ถึงกระนั้นถือว่าพวกเขายังคงเดินหน้าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้าชัยชนะรวดทั้ง 6 เกมตั้งแต่กลับมาลงสนามหลังการแพร่ระยาดของไวรัสโควิด-19

ที่สำคัญคือเก็บชัยชนะเหนือคู่แข่งสำคัญทั้ง ดอร์ทมุนด์ และ เลเวอร์คูเซ่น ได้ลีก แถมตัวเลขการยิงประตูก็ยังคงดีเยี่ยมไม่ต่างจากช่วงก่อนเบรก

ชัยชนะเหนือ แฟร้งค์เฟิร์ต ถือเป็นการล้างตาได้เหมือนกันหลังจากที่เคยพ่ายแพ้มาในเกมรอบชิงชนะเลิศถ้วยที่เมื่อปี 2017/18 

"เบอร์ลิน, เบอร์ลิน, เราจะไปเบอร์ลิน" แฟนบอลพี่เสือร้องเพลงกันอย่างกึกก้อง ซึ่งสังเวียนชิงแชมป์ก็คือโอลิมเปียสตาดิโอน ในกรุงเบอร์ลินนั่นเอง

จากชัยชนะในเกมนี้ "เสือใต้" ทำสถิติหลายต่อหลายอย่างทั้งในส่วนของทีมและนักเตะ รวมถึงสถิติที่กำลังเดินหน้าทำลายลงอีกด้วย

ฮันซี่ ฟลิค ทุบสถิติ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ไม่มีใครคาดคิดว่า ฮันซี่ ฟลิค จะพา บาเยิร์น มิวนิค ทำผลงานได้ดีขนาดนี้ ทั้งที่ช่วงก่อนที่จะได้รับสัญญาถาวรนั้น "เสือใต้" มีข่าวกับกุนซือดังๆมากมาย

แม้ว่าการคุมทีมช่วงแรกกระท่อนกระแท่นไปบ้าง โดยเฉพาะการแพ้สองเกมติดให้กับ เลเวอร์คูเซ่น และ มึนเช่นกลัดบัค แต่หลังจากนั้นทีมก็เดินหน้าเก็บชัยชนะเป็นว่าเล่น

และกับเกมล่าสุดที่เจ้าตัวรั้งบังเหียนในตำแหน่งครบ 27 นัดแรก พาทีมเก็บชัยชนะไปถึง 24 เกม เหนือกว่าอดีตกุนซืออย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ทำไว้ที่ 22 เกมเท่านั้น ซึ่งทำให้ ฟลิค เป็นเทรนเนอร์ของทีมที่เก็บชัยชนะ 27 เกมแรกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรเลย

เข้าชิงเดเอฟเบ โพคาล 3 ปีซ้อน

ด้วยความยิ่งใหญ่คับเมืองเบียร์ ไม่แปลกที่ บาเยิร์น มิวนิค จะเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในทุกรายการ ซึ่งในถ้วยเดเอฟเบ โพคาล ทีมก็ได้แชมป์มาแล้ว 19 ครั้งจากการเข้าชิงชนะเลิศ 23 หน ขนาดอันดับ 2 ที่ตามมาอย่าง แวร์เดอร์ เบรเมน ยังได้แค่ 6 ครั้ง ถือว่าหากมาก

ในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา "เสือใต้" ไม่เคยห่างหายจากรายการนี้ไปนานเลย และชัยชนะเหนือ แฟร้งค์เฟิร์ต นี่ก็ทำให้ทีมดังแห่งแคว้นบาวาเรียเข้าชิงชนะเลิศรายการนี้เป็นหนที่ 3 ติดต่อกัน มากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร

สถิตินี้เทียบเท่าที่ทีมทำได้ในช่วงปี 2012-14 ซึ่งครั้งนั่นทีมพลาดแชมป์ในปี 2012 ก่อนมาได้แชมป์สองสมัยติด ซึ่งในปีนี้ก็มีโอกาสได้แชมป์สองสมัยติดเช่นกัน

สถิติของ โธมัส มุลเลอร์

เกือบ 12 ปีที่ค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค, โธมัส มุลเลอร์ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่คว้าแชมป์ในทุกรายการที่ลงสนามให้กับทีมกว่า 20 โทรฟี่แล้ว

ในเกมกับ แฟร้งค์เฟิร์ต สตาร์ทีมชาติเยอรมันเป็นคนที่แอสซิสต์ให้ อีวาน เปริซิช ทำให้เจ้าตัวมีสถิติลงสนามในรายการเดเอฟเบ โพคาลที่ 55 เกม มีส่วนร่วมกับประตูของทีมถึง 50 ลูก แบ่งเป็นยิง 32 ประตู แอสซิสต์อีก 18 ครั้ง

นั่นทำให้ มุลเลอร์ กลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำสถิติถึงหลักครึ่งร้อยนี้ได้นับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติในปี 2008/09 เลย

เข้าชิงชนะเลิศอย่างท่วมท้น

ชัยชนะเหนือ แฟร้งค์เฟิร์ต นอกจากจะส่งให้ บาเยิร์น มิวนิค เข้าชิงชนะเลิศในรายการเดเอฟเบ โพคาลเป็ยสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ยังเป็นการเข้าชิงชนะเลิศบอลถ้วยรายการนี้เป็นครั้งที่ 24 แล้วด้วย

แน่นอนว่าตัวเลขนี้เหนือกว่าทุกสโมสรในเยอรมัน และคงจะยากที่จะหาใครมาตามทันได้ ในเมื่อแต่ละปีทีมเป็นตัวเต็งที่จะได้แชมป์ในทุกรายการที่ลงเล่น โดยเฉพาะในประเทศ

