:::     :::

บทบาทต่อไปของ'โคลเซ่'

วันอังคารที่ 09 มิถุนายน 2563 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
1,363
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มิโรสลาฟ โคลเซ่ เตรียมขึ้นมารับงานผู้ช่วยของ ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์ของ บาเยิร์น มิวนิค ตั้งแต่ฤดูกาลหน้า

ตลอดอาชีพค้าแข้ง 18 ปี มิโรสลาฟ โคลเซ่ เป็นเจ้าของสถิติหลากหลายบนเวทีลูกหนัง โดยเฉพาะเป็นคนยิงประตูในศึกฟุตบอลรอบโลกสุดท้ายรวมกันมากสุด 16 ประตู เป็นเจ้าของสถิติกระทุ้งประตูให้ทีมชาติเยอรมันมากสุดทำลายสถิติเดิมของ แกร์ด มุลเลอร์ 

หลายคนยังจดจำภาพฐานะศิลปินบนเวทีลูกหนังหลังการตีลังกาฉลองการทำประตูของเขา อดีตหัวหอกวัย 41 ปียังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเยอรมัน คว้ารางวัลดาวซัลโวฟุตบอลโลกปี 2006 

โคลเซ่ อำลาอาชีพค้าแข้งหลังจบฤดูกาล 2015-2016 ฐานะนักเตะ ลาซิโอ ลงเล่นอาชีพรวมกัน 599 เกม ยิง 231 ประตู เขาทำประตูกับทีมชาติเยอรมันมากสุด 71 ประตูจากการลงเล่น 137 เกม 


เขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2014 รองแชมป์โลกปี 2002 และคว้าอันดับ 3 อีกสองครั้งในปี 2006 กับ 2010 

โคลเซ่ ยังสอยถาดแชมป์บุนเดสลีกากับ บาเยิร์น มิวนิค สองสมัย แชมป์เดเอฟเบ โพคาล 2 ครั้ง รวมถึงกาคคว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย ร่วมกับทีมอินทรีกรุงโรมด้วย 

นั่นคือเกียรติประวัติคร่าวๆในฐานะนักเตะของ มิโรสลาฟ โคลเซ่ 

โคลเซ่ เป็นชาวโปลโดยกำเนิดเกิดที่เมืองโอโพลในแคว้นซีเลเซียน ประเทศโปแลนด์ คุณพ่อของเขา โยเซป โคลเซ่ เป็นนักเตะในสังกัด โอดร้า โอโพล ก่อนย้ายออกจากโปแลนด์มาค้าแข้งกับ โอแซร์ ในปี 1978 ซึ่งเป็นปีเกิดของหนุ่มมิโรสลาฟ คุณแม่ของเขา บาร์บาร่า เยซ มีดีกรีเป็นนักแฮนด์บอลทีมชาติโปแลนด์ 

ในปี 1986 ครอบครัวโคลเซ่อพยพย้ายมาพำนักในประเทศเยอรมันตอนที่หนุ่มมิโรสลาฟอายุ 8 ขวบ เขาเริ่มต้นพัฒนาทักษะลูกหนังของเขากับสโมสรฟุตบอลระดับหมู่บ้านชื่อ เอสจี เบลาบัค-ดีเดลคอปฟ์ ซึ่งตอนนั้นอยู่ระดับดิวิชั่น 7 ของเมืองเบียร์ เขายังฝึกฝนการเป็นช่างไม้ในเวลาเดียวกันด้วย ก่อนที่โชคชะตาจะผลักดันเขาเข้าสู่วงการลูกหนังเต็มตัว 


โคลเซ่ เซ็นสัญญากับ โฮมบวร์ก ในช่วงปี 1998 ก่อนย้ายมาเริ่มเล่นอาชีพเต็มตัวกับ ไกเซอร์สเลาเทิร์น ปีต่อมา ลงประเดิมเวทีบุนเดสลีกาช่วงเดือนเมษายนปี 2000 จนกระทั่ง แวร์เดอร์ เบรเมน ดึงเข้าสังกัดด้วยค่าตัว 5 ล้านยูโรช่วงปี 2004 พร้อมสัญญา 4 ปี เขายิง 63 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 132 เกม ก่อน บาเยิร์น มิวนิค จะดึงเข้าสังกัดในช่วงซัมเมอร์ปี 2007 

'มันเป็นอีกหนึ่งเรื่องยาก ซึ่งทำให้ผมมีความสุขมากขึ้นที่ได้ต้อนรับหัวหอกตัวเป้าคนที่สองของพวกเรา ผู้ที่จะทำให้ความฝันในแนวรุกของเราสมบูรณ์' อูลี่ เฮอเนส ฐานะผู้จัดการทั่วไปของ บาเยิร์น มิวนิค ขณะนั้นกล่าวถึงการเซ็นสัญญากับ โคลเซ่ โดยอ้างถึงแนวรุกคู่ใหม่ของทีมเสือใต้ที่มี มิโรสลาฟ โคลเซ่ จับคู่กับ ลูก้า โทนี่ ก่อนจะเซ็นสัญญาดึง ฟร้องค์ ริเบรี่ มาร่วมงานอีกคน 


'ผมรู้ว่าความคาดหวังนั้นสูง แต่พวกเขาอยู่กับผมด้วยเช่นกัน' โคลเซ่ กล่าวในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการและยอมรับถึงความกดดันในการประสบความสำเร็จกับทีมเสือใต้ 'ถึงตอนนี้ผมไม่ได้ดูแค่ตอนที่คนอื่นชูโทรฟี่ฉลองแชมป์แล้ว ผมต้องการสัมผัสมันด้วยตัวเอง!' 

มันไม่มีที่ใดจะดีไปกว่าการทำมันร่วมกับเจ้าของสถิติคว้าแชมป์บุนเดสลีกามากสุดอย่าง บาเยิร์น มิวนิค 'ผมเลือก เอฟซี บาเยิร์น เพราะแพ็คเกจทั้งหมดเหมาะสม มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ยากเลย' ขณะที่ อ็อตม่าร์ ฮิตซ์เฟลด์ เทรนเนอร์ทีมเสือใต้ขณะนั้นอธิบายว่า โคลเซ่ เปรียบเสมือน 'เชอร์รี่บนหน้าเค้ก' จากการเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ทั้ง 8 คนในช่วงซัมเมอร์นั้น 

โคลเซ่ เปิดตัวสวยในฐานะแข้งทีมเสือใต้ เขายิง 10 ประตูจากการลงเล่น 9 นัดแรก ขณะที่คู่หู ลูก้า โทนี่ โดดเด่นไม่แพ้กันหลังหัวหอกชาวอิตาเลียนกระทุ้ง 10 ประตูจากการลงเล่น 10 เกมแรก  


'เมื่อ มิโร โคลเซ่ และ ลูก้า โทนี่ อยู่ใกล้กับลูกบอลในแดนหน้า แนวรับของคู่แข่งก็เดือดร้อนทันที' ฮิตซ์เฟลด์ กล่าวถึงคู่หูกองหน้าของทีมเสือใต้ยุคนั้น ส่วน เฮอเนส กล่าวถึง โคลเซ่ ว่าพร้อมเป็นผู้เล่นชั้นนำหลังผ่านช่วง 2-3 สัปดาห์แรกในมิวนิค 

โคลเซ่ ยังทำอีก 9 ประตูในรายการ ยูฟ่า คัพ และ เดเอฟเบ โพคาล แต่ดาวยิงชาวโปลเริ่มแผ่วปลายทำอีกเพียง 2 ประตูในช่วงที่เหลือของลีกเมืองเบียร์ ทว่าเขายังสร้างความประทับใจในฐานะนักเตะที่เล่นเพื่อทีมและทุ่มเทแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย 'ผมรู้ว่าผมอาจเห็นแก่ตัวได้มากกว่านี้ แต่ธรรมชาติของผมคือการผ่านบอล ทีมต้องมาเป็นอันดับแรก' โคลเซ่ เผย 'แน่นอนว่าผมต้องการทำประตูมากขึ้น' ท้ายที่สุด โคลเซ่ ได้ฉลองความสำเร็จตามความปรารถนาของเขาจากการคว้า'ดับเบิ้ลแชมป์'ทั้ง บุนเดสลีกา และ เดเอฟเบ โพคาล 

ทว่าซีซั่นที่สองกับทีมเสือใต้เปลี่ยนมือจาก ฮิตซ์เฟลด์ เป็น เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ที่เข้ารับมาตำแหน่งนายใหญ่ในช่วงหน้าร้อนปี 2008 ซึ่งอดีตกองหน้าทีมชาติเยอรมันมอบความเชื่อมั่นต่อ โคลเซ่ ด้วยการส่งลงเล่นตัวจริง 35 จาก 38 เกมทุกรายการ 

หนุ่มมิโรสลาฟตอบแทนความไว้วางใจดังกล่าวด้วยการยิง 20 ประตูกับทำ 10 แอสซิสต์ อย่างไรก็ตาม โคลเซ่ บาดเจ็บเอ็นร้อยหวายจนพลาดการลงเล่นช่วง 8 เกมสุดท้าย ส่งผลให้ทีมดังแคว้นบาวาเรียจบฤดูกาลนั้นแบบไม่มีถ้วยรางวัลติดมือ 


จากปัญหาเรื่องสภาพร่างกายตั้งแต่ช่วงท้ายฤดูกาล 2008-2009 ส่งผลต่อเนื่องมาถึงซีซั่นถัดมา โคลเซ่ ไม่สามารถกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล 2009-2010 อีกทั้ง บาเยิร์น มิวนิค ยังดึง หลุยส์ ฟาน กัล มาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ต่อจาก คลิ้นส์มันน์ มีการเปลี่ยนระบบการเล่นและการเซ็นสัญญากับแข้งหน้าใหม่อย่าง มาริโอ โกเมซ, อิวิช่า โอลิช และ อาร์เยน ร็อบเบน เข้ามาเสริมแนวรุกเพิ่มคู่แข่งแย่งตำแหน่งมากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม โคลเซ่ มีร่างกายสมบูรณ์ขึ้นในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง เขาได้โอกาสออกสตาร์ท 18 เกมและยิง 6 ประตู แม้มันจะเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าระดับมาตรฐานของ โคลเซ่ แต่เขายังคว้าอีกสองโทรฟี่แชมป์ทั้ง บุนเดสลีกา กับ เดเอฟเบ โพคาล ส่งท้ายฤดูกาลดังกล่าว


โคลเซ่ กลับมาพร้อมความมั่นใจอีกครั้ง หลังการนำทีมชาติเยอรมันคว้าอันดับ 3 จากศึกฟุตบอลโลก 2010 และทำ 4 ประตูในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว จากผลงานที่ประเทศแอฟริกาใต้ทำให้กองหน้าชาวโปลตั้งเป้าหมายกลับมาทำผลงานดีสุดกับสโมสรอีกครั้ง แต่การเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ไม่เป็นไปด้วยดีอย่างที่เขาคาดคิด

อาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อกลายเป็นอุปสรรคของ โคลเซ่ ในการเค้นผลงานและพลาดการลงเล่นส่วนใหญ่ช่วงครึ่งฤดูกาลแรก แม้จะฟิตกลับมาในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง แต่บทบาทส่วนใหญ่คือการเป็นตัวสำรอง เขายิงเพียง 6 ประตูกับทำ 3 แอสซิสต์ 

นั่นเป็นผลงานที่ไม่น่าพึงพอใจและกองหน้าชาวโปลตัดสินใจอำลาทีมเสือใต้หลังจบฤดูกาลนั้นเนื่องจากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการขยายสัญญากับสโมสร ตลอด 4 ปีที่ค้าแข้งกับทีมดังแคว้นบาวาเรีย ยิง 53 ประตูจากการลงเล่น 153 เกม 


'ผมมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมกับ บาเยิร์น' โคลเซ่ กล่าว 'เราคว้าดับเบิ้ลแชมป์ 2 ครั้ง แต่ผมก็มีประสบการณ์ที่ไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเสมอไป ผมเรียนรู้อย่างมากในช่วงเวลานั้น ตอนนี้หลังจาก 4 ปี ผมเลือกที่จะไปทางอื่น' 

โคลเซ่ ย้ายจาก'อัลลีอันซ์ อารีน่า'ไปค้าแข้งในอิตาลีกับ ลาซิโอ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2011 ก่อนยุติอาชีพค้าแข้งในช่วงหน้าร้อนปี 2016 อีก 2 ปีถัดมาเขาหวนคืนสู่มิวนิคเพื่อเริ่มต้นบทบาทใหม่ฐานะผู้ฝึกสอน

อดีตกองหน้าทีมชาติเยอรมันวัย 41 ปี กลับสู่ บาเยิร์น มิวนิค เพื่อเริ่มงานใหม่ในฐานะเทรนเนอร์ของทีมเสือใต้ชุดยู-17 ปี ซึ่งเขานำทีมคว้าแชมป์ 'เซาธ์ เยอรมัน'ทันที ก่อนสโมสรจะผลักดันขึ้นมาเป็นมือขวาของ ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์ทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ฤดูกาล 2020-2021


การก้าวขึ้นมาทำงานกับทีมชุดใหญ่ของ โคลเซ่ สามารถถ่ายทอดประสบการณ์บนเวทีลูกหนังให้กับกองหน้ารุ่นน้องอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้ไม่น้อยเช่นกัน

'เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมและผมรู้ว่าเขาสามารถช่วยเราด้วยประสบการณ์และทักษะของเขา' เลวานดอฟสกี้ กล่าวถึง โคลเซ่ ที่เกิดในโอโพลซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงวอร์ซอบ้านเกิดของ 'เลวี่' ราว 200 ไมล์ 'คุณสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่จากโค้ชทุกคนเพื่อเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้น ผมต้องการมันจากเขาด้วย'


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด