:::     :::

ความชัดเจน ที่ไม่ชัดเจน

วันจันทร์ที่ 01 มิถุนายน 2563 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
2,111
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
คงหลีกไม่ได้ว่า เอสซีจี เมืองทองฯ ชั่วโมงนี้คือสโมสรที่ถูกตั้งคำถามเรื่อง ทิศทางการทำทีมสุด

สถานการณ์แถบ ธันเดอร์โดม ถูกย้อมเป็นโทนสีเทา หลังสโมสรเลือกปล่อยแข้งหลักหน้าเก่าเกือบเกลี้ยงแผง (ไม่นับในรายของ ธีราทร บุญมาทัน กับ ธีรศิลป์ แดงดา ที่โกอินเตอร์) ที่เหลือล้วนเป็นดีลอันไม่ต่างจากยื่น “หอก” ให้ศัตรู

ไม่ว่าจะเป็น ศนุกรานต์ ถิ่นจอม, ชาริล ชัปปุยส์, โอ บัน-ซอค, เฮแบร์ตี แฟร์นานเดส หรือ อดิศักดิ์ ไกรษร แม้ 2 รายหลังจะอ้างว่าปล่อยออกจากทีมไปในรูปแบบยืมตัว แต่นั่นแหละ คิดหรือว่าเมื่อหมดสัญญานักเตะจะกลับคืนสู่ทีม

สิ่งที่เกิดขึ้นหลายคนเดาได้ไม่ยาก นั่นเพราะสโมสรอาจต้องการ “ลดเพดาน” ค่าเหนื่อยทีม ที่สูงลิ่วลงมา

ปล่อยแข้งที่แบกค่าเหนื่อยสูงออกไป แล้วใช้ลูกกรอกโรงเรียนกิเลนผยอง ที่ปลุกปั้นมาเป็นแกนหลักในฤดูกาลนี้แทน โดยมีผู้เล่นโควตาต่างชาติ + อาเซียน และนักเตะไทยบางส่วนเป็นแกนหลักประคองเด็ก ๆ




แต่ปัญหาคือ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมืองทองฯ ต้องเสีย 2 แกนหลักที่เปรียบเสมือนไอคอนทีมอย่าง สารัช อยู่เย็น กับ อดิศร พรหมรักษ์ ออกจากทีมเพิ่มอีก

ขณะบ้านหลังใหญ่ ที่เป็นเจ้าของเดียวกันในซอยนวลจันทร์ มีการเลย์ออฟพนักงานออกกว่าครึ่ง ไล่ตั้งแต่ระดับ บก. ที่ตะบันข่าวมาด้วยกันยุคตั้งไข่ ช่างภาพมือฉมังที่ลั่นชัตเตอร์ให้ชายคาแห่งนี้มากกว่า 30 ปี นับนิ้วคร่าว ๆ เวลานี้ในกองฟุตบอลไทย เหลือสมาชิกอยู่ราว 10 กว่าคนเท่านั้น

สิ่งเหล่านี้ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยว่า กิเลนผยอง จะเดินไปทางไหนในฤดูกาลนี้

แม้ล่าสุดที่พ่อใหญ่อย่าง คุณระวิ โหลทอง จะออกมาสร้างความ “ชื้นใจ” ให้แฟนบอลบางส่วนได้บ้าง จากบทสัมภาษณ์ผ่านคนข่าววัยเก๋าย่านวิภาวดีอย่าง บี บางปะกง

คุณระวิ ยืนกรานว่า เมืองทอง ยังไม่ได้ “ยกธงขาว” จะเสียผู้เล่นแกนหลักออกจากทีมไปหลายคน เพราะสโมสรยังสามารถสร้างนักเตะสายเลือดใหม่มากคุณภาพขึ้นมาประดับวงการต่อได้ พร้อมยืนยันว่า “กิเลน” ตัวนี้ ยังมีอนาคตที่ดี มีลุ้นแชมป์อยู่ทุกถ้วย

ในแง่การย้ายออก ผู้เขียนไม่ได้เคลือบแคลงใจ เพราะนี่คือวิถีนักฟุตบอลอาชีพ เมื่อได้รับข้อเสนอดีงาม หรือบ้านหลังใหม่ที่เติมเต็มไฟฝันได้ การย้ายออกไม่ใช่เรื่องผิด    

แต่สิ่งที่อดคิดไม่ได้คือ นอกจากจำนวนผู้เล่น “ขาออก” จะมากกว่า “ขาเข้า” เรื่องของคุณภาพเป็นอีกประเด็นที่สมควรตั้งคำถาม




เงินที่เข้าบัญชีสโมสร ในหลักสิบ-ร้อยล้าน จากการปล่อยผู้เล่น ถูกแทนด้วยนักเตะที่สมน้ำสมเนื้อกับรายที่ปล่อยไปหรือไม่

ทีมปล่อยรถถังอย่าง เฮแบร์ตี, ธีรศิลป์ แดงดา, อดิศักดิ์ ไกรษร ไป เพื่อไปคว้าผู้เล่นอย่าง วิลเลียน ป็อปป์ กับ ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ เข้ามาแทน หรือ โอ บัน-ซอค ถูกแทนที่ด้วย ลูคัส โรชา

สารัช และ อดิศร ที่เสียไป ยังไร้วี่แวว “ตัวแทน” นอกจากข่าวออกมาว่าพร้อมจับบรรดาดาวรุ่ง ที่รอวันเจียระไนฝีตีนขึ้นมา

ส่วนข่าวทุ่มซื้อบรรดาแข้งทีมชาติด้วยเงินหลักหลายสิบล้าน มาทดแทน ก็ตามสไตล์ที่เราอ่านกัน ฮือฮาวันนี้ พรุ่งนี้เงียบ หรือถูกบอกปัดแบบ “รู้กันอยู่”  

การดันดาวรุ่งให้เจนสนามมากขึ้น เป็นเรื่องที่ดี เพียงแต่คุณต้องมีผู้เล่นมากประสบการณ์คอยประคองด้วย ความสำเร็จถึงไปพร้อมกันได้ เหมือนที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำให้เห็น

“สถานะ” เอสซีจี เมืองทองฯ เวลานี้เป็นแบบไหน ?




หากยังบอกว่าเป็นทีมใหญ่ อยู่บนเส้นทางลุ้นทุกแชมป์ มองโลกแบบความเป็นจริง คุณคิดว่านักเตะที่มีอยู่ จะสามารถไล่ตบทีมอย่าง สิงห์ เชียงรายฯ, บีจี ปทุมฯ, ทรู แบงค็อกฯ หรือ การท่าเรือ เหมือนที่ผ่านมาได้หรือไม่

แท็คติก-ระบบทีม คือสิ่งสำคัญ “ใจ” ก็เช่นเดียวมัน แต่สิ่งเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จไม่ได้ หากไร้ทรัพยากรลูกหนังชั้นดี

วันนี้สิ่งที่เห็นผ่านตาจากตลาดนักเตะ กับสิ่งที่ออกมาจากคำพูดบอร์ดสโมสรบางคนมัน “สวนทาง” กัน 

ในแง่ของแฟนบอล คนเหล่านี้ยังพร้อมเป็นลมใต้ปีก เปล่งเสียง “หนุนทีม” เสมอ

ต่อให้สถานะคุณจะเปลี่ยนเป็น “ทีมขนาดกลาง” แค่ประคองตัวอยู่รอดในลีกสูงสุดไปในแต่ละปี มีโบนัสอย่างฟุตบอลถ้วยให้ได้ลุ้นเข้ารอบลึก ๆ บ้างประปรายก็เถอะ

พวกเขาแค่ต้องการความชัดเจน จริงใจ มากกว่าคำพูดสวย ๆ ชวนฮือฮา บนหน้าข่าว


** ภาพประกอบคอลัมน์ : FB Muangthong United



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด