:::     :::

มุมมองลูกหนัง "อิเคร์ กาซิยาส"

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม 2563 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,517
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เพิ่งผ่านพ้นวันเกิด อายุครบ 39 ปี

สำหรับตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติสเปน อย่างอิเคร์ กาซิยาส เพื่อให้หลายคนได้คลายคิดถึง หลังจากที่เขาได้เลิกเล่นไปแล้ว จากปัญหาเรื่องสุขภาพ ช่วงนี้ เราไปพูดคุยกับเขากันหน่อย ทั้งความทรงจำที่มีต่อสโมสรที่เขาผูกพันอย่างเรอัล มาดริด และการเล่นให้กับสโมสรสุดท้ายอย่างเอฟซี ปอร์โต้ 


ชีวิตที่เอฟซี ปอร์โต้ 

มังกร (สัญลักษณ์ของเอฟซี ปอร์โต้) ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาตร์ของสโมสรแห่งนี้ พวกเราได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย ทั้งรูปแบบเก่า และใหม่รวมกัน โดยทุกวันนี้ สโมสรกลายเป็นเหมือนบ้านอีกหนึ่งหลังของผมไปแล้ว ผมรู้สึกสบายใจที่มาอยู่ที่นี่ ผมได้รับคำพูดดีๆมากมาย ตั้งแต่ที่ผมย้ายมาร่วมทีม แน่นอนว่า นี่คือลีกที่มีความแตกต่างออกไป อย่างไรก็ตาม ผมก็มีความสุขมาก ที่ได้แบ่งปันช่วงเวลาที่ดีร่วมกับสโมสร 


การลงเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครบหลัก 100 เกม

ผมไม่เคยคาดคิดเลยว่า ผมจะได้ลงเฝ้าเสาในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครบหลัก 100 เกม เมื่อมองย้อนกลับไป ผมรู้สึกหวั่นนิดนึง เพราะหมายความว่า ผมผ่านการลงเล่นมาหลายเกม และผ่านพ้นช่วงเวลามาหลายเหตุการณ์ การลงสนามครบหลัก 100 เกม ถือว่าเป็นสถิติที่ยากจะทำ เหนือสิ่งอื่นใด ผมรู้สึกภาคภูมิใจมาก ที่ผ่านการคว้าแชมป์รายการนี้มา 3 สมัย พร้อมกับโลดแล่นในทัวร์นาเมนต์นี้มาอย่างยาวนานด้วย


การติดทีมชุดใหญ่ของเรอัล มาดริด ครั้งแรก 

ย้อนไปปี 1997 ผมนั่งอยู่ในห้องเรียน บรรยากาศในห้องเรียน เรากำลังพูดถึงเรื่องของ เรอัล มาดริด เกี่ยวกับผลงานของทีม ตอนนั้นก้าวเข้าสู่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ทีมทำผลงานไม่ค่อยดีนัก โดยอยู่อันดับ 3 หรือ 4 ในลาลีกา สเปน อย่างไรก็ตาม ทีมทำผลงานได้ดี ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเกมต่อไป ทีมมีโปรแกรมสำคัญ ด้วยการบุกเยือนทีมโรเซนบอร์ก ที่นอร์เวย์


จากนั้น อาจารย์ใหญ่เดินเข้ามาในห้องเรียน ทุกคนต่างรู้ดีว่า ผมคือเด็กเยาวชนของเรอัล มาดริด ผมเคยคุยกับอาจารย์ใหญ่เกี่ยวกับสโมสร รวมถึงแลกเปลี่ยนกับเพื่อนในห้อง อาจารย์ใหญ่บอกกับผมว่า -นายน่ะ ออกมาคุยกับฉันข้างนอกสักครู่ได้มั้ย ?- ผมจึงตอบกลับไปว่า -ได้เลยครับ- เมื่อเราออกมานอกห้องแล้ว อาจารย์ใหญ่บอกว่า -ตอนนี้ นายควรรีบโบกรถแท็กซี่ และนั่งไปสนามบินบาราฆัส เพราะว่าเรอัล มาดริด เพิ่งจะโทรหาคุณแม่ของนาย ซึ่งคุณแม่ของนายก็โทรมาบอกที่โรงเรียนอีกที นายต้องรีบหน่อย เพราะนายต้องออกเดินทางไปนอร์เวย์ แล้วล่ะ-


ตอนนั้น ผมมีความรู้สึกเหมือนคนถูกลอตเตอรี่เลยล่ะ !! ผมยังไม่เคยลืมช่วงเวลาเหล่านั้น ผมเป็นเด็กหนุ่มอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น ผมรีบออกจากโรงเรียน ตรงดิ่งกลับบ้าน เปลี่ยนเสื้อผ้า และรีบนั่งแท็กซี่ไปยังสนามบินบาราฆัส ผมได้พบหน้ากับบรรดาซูเปอร์สตาร์มากมาย เมื่อคุณยังเด็ก คุณจะไม่คิดว่าเรื่องราวเหล่านี้จะเป็นไปได้ ผมเพิ่งนั่งกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน กระทั่งตอนนี้ ผมกลับมานั่งเคียงข้างกับเฟร์นานโด มอร์ริเอนเตส, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ, เฟร์นานโด ซานซ์, เปแดร็ก มิยาโตวิช, ดาวอร์ ซูเคอร์ และราอูล กอนซาเลซ มันมหัศจรรย์มาก ผมยังจำทั้งหมดได้เป็นอย่างดี


การลงเป็นตัวสำรอง ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2002 รอบชิงชนะเลิศ

ความจริงคือ ผมไม่ได้เตรียมความพร้อมเลย ผมเป็นคนที่ชอบใส่เสื้อแขนสั้นลงเฝ้าเสาเสมอ เพราะผมรู้สึกสบาย และเป็นอิสระ นั่นเป็นสิ่งที่ผมไม่ได้เตรียมตัว ตอนที่ผมต้องลงมาเฝ้าเสาแทนนายทวารที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเซซาร์ ซานเชซ ผมลุกออกมาจากม้านั่งสำรอง ทว่าไม่มีเสื้อแขนสั้น ผมเลยตัดสินใจใช้กรรไกรตัดแขนเสื้อออก ขณะที่ผู้จัดการทีมอย่าง บิเซนเต้ เดล บอสเก้ มอบคำแนะนำบางอย่างแก่ผม ก่อนที่จะลงไปทำการแข่งขัน 


ท้ายที่สุดแล้ว เรามีความโชคดีเล็กน้อย ที่สามารถคว้าแชมป์มาได้ นี่เป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 2 ของผม แม้ว่าหลายคนจะมองว่า ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ไม่ได้เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากนัก แต่ผมมองต่างออกไป เพราะพวกเขาประกอบไปด้วยนักเตะอย่าง มิชาเอล บัลลัค รวมถึง ยิดิราย บาสเติร์ก ที่เป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมในเวลานั้น พร้อมกันนี้ พวกเขายังผ่านทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับยูเวนตุส มาแล้วด้วย ผมมีความสุขมาก เพราะผมเพิ่งจะอายุ 20 ปีเอง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ผมคิดว่ามันแปลกหน่อย เพราะเหมือนเป็นนายทวารคนแรก ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ 


การเป็นคู่ปรับกับบาร์เซโลน่า 

การเติบโต ในฐานะผู้เล่นในศึกเอล กลาซิโก้ ของประเทศสเปน นี่เป็นการแข่งขันฟุตบอลที่เข้มข้นมากที่สุดในโลก แน่นอนว่า ดาร์บี้แมตช์มีอยู่ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่า กับเรอัล มาดริด อยู่ในระดับที่สูงขึ้นไปอีก เพราะว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักเตะระดับโลกต่างมีความฝันอยากมาเล่นให้กับสองสโมสรนี้ เรายังไม่เคยเห็นการโคจรมาเจอกัน ระหว่างบาร์เซโลน่า กับเรอัล มาดริด ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ นี่เป็นเรื่องที่อาจเกิดได้ยาก ตอนที่เรอัล มาดริด เจอกับแอตเลติโก้ มาดริด ผมอยากให้มีเอล กลาซิโก้ ในยูซีแอล นัดชิงชนะเลิศบ้าง ผมอยากเห็นมันในสักวันหนึ่ง

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด