:::     :::

ซิลวินโญ่ : แข้งบราซิเลียนคนแรกของปืนใหญ่

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลายปีที่ผ่านมา มีนักเตะจากบราซิลย้ายมาเล่นให้ อาร์เซน่อล มากมายไม่ว่าจะเป็น จิลแบร์โต้ ซิลวา, เอดู, ชูลิโอ บาปติสต้า, เดนิลสัน, อังเดร ซานโต๊ส และล่าสุด กาเบรียล มาร์ติเนลลี่

ขณะที่ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา หรือ "ดูดู้" ก็นับเป็นบราซิเลียนอีกรายได้เช่นกันแต่เจ้าตัวเลือกเล่นให้ทีมชาติโครเอเชีย 

แต่คนแรกที่เริ่มปักหมุดการเป็นแข้งบราซิเลียนในทีมปืนใหญ่คือ ซิลวินโญ่ หรือชื่อเต็ม Sylvio Mendes Campos Júnior อดีตแบ็กซ้ายดีกรีทีมชาติบราซิล

ซิลวินโญ่ ได้ย้ายร่วมทีม อาร์เซน่อล เพราะหนึ่งในสตาฟฟ์โค้ชของทีมปืนใหญ่นอนไม่หลับจึงลุกขึ้นมาเปิดดูถ่ายทอดสดฟุตบอลและได้ประทับใจฟอร์มของ ซิลวินโญ่ ตอนเล่นให้ โครินเธียนส์ อย่างมาก


ฉลองประตูหลังซัดสุดสวยใส่เชลซี

อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซน่อล ในยุคนั้นกำลังมองหาแบ็กซ้ายรายใหม่พอดีเนื่องจาก ไนเจล วินเทอร์เบิร์น ตัวเก๋าของทีมโรยรามากแล้ว ซิลวินโญ่ จึงถูกดึงร่วมทีมด้วยค่าตัวเพียง 4 ล้านปอนด์ 

ตอนนั้น สเปอร์ส คู่ปรับร่วมเมืองของ อาร์เซน่อล เห็นแววของ ซิลวินโญ่ เช่นกันและต้องการได้ตัวอย่างมาก ทว่าแบ็กซ้ายโครินเธียนส์เลือกเซ็นสัญญากับทีม "ปืนใหญ่" 

นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเป็นแข้งบราซิเลียนคนแรกที่เล่นให้ อาร์เซน่อล 

แบ็กซ้ายที่เกิดใน เซา เปาโล ปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตในอังกฤษเช่นเดียวกับสไตล์การเล่นของ อาร์เซน่อล จนกลายเป็นแกนหลักของทีมในเวลารวดเร็ว 

ซิลวินโญ่ มีลีลาการเล่นตามแบบฉบับนักเตะสายพันธุ์แซมบ้าอย่างแท้จริงไม่ว่าจะเป็นทักษะส่วนตัว ความคล่องแคล่ว พลิ้วไหว และเล่นเท้าซ้ายได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ในยุคนั้น เมื่อพูดถึงตำแหน่งแบ็กซ้ายบราซิล หมายเลขหนึ่งที่ไม่มีใครเทียบได้คือ โรแบร์โต้ คาร์ลอส แบ็กจอมบุกของ เรอัล มาดริด ที่เติมเกมรุกได้อย่างทรงพลังและดุดัน


ลุยกราบซ้ายได้เพลินตา

ซิลวินโญ่ ไม่ได้มีแข็งแกร่งในแบบ คาร์ลอส แต่ก็มีเซนส์เกมรุกในตัวเต็มเปี่ยม คอยหาพื้นที่สอดขึ้นข้างหน้าตลอดเวลา ทำให้เกมฝั่งซ้ายของ อาร์เซน่อล มีมิติเพิ่มมากขึ้น

ความต่างระหว่าง ซิลวินโญ่ กับ วินเทอร์เบิร์น ที่นอกเหนือจากอายุซึ่งหนุ่มแน่นกว่ามากคือ ซิลวินโญ่ ตอบโจทย์การเล่นในสไตล์เคาะบอลตามช่องบนพื้นของ เวนเกอร์ มากกว่า  

ในฤดูกาลแรกกับทีม ซิลวินโญ่ ได้ลงสนามมากถึง 41 นัดจากทุกรายการ และเกือบพาทีมได้แชมป์ยูฟ่า คัพ ในปี 2000 หากไม่พลาดท่าพ่ายจุดโทษต่อ กาลาตาซาราย อย่างน่าเสียดาย

ซิลวินโญ่ ไม่ได้เป็นคนยิงจุดโทษในวันนั้น แต่เขาก็เคยมีความทรงจำไม่ดีในการดวลจุดโทษที่เคยยิงพลาดในเกมลีก คัพ กับ มิดเดิ้ลสโบรช์ จนทำให้ทีมตกรอบ 

ฤดูกาลที่สอง ซิลวินโญ่ ได้ลงเล่นน้อยลงเพราะในทีมมีดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง แอชลี่ย์ โคล ก้าวขึ้นมาพอดี แต่กระนั้นแบ็กซ้ายสายพันธุ์แซมบ้าก็ยังทำผลงานโดดเด่นจนติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอร่วมกับยอดนักเตะยุคนั้นอย่าง รอย คีน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ไรอัน กิ๊กส์, ยาป สตัม และเพื่อนร่วมทีมทั้ง เธียร์รี่ อองรี และ ปาทริค วิเอร่า 


กลับมาเจอทีมเก่าตอนเล่นให้ เซลต้า 

ด้วยพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของ แอชลี่ย์ โคล ทำให้ เวนเกอร์ จำใจต้องปล่อย ซิลวินโญ่ ออกไปให้ เซลต้า บีโก้ เพราะไม่สามารถการันตีตัวจริงได้ 

ซิลวินโญ่ จึงได้เล่นให้ อาร์เซน่อล เพียง 2 ฤดูกาล แต่ก็เป็น 2 ฤดูกาลที่แฟนบอลปืนใหญ่จดจำได้อย่างดีทั้งด้วยลีลาการเล่นในแบบบราซิเลียนที่ทีมไม่มีมาก่อน และความถ่อมตนจริงใจเป็นที่รักของคนรอบข้าง

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของ ซิลวินโญ่ กับ อาร์เซน่อล ก็คือลูกยิงติดไซด์ก้อยเสียบตาข่ายสุดสวยช่วยให้ทีมไล่ตีเสมอ เชลซี 2-2 อย่างสะใจ

หลังอำลาไฮบิวรี่ ซิลวินโญ่ ทำได้เยี่ยมกับการเล่นในสเปนที่ช่วยให้ เซลต้า บีโก้ คว้าโควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร 

จากนั้นในปี 2004 ก็ได้ย้ายไปเล่นให้ทีมใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า ที่ ซิลวินโญ่ มีส่วนร่วมคว้าแชมป์ลา ลีกา ได้ 3 สมัย, โกปา เดล เรย์ 1 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัยซึ่งสมัยแรกที่ได้ในปี 2006 ก็คือการเอาชนะต้นสังกัดเก่า อาร์เซน่อล 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศนั่นเอง


ปลอบใจนายเก่าหลังนัดชิงฯ ชปล. 2006

ซิลวินโญ่ ย้ายกลับมาทิ้งทวนในพรีเมียร์ลีกด้วยการเซ็นสัญญากับ แมนฯ ซิตี้ ในปี 2009 แต่ก็เล่นได้เพียงฤดูกาลเดียวก่อนประกาศแขวนสตั๊ดในวัย 35 ปี 

หลังประกาศอำลาชีวิตนักเตะในปี 2011 ซิลวินโญ่ เริ่มงานด้านโค้ชทันทีด้วยตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชที่ ครูเซโร่ ในปีเดียวกันนั้น ก่อนที่อีก 3 ปีถัดมาจะย้ายกลับมาทำงานในยุโรปในตำแหน่งมือขวาของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่ อินเตอร์ มิลาน 

จากนั้นในปี 2016 ซิลวินโญ่ เข้าไปเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติบราซิลของกุนซือ ตีเต้ และเคยได้รับแต่งตั้งให้คุมทีมชาติบราซิลชุดยู-23 เมื่อปี 2019 เพื่อเตรียมตัวลุยศึกโอลิมปิก 2020 ทว่าตัดสินใจโยกไปรับงานคุมทีมเต็มตัวในตำแหน่งกุนซือของ โอลิมปิก ลียง ทีมดังในลีก เอิง ฝรั่งเศส ในช่วงซัมเมอร์ 2019

งานคุมทีมเต็มตัวงานแรกของ ซิลวินโญ่ ไปได้ไม่สวยนัก เขาถูกปลดหลังฤดูกาลผ่านไปเพียง 3 เดือนเท่านั้น

แม้ไปได้ไม่กี่น้ำแต่ก็ไม่ใช่ประสบการณ์ที่เลวร้ายไปเสียทั้งหมดเพราะด้วยอายุเพียง 46 ปีในตอนนี้ ประสบการณ์ช่วงสั้นๆ ในลีก เอิง รวมถึงงานผู้ช่วยก่อนทั้งสโมสรและทีมชาติก่อนหน้านั้นจะเป็นประโยชน์สำหรับ ซิลวินโญ่ ในอนาคตอย่างแน่นอน 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด