แมน : Hi สวัสดีครับ ซัลบา Hola Hola!
ซัลบา : สวัสดีครับ Hola!
แมน : ขอบคุณนะครับที่ให้เกียรติมาร่วมสนทนาในวันนี้ ผมคงจะขอเริ่มต้นคำถามง่ายๆ สบายๆก่อนนะครับ ตอนนี้ ซัลบา อายุเท่าไหร่แล้วครับ
ซัลบา : 27 ครับ
แมน : คุณพูดภาษาไทยได้มั้ย
ซัลบา : พูดสบายๆ ได้ครับ แต่ถ้าคำถามยากๆ เรื่องคอนเซ็ปต์ พูดไม่ค่อยได้ครับ
แมน : คุณพูดภาษาอังกฤษ, สเปน และไทยได้นิดหน่อยเนอะ
ซัลบา : ภาษาคาตาลันด้วยครับ
บิ๊กแชมป์ : ภาษาคาตาลันกับสเปนนี่ต่างกันเยอะมั้ยครับ
ซัลบา : ต่างกันนิดหน่อย คล้ายๆ ไทยกับลาว ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ ฟังกันเข้าใจ
แมน : คุณอาศัยและเติบโตที่เมืองบาร์เซโลน่า ใช่มั้ย เป็นแฟนบอลของบาร์เซโลน่าด้วยหรือเปล่า
ซัลบา : ใช่ๆ ครับ เป็นแฟนบาร์เซโลน่า และเคยทำงานเล็กๆ อยู่กับบาร์เซโลน่า ที่คัมป์นูว์ 3 ปีครับ (2014 - 2017 ฝ่ายการคุมทีมของ เอคโคโน บาร์เซโลน่า)
แมน : คุณเคยทำงานที่ต่างประเทศก่อนมาเมืองไทยมั้ยครับ
ซัลบา : ผมไปอินเดียแล้วก็ไปสหรัฐฯที่นิวยอร์ค มีกิจกรรมที่อินเดียไปช่วยงานเล็กๆ ไม่มีตังค์ แล้วก็ไปช่วยพัฒนาฟุตบอล มีคลินิกฟุตบอลเล็กๆ ที่อินเดีย ที่นิวยอร์คเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
แมน : เด็กไทย, เด็กสเปน, เด็กอินเดีย, เด็กอเมริกัน มีความแตกต่างกันเยอะมั้ยครับ
ซัลบา : ผมมองว่า เด็กไทยกับอินเดียมีหลายอย่างคล้ายกัน มีปัญหาคล้ายกัน มีจุดแข็งคล้ายกัน เด็กในเอเชียมีสกิลที่ดี เล่นได้ เบสิกดี แท็กติกได้นิดหน่อย แต่ก็มีปัญหาในเรื่อง เรื่องนอกสนามยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ วิธีการดูแลตัวเอง การเลือกรับประทานอาหาร ความเป็นมืออาชีพทั้งในและนอกสนาม
แมน : ตอนนี้คุณอาศัยอยู่ที่ไหนครับ
ซัลบา : อยู่สาทร ใกล้ๆ บีทีเอสสุรศักดิ์ ครับ ใกล้ๆ กรุงเทพคริสเตียน
แมน : มีคนถามมาว่าคุณมีภรรยาหรือยัง 555 คุณอยู่ที่สาทรกับใครครับ
ซัลบา : ไม่มีๆ อยู่คนเดียว ทุกๆ วันผมสนแต่เรื่องฟุตบอล ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้ เพราะผมโฟกัสแต่ฟุตบอลครับ
แมน : เหงาบ้างมั้ยเนี่ย
ซัลบา : 555 บางครั้งครับ แค่บางครั้ง ผมโอเค ไม่เป็นไรๆ
บิ๊กแชมป์ : ตอนนี้เมืองไทยเจอปัญหาโควิด คุณมาทำงานเกี่ยวกับฟุตบอลเด็กถูกมั้ยครับ แล้วตอนนี้คุณทำอะไรอยู่บ้าง
ซัลบา : ตอนนี้ฝึกสอนไม่ได้ ผมก็พยายามวิเคราะห์เกมบุนเดสลีกา จาก 5 ทีมชั้นนำอย่าง บาเยิร์น มิวนิค, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, อาร์เบ ไลป์ซิก, มึนเช่นกลัดบัค และ เลเวอร์คูเซ่น ผมวิเคราะห์แบบเจาะลึก เพราะผมต้องการศึกษาจุดแข็งจุดอ่อนของพวกเขาเพื่อนำมาเป็นแนวคิดในการทำทีมของผม
บิ๊กแชมป์ : ผมรู้มาว่า การ์เลส รามาโกซ่า (ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมฟุตบอลไทย) มีเป้าหมายที่จะดึงนักเตะไทยที่อยู่ต่างประเทศทั้งที่เยอรมัน ที่อังกฤษ คุณคิดถึงเรื่องการนำเข้านักเตะเหล่านี้อยู่ใช่มั้ย
ซัลบา : ใช่ การ์เลส รามาโกซ่า มีประสบการณ์สูงมาก เขาเคยทำงานโค้ชอคาเดมี่ของ บาร์เซโลน่า, ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง ฯลฯ ดังนั้นเขาจึงมีความรู้มากมายเกี่ยวกับระบบฟุตบอลเยาวชน เขาเข้ามาเพื่อช่วยประเทศไทยในการเซ็ตอัพระบบการจัดการที่ดี, พัฒนาบุคลากร และปรับปรุงโครงสร้างเพื่อวงการฟุตบอลไทยในอนาคต
แมน : คุณรู้จัก มาร์เซล ซีกฮาร์ด (กองหน้าลูกครึ่งไทย-เยอรมันของ อุนเตอร์ฮัคกิ้ง ในลีกา 3 เยอรมัน) หรือ ธนวัฒน์ สูงจิตถาวร (มิดฟิลด์ชาวไทยเล่นอยู่กับ น็องซี่ ในฝรั่งเศส) หรือเปล่าครับ
ซัลบา : ผมรู้จักพวกเขาครับ เมื่อปีที่แล้วผมเคยติดต่อกับเขา (มาร์เซล) เพื่อขอคลิปการเล่นมาวิเคราะห์และติดตามดูเขา ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่น่าสนใจมากๆ ในยุโรป ผมคิดว่าผมต้องพิจารณาเขา และได้ใส่ชื่อเขาไว้ในฐานข้อมูลผู้เล่นแล้ว เราต้องจับตามองเขาหากมีโอกาสดีที่จะมาเล่นให้ทีมชาติไทยเหมือนอย่าง เบนจามิน เดวิส ที่ไทยเคยมอบโอกาสที่ดีให้กับเขา
แมน : ตอนนี้ซัลบาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทยยู-19 อย่างเป็นทางการแล้วหรือยังครับ
ซัลบา : ใช่ครับ พวกเขามอบหมายให้ผมดูแลทีมอายุต่ำกว่า 20 ปี และเริ่มจากโฟกัสที่ทีมชุดยู-19 ผมเริ่มต้นทำงานตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้วก่อนมีโควิดเพื่อวิเคราะห์และทำความรู้จักผู้เล่น ผมไปที่กัมพูชาด้วย (ศึกยู-19 ชิงแชมป์อาเซียน) เพื่อสเกาต์ทีม ตั้งแต่ตอนที่อิสระ ศรีทะโร ยังเป็นโค้ชอยู่ ผมอยู่ที่นั่นกับเขาและผู้เล่นด้วย ผมเคยทำงานร่วมกับเขาในช่วงเริ่มต้น
แมน : แผนในการทำงานทีมชาติยู-19 มีเป้าหมายยังไงบ้าง เพราะฟุตบอลทีมชาติไทยไม่เคยไปฟุตบอลโลกยู-20 เลย การเข้ามาของคุณจะมีอะไรแตกต่างออกไปมั้ย
ซัลบา : เรื่องนั้นผมทราบดีครับ แผนงานของเราคือเตรียมเข้าร่วมทัวร์นาเม้นต์ต่างๆ แต่มาเกิดโควิดซะก่อน เราวางแผนไปร่วมทัวร์นาเม้นท์ที่สเปน แต่ก็ไปไม่ได้ด้วยสถานการณ์โควิด แต่หากสถานการณ์ผ่านพ้นไป เราคงจะได้ผู้เล่นเจเนอเรชั่นใหม่ๆ สำหรับชุดยู-19มาร่วมงานกันใหม่อีกครั้ง
แมน : ขอบเขตของการสเกาต์นักเตะเยาวชนของคุณในเมืองไทยกว้างแค่ไหน มีวิธีการสเกาต์ยังไงบ้าง
ซัลบา : หลังจากผมมาถึงเมืองไทยเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ปี 2017 ผมเริ่มต้นสเกาต์ผู้เล่นทุกกลุ่มอายุตั้งแต่รุ่น 13, 15,17,19 ปี รวมถึงแม้กระทั่งเหล่านักเตะอาชีพด้วย ผมดูบอลไทยลีกทุกเสาร์อาทิตย์ ดูถ่ายทอดสดด้วย ผมติดตามทั้งไทยลีก, ลีกเยาวชน19ปี, 17 ปี ติดตามทุกๆ รุ่นอายุ ตอนนี้ผมมีฐานข้อมูลนักเตะไทยมากกว่า 1,000 คน ผมลิสต์รายชื่อนักเตะบางคนไว้สำหรับคนที่ผมจะเรียกมาใช้งานในทีมของผมและคอยติดตามดูเพอร์ฟอร์แมนซ์ของพวกเขา
แมน : คุณคิดว่านักเตะเยาวชนของไทยมีคุณภาพอย่างไรบ้าง และผู้เล่นไทยจำเป็นต้องพัฒนาสกิลด้านไหนบ้าง
ซัลบา : ผู้เล่นไทยเล่นกับบอลได้ดี เวลาพวกเขามีบอล การคอนโทรล, ผ่านบอล, เทิร์นบอลได้ดี โอเคเบสิกดี แต่พวกเขาจำเป็นต้องพัฒนาแท็กติกการเล่นเป็นกลุ่ม ถ้าเปรียบเทียบผู้เล่นไทยกับยุโรป บิ๊กสเต็ปคือความเข้าใจเรื่องแท็กติก เราต้องอธิบายให้ผู้เล่นไทยเข้าใจเรื่องแท็กติกตั้งแต่ยังเด็กๆ ตั้งแต่อายุ 10, 12, 15 เราต้องเริ่มต้นสอนเรื่องแท็กติกให้พวกเขาแล้ว แท็กติกคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ผู้เล่นไทยต้องพัฒนา
แมน : ผู้ชมฝากคำถามมาว่า 3 ข้อที่นักเตะไทยจำเป็นต้องพัฒนาคืออะไรบ้าง
ซัลบา : เรื่องที่ชัดเจนที่สุดคงเป็นเรื่องที่เราจำเป็นต้องการพัฒนาทักษะในการเล่นเกมรับ ผู้เล่นระดับโลกเวลาที่ไม่ได้เล่นเกมรับ เขาไม่ได้ยืนรอ แต่เขาจะเข้าไปช่วยเพรสซิ่งผู้เล่นคู่ต่อสู้ที่ครองบอล บางครั้งก็ต้องลงไปช่วยเกมรับด้วย ไม่ใช่ปักหลักอยู่ในตำแหน่งของตัวเอง นี่เป็นเรื่องสำคัญ มันเป็นปัญหาง่ายๆ ที่สามารถสร้างความแตกต่างในเกมได้เป็นอย่างมาก แล้วก็ในเรื่องเทคนิคในการเล่นเกมรับเช่น วิธีการเคลียร์บอล วิธีการตั้งรับในสถานการณ์ที่ต้องดวล 1 ต่อ 1 เราต้องพัฒนาเป็นพิเศษทั้งเรื่องเทคนิคและแท็กติกในการเล่นเกมรับ
แมน : มีคำถามนึงที่แฟนบอลไทยถามกันมาเยอะมาก คือทำไมคุณถึงไม่เรียก เฟมี (โอลุวะ เฟมี อนพัช โยเซฟ อาเซ่ กองหน้าลูกครึ่งไทย-ไนจีเรีย ที่เป็นดาวซัลโวบอลเด็กหลายรายการจาก รร.อัสสัมชัญ ธนบุรี) ไปติดทีมชาติไทยที่คุณคุมทีมเลย
ซัลบา : ผมทราบดีครับว่าคนไทยถามคำถามนี้กันเยอะมาก ทั้งในข่าวและทุกๆ ที่เลย ความจริงผมเคยเรียก เฟมี มา 3 ครั้งแล้ว ผมรู้ว่าเขาเป็นผู้เล่นที่ดีมากๆ ใช่ มีทักษะดีมาก แต่ในตำแหน่งของเขาผมเลือกที่จะใช้ผู้เล่นคนอื่นที่มีคุณสมบัติที่แตกต่าง ผมเลือก แฟร้งค์ (นิพิฐพนธ์ วงษ์ปัญญา) กองหน้าของคิงพาวเวอร์ ที่ตอนนี้อยู่ สุพรรณบุรี เอฟซี เพราะว่าผมคิดว่าในสไตล์ของผม ผมต้องการให้ทีมเล่นเกมเพรสซิ่งสูง ต้องการผู้เล่นที่ช่วยเกมรับได้มากๆ ถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพชัดๆ บางครั้งคุณต้องการผู้เล่นอย่าง ฟีร์มิโน่ บางครั้งคุณก็ต้องการผู้เล่นแบบ หลุยส์ ซัวเรซ นี่คือตัวอย่าง ทั้งสองคนแตกต่างกัน เป็นนักเตะที่ดีแต่มีสไตล์การเล่นที่ต่างกัน โอเคตอนนี้เราอาจจะเลือกนักเตะคนอื่น แต่เขา (เฟมี) มีทักษะที่ดี เป็นนักเตะที่ดีมากๆ และเราก็ยังติดตามเขา ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่าในอนาคตเขาจะเข้าสู่ทีมไม่ได้ ผมรู้จักเขาดี ผมติดตามเขาอยู่ และสนับสนุนเขา เขาเคยมาร่วมซ้อม 3 ครั้ง เขาได้ฝึกซ้อมและคลุกคลีกับทีม ถ้าเขาพัฒนาตนเอง ต่อไปในอนาคตเขาก็จะมีเวลากับทีมมากขึ้นแน่นอน
แมน : แนวทางหรือปรัชญาการทำทีมของคุณหรือเอคโคโน่คืออะไร
ซัลบา : เราต้องการให้ทั้งทีมช่วยกันเล่น ข้อแรกที่เราอยากให้อยู่ในปรัชญาของทีมของเราคือการเล่นแบบคอมแพ็คท์ เวลาบุกก็บุกด้วยกันทั้งทีม ไม่ใช่ต่างคนต่างปักหลักอยู่ในไลน์ตัวเอง เราไม่ต้องการการเล่นแบบใช้ 4 ผู้เล่นในเกมบุก แล้วเอา 6 ผู้เล่นที่เหลือมารอตั้งรับ ไม่ๆๆ เราต้องการให้ทั้งทีมเล่นร่วมกัน นั่นคือแนวคิดหลักของเรา พยายามกดดันคู่แข่งตั้งแต่แดนบน เพราะนั่นคือแนวคิดในแบบไทยเวย์คล้ายๆ กับสไตล์ของสเปนที่มีปรัชญาในเรื่องการเล่นไฮเพรสซิ่ง ซึ่งเหมาะสมกับรูปร่างนักเตะของเรา นักเตะของเราไม่ได้ตัวสูงใหญ่มาก ดังนั้นถ้าเราถอยไปรอตั้งรับในกรอบเขตโทษ บอลเคลื่อนที่ผ่านไปมา แล้วเราไม่สามารถเก็บบอลให้อยู่ในการคอนโทรลได้ เกมของเราจะมีปัญหา เราจึงต้องหันมาเล่นเกมเพรสซิ่ง ต้องไล่บอลมากๆ เพราะว่านักเตะเรามีความเร็ว ต้องใช้การเคลื่อนที่ยามไม่มีบอล เล่นบอลในแนวกว้าง ยกตัวอย่างเวลาที่เราเจอทีมชาติญี่ปุ่น เราเจอสถานการณ์แบบนั้นซึ่งทำให้เราไม่สามารถเชื่อมเกมได้เลย
แมน : คุณผู้ชมอยากให้คุณลองทำนายหน่อยว่าใครจะเป็นกองกลางและกองหน้าซูเปอร์สตาร์ของไทยในรุ่นต่อไป มีใครโดดเด่นบ้าง
ซัลบา : โอเค ผมขอบอกว่า ในช่วงปีแรกที่ผมมาเมืองไทย ผมเคยติดตามดู แบงค์ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เขาเป็นนักเตะมหัศจรรย์ เป็นผู้เล่นระดับท้อป เขามีอนาคตที่สดใสรออยู่ ในอนาคตเขาสามารถจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของไทยได้ แน่นอนว่ากองหน้าคงต้องเป็นศุภณัฏฐ์ ส่วนตำแหน่งมิดฟิลด์ หนึ่งในผู้เล่นที่มีอนาคตดีมากๆ คือ พีม สิทธา บุญหล้า กองกลางจากอัสสัมชัญ ธนบุรี ตอนนี้อายุ 16 ปี เป็นมิดฟิลด์ตัวใน เขาเล่นสไตล์เดียวกับ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ของบาร์ซ่าเลย
แมน : แล้ว เอกนิษฐ์ ปัญญา, สุภโชค สารชาติ ล่ะครับ
ซัลบา : พวกเขาเก่งมากๆ ไม่ต้องสงสัยว่าระดับของเขาสามารถไปเล่นที่ญี่ปุ่นหรือยุโรปได้เลย ผมมั่นใจ ผมชอบเขามากๆ ทั้ง สุภโชค ทั้ง เอกนิษฐ์ เลย
บิ๊กแชมป์ : แล้วถ้ากองหลังล่ะ
ซัลบา : ผมชอบ ชินภัทร ลีเอาะ นะ เก่งมากๆ แต่ถ้าจากทีมของผมที่กำลังจะก้าวขึ้นมาก็มี ชนภัช บัวพันธ์ แล้วก็ ธีร์กวิน จันทร์ศรี ที่น่าจับตามอง
แมน : ตัวสูงมากนะครับ ชนภัช บัวพันธ์ เนี่ย สูงประมาณ 190 ได้
ซัลบา : 192 ซม. ครับ สูงมากๆ เขาเคยไปฝึกเลสเตอร์ กับฟ็อกซ์ฮันท์อคาเดมี่ ผมมั่นใจว่าเขาจะมีอนาคตที่มหัศจรรย์ เขามีความเป็นมืออาชีพมาก เขาส่งข้อความและส่งคลิปมาหาผมทุกวันผ่านทางไอโฟนว่าวันนี้เขาออกกำลังกายรักษาความฟิตยังไงบ้าง ให้ผมช่วยดูว่าที่เขาฝึกอยู่โอเคมั้ย และผมก็ติดตามดูเขาอยู่ ผมมั่นใจว่าเขาจะมีอนาคตที่ดีมากๆ
แมน : ทัศนคติดีมากเลยนะ คุณรู้มั้ยว่า ชนภัช เขาเคยเล่นกองหน้ามาก่อนที่จะมาเล่นเซนเตอร์
ซัลบา : ใช่ ครั้งแรกที่ผมเห็นเขาตอนเล่นให้กับ อัสสัมชัญ ศรีราชา ตอนนั้นเขาอายุ 13 เล่นตำแหน่งสไตรเกอร์ แต่พอผมเห็นเขา ผมบอกเลยว่าไม่ใช่ ผมจับเขามาเล่นเซนเตอร์ หลังจากนั้นเขาเลิกเล่นกองหน้าไปเลย ในเกมแรกที่ผมเห็นเขามันชัดเจนมากว่าเขาต้องเล่นเซนเตอร์ หลังจากนั้นเขาก็เล่นเซนเตอร์มาตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเขาจะมีอนาคตที่ดีแน่ๆ
แมน : ผมเคยทราบมาว่าทางฝ่ายเทคนิคมีการแยกนักเตะแต่ละรุ่นเป็นอีลิท เพลเยอร์ (ผู้เล่นระดับหัวกะทิ) มีใครบ้างที่เป็นอีลิท เพลเยอร์ มีการให้คำปรึกษาแนะนำเจ้าตัวกับสโมสรอย่างไรบ้าง
ซัลบา : เรามีผู้เล่นหลายคนที่ถูกเลือกไว้เป็นกลุ่มอีลิท เพลเยอร์ โดยดูจากศักยภาพและความสามารถเฉพาะตัวที่ยอดเยี่ยม อย่างเช่น ศุภณัฏฐ์, เอกนิษฐ์, สุภโชค, ศุภชัย หรือ กฤษดา กาแมน ของชลบุรี เป็นต้น
แมน : สราวุฒิ เสาวรส ด้วยใช่มั้ย
ซัลบา : สราวุฒิ ของชลบุรี ใช่ๆ ยังมี ชินภัทร ลีเอาะ ด้วย ผู้เล่นเหล่านี้ถูกเลือกให้เป็นผู้เล่นรุ่นใหม่ๆ ที่จะก้าวขึ้นไปสู่ทีมชาติชุดใหญ่ครับ
แมน : ซัลบามองพัฒนาการของนักฟุตบอลไทยในรุ่นเด็กๆ เป็นยังไงบ้าง ตอนนี้ถือว่าไปในทิศทางที่ดีหรือเปล่า
ซัลบา : ผมมองว่า ศุภณัฏฐ์ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากๆ ตั้งแต่ที่เขาอายุยังไม่ถึง 15 ปี ตอนที่เอคโคโน่เพิ่งมาที่นี่ เราเคยโค้ชเขา เราใส่เขาไว้ในอีลิทกรุ๊ป และตอนนี้เขามีทักษะที่ดีมากๆ เราคิดว่าเราจะสามารถช่วยสร้างนักเตะเพิ่มขึ้นมาได้ไม่ว่าจะเป็นอายุ 19, 16, 14 ได้ เพื่อก้าวขึ้นไปเล่นในทีมของนิชิโนะ นั่นคือเป้าหมายในการทำงาน ช่วยนิชิโนะเพื่อหาผู้เล่นดีๆ ที่พร้อมก้าวขึ้นไปเล่นกับเขา ตอนนี้นิชิโนะใช้งาน เอกนิษฐ์, ศุภชัย, ชินภัทร, ศุภณัฏฐ์, สุภโชค ทั้งหมดเป็นผู้เล่นอายุน้อย หรือ พิธิวัตต์ ทั้งหมดขึ้นไปเล่นทีมชุดใหญ่แล้ว นี่คือเป้าหมายของเราเพื่อหาผู้เล่นให้นิชิโนะ ให้เขาสามารถเลือกใช้ผู้เล่นอายุน้อยๆ ได้
แมน : คุณเคยเห็นคอมเม้นท์ต่างๆ จากแฟนบอลใช่มั้ย ที่มีคนวิจารณ์ว่า คุณชอบเปลี่ยนตำแหน่งผู้เล่น อย่างเช่นบางคนเคยเล่นกองกลาง แต่คุณจับไปเล่นกองหน้า
ซัลบา : อย่างเช่นใครครับ
แมน : อ่า อย่างเช่น แฟร้งค์ นิพิฐพนธ์ พวงปัญญา ก็ได้
ซัลบา : โอเค แฟร้งค์ เขาเก่งมาก เขาสามารถเล่นปีกซ้ายได้ แต่ในความคิดของผม เขาสามารถช่วยทีมของผมได้ดีกว่าในตำแหน่งสไตรเกอร์ เพราะผมต้องการผู้เล่นเกมรุกที่ไปเป็นทีม ไปช่องได้ดีมาก ผมใช้เขาตรงนี้เพราะเรามีกองกลางที่ดีมากๆ และผมไม่ได้ต้องการเล่นแผนฟอลส์ไนน์นะ ไม่ใช่ฟอลส์ไนน์ นิพิฐพนธ์เล่นสไตรเกอร์แบบไปเป็นทีมเหมือน หลุยส์ ซัวเรซ ผมต้องการสไตรเกอร์แบบ หลุยส์ ซัวเรส กองหน้าแบบที่วิ่งไปเป็นทีม เพื่อจะสร้างสรรค์เกมและเปิดช่องว่างให้กองกลางของเรา เพราะเรามีกองกลางพรสวรรค์สูงอยู่ ผมต้องการมีกองหน้าเบอร์ 9 ที่สร้างสรรค์เกมและทำลายช่องว่างได้ นั่นคือเหตุผลที่ผมใช้ นิพิฐพนธ์ ในตำแหน่งสไตรเกอร์ ยกตัวอย่างนะ ในเกมรอบรองชนะเลิศชิงแชมป์อาเซียนที่เราพบกับ อินโดนีเซีย นิพิฐพนธ์ เล่นกองหน้ายิง 2 ประตู เราชนะ 2-0 เราเล่นเพรสซิ่งได้อย่างแข็งแกร่งมากๆ เขาเคลื่อนที่หาที่ว่างได้ดีมาก นั่นคือตัวอย่างเกมที่เราใช้เขาเป็นสไตรเกอร์ คุณลองไปเช็คแมตช์นั้นได้ เขาเล่นได้น่าทึ่งมากในฐานะสไตรเกอร์ นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไม
แมน : ครั้งต่อไป คุณจะลองใช้ เฟมี ยืนสไตรเกอร์ แล้วให้ผู้เล่นคนอื่นๆ คอยสนับสนุนเขาเพื่อทำประตูให้ทีมมั้ย
ซัลบา : เราต้องเช็คเพอร์ฟอร์แมนซ์ของเขา เพราะตอนนี้ติดเรื่องโควิดอยู่ เขาห่างจากเกมไปนาน ดังนั้นพอหลังพ้นช่วงโควิด เราจะไปสเกาท์และดูว่าหากเขามีเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ดี เขาก็ย่อมมีโอกาส พอสถานการณ์ในเมืองไทยดีขึ้น เราจะต้องไปดูไปวิเคราะห์ และทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเพอร์ฟอร์แมนซ์เท่านั้น
แมน : เขาไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องระเบียบวินัย หรือความประพฤติใช่มั้ย ในความคิดของคุณ
ซัลบา : ไม่ๆๆ เขาไม่มีปัญหาเรื่องวินัยเลย ตอนเขามาซ้อมกับเราเขาปฏิบัติตามกฎของเราทุกอย่าง ไม่มีปัญหาเลย มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสไตล์และวิธีการเล่นที่เราต้องการเท่านั้นจริงๆ
แมน : มีคนชื่นชมคุณว่าสร้างระบบเพรสซิ่งในทีมเยาวชนได้ดีมาก
ซัลบา : ใช่ ผมพยายามใส่ระบบเพรสซิ่งเพราะผมเชื่อว่ามันคือระบบพื้นฐานสำหรับฟุตบอลไทยเลย ในความคิดของผมนะ ถ้าทีมไทยเล่นเพรสซิ่งได้ดี เราจะสามารถชนะรายการสำคัญๆ เราจะสามารถคอนโทรลเกมได้ ผมชอบเกมไฮเพรสซิ่งในสไตล์คล้ายๆ แบบที่ลิเวอร์พูลใช้ ซึ่งผมมองว่าเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับทีมไทยเลย
แมน : คุณคิดว่ามีนักเตะไทยคนไหนสามารถไปเล่น ลา ลีกา สเปนได้มั้ย
ซัลบา : ได้แน่นอน ผมคิดว่านะ นักเตะไทยรุ่นใหม่ๆ มีพรสวรรค์สูงมาก และในอนาคตพวกเขาสามารถไปเล่นในยุโรปในลีกใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีก หรือ ลา ลีกา แน่นอนเพราะในตอนนี้นักเตะไทยพิสูจน์ตัวเองได้แล้วว่าสามารถเล่นในเจลีก ของญี่ปุ่นได้ เช่น ธีราทร, ชนาธิป, ธีรศิลป์, ฐิติพันธ์ แสดงให้เห็นในญี่ปุ่นว่าโอเคแล้ว ตอนนี้สเต็ปต่อไปก็คือการไปพิสูจน์ตัวเองในยุโรป ผมคิดว่าเราพร้อมแล้ว ศุภณัฏฐ์, พิธิวัตต์, เอกนิษฐ์ มีผู้เล่นอีกมากมายที่น่าจะมีโอกาสเพราะพวกเขาอายุยังน้อยมาก ซึ่งผมเองก็หวังเช่นนั้นเหมือนกัน
แมน : พวกเขาควรท้าทายขึ้นไปทีละสเต็ปใช่มั้ย คือเริ่มจากญี่ปุ่นก่อนแล้วค่อยไปยุโรป
ซัลบา : ใช่ผมว่าเป็นความคิดที่ดีนะที่จะก้าวไปทีละขั้น ผมจำได้ว่าในอดีต ธีรศิลป์ เคยย้ายโดยตรงไปลา ลีกา (สโมสรอัลเมเรีย) ซึ่งมันเป็นบิ๊กสเต็ป สำหรับตอนนี้สเต็ปแรกคือไปญี่ปุ่นก่อน ซึ่งเป็นลีกในระดับที่ดี ถ้าไปแล้วโอเค ทำไมในอนาคตจะไปยุโรปไม่ได้ล่ะ
แมน : คือต้องไปเรียนรู้และปรับตัวหลายอย่างด้วยนะ ไม่ว่าจะวัฒนธรรม, ภาษา, อาหารการกิน และทุกสิ่งทุกอย่างเลย
ซัลบา : ถูกต้องที่สุด ปีที่แล้วเราเคยพาทีมยู-16 ไปเก็บตัวที่สเปน คุณจำได้ใช่มั้ย พวกเขาสามารถกินอาหารสเปนได้ไม่มีปัญหา หรืออย่างฟ็อกซ์ฮันท์ก็ช่วยส่งนักเตะไปเรียนภาษาอังกฤษที่ประเทศอังกฤษ ดังนั้นผมคิดว่าในอนาคตมันจะง่ายขึ้นที่เราจะส่งนักเตะไปยุโรป เพราะเราสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ทานอาหารสเปน อาหารอังกฤษได้
แมน : คุณคิดว่าประเทศไทยต้องการผู้เล่นในระดับเยาวชนในจำนวนมากขึ้นกว่านี้ เพื่อก้าวขึ้นมาในระดับทีมชาติมั้ย
ซัลบา : ตอนนี้เรายังต้องการมากกว่านี้ คาร์เลส รามาโกซ่า ได้จัดให้มีฟุตบอลยูธลีกอายุต่ำกว่า 12 ปี เป็นฟุตบอล 7 คน ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเรื่องดีมากๆ สำหรับผู้เล่นอายุน้อยๆ ที่จะเริ่มต้นเล่นฟุตบอล และเราก็จะมีผู้เล่นที่สามารถพัฒนาขึ้นมาได้ตั้งแต่อายุน้อยๆ เพิ่มขึ้นมากด้วย
แมน : คุณเคยเล่นฟุตบอลมาก่อนมั้ย เป็นทีมในระดับไหน
ซัลบา : ผมเล่นฟุตบอลมาตลอด แต่ผมเลิกไปตอนอายุ 16 ผมเปลี่ยนมาเป็นโค้ชเพราะมี 2 เหตุผล อย่างแรกผมได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า อย่างที่ 2 เพราะผมมองว่าในฐานะนักฟุตบอลผมไม่สามารถเป็นผู้เล่นอาชีพได้ ผมจึงหันมาโฟกัสที่งานโค้ชแทน
แมน : ตอนนั้นเล่นให้สโมสรไหนนะครับ
ซัลบา : ผมเล่นให้อคาเดมี่เล็กๆ ในสเปน อยู่ลีกเดียวกับพวก บาร์เซโลน่า, เอสปันญอล แต่เป็นทีมระดับอคาเดมี่นะ
แมน : ไม่ได้อยู่ในลามาเซียนะ
ซัลบา : เปล่าๆ ผมไม่ได้อยู่ลามาเซีย แต่ผมเคยเจอทีมลามาเซียหลายครั้ง ปีที่แล้วก่อนที่ผมจะมาเมืองไทย ผมก็คุมทีมยู-16 ของผมไปเจอ ลามาเซีย ที่มี อันซู ฟาธี ตอนนี้อยู่ชุดใหญ่บาร์เซโลน่าแล้ว ตอนนั้นเสมอกัน 2-2
แมน : นอกจาก บาร์เซโลน่า ที่คุณเชียร์แล้ว มีทีมอื่นๆ ที่ชอบอีกมั้ย อย่างเช่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ซัลบา : ไม่เลย ผมมีแต่บาร์เซโลน่าในหัวใจ ผมไม่ค่อยเชียร์ทีมไหน ผมชอบดูโค้ชมากกว่าเพื่อวิเคราะห์การเล่น อย่างเช่นในลา ลีกา ผมชอบ เคตาเฟ่, เรอัล โซเซียดาด เพราะโค้ชเขาเก่งมากๆ ถ้าที่อังกฤษ ผมชอบ เลสเตอร์ ซิตี้ เพราะ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เก่งมากๆ ผมชอบ คล็อปป์, กวาร์ดิโอลาร์, นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ของวูล์ฟแฮมป์ตัน
แมน : คือไม่ได้ชอบทีม แต่ชอบโค้ช เพื่อศึกษาไอเดียมาปรับใช้กับการทำงานของตัวเอง
ซัลบา : ใช่ๆ ผมวิเคราะห์สไตล์การเล่นของโค้ชแต่ละคน อย่างเช่นผมชอบสไตล์ไฮเพรสซิ่งของลิเวอร์พูล, ผมชอบเชลซีกับวิธีการตั้งรับในกรอบ, ผมชอบเคาน์เตอร์แอคแท็คของมูรินโญ่, ผมชอบสไตล์เกมรับของ ซิเมโอเน่ ผมก็อปปี้วิธีการเล่นของพวกเขามาใช้
แมน : ทำไมถึงพูดภาษาไทยได้ ไปเรียนรู้มายังไง มีใครสอนคุณมั้ย
ซัลบา : ผมลงเรียนออนไลน์ในวันอาทิตย์ มีคุณครูสอนผมผ่านทางสไกป์ แต่สิ่งที่ทำให้ผมเรียนรู้ได้เร็วขึ้นก็คงเป็นการไปพูดคุยกับนักเตะ คุยกับสตาฟฟ์ ผมพยายามที่จะคุยภาษาไทยกับทุกๆ คน
แมน : คุณชอบ มร.วิทยา เลาหกุล มั้ยครับ
ซัลบา : มร.วิทยาหรอ ใช่ สนิทกันมากเลยครับ ผมโทรคุยกับเขา ส่งคลิปฟุตบอลแลกเปลี่ยนกับเขาทุกวัน เขาบ้าบอลมาก ทุกๆ วันเขาคิดแต่เรื่องฟุตบอล คิดแผนการฝึกซ้อมฟุตบอล เวลาผมโทรหาเขาผมก็จะถามว่าพี่เฮงสบายดีมั้ย มีคอนเซ็ปต์อะไร เขาเป็นคนชอบฟุตบอลมากๆ เยี่ยมมากๆ ครับ ผมชอบคนที่คิดแต่เรื่องฟุตบอลอยู่แล้ว 24ชั่วโมงของเขามีแต่เรื่องฟุตบอลๆๆๆ เจ๋งมาก อย่างเวลาผมส่งคลิปฟุตบอลไปก็จะถามเขาว่า คุณชอบแท็กติกการเล่นแบบนี้มั้ย ส่วนใหญ่เราจะคุยกันแต่เรื่องแบบนี้
แมน : ในอนาคตถ้ามีโอกาสคุณอยากจะลองคุมทีมในไทยลีกมั้ย
ซัลบา : ใช่ครับ ในอนาคตผมอยากนะ เพราะผมคิดว่าผมชอบคนไทย ชอบนักเตะไทย และคนไทยชอบผม เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และผมเชื่อว่าน่าจะทำผลงานได้ดีกับการคุมทีมในไทยลีกในอนาคตครับ
บิ๊กแชมป์ : ถามเรื่องผู้หญิงบ้างได้มั้ย 555 ชอบผู้หญิงไทยมั้ยครับ
ซัลบา : ชอบๆๆ แต่ตอนนี้ผมยังเด็กอยู่ ใจเย็นๆ โฟกัสฟุตบอล หลังจากอายุ 30 ไปแล้วค่อยโอเค ตอนนี้ผม 27 โฟกัสฟุตบอลก่อน
แมน : ตอบเหมือนดาราเลยอะ 555 เอาล่ะ คุณคิดว่าคุณจะสามารถพาทีมชาติไทยยู19 ไปบอลโลกยู-20ได้หรือเปล่า
ซัลบา : สำหรับปัจจุบัน อย่างที่คุณก็คงรู้ เรายังไม่สามารถไปได้ในครั้งหน้าหรอก เรายังต้องรอผู้เล่นในรุ่นต่อไป เราต้องใช้เวลา หากเรามีเวลาเพื่อสร้างทีมขึ้นมา ผมคงมีความเชื่อมั่นมากกว่านี้ว่าเราจะทำได้
แมน : คุณคิดว่ายู19 ชุดปัจจุบันยังดีไม่พอที่จะไปฟุตบอลเยาวชนโลกรอบสุดท้าย?
ซัลบา : ใช่ ผมคิดว่าเรายังดีไม่พอ สิ่งที่ต้องคิดก็คือในระบบการคัดเลือกของเอเชียที่มีเพียง 3 ทีมที่จะได้ไปบอลโลก ครั้งที่แล้วเรายังสลับชนะแพ้กับ กัมพูชา เราแพ้ กัมพูชา และไม่ผ่านเข้ารอบคัดเลือกรอบสุดท้าย ดังนั้นผมจึงมองว่าเราต้องมองไปที่อนาคตและมองไปที่ผู้เล่นรุ่นต่อไปดีกว่า
แมน : มีอะไรอยากฝากถึงแฟนบอลไทยบ้าง ที่กำลังรอติดตามผลงานของคุณอยู่ในทีมชาติไทยชุดยู-19
ซัลบา : ผมต้องขอขอบคุณมากๆ สำหรับการสนับสนุนของพวกคุณ แฟนบอลไทยเป็นแฟนบอลที่น่าทึ่งที่สุดในโลก เพราะไม่ว่าเราจะไปแข่งที่ไหนในโลกพวกเขาก็จะตามไปเชียร์เสมอ พวกเราเคยไปแข่งที่มองโกเลีย ก็ยังเจอแฟนบอลไทย ผมต้องขอบคุณอย่างยิ่งที่ช่วยสนับสนุนทีมมาตลอด และผมหวังว่าในอนาคตจะมีสิ่งดีๆ มีเรื่องดีๆ ให้กับพวกคุณ ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเช่นนี้ต่อไป
แมน : คุยกันมาตั้งนาน ถามหน่อยว่า คุณเคยรู้จักผมมาก่อนมั้ยเนี่ยครับ
ซัลบา : ใช่ๆ ผมรู้จักคุณมานานแล้ว ผมรู้ว่าคุณเป็นคนที่คอยสนับสนุนฟุตบอลไทยเยอะมากๆ มีนักบอลหลายๆ คนเคยเจอคุณ เคยพูดคุยกับคุณ และผมก็หวังว่าพวกเราจะสนับสนุนฟุตบอลไทยไปด้วยกันไม่ว่าสถานการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็ตาม
แมน : ขอบคุณมากๆ นะครับที่มาร่วมพูดคุยกันในวันนี้ ขอให้โชคดีนะครับ โอกาสหน้าไว้คุยกันใหม่ครับซัลบา
ซัลบา : สวัสดีครับ
ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์)
