สำหรับศึกบุนเดสลีกา ที่ต้องหลีกทางให้กับสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตาม ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศเยอรมัน ก็ได้กลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งหนึ่ง โดยหนึ่งคู่ที่น่าสนใจ คือเกมดาร์บี้ แมตช์ ที่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดบ้านเอาชนะชาลเก้ 4-0
เกมดังกล่าว คนหนึ่งที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก นั่นคือเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กองหน้าของพลพรรค “เสือเหลือง” ที่เป็นผู้เบิกสกอร์แรกของเกม ทำให้เขายิงประตูในบุนเดสลีกา อย่างต่อเนื่อง รวมยอดแล้วก็ 10 ประตู (ไม่มีลูกจุดโทษมาผสมเลย) นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายหน้านาว ในเดือนมกราคม
ช่วงนี้ เราไปดูเบื้องหลังความสำเร็จ ในด้านการยิงประตูของเขากันหน่อย โดยเขาบอกว่า บุคคลที่ทรงอิทธิพลในเรื่องนี้ นั่นคือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สมัยที่ทั้งสองคนร่วมงานกันที่สโมสรโมลด์
“คนที่สอนผมจบสกอร์คือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา”
เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ดาวรุ่งวัย 19 ปี ออกมาย้อนความทรงจำ ที่เพิ่งผ่านพ้นมาไม่นานนัก โดยเกิดขึ้นตอนที่เขายังเป็นนักเตะของโมลด์ สโมสรในประเทศนอร์เวย์ แม้ว่าเขาจะอยู่กับทีมเพียงปีเศษ ทว่าการเล่นภายใต้การกุมบังเหียนของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา เขากลับได้เรียนรู้อะไรมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของการยิงประตู และเรื่องของแนวความคิดในการเล่นตำแหน่งกองหน้าว่า ไม่ควรเน้นไปที่การจดจ่อกับลูกบอลเพียงอย่างเดียว ควรอาศัยการเล่นในแนวทางอื่นผสมด้วย
โดยประสบการณ์บางอย่างของ “เพชรฆาตหน้าทารก” ที่ผ่านการพิสูจน์ และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สมัยที่เล่นตำแหน่งกองหน้ากับทั้งสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาตินอร์เวย์ ถูกกลั่นออกมาเป็นเคล็ดลับที่ถ่ายทอดมายังตัวของฮาลันด์ แน่นอนว่า เป็นวิชาที่เปรียบเสมือนกับจุดเริ่มต้น ทำให้ฮาลันด์ กลายเป็นดาวรุ่งที่กำลังไล่ล่า และยิงประตูคู่แข่งอย่างถล่มทลายอยู่ในเวลานี้
ฮาลันด์ ออกมาเล่าต่อว่า “เมื่อมองย้อนกลับไป ถือเป็นช่วงเวลาที่แปลกเหมือนกัน เหตุการณ์เริ่มต้นในช่วงปี 2018 โดยที่เกมดังกล่าวเป็นเหมือนกับจุดเปลี่ยนในเส้นทางลูกหนังของผม สามารถพูดแบบนั้นได้เลย”
“ผมมีเรื่องราวจะบอก ผมจำได้ว่า เราเผชิญหน้ากับทีมคริสเตียนซุนด์ ผลจบลงที่เราพ่ายไปด้วยสกอร์ 0-1 โดยก่อนจะจบเกม ผมพลาดโอกาส ในการเอาชนะผู้รักษาประตูของพวกเขาไป จากนั้น เรามีช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เล็กน้อย เราออกเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่มาร์เบญ่า เหมือนเป็นการสร้างความสัมพันธ์ภายในทีม และเปิดรับแสงแดด”
“หลังจากนั้น เรากลับมาแข่งขันอีกครั้ง ถ้าผมจำไม่ผิด เกมนั้นเราเจอกับทีมสตาเบ็ค ผมจำได้ว่าตัวเองมีโอกาสยิง และจบด้วยการยิงที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม ผมกลับซัดไปติดตรงกลาง ผมรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างติดค้างอยู่ในใจ”
ฮาลันด์ ยอมรับว่า การพลาดโอกาสง่ายๆในการยิงประตู ส่งผลต่อเรื่องความมั่นใจ และจิตใจของเขาเหมือนกัน ทำให้เขากลายเป็นคนที่คิดเยอะ กว่าจะจบสกอร์ในแต่ละจังหวะ ซึ่งการคิดเยอะเหล่านั้นเอง ทำให้ผลงานของเขาออกมาไม่เป็นตามที่ใจคาดหวังเอาไว้ แต่นั่น ไม่เคยทำให้ความเชื่อมั่นในตัวเขาของโซลชา ลดน้อยลงไปเลย
“ผมหงุดหงิด ในฐานะของกองหน้าดาวรุ่ง ทุกอย่างลากยาวมาถึงช่วงของการฝึกซ้อม โดยที่มีผมยืนประชันหน้ากับเพียงแค่นายทวาร และเสาประตู พร้อมกับรับลูกครอสเข้ามาชองโซลชา ตอนนั้นผมกลับยิงพลาดเป้าไปทุกจังหวะเลยล่ะ !! ผมจำไม่เคยลืมว่า โซลชา กลับเป็นคนที่เดินมาบอกผมว่า -นายจะได้เริ่มต้นในเกมหน้า ฉะนั้น จงเตรียมตัวให้พร้อม-” ฮาลันด์ กล่าว
แม้ว่าเขาจะมีผลงานในช่วงของการฝึกซ้อมไม่ดีเท่าไหร่ ทว่ากำลังใจ และจิตวิทยาของโซลชา กลับได้รับผลตอบแทน โดยเขาเริ่มคลำเป้าเจอเรื่อยๆ ก่อนที่จะกล่าวต่อว่า “ผมลืมบอกอะไรคุณไปอย่าง ก่อนเริ่มเกม โซลชา กับผม ร่วมฝึกซ้อมกัน โดยเน้นไปที่การจบสกอร์ รวมถึงลูกครอส เขาสอนกฏง่ายๆให้กับผม”
“กฏข้อเดียวนั้นคือ ผมไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานมากจนเกินไป หรือว่าพยายามทำลายผู้รักษาประตูด้วยลูกบอลเพียงอย่างเดียว ผมพยายามคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น และมันเป็นสิ่งใหม่ที่เขาบอกกับผมเลย”
“ผมพยายามฝึกซ้อมเกี่ยวกับแง่มุมนั้น แม้ว่าจะไม่ได้ยิงประตู แต่อย่างน้อย แนวความคิดดังกล่าวก็ฝังอยู่ในหัวของผมในช่วงของการฝึกซ้อม นั่นเป็นสิ่งที่สอนผม ก่อนที่จะลงไปแข่งขันในสนามจริง มันสอนผมว่า ผมควรใจเย็นให้มากที่สุด ยืนหยัด และพร้อมกับสถานการณ์ที่ลูกบอลจะเข้ามา จากนั้น คุณจะมีโอกาสยิงประตูเอง โซลชา สมควรได้รับเครดิตในเรื่องนี้”
source : m.e.n
