:::     :::

วิถีทางของลีกรอง

วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม 2563 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
965
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในขณะที่พรีเมียร์ลีก ค่อยๆ เห็นภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ กับความพยายามก้าวแรกในการวางแนวทางกลับมาฝึกซ้อม แล้วบรรดาลีกรองของอังกฤษละ เป็นอย่างไรกันบ้าง

อิงลิช ฟุตบอล ลีก (อีเอฟแอล) หรือ ฟุตบอลลีกของอังกฤษ เป็นองค์กรที่ดูแลสามลีกรองจากพรีเมียร์ลีก คือ แชมเปี้ยนชิพ ลีกวัน และลีกทู ซึ่งทั้งหมดจะต้องสอดรับกันในเรื่องการเลื่อนชั้น-ตกชั้น

ข่าวคราวของพรีเมียร์ลีกมีให้เห็นกันแบบรายวัน ทั้งเรื่องการยืนยันว่าฤดูกาล 2019-20 จะต้องแข่งต่อให้จบ ความพยายามในการวางแนวทางกลับมาฝึกซ้อม จนไปถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการกำหนดวันเวลาเตะโปรแกรมที่เหลือออกมาใหม่
แต่ในลีกรองอย่าง แชมเปี้ยนชิพ แทบไม่ค่อยมีข่าวสารปรากฏให้เห็นสักเท่าไหร่
ล่าสุด อีเอฟแอล มีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ แชมเปี้ยนชิพ เตรียมเป็นลีกแรกที่กลับมาซ้อมในวันจันทร์นี้ หากไม่มีสถานการณ์ที่เลวร้ายจากการตรวจร่างกายนักเตะ โค้ช และสต๊าฟฟ์ ครั้งแรกไปแล้วในสัปดาห์นี้
6 หัวข้อหลักๆ ที่ อีเอฟแอล แจกแจงออกมา ประเด็นที่น่าสนใจคือ การกลับมาลงสนามในฤดูกาล 2019-20 ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุด แต่ก็ยอมรับว่ามีบางสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่การตัดจบซีซั่นนี้ หรือสถานการณ์ที่ทำให้ซีซั่นนี้ไม่สามารถเตะจบได้
ซึ่งประเด็นการตัดจบ ถูกแยกเอาไว้ชัดเจนว่าจะใช้การคิดคะแนนจากตารางปัจจุบัน โดยจะต้องหาค่าเฉลี่ยต่อเกม ในกรณีที่เตะไม่เท่ากัน แต่ไม่ใช่กับ แชมเปี้ยนชิพ ที่เวลานี้ทุกทีมแข่งเท่ากันหมด 37 เกม
การเลื่อนชั้น-ตกชั้น จะต้องได้บทสรุป และการเล่นรอบเพลย์ออฟหาทีมเลื่อนชั้นควรจะต้องมีการแข่งขัน และไม่ควรเพิ่มมากเกินจากเดิม 4 ทีม
หากมีสถานการณ์ที่ทำให้รอบเพลย์ออฟไม่สามารถแข่งขันได้ ถึงเวลานี้บอร์ดของ อีเอฟแอล จะเป็นคนหาทางออกเอง
ซึ่งแนวทางในการตัดสินใจว่าจะตัดจบซีซั่นหรือไม่นั้น อีเอฟแอล จะเปิดทางให้ทั้งสามลีกเป็นคนลงคะแนนเสียงกันเอง โดยถ้าจะตัดจบ ต้องมีเสียง 51 เปอร์เซนต์ขึ้นไป เหมือนอย่างที่ ลีกทู โหวตให้ตัดจบซีซั่นนี้ไปแล้ว
และท้ายสุด อีเอฟแอล ยืนยันว่าทั้งสามลีกจะต้องมีทีมตกชั้น เป็นการปฏิเสธความต้องการให้ ลีกทู ที่จะไม่ให้มีทีมตกชั้นสู่นอกลีก หรือ เนชันแนลลีก อย่างไรก็ตาม กรณีนี้จะเป็น สตีฟเนจ ทีมบ๊วยที่ตกชั้น ซึ่ง อีเอฟแอล จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่า เนชันแนลลีก ฤดูกาล 2020-21 สามารถแข่งขันตามปกติ
จากท่าทีล่าสุดของ อีเอฟแอล ถือเป็นข่าวดีของสองสโมสรหัวตาราง แชมเปี้ยนชิพ ทั้ง ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ที่ตารางคะแนนนำโด่งกันมาทั้งคู่ และก่อนหน้านี้ต้องหนาวๆ ร้อนๆ กับข่าวลือว่าอาจมีการโมฆะซีซั่นนี้เกิดขึ้น โดยไม่ให้มีทีมเลื่อนชั้น-ตกชั้น
เพราะหากตัดจบซีซั่นตอนนี้ ลีดส์ กับ เวสต์บรอม จะเป็นสองทีมที่เลื่อนชั้นอัตโนมัติ แต่ถ้าให้เตะต่อ ด้วยคะแนนที่นำเยอะ ก็มีโอกาสกอดคอกันเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกทั้งคู่อยู่ดี
ที่เจ็บปวด นอกเหนือจากทีมอันดับ 7-11 บริสตอล ซิตี้, มิลล์วอลล์, คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, สวอนซี ซิตี้ ที่อดลุ้นแซงขึ้นโซนเพลย์ออฟดื้อๆ ชาร์ลตัน แอธเลติก ก็เป็นอีกทีมที่ต้องตกชั้นในฐานะทีมอันดับ 22
ผลงานของ ชาร์ลตัน ในช่วงต้นฤดูกาลถือว่าฟอร์มแรงมาก เกาะกลุ่มหัวตาราง จนค่อยๆ มาหลุดฟอร์มหลังผ่านเกมที่ 12 อันดับค่อยๆ รูดลงเรื่อยๆ จนล่าสุดเพิ่งลงมาอยู่ในโซนแดงในเกมสุดท้ายก่อนที่ฟุตบอลจะถูกระงับ จึงเป็นธรรมดาที่ ลี โบว์เยอร์ กุนซือ ดิ แอ๊ดดิคส์ ตัดพ้อกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะต้องตกชั้นทั้งที่เพิ่งลงมาอยู่โซนแดงเป็นครั้งแรก และอยู่อันดับนี้มาเพียง 6 วันเท่านั้น
แน่นอน ไม่ว่าบทสรุปของฤดูกาลนี้จะออกมาเป็นเช่นไร ไม่มีคำว่ายุติธรรมเกิดขึ้นแน่นอน เพราะบางทีมอาจมีโปรแกรมเบาๆ ในบ้านหลายนัดรออยู่ ขณะที่บางทีมที่มีอันดับดีกว่า อาจเหลือแต่เกมหนักๆ นอกบ้าน
ทีมไหน ได้เปรียบ เสียเปรียบ จากบทสรุปของฤดูกาล 2019-20 หากมีการตัดจบเกิดขึ้น ก็คงต้องทำใจกันไป เพราะมีโอกาสน้อยมากที่ซีซั่นนี้จะเตะจบตามโปรแกรมที่เหลือได้ภายในเดือนกรกฎาคม เหมือนอย่างที่ อีเอฟแอล ขีดเส้นเอาไว้
สำหรับทีมที่เสียผลประโยชน์ คงทำได้เพียง สูดหายใจลึกๆ ว่าไปนับหนึ่งใหม่ในฤดูกาล 2020-21 แทน

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด