แมน : สวัสดีครับเจ็ท วันก่อนที่พี่คุยกับไม้ (อชิตพล คีรีรมย์) เขาเล่าให้ฟังว่า เจ็ท เป็นเพื่อนเขาที่ไปเล่นอยู่ในลีกโปรตุเกส พี่เลยอยากมาคุยกับเราว่าเป็นยังไงบ้างกับการไปเตะฟุตบอลที่นั่น เป็นมายังไง และตอนนี้ไปถึงไหนแล้วนะครับ
ชยพิพัฒน์ : ได้ครับพี่ ผมเคยเห็นที่พี่คุยกับไม้ มีคนแชร์มาเหมือนกันครับ แต่ยังไม่ได้เข้าไปดูเลย
แมน : ไม้บอกพี่ว่าเป็นเพื่อนเรียนที่เดียวกับเจ็ทตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็ไปยุโรปพร้อมๆ กัน
ชยพิพัฒน์ : ใช่ครับ ตอนอายุ 12 ผมเรียนที่กรุงเทพคริสเตียนกับไม้ ผมได้ทุนนักบอล แต่ผมเข้าไปได้แค่ปีเดียวก็ลาออก ผมเคยไปคัดเข้าทีม แบงค็อก ยูไนเต็ด แล้วคัดติดด้วยครับ แต่ว่าผมเลือกตัดสินใจมาโปรตุเกส
แมน : แล้วเป็นมายังไงถึงไปอยู่โปรตุเกสได้ครับ
ชยพิพัฒน์ : ตอนนั้นผมไปคัดกับทางโครงการของ อัลลิอันซ์ ที่หาเด็กไทย 11 คนไปฝึกฟุตบอลที่บาเยิร์น มิวนิค ครับ ไม้ก็ไปคัดกับผมนี่แหละ ซึ่งตอนที่ผมไปคัด มีฝรั่งคนนึงเป็นคนโปรตุเกสชื่อว่า เปาโล เวเรดาส เขาเข้ามาคุยกับผมว่าสนใจไปเล่นฟุตบอลที่โปรตุเกสมั้ย เขาจะพาไป ซึ่งผมก็ตอบตกลงเลยครับเพราะอยากไปเล่นอาชีพที่ยุโรปอยู่แล้ว อย่าง ไม้ เองตอนแรกก็ไปคัดที่โปรตุเกสเหมือนผมนี่แหละครับ แต่พอต้องเลือกว่าจะเล่นที่ไหน ไม้ เขาเลือกไปอยู่เยอรมัน ส่วนผมก่อนจะมาอยู่เอสโตริล ผมเคยไปอยู่กับสโมสร บราก้า มาก่อน พี่รู้จักมั้ยครับ
แมน : รู้จักสิ สโมสรดังของโปรตุเกสเลย แต่ก่อนก็มีเด็กไทยไปอยู่นี่นา ชื่อ มฆวัน (เกิดอนันต์) ตอนนั้นอยู่รุ่นเดียวกันมั้ยครับ
ชยพิพัฒน์ : ผมมาทีหลังครับ พี่เขามาก่อนผมหลายปีเลย ตอนนี้ถ้าจำไม่ผิดพี่เขาน่าจะกลับไปอยู่ ลพบุรี นะครับ
แมน : ไม่แน่ใจนะ แต่คุ้นๆ ว่าเป็นเด็กลพบุรี แล้วทำไมถึงย้ายจากบราก้า มาอยู่ เอสโตริล ครับ
ชยพิพัฒน์ : การมาเล่นฟุตบอลที่โปรตุเกสไม่ง่ายเลยนะครับ มันต้องมีเรื่องเอกสารเพื่อขอวีซ่า ต้องมีผู้รับรองที่อยู่อาศัยในโปรตุเกสด้วย ซึ่ง เปาโล เขาช่วยเหลือผมทุกอย่าง ทั้งการทำเอกสาร เรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่างเขาออกให้ผมทั้งหมดเลย ผมมีหน้าที่ซ้อมบอลเตะบอลอย่างเดียว ตอนที่มาเอสโตริล ก็คือทาง เปาโล เขาเป็นคนช่วยจัดการให้ครับ
แมน : เขาเป็นเอเจนต์หรอครับ แล้วทำไมเขาต้องดูแลเราขนาดนั้น
ชยพิพัฒน์ : ผมคือนักเตะคนแรกที่เขาดูแลเลยครับ เขาบอกว่าเขาเชื่อมั่นในตัวเรา ว่าเราจะไปได้ไกลกับการเตะฟุตบอลอาชีพที่ยุโรป พี่คิดดูนะค่าใช้จ่ายต่างๆ ปีนึงผมว่าเป็นล้านบาท เขาออกให้ผมหมด ผมแทบไม่ต้องจ่ายอะไรเลย และเขาไม่ได้ผลประโยชน์อะไรจากผมเลยด้วย ค่ากินค่าใช้จ่ายประจำวันเขาก็ส่งมาให้ผมใช้ทุกเดือนนอกเหนือไปจากค่าจ้างที่ผมได้จากสโมสร ผมนับถือเขาเหมือนพ่ออีกคนนึงเลยก็ว่าได้ครับ
แมน : ตอนนี้เขาอยู่ที่โปรตุเกสกับเราหรือเปล่า เราพักอยู่กับใคร กับโฮสต์หรืออยู่ในแคมป์กับสโมสร
ชยพิพัฒน์ : ผมอยู่บ้านพักของสโมสรครับ เป็นบ้านใหญ่อยู่กันประมาณ 12 คน เปาโล ทำงานอยู่ไทยครับพี่ รู้สึกว่าจะสอนฟุตบอลอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติ บางกอก อะไรสักอย่างนี่ล่ะครับ
แมน : น่าทึ่งมากนะ ที่เขาทุ่มเทและเชื่อใจเจ็ทมากขนาดนี้ อย่าทำให้เขาผิดหวังล่ะ พี่ขอเอ่ยชื่อ เปาโล ในบทความด้วยนะ เพราะพี่ว่าเขาควรได้รับการกล่าวถึง ให้เครดิตมากๆ
ชยพิพัฒน์ : เดี๋ยวผมขออนุญาตถามเขาก่อนแล้วกันครับพี่ ว่าเขาจะให้กล่าวถึงมั้ย (น้องเจ็ทไปถามแล้ว เปาโล ไม่ติดขัดอะไร)
แมน : คุยถึงเรื่องการเล่นฟุตบอลที่นั่นบ้างดีกว่า เจ็ท อยู่ในทีมระดับไหน และอยู่ในลีกไหนครับ
ชยพิพัฒน์ : ผมอยู่สโมสร เอสโตริล ปรายยา (Estoril Praia) ยู-19 ครับ ปีนี้ได้ขึ้นไปเล่น ยู-23 แล้ว
แมน : ที่ทีมใหญ่อยู่ในลีกดิวิชั่น 2 โปรตุเกส ใช่มั้ยครับ
ชยพิพัฒน์ : ใช่ครับ แต่ต้องอธิบายก่อนว่าทีมของโปรตุเกสเขาแบ่งกันแบบนี้ เอสโตริล ปรายยา จะเป็นทีมระดับเยาวชนไปจนถึง 23 ปี ส่วนชุดใหญ่กับทีมสำรองจะเรียกว่าทีม เอสโตริล ซาด (Estoril Futebol Sad) เขาจะแยกการซ้อมกันระหว่างสองทีมนี้ครับ ปีนี้เป็นปีแรกที่ผมได้เล่นในลีกยู-19 ให้กับเอสโตริล เพราะผมเพิ่งได้เซ็นสัญญาครับ เนื่องจากเขามีกฎอยู่ว่าคนต่างชาติที่อายุไม่ถึง 18 ปีจะเซ็นสัญญาไม่ได้ เป็นกฎของทางฟีฟ่าเลยครับ
แมน : อ๋อ น่าจะเหมือนในเคสที่ เชลซี, บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด โดนลงโทษไปเพราะซื้อขายนักเตะอายุไม่ถึง 18 ปีใช่มั้ยครับ
ชยพิพัฒน์ : ใช่เลยครับ เขามีกฎห้ามซื้อขายหรือเซ็นสัญญากับนักเตะเยาวชนที่อายุยังไม่ครบ 18 ปี ผมเองก็เพิ่งได้สัญญาทำให้เพิ่งได้เล่นในลีกเป็นปีแรก
แมน : อยู่โปรตุเกสมากี่ปีแล้วนะครับ
ชยพิพัฒน์ : ปีนี้เป็นปีที่ 5 ครับ ผมมาอยู่ตั้งแต่อายุประมาณ 13-14
แมน : แล้วก่อนหน้านี้คือฝึกซ้อมอย่างเดียวไม่ได้ลงแข่งเกมทางการเลยหรอ
ชยพิพัฒน์ : มีแค่ลงเกมอุ่นเครื่องครับ เขาส่งผมลงไม่ได้เพราะติดเรื่องสัญญา แต่ผมก็ซ้อมอยู่กับทีม ลงอุ่นเครื่องตลอดนะครับ พอผมลงได้โค้ชก็จับให้ลงเลย
แมน : ผลงานเป็นยังไงบ้างครับ
ชยพิพัฒน์ : ลงไป 4 นัดยิงได้ 1 ประตูครับ เพราะผมเพิ่งได้เล่นเมื่อต้นปีนี่เองครับ
แมน : ระบบลีกที่นั่นเขาเป็นยังไงนะครับ
ชยพิพัฒน์ : เขาแบ่งเป็น 2 โซนคือโซนเหนือกับโซนใต้ครับ เอสโตริล ที่ผมอยู่จะอยู่โซนใต้ จะมีฤดูกาลปกติก่อน แล้วเอาโซนละ 4 ทีมรวมเป็น 8 ทีมเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย และปีนี้ถือเป็นปีแรกในประวัติศาสตร์สโมสรเลยครับ ที่ชุดยู-19 ได้เข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งก็ต้องไปเจอทีมใหญ่ๆ อย่าง เบนฟิก้า, ปอร์โต้, สปอร์ติ้ง ลิสบอน พวกนี้ครับ
แมน : มีโอกาสขึ้นไปซ้อมกับชุดใหญ่หรือทีมสำรองบ้างหรือยังครับ
ชยพิพัฒน์ : อย่างที่บอกพี่ไปครับ ว่าผมเองก็ยังไม่มีผลงานให้เห็นมากนักเพราะเพิ่งได้เล่นในลีกปีแรก แต่ทางโค้ชชุดใหญ่เขาก็ลงมาดูนักเตะในทีมเยาวชนตลอดอยู่แล้วเพื่อจะดันขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ ผมเองก็หวังว่าถ้าได้เล่นต่อเนื่องแบบนี้ก็อาจเข้าตาเขาบ้าง
แมน : เจ็ทเล่นตำแหน่งอะไรนะครับ สไตล์ประมาณไหน แล้วพอใจกับผลงานของตัวเองในตอนนี้มั้ย
ชยพิพัฒน์ : กองกลางสไตล์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ครับ เป็นตัวตัดเกม คืออาจจะไม่โดดเด่นแต่เป็นตัวคอยเชื่อมจังหวะเกมผมเป็นคนเล่นบอลหนัก แต่ไม่ใช่แบบเข้าแท็คเกิ้ลนะพี่ เป็นแนวใช้เหลี่ยมดักทางบอลเอา สไตล์ที่ชอบก็แนวๆ แบบ ไวจ์นัลดุม ของลิเวอร์พูล ผลงานก็ค่อนข้างพอใจนะครับ โค้ชเขาก็ใส่ชื่อผมไว้ในทีมตลอด เสียดายที่มาเจอโควิดซะก่อนนี่ล่ะครับ ลีกรอบสุดท้ายก็เลยยังแข่งต่อไม่ได้
แมน : ถ้าเป็นตัวทีมชาติก็น่าจะประมาณ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มั้ย ตอนที่เล่นกลางแล้วอาศัยเหลี่ยมบอล ดักทางบอล
ชยพิพัฒน์ : ใช่เลยครับ ประมาณแบบพี่ตั้ม ธนบูรณ์
แมน : มีโดนใบเหลืองใบแดงบ้างมั้ยครับ
ชยพิพัฒน์ : ใบเหลืองเยอะเลยครับ ผมไม่เคยโดนเหลืองเพราะไปทำร้ายคู่แข่งนะ ส่วนมากเป็นจังหวะที่จำเป็นต้องเหลืองตามหน้าที่ เพราะคู่แข่งกำลังจะหลุดไปถึงหน้าประตูแล้ว ก็เลยต้องหยุดเอาไว้ก่อน
แมน : ไปอยู่ที่นั่นปรับตัวยากมั้ยครับ เรื่องภาษา อาหารการกิน วัฒนธรรม หรือการเข้ากับเพื่อนร่วมทีม เขาให้การยอมรับเราดีมั้ย
ชยพิพัฒน์ : แรกๆ ก็ยากนิดหน่อยครับ แต่ผมไม่มีปัญหาเลยเพราะผมอยากมาที่นี่เอง ไม่ได้มีใครบังคับ ตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่าผมชอบประเทศนี้มากนะอยากอยู่ไปตลอดเลย เรื่องภาษาโปรตุกีส ตอนนี้ผมก็พูดสื่อสารในชีวิตประจำวันได้แล้วครับ การปรับตัวกับเพื่อนร่วมทีมช่วงแรกก็มีปัญหานิดหน่อยครับ เพราะเขายังไม่เชื่อใจเราเท่าไหร่ ตอนแรกๆ กองหน้าเคยด่าผม แต่พออยู่ด้วยกันไปนานๆ ได้ลงเล่นทีมเดียวกัน หลังๆ ด่ามาผมก็มีด่ากลับบ้าง รู้ใจรู้ฝีเท้า สนิทกันหมดแล้วครับ
แมน : ในทีมมีนักเตะต่างชาตินอกจากเรามั้ย เขาพูดภาษาโปรตุกีสกันได้หมดรึเปล่า
ชยพิพัฒน์ : มีจากโรมาเนีย, บราซิล, อังกฤษ ครับ ส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษกัน ผมเองก็พูดได้ 3 ภาษาครับ ไทย, อังกฤษ, โปรตุกีส
แมน : ไม่มีพวกจากแอฟริกาที่เคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสหรอ พี่เห็นไปอยู่ลีกโปรตุเกสกันเยอะนะ พวกหมู่เกาะเคปเวิร์ด, โมซัมบิก อะไรงี้
ชยพิพัฒน์ : อ๋อแบบนั้นมีเยอะเลยครับ แต่เขาถือพาสปอร์ตโปรตุเกสกันนะพี่ ก็เลยนับว่าเป็นคนโปรตุกีส ไม่ได้มองเป็นต่างชาติ
แมน : ระดับฟุตบอลเยาวชนที่นั่นยากมั้ย เทียบกับสมัยอยู่เมืองไทย
ชยพิพัฒน์ : ต่างกันเยอะมากครับ ระบบลีกเยาวชนของโปรตุเกส ถูกยกว่าดีที่สุดอันดับต้นๆ ของโลกเลยครับ พี่ลองดูพวกเด็กโปรตุเกสที่ย้ายไปทีมอื่นในยุโรปแต่ละคนค่าตัวแพงทั้งนั้น อย่าง โจเอา เฟลิกซ์ เพิ่งอายุ 20 ปีที่ย้ายจากเบนฟิก้า ไปแอตเลติโก มาดริด 100 กว่าล้านยูโร คือค่าตัวเขาคนเดียวเอาไปซื้อระดับตัวเกรดเอได้ 2-3 คน ไม่นานมานี้บาร์เซโลน่าก็มาดึง ตรินเกา กองหน้าของบราก้าไป คนนี้เก่งมากพี่ ผมเคยเจอกันตอนทีมเยาวชนยอมรับเลยว่าเก่งมาก เขาเป็นตัวทีมชาติชุดเยาวชนของโปรตุเกสทุกรุ่น
แมน : ตอนสมัยที่พี่พากย์บอลครั้งแรก พี่จำได้เลยเป็นลีกโปรตุเกส ตอนนั้น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังอยู่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ตัวผอมบางมาก ลงมาช่วงท้ายเกมเลี้ยงสับขาหลอกอย่างเดียวจนกลายเป็นเรื่องตลกไปเลย แต่ตอนนี้ โรนัลโด้ กลายเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดของโลกไปแล้ว ที่โปรตุเกสเขาเน้นให้นักบอลเล่นด้วยจินตนาการมากกว่าที่อื่นมั้ย
ชยพิพัฒน์ : จริงๆ บอลโปรตุเกสก็เล่นกันหนักนะพี่ แต่อาจไม่โหดเท่าที่อังกฤษ บางคนที่เห็นตัวบางๆ แขนเล็กๆ แต่กล้ามเนื้อต้นขา หรือลำตัวเขาแน่นมาก เพราะเขาจะเน้นให้สร้างกล้ามเนื้อเฉพาะจุดที่เหมาะสมกับการเล่นของแต่ละคน เนี่ยพี่ลองดู เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ทีมชาติฝรั่งเศสของเชลซีก็ได้ ก็องเต้ ตัวใหญ่มั้ยล่ะ แต่ใครเบียดเขาให้ล้มได้บ้าง สำหรับนักเตะโปรตุเกสจะขึ้นชื่อมากในเรื่องเกมรุก พวกตัวสร้างสรรค์เกม เทคนิคดีครับ
แมน : คือถ้านึกถึงบอลโปรตุเกสพี่นึกถึงพวก หลุยส์ ฟิโก้, รุย คอสต้า, โรนัลโด้, เดโก้, นานี่, ริคาร์โด้ กวาเรสม่า พวกนี้สายพลิ้วทั้งนั้น แต่ไม่ค่อยมีพวกกองหน้าสไตรเกอร์เลยนะ อย่าง เปรโด เปาเลต้า หรือ ฮูโก้ อัลเมด้า, เฮลเดอร์ โปสติก้า ก็ไม่ถึงระดับโลกเลย
ชยพิพัฒน์ : กองหน้าเขาก็กำลังสร้างอยู่นะครับ ถ้ากองหน้าแบบเวิลด์คลาสเลยคงต้องสมัย ยูเซบิโอ นั่นเลยครับ
แมน : ทางทีมชาติไทยเคยติดต่อ เจ็ท ให้กลับมาเล่นชุดไหนบ้างมั้ยครับ
ชยพิพัฒน์ : ชุด 19 ปีรุ่นเดียวกับ ไม้ ก็เคยเรียกมานะครับ แต่ผมติดแข่งลีกอยู่เลยไม่ได้กลับไปเล่น
แมน : อ๋อ เพราะเวลาแข่งไม่ตรงกับฟีฟ่าเดย์ด้วยเนอะ แล้วถ้าในอนาคตทีมชาติเรียกไปอีกจะมาเล่นมั้ยครับ
ชยพิพัฒน์ : ถ้าไม่ตรงกับช่วงที่สโมสรมีแข่งก็ไปได้ครับ
แมน : ตอนนี้ตั้งเป้าอนาคตในการเล่นฟุตบอลของตัวเองไว้ยังไงบ้างครับ
ชยพิพัฒน์ : ผมมองที่ปัจจุบันมากกว่าครับ ก้าวไปทีละสเต็ป อย่างตอนนี้ผมก็หวังได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ และขยับขึ้นไปเล่นให้เอสโตริล ในทีมยู-23 ทีมสำรอง และทีมชุดใหญ่ไปทีละขั้น ผมไม่อยากมองไปไกลเกินไป ขอทำปัจจุบันให้ดีที่สุดดีกว่าครับ
แมน : ไว้กลับมาเมืองไทยหรือมาเล่นทีมชาติไทย เจอกันนะครับเจ็ท พี่จะตามไปเชียร์ ขอให้โชคดีกับการเล่นฟุตบอลอาชีพที่ยุโรปนะครับ
ชยพิพัฒน์ : ขอบคุณมากครับพี่แมน ถ้าผมกลับไปเมืองไทย ไว้เจอกันครับพี่ ถ้ามีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเดี๋ยวผมส่งไปให้ครับ
แมน : ขอบคุณมากครับ
ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์)
