล้วในช่วงซัมเมอร์ปี 2010 แต่อย่างไรก็ตาม สกิลด้าน"การบริหารจัดการคน"ของเซอร์อเล็กซ์นั้นได้สำแดงอย่างชัดเจนใสเคสนี้ ด้วยผลลัพธ์ก็คือการที่ปาทริซยอมฝากอนาคตไว้กับสโมสรอีกครั้งด้วยการเซ็นสัญญาใหม่ถึง4ปีเต็ม กองหลังผู้นี้เปิดเผยอย่างชัดเจนว่า สุดท้ายแล้วเขาตัดสินใจได้ง่ายมากๆ

"ผมจำได้หลังฟุตบอลโลก2010 เราซ้อมปรีซีซั่นที่ชิคาโก ผมโทรไปบอกเจ้านายว่าผมอาจจะไปมาดริด เขาบอกให้ผมไปหาเขาที่ชิคาโก ผมก็เลยจับเครื่องบินตรงไปเลย บอสช็อคมากที่เห็นว่าผมตั้งใจจะไปจริงๆ เขาบอกผมให้กลับมาหาเขาอีกครั้งอาทิตย์หน้าที่แมนเชสเตอร์แล้วกัน เดี๋ยวเขาจะตัดสินใจเรื่องของผม แต่เขาก็บอกว่า ยังไงเขาก็จะอยู่เคียงข้างผมเสมอและก็จะคอยช่วยเหลือผมด้วย  ผมพูดว่า บอส.. ผมต้องการแค่อย่างเดียวแหละ นั่นคืออยากให้คุณอนุญาตให้ผมไป เพราะยังไงก็ตาม ผมกำลังจะหมดสัญญาแล้ว ยังไงคุณก็ต้องปล่อยผมไปอยู่ดี'"


"เขาบอกให้ผมไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ หยุดพักวีคเอนด์ให้มีความสุข แถมยังเพิ่มวันหยุดให้ผมเป็นพิเศษอีก ดังนั้นพอผมได้กลับไปที่สนามฝึกแคร์ริงตันอีกครั้ง ผมถามหาว่าบอสอยู่ไหน ทุกๆคนก็บอกว่า วันนี้จารย์ไม่เข้าออฟฟิศนะ ผมนี่แปลกใจมาก ก็ไหนว่าให้ผมมาหาเขา  แต่ทำไมเขาไม่อยู่อ่ะ ไม่เข้ามาด้วยซ้ำ  วันรุ่งขึ้นผมมาด้วยความหงุดหงิดมาก เดินไปเคาะประตูออฟฟิศเขา ผมบอกไปว่า คุณรู้ไหมเมื่อวานผมรอทั้งวัน เขาเลยถามผมกลับมาว่า ผมอยากจะได้อะไรบ้างที่ต้องการให้บอกมา ป๋าบอกว่าเขาเสียใจมาก และเขาพยายามที่จะควานหาแบ็คซ้ายคนอื่นไปทั่วแล้วเพื่อจะมาแทนตรงนี้  แต่ว่าเขาหาใครที่เหมือนกับผมไม่ได้เลย  ผมเลยบอกป๋าว่า แน่นอน คุณคงต้องหาแบ็คซ้ายที่ต่างออกไป และไม่มีทางหาใครได้เหมือนกับผมแน่นอน เพราะผมโคตรยูนิคไง"

"เขากุมมือของผมไว้ แล้วบอกให้ผมเชื่อใจในตัวเขาแล้วเซ็นต่อสัญญาออกไปอีก4ปี แม้กระทั่งเอเย่นต์ของผมเองก็มีส่วนกับการย้ายทีมครั้งนี้ด้วยเพราะว่าค่านายหน้าที่จะได้มันสูงมากๆกับมาดริด และมันก็ไม่เหมือนกับที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เอเย่นต์บอกว่า ถ้าผมไปที่นั่น ผมอาจจะได้เงินมหาศาลและจะรวยกว่านี้เยอะ แต่ว่าจิตใจ ทัศนคติ และปรัชญาของผมนั้นมันคือแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ดังนั้นผมเลยเลือกที่จะอยู่โยงที่นี่ต่อ ถึงแม้จะได้เงินน้อยกว่าก็ตามที  ผมตัดสินใจเลือกได้อย่างง่ายดายเลย และเมื่อผมได้เซ็นสัญญาใหม่ที่นี่ ผมรู้สึกว่าผมมีความสุขที่สุดในโลกใบนี้เลยทีเดียวล่ะ"

5.สิ่งที่เอฟร่าพูดถึงเอริคเดอะคิง

และสุดท้าย เอฟร่าได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจของเขาต่อดาวเตะฝรั่งเศสของทีมคนก่อนอย่าง เอริค คันโตน่า ซึ่งปาทริซนั้นขออุทิศแชมป์ลีกครั้งแรกที่ได้นั้นให้กับยอดกองหน้าผู้นี้ และชื่นชมในคุโณปการของชายคนนี้กับยูไนเต็ด ที่มีผลต่อนักฟุตบอลฝรั่งเศสอีกมากมาย

"ตอนที่เขามาโอลด์แทรฟฟอร์ด และเมื่อผมได้พบเขา ผมรู้สึกปลื้มปริ่มว่า ว้าว ตอนนั้นที่ผมได้แชมป์ลีกครั้งแรก ผมได้ธงชาติฝรั่งเศสที่มีรูปของเอริคอยู่ตรงกลางด้วย ผมต้องการมอบแชมป์ลีกแรกของผมที่นี่ให้เอริคด้วยเหตุผลที่ธรรมดาๆมาก เพราะว่าในห้วงคำนึงของผมแล้วนั้น ถึงจะเคยได้เจอเขามาเมื่อ7เดือนก่อนแล้ว ผมรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่า ทุกๆครั้งที่ลงเล่น ผมเผชิญกับแรงกดดันมากพอควรเลย เพราะเคารพในสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับที่แห่งนี้"

"เขาได้เปิดประตูบานใหญ่เอาไว้ให้สำหรับนักบอลฝรั่งเศสเลย และผมต้องการที่จะทำให้แน่ใจว่าผมเคารพกับประเพณีดังกล่าวนั้น จำได้แม่นเลยกับสิ่งที่เอริคพูดชมเชยผมเอาไว้ว่า 'ปาทริซ สิ่งที่นายทำเอาไว้ มันมากกว่าแค่การเปิดประตูที่ว่านั่นซะอีก ยอดเยี่ยมมากๆ' ซึ่งการได้รับคำชมแบบนี้จากเดอะคิงนั้น ผมมีความสุขมากๆเลยจริงๆ"

ประเทศฝรั่งเศสนี่เค้ามีหลักสูตรสอนกังฟูคิกในโรงเรียนทุกคนเลยรึเปล่านะ -.,-

และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวที่ได้บ่งบอกอย่างชัดเจนที่สุดว่า ปาทริซ เอฟร่า นั้น คืออีกหนึ่งนักเตะที่ ระหว่างค้าแข้งอยู่เราอาจจะได้เห็นบทบาทของเขาแค่เพียงในฐานะนักเตะแบ็คซ้ายที่Passionสูงที่สุดคนนึง  จากชายผู้ย้ายเข้ามาพร้อมกับเนมันย่า วิดิช พร้อมด้วยป้ายแปะบนหัวว่า "พวกมันสองคนนี่ใครวะ" อยู่ดีๆก็เซ็นเข้ามา กระแสข่าวอะไรก็ไม่แรงเหมือนเวลาซื้อนักเตะซุปเปอร์สตาร์เข้าทีมเหมือนคนอื่น ยิ่งกับเอฟร่าที่โหงวเฮ้งแรกๆนี่ไม่มีอะไรบ่งบอกเลยว่าจะเก่งอะไร แถมช่วงแรกฟอร์มก็ยังไม่ปังเพราะต้องปรับตัว

แต่พอปรับตัวได้แล้วเหมือนทุกอย่างติดลมบน และเครื่องจักรกลแห่งชัยชนะในร่างจิ๋วของชายผู้นี้นั้น ได้อาศัย "เลือดของราชาปีศาจแดง" อย่างเอริค คันโตน่า ในการเป็นเชื้อเพลิงที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อสโมสรนี้ โดยมีเขาเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งเราจะไม่มีทางรู้ได้มากนักว่า นักเตะคนไหนทุ่มเทหรือรักสโมสรมากเพียงใด ก็ต่อเมื่อนักเตะคนนั้นย้ายออกจากทีมหรือแขวนสตั๊ดไปแล้ว เพราะระหว่างที่ค้าแข้งอยู่มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่นักเตะในทีมมักจะไม่พูดอะไรมาก ไม่สาวไส้ให้กากิน

หรือที่เรียกว่า "ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า" นั่นเอง

ทุกวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันได้ "พิสูจน์" ด้วยตัวมันเองแล้วว่า ชายคนนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับคำว่า "ตำนานแบ็คซ้ายของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด" อย่างเต็มภาคภูมิ

มันอาจจะไม่ได้มาจากฝีเท้าที่เป็นแบ็คซ้ายที่เก่งที่สุดในโลกหรือไม่ ก็ไม่ใช่ ช่วงหลังเมื่ออายุมากขึ้นก็ออกทะเลหาปลาพอสมควรอย่างที่เราเห็น หรือจากการคว้าแชมป์ลีก แชมป์ยุโรป? ก็ไม่เลย


แต่สิ่งที่ทำให้เอฟร่าเป็นตำนาน นั่นก็เพราะสิ่งที่เขาแสดงออกทั้งหมดตลอดเวลาที่ผ่านมา และเรื่องราวทั้งห้าอย่างที่เปิดเผยในวันนี้ ก็เปรียบเสมือน อีกห้าจอกของเลือดปีศาจที่มันเดือดพล่านอยู่ในทุกอณู / ลมหายใจที่ได้รับมาจากยอดบุรุษอย่างเฟอร์กูสัน และจิตวิญญาณแห่งดินแดนฝรั่งเศสที่สืบทอดมาจากนักฟุตบอลในตำนาาน

ผู้ชายคนนี้ยังคงเป็นคนของเรา เป็นปีศาจแดงอยู่อย่างเต็มตัว ไม่ว่าแกจะไปปรากฏตัวที่ไหนก็ตาม แบ็คซ้ายที่โคตรได้ใจแฟนผีที่สุดในยุคนี้

'Absolute Red' Patrice Evra

-ศาลาผี-

References

https://www.manutd.com/en/news/detail/five-things-we-learned-from-the-patrice-evra-utd-podcast

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})