สำหรับที่ทีมเข้าชิงชนะเลิศมากที่สุดรองมาเป็นอันดับ 2 ก็คือ ชาลเก้ ที่ทำได้เพียงแค่ 12 หนเท่านั้น เรียกได้ว่าเทียบกันไม่เห็นฝุ่น

(อีก) สถิติของ โธมัส มุลเลอร์

นอกจากสถิติมีส่วนร่วมการทำประตูในศึกเดเอฟเบ โพคาลมากที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกกันมาแล้ว โธมัส มุลเลอร์ ยังมีอีกสถิติของรายการนี้พ่วงอยู่ด้วย

เกมกับ แฟร้งค์เฟิร์ค นับเป็นชัยชนะในเกมที่ 47 ในศึกเดเอฟเบ โพคาลของ บาเยิร์น มิวนิค (ไม่รวมยิงจุดโทษ) มีแค่ แกร์ด มุลเลอร์ และ เซ็ปป์ ไมเออร์ ที่มีสถิติเหนือกว่า

ด้วยการที่ลงสนามให้ทีมมาตั้งแต่ปี 2008 แถมอยู่กับทีมอย่าง "เสือใต้" ด้วยทำให้มีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ ปัจจุบันต้องบอกว่าเป็นสตาร์ผู้ทรงอิทธิพลของทีมไปแล้ว

เครื่องจักรแห่งการถล่มประตู

นับจนถึงเกมล่าสุด บาเยิร์น มิวนิค ลงสนามในฤดูกาลนี้ไปแล้วทั้งสิ้น 43 เกม ซึ่งทีมทะลวงตาข่ายเป็นว่าเล่นถึง 129 ประตูไปแล้ว

นี่คือสถิติสูงที่สุดที่ทีมเคยทำประตูได้ต่อหนึ่งฤดูกาล โดยเทียบเท่ากับที่เคยทำเอาไว้ในปี 1972/73 หรือเกือบครึ่งศาวรรษมาแล้ว

ด้วยโปรแกรมที่เหลืออยู่ทั้งในลีกและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึง เดเอฟเบ โพคาล รอบชิงชนะเลิศ ต้องมีอีกเกือบ 10 เกมยังไงยิงประตูทะลุสถิติแน่นอน และอาจจะเป็นสถิติที่จะคงอยู่ไปอีกหลายสิบปีด้วย

ดาวซัลโวเดเอฟเบ โพคาล

ต้องยอมรับว่าปีนี้เป็นปีที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ล่าตาข่ายให้กับ บาเยิร์น มิวนิค อย่างสนุกเท้าไม่น้อยกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา แถมยังจะสนุกมากกว่าด้วย

45 ประตูจาก 39 เกม นี่คือปีที่สุดในอาชีพนักฟุตบอลของดาวยิงทีมชาติโปแลนด์ ตัวเลขอายุ 31 ปีไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพของเจ้าตัวลดลงเลย ทำให้ตอนนี้ เลวานดอฟสกี้ สอยตาข่ายมากกว่า 40 ลูกต่อปีเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันแล้ว

ในรายการเดเอฟเบ โพคาลกับเกมล่าสุดที่ยิงประตูชัยให้ทีมเข้าชิงชนะเลิศ นับเป็นประตูที่ 4 จากการลงสนาม 4 เกมในรายการนี้ ขึ้นไปเท่ากับ รูเวน เฮนนิ่งส์ ของ ดุสเซลดอร์ฟ ที่ตกรอบก่อนรองชนะเลิศไป

แน่นอนว่าเกมชิงชนะเลิศกับ เลเวอร์คูเซ่น เขาคือแข้งหมายเลข 1 ที่ถูกยกให้เป็นผู้ทำประตูได้ในเกม มันจะสมบูรณ์แบบมากหากยิงได้เป็นประตูชัยให้ทีมคว้าแชมป์พร้อมตำแหน่งดาวซัลโวเดี่ยวๆไปพร้อมกันเลย

21 เกมที่ไร้พ่าย

จนถึงตอนนี้ บาเยิร์น มิวนิค ไม่แพ้ใครมาแล้ว 21 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ โดยเก็บชัยชนะได้ถึง 20 เกมและเสมอ 1

ครั้งสุดท้ายที่ทีมพ่ายแพ้ก็คือการบุกไปพ่าย มึนเช่นกลัดบัค 1-2 ในเกมบุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อ 7 ธันวาคม หรือกว่า 6 เดือนมาแล้ว หลังจากนั้นทีมเดินหน้าเก็บชัยชนะเป็นว่าเล่นพร้อมกับจำนวนประตูที่คู่แข่งต้องก้มเก็บลูกบอลกันจนปวดหลัง

หนล่าสุดที่ทีมไม่แพ้ใครยาวนานขนาดนี้ต้องย้อนไปเมื่อปี 2013/14 ภายใต้การนำทัพของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ทีมไม่แพ้ใคร 24 เกมติดต่อกัน (ชนะ 22 เสมอ 2)

อีก 3 เกมที่จะไปให้ถึงสถิติคือการเปิดบ้านเจอ มึนเช่นกลัดบัค, ไปเยือน เบรเมน และ เปิดบ้านเจอ ไฟร์บวร์ก หากต้องการทำให้ดีกว่าก็คือเก็บชัยชนะรวดไปเลย ชื่อของ ฮันซี่ ฟลิค จะได้รับการยกย่องไม่น้อยกว่าแน่