:::     :::

'โฟล เวียร์ทซ์' ดาวรุ่งแห่งยุคโควิด

วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม 2563 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
1,896
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในช่วงเวลาที่ บุนเดสลีกา กลายเป็นพระเอกของโลกฟุตบอล ดาวเด่นหลายคนถูกจับตามองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ไค ฮาเวิร์ทซ์, อัลฟอนโซ่ เดวี่ส์ หรือ เออร์ลิง ฮาลันด์

การกลับมาเตะกันต่อเป็นชาติแรกในบรรดาลีกใหญ่ของยุโรป ในช่วงที่ (ใกล้) จะผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 มีสถิติที่น่าสนใจเกิดขึ้นกับสโมสร ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่ความสนใจจากทุกสายตาทั่วโลกพุ่งเป้าไปที่ฟอร์มการถล่มประตูอันร้อนแรงของ ไค ฮาเวิร์ทซ์

แต่สถิติดังกล่าวเป็นของเจ้าหนู โฟลเรียน ริชาร์ด เวียร์ทซ์ หรือ โฟล เวียร์ทซ์
เวียร์ทซ์ เรียกความสนใจตั้งแต่ บุนเดสลีกา กลับคืนสนามในช่วงโควิด เมื่อถูก ปีเตอร์ โบสซ์ เทรนเนอร์ ใส่ชื่อเป็นสิบเอ็ดตัวจริงในเกมเยือน แวร์เดอร์ เบรเมน ที่ เวเซอร์ สตาดิโอน เหนือตัวเลือกคนอื่นๆ อย่าง คาริม เบลลาราบี, เลออน เบลี่ย์, เปาลินโญ่
นั่นทำให้สถิติใหม่เกิดขึ้น กับการเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ลงเล่นให้สโมสร ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 17 ปีกับอีก 15 วัน ทำลายสถิติเดิมของ ฮาเวิร์ทซ์ เป็นการฉลองวันเกิดครบ 17 ปี เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
เวียร์ทซ์ ยังกลายเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ลงสนามในบุนเดสลีกาเป็นอันดับสาม รองจาก ยานน โอเรล บิสเซ็ค 16 ปี 11 เดือน 28 วัน และเบอร์หนึ่ง นูริ ซาฮิน 16 ปี 11 เดือน 1 วัน แต่หากนับเฉพาะการลงตัวจริง เวียร์ทซ์ คือเจ้าของสถิติเด็กสุด
ว่าแต่เจ้าหนู เวียร์ทซ์ ผู้นี้ เป็นใคร? มาจากไหน? แล้วเล่นตำแหน่งอะไร?
เวียร์ทซ์ เกิดและเติบโตในเมือง เบราไวเลอร์ ทางตอนเหนือของ โคโลญจน์ ในรัฐ นอร์ธ ไรน์-เวสต์ฟาเลีย สถานที่ที่ปัจจุบัน เขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่นั่น
การก้าวออกจากสโมสร กรึน-ไวส์ เบราไวเลอร์ มาเข้าสังกัดเยาวชนของ 1.เอฟเซ โคโลญจน์ ตอนอายุ 7 ขวบ ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญในชีวิต เพราะเป็นการเข้าสู่สโมสรใหญ่ ที่จะต่อยอดความสำเร็จได้ในอนาคต จนหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เคลินเนอร์ เอ็กซ์เพรส ยกย่องว่าเป็นกองกลางที่ดีที่สุดที่ก้าวเข้าสู่สโมสรในรอบ 30 ปี
เวียร์ทซ์ เล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแดนกลางและแนวรุกในทีมยู-17 ของ โคโลญจน์ ชุดที่คว้าแชมป์เยอรมันแชมเปี้ยนชิพ หรือ บี-จูเนียร์ส บุนเดสลีกา เมื่อปี 2019 เป็นการปราบ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบรอง และโค่น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในรอบชิงฯ จนสองทีมยักษ์ใหญ่เยอรมนีจับตามองเช่นเดียวกับ แอร์เบ ไลป์ซิก และทีมดังพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล
8 ประตูจาก 10 เกมที่ยิงให้ทีมยู-17 โคโลญจน์ ในฤดูกาลนี้ หนึ่งในนั้นเป็นลูกยิงไกลจากบริเวณเส้นครึ่งสนามในเกมถล่ม วุพเพอร์ทอล เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว จน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ติดต่อและทาบทามอย่างจริงจังในเดือนมกราคม จนได้ตัวไปครอบครอง
การเซ็นสัญญาของ เวียร์ทซ์ ไม่ใช่ประเด็นที่น่าสนใจอะไร เพราะเป็นการย้ายออกจากทีมยู-17 ของ โคโลญจน์ มาเพาะบ่มฝีเท้าต่อในทีมเยาวชนชุดยู-19 ของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
แต่ที่มันเตะตาเทรนเนอร์ โบสซ์ อย่างจัง ก็เพราะการยิง 2 ประตูกับ 3 แอสซิสต์จาก 4 เกมแรกในทัพยู-19 ของ เลเวอร์คูเซ่น จนทัพใหญ่มีแผนการเรียกตัวติดทีมเอาไว้แล้ว แต่ดันมาเจอช่วงเวลาที่เกมฟุตบอลถูกระงับเสียก่อน
และเมื่อถึงเวลาที่ บุนเดสลีกา ได้รับไฟเขียวให้กลับมาแข่งขันกันต่อในแมตช์เดย์ที่ 26 โบสซ์ จึงไม่ลืมที่จะใส่ชื่อ เวียร์ทซ์ เป็นตัวจริงแบบเซอร์ไพรส์ เพราะเดิมทีถูกคาดหมายว่าจะเริ่มต้นด้วยการนั่งสำรอง เนื่องจากเวลานี้ตัวเลือกในแนวรุกล้นทีม
ตำแหน่งของ เวียร์ทซ์ คือกองกลางตัวรุก ที่ฟังดูอาจจะกว้างเกินไปหน่อย หากเปรียบสไตล์การเล่นแล้ว เว็บไซต์ของ บุนเดสลีกา เทียบให้มีความคล้ายคลึงกับ ยูเลียน บรันด์ท อดีตมิดฟิลด์ เลเวอร์คูเซ่น ที่ปัจจุบันสังกัด ดอร์ทมุนด์
เวียร์ทซ์ ไม่ใช่ตัวรุกประเภทจี๊ดจ๊าดริมเส้น แต่มีความเป็นจอมทัพหมายเลข 10 หรือเจาะทะลุทะลวงตรงกลางมากกว่า มีทีเด็ดอยู่ที่การเลี้ยงผ่านคู่แข่ง การผ่านบอลทะลุช่อง และการยิงไกล แต่ก็เอาเป็นว่า เจ้าหนูรายนี้สามารถเล่นได้หมด ทั้งปีก หรือจะถอยมายืนกองกลางก็ได้

เวียร์ทซ์ รับบทกัปตันทีมชาติเยอรมนี ชุดยู-17

อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น เวียร์ทซ์ ยังคงใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว โดยมีพ่อกับแม่นี่แหละที่เป็นเอเยนต์ให้ เป็นคนดูแลและจัดการเรื่องการย้ายทีมสู่ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยพ่อของเขายังมีตำแหน่งเป็นประธานสโมสร กรึน-ไวส์ เบราไวเลอร์ ซึ่งเป็นสโมสรแรกของเจ้าตัวด้วย
"เราแสดงให้ โฟลเรียน ได้เห็นว่าเขาจะได้รับผลประโยชน์ทางกีฬากับเรา และแน่นอน เขาจะได้ประโยชน์จากความจริงที่ว่าในอดีต เราเคยปลุกปั้นนักเตะหนุ่มหลายคนมาแล้ว"
"อย่าง ไค ฮาเวิร์ทซ์, ยูเลียน บรันด์ท หรือ เบนจามิน เฮนริคส์ ที่ได้มีโอกาสลงเล่นเกมแชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่อายุยังน้อย" รูดี้ โฟลเลอร์ อดีตกองหน้าทีมชาติเยอรมนี ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของ เลเวอร์คูเซ่น กล่าว

เวียร์ทซ์ ในทีมยู-17 ของ โคโลญจน์ เมื่อปี 2019

ด้าน ซีโมน โรลเฟส อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนี ที่เวลานี้นั่งเก้าอี้หัวหน้าศูนย์ฝึกเยาวชนของ เลเวอร์คูเซ่น พูดถึง เวียร์ทซ์ ว่า "ผมรู้ว่ามีหลายสโมสรที่ให้ความสนใจในตัวเขา"
"เราคิดว่าก่อนที่เขาจะย้ายออกไปที่อื่น เราจะลองโน้มน้าวเขาให้มาร่วมทีมเรา และได้อยู่ที่บ้านต่อไป (เลเวอร์คูเซ่น อยู่ในรัฐ นอร์ธ ไรน์-เวสต์ฟาเลีย เช่นเดียวกับ โคโลญจน์) ผมรู้จักนักเตะคนนี้มาตั้งแต่อายุ 14 แล้ว"
และคนสุดท้ายที่มีส่วนสำคัญในการผลักดัน เวียร์ทซ์ ให้สร้างสถิติใหม่ นั่นก็คือเทรนเนอร์ โบสซ์
"เขามีความสำคัญกับเราเป็นอย่างมาก นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องพูดถึงนักเตะคนหนึ่งเป็นการเฉพาะ เขาเล่นได้ดีตั้งแต่เริ่มต้นจนออกจากสนาม เก็บบอลได้ดี และทะลุทะลวงขึ้นหน้าได้ดีด้วย"
"มันเป็นเรื่องที่พิเศษเสมอเมื่อคุณประเดิมสนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณอายุแค่ 17 ปี โดยรวมแล้ว เขาโชว์ฟอร์มได้ดี และไม่ได้แสดงอาการประหม่าออกมาให้เห็นเลย" โบสซ์ พูดหลังจบเกมบุกถล่ม เบรเมน 4-1
หลังจากเกมประเดิมที่ เวเซอร์ สตาดิโอน เวียร์ทซ์ มีชื่อสำรองแต่ไม่ได้ลงเล่นเกมบุกชนะ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 3-1 จากนั้นก็ยังนั่งสำรอง และลงสนามตั้งแต่ต้นครึ่งหลังในเกมแพ้คาบ้านต่อ โวล์ฟสบวร์ก 1-4
จนมาถึงเกมล่าสุดที่บุกชนะ ไฟรบวร์ก 1-0 เวียร์ทซ์ กลับมาลงตัวจริงเกมที่สอง ประสานแนวรุกร่วมกับ ฮาเวิร์ทซ์ และ เบลี่ย์ แม้ผ่านไปสามเกมที่ลงเล่น ยังไม่มีประตูและไม่มีแอสซิสต์ แต่การมีส่วนร่วมกับเกมถือว่าสอบผ่าน
จากนี้ต้องรอดูว่า โฟล เวียร์ทซ์ จะรักษาผลงานและยืนระยะต่อไปยาวๆ เหมือนอย่างรุ่นพี่ ไค ฮาเวิร์ทซ์ ที่กำลังทำอยู่ได้หรือไม่ หากทำได้ ก็จะกลายเป็นเพชรเม็ดงามอีกวงที่ถูกเจียระไนมาจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด