ก็ถือว่าเป็นการปลดล็อกไปก่อนหนึ่งเปราะยังดีกว่าห้ามแข่งกันนานกว่านี้ อย่างน้อยเราก็ยังมีกีฬาให้เชียร์แม้จะขาดสีสันข้างสนามไปก็เหอะ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีกีฬาซะเลย

ทว่าจากการยืนยันของ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเรื่องการไม่มีคนดูนี้เขาใช้คำว่า NO VACCINE, NO FANS นี่ก็ไม่ใช่ข่าวที่ดีนัก

เพราะไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว "วัคซีน" ที่จะป้องกันไวรัสโควิด-19 แบบสมบูรณ์แบบจะเริ่มใช้ได้จริงๆจังๆเมื่อไหร่ ตรงนี้ไม่มีใครระบุได้ด้วยซ้ำก็ได้แต่คาดกันไปต่างๆนานาๆ

แต่วันนี้ก็ดูเหมือนจะมีข่าวดีเรื่องนี้หน่อยตรงที่ว่า บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เตรียมที่จะผลิตวัคซีนจำนวน 1 พันล้านโดสออกมาในปี 2021 

ตรงนี้เท่ากับว่าเราจะต้องรอกันไปจนถึงปีหน้ากันเลยทีเดียว จึงจะมีผู้ชมเข้าไปดูในสนามแข่งขันได้ ซึ่งเรื่องแบบนี้สโมสรจะต้องทำใจที่จะต้องเผชิญกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นล่ะครับ เพราะกีฬาอาชีพถ้าคุณไม่มีคนดูก็จบข่าว

ก็ได้แต่หวังว่าเมื่อถึงเวลาจริงๆ ไวรัสเบาบางลงจนสามารถควบคุมได้แล้ว แม้ว่าจะไม่มีการค้นพบวัคซีนที่จะเอาชนะไวรัสตัวนี้ ทางรัฐบาลอังกฤษจะยอมให้มีผู้ชม โดยเริ่มจากการชมเว้นระยะก่อนก็ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า !

เงินค่าตัวเข้าชมเกมการแข่งขันในทุกๆกีฬานี่คือตัวหล่อเลี้ยงให้วงการหนีอยู่ได้เลยนะ จะไม่ให้มีคนดูเลยมันก็กระไรอยู่ เชื่อว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งมันก็ต้องมีการผ่อนปรนแหละ เพราะในขณะที้เรากำลังรอวัคซีนซึ่งก็ไม่รู้จริงๆว่าจะมาเมื่อไหร่ เราก็ต้องอยู่กับไวรัสให้ได้ 

เพราะในความเป็นจริงแล้วโรคต่างๆที่เคยระบาดในโลกนี้มันก็ยังคงอยู่ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่เรามีวัคซีนสกัดมันเอาไว้เท่านั้น ถ้าเราอยู่กับมันได้ เข้าใจวิธีป้องกันอย่างถ่องแท้ ปัญหาที่ใหญ่โตอยู่ทุกวันนี้ก็จะค่อยๆเบาบางเอง

คนในประเทศอังกฤษเวลานี้จะว่าไปแล้วเขาก็ไม่ได้ป้องกันชนิดเต็มรูปแบบอย่างที่บ้านเราทำหรอกนะครับ นี่ไงทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่เชื่อสิเมื่อกราฟการแพร่ระบาดมันไปถึงจุดหนึ่ง เดี๋ยวมันก็จะร่วงลงมาเอง แล้วเจ้าไวรัสมันก็จะลดน้อยลงไปเองตามธรรมชาติของมัน

โอเค ! เรารอวัคซีนครับ แต่ในขณะที่มันยังไม่มา ธรรมชาติของมนุษย์จะปรับตัวเข้ากับไวรัสได้เอง เพราะมนุษย์มีสัญชาตญานการเอาตัวรอด

วันหนึ่งเราจะอยู่กับมันได้ แม้จะไม่เจอวัคซีนก็ตาม และเมื่อถึงวันหนึ่งคนดูก็จะเข้ามาในสนามกีฬาเอง ติดบ้างไม่ติดบ้าง มันก็เป็นเรื่องธรรมดา

"แมวเพชร"