นักเตะที่มีเอกลักษณ์หัวฟูฟ่องเป็นที่จัดจำ แถมผลงานในสนามอันยอดเยี่ยม ทำให้เขากลายมาเป็นหนึ่งใน 'สัญลักษณ์' ของฟุตบอลยุคนั้น

เด็กๆ หลายคนรู้จักเขาจากปกเกม เพลย์สเตชั่น เพราะด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและสะดุด ทำให้เขากลายเป็นที่จดจำได้ง่าย 

กระนั้น ผลงานในสนามของเขากลับน่าจดจำยิ่งกว่า โดยเฉพาะการลงเล่นให้ทีมชาติโคลอมเบียซึ่งเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและกลายมาเป็นหนึ่งในตำนานของประเทศแบบที่แฟนบอลทุกๆ คนยอมรับ

เส้นทางของ วัลเดอร์ราม่า (ขอใช้ชื่อนี้ตามความคุ้นเคยของแฟนบอลชาวไทย) ไม่ต่างจากนักเตะคนอื่นๆ ที่ไต่เต้ามาจากทีมเล็กๆ ก่อนจะแสดงผลงานจนทีมใหญ่ของประเทศอย่าง มีโยนารีออส และ เดปอร์ตีโว กาลี ดึงไปร่วมทีม

อนาคตในตอนนั้นของ วัลเดอร์ราม่า ช่างสดใส ส่วนหนึ่งมาจากผลงานของเขาที่ผลักดันทำให้ตนเองมีชื่อเสียงและเป็นที่น่าจับตามองของหลายๆ ทีม โดยเฉพาะในยุโรปที่เริ่มเข้ามายื่นข้อเสนอ และในปี 1988 ถือเป็นการเดินทางครั้งสำคัญของเขา

มงต์เปลลิเย่ร์ สโมสรจาก ลีก เอิง ยื่นข้อเสนอเข้ามา รวมไปถึงสโมสรต่างๆ กว่า 15 สโมสร ซึ่งหนึ่งในนั้นมีทั้ง บาร์เซโลน่า, ลาซิโอ และ ซามพ์โดเรีย ที่ติดต่อเข้ามา ก่อนที่มิดฟิลด์ตัวทำเกมชาวโคลอมเบียจะตกลงย้ายไปยังฝรั่งเศสเพื่อพุ่งชนกับความท้าทายที่รออยู่

แน่นอนว่าช่วงปีแรกเป็นปีแห่งการปรับตัว จากฟุตบอลที่อาศัยทักษะและชั้นเชิงเป็นหลัก ตอนนี้เขาต้องมาเจอกับความเร็วและความดุดันตามสไตล์ยุโรป ทำให้ช่วงแรกต้องสลับไปนั่งบนม้านั่งสำรองในบางเกม

แต่ความเข้าใจเกมที่รวดเร็ว และความพยายามที่จะพิสูจน์ตนเองหลังจากประกาศกร้าวไปในการให้สัมภาษณ์ วัลเดอร์ราม่า ค่อยๆ คายพิษสงออกมา ก่อนจะใช้ทักษะอันยอดเยี่ยมทั้งการผ่านบอลและการหาช่อง รวมไปถึงสายตาที่แหลมคม ส่งผลให้เขากลายมาเป็นแกนหลักของสโมสรโดยปริยาย

และในฤดูกาลที่ 2 ของเขากับ La Paillade ก็ได้เกิดความทรงจำที่แสนพิเศษ เพราะเขาและเพื่อนร่วมทีมผนึกกำลังในการเดินหน้าคว้าแชมป์ เฟร้นช์ คัพ ปี 1990 มาครองได้สำเร็จ 

ท้ายที่สุด เมื่อมาถึงฤดูกาลที่ 3 และเป็นซีซั่นสุดท้ายของเขากับ มงต์เปลลิเย่ร์ - วัลเดอร์ราม่า ยังคงสานต่อผลงานที่ยอดเยี่ยมด้วยการพาทีมจบอันดับที่ 7 ในเวทีลีก เอิง รวมไปถึงเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ คัพ วินเนอร์ส คัพ

เรื่องราวของ วัลเดอร์ราม่า ในลีก เอิง อาจจะรวดเร็วและผ่านไปไว แต่ 3 ปีในแดนน้ำหอมของกองกลางชาวโคลอมเบียทำให้แฟนบอล มงต์เปลลิเย่ร์ มีความสุขและมีความทรงจำที่ดี 

เพราะไม่เพียงทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ผลงานในสนามยังเข้าไปตราตรึงแฟนบอลและสร้างความประทับใจจนมิอาจลืมเลือน 

แม้ว่าเส้นทางหลังจากนั้นของ วันเดอร์ราม่า ไม่ต่างจากการเดินทางที่ต้องย้ายรกรากเกือบทุกๆ ปี แต่นั่นคือความสุขที่เขาได้ทำลงไป และไม่เคยมานั่งเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

มิดฟิลด์หัวฟูกับลีลาอันสวยงามบนฝืนหญ้า แม้จะผ่าน 30 ปีแล้ว แต่ชื่อของ วัลเดอร์ราม่า ยังคงถูกจดจำในฐานะหนึ่งใน 'ไอค่อน' ของวงการฟุตบอล และชื่อของเขาจะยังถูกพูดถึงไปอีกนาน

โดยเฉพาะแฟนบอลโคลอมเบียที่จะโจษจันชื่อของ การ์ลอส อัลเบร์โต้ บัลเดร์ราม่า ปาลาซีโอ (หรือ คาร์ลอส วัลเดอร์ราม่า) ตลอดไป เพราะนี่คือหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา

ยิ่งใหญ่ในแง่ของผลงานที่เกิดขึ้นตลอด 111 เกมที่ลงสนามให้โคลอมเบีย (ยังถือครองสถิติลงสนามมากที่สุดในนามทีมชาติ) ยิ่งใหญ่ในแง่ของการนำทีมลงชิงชัยในรายการสำคัญ (3 ฟุตบอลโลก และ 5 โกปา อเมริกา) และยิ่งใหญ่ในแง่ของความทุ่มเทและเต็มที่ให้กับธงชาติของเขา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกฝังลึกไปยังแฟนบอลชาวโคลอมเบียที่เล่าจากรุ่นสู่รุ่น

หนึ่งในสัญลักษณ์ของวงการฟุตบอล คาร์ลอส วัลเดอร์ราม่า