:::     :::

ความล้มเหลวในตลาดนักเตะของบาร์ซ่า

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม 2563 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
1,859
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บาร์เซโลน่า พุ่งชนความล้มเหลวในตลาดนักเตะช่วงหลายปีที่ผ่านมาเนื่องจากการวางแผนผิดพลาดและประเมินนักเตะบางคนมีศักยภาพสูงเกินความเป็นจริง

นับตั้งแต่การเซ็นสัญญากับ ดีเอโก้ มาราโดน่า มาจาก โบคา จูเนียร์ส ในช่วงซัมเมอร์ปี 1982 ด้วยค่าตัว 7.2 ล้านยูโร บาร์เซโลน่า เดินหน้าเขย่าตลาดนักเตะมาอย่างต่อเนื่องจนถูกเรียกขานว่าเป็นทีมบุญทุ่มจ่ายไม่อั้นเพื่อให้ได้ผู้เล่นที่พวกเขาต้องการ 

การเซ็นสัญญากับนักเตะของทัพอาซูลกราน่ามีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลวปะปนกันไป เพียงแต่เราจะมองเห็นภาพความล้มเหลวชัดเจนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการทุ่มเงินแตะหลัก 100 ล้านยูโรเพื่อแลกกับนักเตะเพียงคนเดียว 

การลงทุนในตลาดนักเตะของ บาร์เซโลน่า เริ่มมีอาการรวนจั่วผู้เล่นใหม่ไม่ค่อยเข้าเป้ามาตั้งแต่พวกเขาสูญเสีย เนย์มาร์ ดา ซิลวา จูเนียร์ ให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แบบไม่ทันตั้งตัวในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 แม้จะได้เงินก้อนโตกลับมาถึง 222 ล้านยูโรก็ตาม แต่กลายเป็นว่าทีมยักษ์กาตาลุนย่าต้องเสียเงินมากกว่าค่าตัวของซุปตาร์บราซิเลียนเพื่อตามหาตัวแทนของเขา 


บาร์เซโลน่า ดิ้นรนเพื่อเซ็นสัญญากับ อุสมาน เดมเบเล่ ก่อนตลาดซัมเมอร์ปี 2017 ปิดทำการเพียงสัปดาห์เดียว พวกเขายอมจ่ายเงินเบื้องต้นถึง 105 ล้านยูโร บวกอ็อปชั่นเพิ่มเติมอีก 40 ล้านยูโรเพื่อดึงนักเตะมาจาก ดอร์ทมุนด์ กลายเป็นแข้งคนแรกของสโมสรที่มีค่าตัวแตะหลัก 100 ล้านยูโร 

หลายคนไม่เห็นด้วยกับการเซ็นสัญญากับแนวรุกดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสที่เพิ่งแจ้งเกิดบนเวทีลูกหนังได้เพียง 2 ฤดูกาลกับ แรนส์ และ ดอร์ทมุนด์ แต่ บาร์เซโลน่า ยังหน้ามืดยอมจ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อแลกกับนักเตะด้วยความมั่นใจว่า เดมเบเล่ เป็นผู้เล่นที่มีศักยภาพเหมาะสมสำหรับการเป็นทายาทของ เนย์มาร์ 

ทว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมาพอจะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นการลงทุนที่ล้มเหลวครั้งประวัติศาสตร์ของ บาร์เซโลน่า จนแทบไม่ต่างจากการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำก็ว่าได้


เดมเบเล่ เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีพรสวรรค์ เล่นได้ทั้งสองเท้า เทคนิคดี มีความเร็วและยิงประตูดี แต่มีความบกพร่องด้านวินัยและที่สำคัญกว่านั้นคือมีสภาพร่างกายเปราะบาง บาดเจ็บง่ายที่กลายเป็นอุปสรรคสำหรับการพัฒนาฝีเท้าของเขา

จาก 3 ปีที่ผ่านมา เดมเบเล่ ลงเล่นกับ บาร์เซโลน่า รวมกันเพียง 74 เกม ยิง 19 ประตู แต่แนวรุกชาวฝรั่งเศสบาดเจ็บถึง 9 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นปัญหาบริเวณกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังซึ่งทำให้เขาต้องพักกว่า 619 วัน พลาดการลงเล่น 102 เกม 

นั่นเป็นปัญหาที่บาร์ซ่าไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับผู้เล่นดาวรุ่งที่น่าจะมีร่างกายแข็งแกร่ง ส่วนหนึ่งมาจากความผิดพลาดของแมวมองที่ประเมินนักเตะสูงเกินไปจนมีส่วนทำให้สโมสรยอมจ่ายเงินก้อนโตเพื่อเซ็นสัญญากับแนวรุกชาวฝรั่งเศส 

แม้ เดมเบเล่ จะเซ็นสัญญากับ บาร์เซโลน่า จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2022 แต่ทัพอาซูลกราน่ามีแผนโละนักเตะออกจาก'คัมป์ นู' โดยยอมขาดทุนมากกว่าครึ่ง ทว่าปัญหาคือการหาสโมสรที่จะยอมรับนักเตะที่มีประวัติการบาดเจ็บยาวเป็นหางว่าวลำบาก 


หลังการเซ็นสัญญากับ เดมเบเล่ เพียง 6 เดือน บาร์เซโลน่า จ่ายเงินก้อนโตอีกครั้งในช่วงเดือนมกราคมปี 2018 เพื่อเซ็นสัญญากับ ฟิลิปเป้ กูตินโญ่ จาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 120 ล้านยูโร พ่วงอ็อปชั่นเพิ่มเติมอีก 40 ล้านยูโร หลังนักเตะทำผลงานโดดเด่นกับทีมหงส์แดง 

ทว่า กูตินโญ่ มีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นของ บาร์เซโลน่า เขามีโอกาสลงเล่นรวมกัน 76 เกม ยิง 21 ประตู ตลอดช่วงซีซั่นครึ่ง ก่อนจะถูกปล่อยไปเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาลนี้ 

กูตินโญ่ เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นพรสวรรค์ เขาพิสูจน์ให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมในการค้าแข้งกับทีมหงส์แดงราว 5 ปีครึ่ง แต่ บาร์เซโลน่า ไม่สามารถหาตำแหน่งที่ลงล็อกสำหรับเพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิเลียน ทั้งการเล่นแนวรุกหรือแดนกลางจนนักเตะไม่สามารถรีดฟอร์มเก่งออกมาได้อย่างที่คาดหวัง


อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่งอาจมาจากการตัดสินใจเร็วเกินไปที่ให้โอกาส กูตินโญ่ พิสูจน์ฝีเท้าเพียง 18 เดือน เนื่องจาก บาร์เซโลน่า มองว่าเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติบราซิลไม่สามารถตอบโจทย์อย่างที่พวกเขาต้องการ แม้ว่าสโมสรจะทุ่มทุนจำนวนมหาศาลเพื่อดึงตัวมาร่วมทีมก็ตาม 

ดังนั้น บาร์เซโลน่า จึงวางแผนปล่อย กูตินโญ่ ออกจากสังกัดหลังนักเตะกลับมาจาก บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์นี้เพื่อถอนทุนคืนมาแม้ว่าจะไม่ได้เท่ากับตอนที่พวกเขาจ่ายให้ทีมหงส์แดงเมื่อปี 2018 เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าทำให้มีเพียงไม่กี่สโมสรที่สามารถจ่ายค่าตัวและเปย์ค่าจ้างให้ กูตินโญ่ 


บาร์เซโลน่า จ่ายเงินแตะหลัก 100 ล้านยูโรเป็นครั้งที่ 3 ในช่วง 2 ปี เพื่อเซ็นสัญญากับ อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของ แอตเลติโก มาดริด หลังการซื้อสัญญามูลค่า 120 ล้านยูโรจากทีมตราหมี 

กรีซมันน์ ยิง 21 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการในซีซั่นนี้ 48 เกม แต่จากการประเมินเบื้องต้นแนวรุกวัย 29 ปียังทำผลงานไม่คุ้มค่ากับเงินที่สโมสรจ่ายไป แต่ กรีซมันน์ ยังมีโอกาสพิสูจน์ว่าเขามีดีพอสำหรับการกับทัพอาซูลกราน่า 

นั่นคือ 3 แข้งค่าตัวระดับ 100 ล้านยูโรที่ บาร์เซโลน่า เซ็นสัญญาร่วมทีมที่ต้องกล่าวว่า'ล้มเหลว'มากกว่า'สำเร็จ' โดยเฉพาะรายของ เดมเบเล่ กับ กูตินโญ่ ขณะที่ กรีซมันน์ ยังอยู่ในข่ายต้องสงสัย

ถ้าหากทีมอาซูลกราน่าไม่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า เราคงมีโอกาสเห็นพวกเขาเซ็นสัญญากับนักเตะแตะหลัก 100 ล้านยูโรอีกครั้ง เนื่องจากสโมสรมีเป้าหมายล่าตัว เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์วัย 22 ปีของ อินเตอร์ มิลาน มาร่วมทีม 


จากที่กล่าวข้างต้นว่าความล้มเหลวในการเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากทีมแมวมองของสโมสรที่คงต้องไปปฏิวัติการทำงานกันใหม่ 

ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนมากสุดในซีซั่นนี้คือกรณี เอคตอร์ จูเนียร์ ฟีร์โป แบ็กซ้ายเชื้อสายโดมินิกันวัย 23 ปี ที่แมวมองส่งข้อมูลถึงสโมสรว่าเป็นนักเตะที่มีศักยภาพพอสำหรับการเป็นตัวแทนระยะยาวของ จอร์ดี้ อัลบา 

นั่นมีส่วนทำให้ทีมอาซูลกราน่าจ่ายเงินเบื้องต้น 18 ล้านยูโรบวกอ็อปชั่นเพิ่มเติมอีก 12 ล้านยูโรดึงมาจาก เรอัล เบติส ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าแข้งวัย 23 ปีสอบไม่ผ่านในบทบาทดังกล่าว โดยมีโอกาสลงเล่นรวมกันเพียง 17 เกมในซีซั่นนี้และมีข่าวว่าบาร์ซ่าเตรียมปล่อยนักเตะออกจาก'คัมป์ นู'ในช่วงหน้าร้อนนี้ 


เช่นเดียวกับเคส อาร์ตูร์ เมโล่ ที่ บาร์เซโลน่า จ่ายเงินเบื้องต้น 31 ล้านยูโรบวกอ็อปชั่นเพิ่มเติม 9 ล้านยูโรดึงมาจาก เกรมิโอ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 โดยนักเตะเซ็นสัญญายาวจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2024 นั่นแสดงให้เห็นถึงการวางแผนระยะยาวกับนักเตะ

จากข้อมูลของแมวมองทัพอาซูลกราน่าระบุว่า อาร์ตูร์ มีส่วนละม้ายคล้าย ชาบี เอร์นานเดซ กับ อันเดรส อีเนียสต้า สองอดีตมิดฟิลด์ระดับเทพของสโมสรพร้อมการันตีความสามารถของนักเตะว่ามี'ดีเอ็นเอ'ของบาร์ซ่าด้วย 

ทว่าเวลาผ่านมาราว 18 เดือนกลับมีข่าวว่า บาร์เซโลน่า พร้อมเสนอ อาร์ตูร์ เมโล่ แลกตัวกับ มิราเล็ม เปียนิช มิดฟิลด์ทีมชาติบอสเนียของ ยูเวนตุส ซึ่งสร้างความฉงนกับสาวกบาร์เซโลนิสต้าไม่น้อย หลายคนไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวที่สโมสรจะนำนักเตะแห่งอนาคตอายุเพียง 23 ปีแลกกับนักเตะที่อายุแตะหลัก 30 ปีที่เข้าสู่ช่วงปลายอาชีพค้าแข้ง


มันยังเป็นความคิดย้อนแย้งกับแผนงานของสโมสรก่อนหน้านี้ที่พยายามจะโละนักเตะสูงวัยออกจากทีมโดยเฉพาะพวกอายุแตะหลัก 30 อย่าง อาร์ตูโร่ วีดาล หรือ อีวาน ราคิติช เพื่อสร้างขุมกำลังด้วยผู้เล่นสายเลือดใหม่ซึ่งควรมี อาร์ตูร์ เป็นหนึ่งในนั้น แต่กลับมีข่าวข้างต้น ทว่าแฟนบาร์ซ่ามองว่ามิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนกำลังปรับตัวเข้ากับทีมได้ดีและมีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังหลักในอนาคต 

ตามรายงานระบุทีมแมวมองของบาร์ซ่าส่งข้อมูลถึงสโมสรอธิบายถึงข้อดีในการเซ็นสัญญากับ เปียนิช ด้วยความมั่นใจว่านักเตะจะสามารถปรับตัวเข้ากับทีมได้ทันที พร้อมทั้งนำเสนอข้อมูลเปอร์เซ็นต์การผ่านบอลที่สูงขึ้นและการสร้างแรงกระตุ้นให้เพื่อนร่วมทีมดีอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม อาร์ตูร์ ไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวพร้อมยืนยันว่าเขาปรารถนาที่จะค้าแข้งอยู่ในถิ่น'คัมป์ นู'ต่อไป แม้ว่าจะทำให้บางส่วนของในสโมสรไม่พอใจ แต่นั่นเป็นสิทธิ์ของนักเตะและสโมสรต้องยอมรับการตัดสินใจนั้น 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด