:::     :::

NUMERO. 67 ของ รามอส

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ประตูในเกมกับ เออิบาร์ ทำให้ เซร์คิโอ รามอส ก้าวขึ้นเป็นกองหลังที่ยิงประตูมากที่สุดในลา ลีกา เทียบเท่า โรนัลด์ คูมัน แต่สถิตินี้สะท้อนคุณค่าในตัวของ รามอส เพียงผิวเผินเท่านั้น เพราะบางประตูของเขามันสำคัญและพิเศษกว่าตำแหน่งกองหลังดาวซัลโวมากนัก

         NUMERO. 67 ของ รามอส

ขโมยบอลได้จากแดนกลาง จ่ายออกไปให้เพื่อน แล้ววิ่งควบขึ้นหน้าอีกร่วม 30 หลา ดึงจังหวะรอลูกผ่านของ อาซาร์ เล็กน้อย ก่อนแปง่ายๆเข้าไป

ประตูนี้ไม่เพียงช่วยให้ เรอัล มาดริด ขยับสกอร์หนี เออิบาร์ เป็น 2-0 เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกมเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนให้ เซร์คิโอ รามอส กลายเป็นกองหลังที่ยิงประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ลา ลีกา เทียบเท่ากับ โรนัลด์ คูมัน ที่จำนวน 67 ประตูอีกด้วย 

มีคอลูกหนัง ลา ลีกา หลายๆท่านแย้งว่า 67 นี่ยังไม่ได้มากที่สุดซักหน่อย เทียบกับ เฟร์นานโด เอียร์โร่ รุ่นพี่ชุดขาวยุค 90 แล้ว คนนี้ต่างหากคือ 'ท็อปสกอเรอร์' ของกองหลังตัวจริงเสียงจริง เพราะกดไปถึง 105 ตุง 

ดูจากตัวเลขแล้วก็จริงนะ 

แต่ ลา ลีกา บอกว่า ไม่ขอนับ เอียร์โร่ นะ ในส่วนนี้ เพราะถึงแม้เขาจะเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟจนโด่งดังเป็นที่รู้จัก แต่ยุคสมัยนึง เริ่มตั้งแต่ ราโดเมียร์ อันทิช กุนซือเซอร์เบียย้ายมาคุม เรอัล มาดริด ในฤดูกาล 1991–1992 นั้น เอียร์โร่ โดนจับไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตรงกลางสนาม และภายใต้ตำแหน่งนี้เขายิงไปถึง 44 ลูก ดังนั้นจึงไม่ถือเป็นกองหลังแบบเพียวๆ (อ้าว ซวยไป) 

ครับ สถิติก็ว่ากันไป จะมองว่า เอียร์โร่ ยิงเยอะกว่าก็ได้ ไม่ว่ากัน หรือจะแยกย่อยหยุมหยิมแบบที่ ลา ลีกา ตั้งกฏไว้ ก็แล้วแต่ เพราะยังไงมันก็เปลี่ยนความจริงที่ว่า รามอส ยิงไปแล้ว 67 ประตูและมันน่าทึ่งเอามากๆไม่ได้ 

67 ประตูของ รามอส แบ่งออกเป็น 65 ประตูกับ เรอัล มาดริด และอีก 2 ประตูสมัยยังเป็นดาวรุ่งกับ เซบีย่า ซึ่งก็ออกจะแปร่งๆอยู่นิด ตรงที่ 1 ใน 2 ตุงที่ซัดได้นี้คือการยิงใส่ เรอัล มาดริด 

ลูกนั้นเกิดขึ้นในฤดูกาล 2004/05 เซบีย่า เล่นใน ปิซฆวน รับมือ เรอัล มาดริด ยุค กาลาคติกอส , นาทีที่ 18 เจ้าบ้านได้ฟรีคิกระยะ 35 หลา เรนาโต้ เจ้าพ่อลูกนิ่งประจำทีมยืนอยู่ที่บอลขยับทำท่าว่าจะยิง แต่กลับหลอก แปะออกข้างเบาๆ ให้ รามอส วิ่งมาซัดเต็มข้อ 

บอลพุ่งวาบลอยข้ามหัว ซีดาน กับ เบ็คแฮ่ม ที่ยืนขวางเป็นกำแพง ก่อนฮุคลงเสียบเสาขวามือของ อีเกร์ กาซียาส เข้าไป ช่วยให้ เซบีย่า ออกนำ ตั้งแต่ต้นเกม 

หลังบอลตุงตาข่าย รามอส ในวัยย่าง 19 วิ่งไปดีใจกับแฟนๆด้านหลังประตู เขาทั้งชูมือและส่งจูบ และจังหวะสุดท้ายก่อนภาพตัดขึ้นไปบนอัฒจรรย์ก็คือ ดาเนี่ยล อัลเวส วิ่งมากระโดดกอดจากทางด้านหลัง นับเป็นซีนที่เห็นแล้วให้รู้สึกแปร่งๆยังไงไม่รู้ เมื่อคิดถึงเส้นทางต่อมาของทั้งคู่ (ฮา) 

ตัดจากสนาม กล้องทีวีแพนขึ้นไปจับภาพบนบล็อควีไอพี โฆเซ่ มาเรีย เดล นีโด้ กับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานของทั้งสองทีมซึ่งนั่งติดกันตามธรรมเนียมปฏิบัติของลูกหนังสเปน 

เดล นีโด้ ทำสีหน้าเรียบเฉย แต่แอบชำเลืองดูภาพช้าจากหน้าจอทีวีด้านหน้าเล็กน้อย ส่วน เปเรซ ก็เช่นกัน เขาเก็บอาการ ทำไม่รู้ร้อนรู้หนาว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

แต่ใครจะรู้ ! ท่านประธานชุดขาวในตอนนั้นอาจกำลังคิดว่า "ฉันต้องเตรียมเงินไว้เท่าไหร่กันนะเพื่อซื้อไอ้เด็กคนนี้ ?"

ไม่ว่าจะคิดไว้ตั้งแต่แว้บแรกที่เห็น รามอส ตะบันฟรีคิกสุดเฉียบ หรือจะค่อยกลับมาคิดได้ตอนหลัง แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาอย่างที่เราเห็นกัน ซัมเมอร์ปีนั้น เปเรซ ควักเงิน 27 ล้านยูโร ให้ เซบีย่า เพื่อแลกกับ รามอส และถือเป็นแข้งสแปนิชคนแรกที่ เปเรซ ซื้อเข้ามาในการนั่งตำแหน่งประธานสมัยแรก 

รามอส รับเสื้อหมายเลข 4 ต่อจาก เอียร์โร่ ที่อำลาทีมไป กลายเป็นปราการเหล็กของ เรอัล มาดริด นับตั้งแต่ย้ายมา เขาเล่นตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟในปีแรก ก่อนขยับไปเล่นแบ็กขวา เมื่อสโมสรซื้อ คริสตอฟ เม็ตเซลเดอร์ กับ เปเป้ เข้ามาในปี 2007 แต่ไม่นานนักก็กลับมาเล่นเซนตอร์ฮาล์ฟอีกครั้งเมื่อกองกลังเยอรมันล้มหมอนนอนเสื่อจากอาการเจ็บซ้ำซาก จนย้ายออกไปในปี 2010 

รามอส เป็นกองหลังที่ครบเครื่อง ลูกหนักมี ลูกคลาสสิคมี ลูกเหนือชั้นมี แม้กระทั่งลูกสปกรกก็มีให้เห็น ซึ่งจะว่าไปการเล่นในลักษณะนี้แม้จะไม่ดีนัก แต่ฟุตบอลอาชีพบางครั้งในทีก็ต้องมีคนที่เล่นแบบนี้อยู่

รามอส ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมต่อจาก อีเกร์ กาซียาส ก็เพราะคาแรกเตอร์ที่มีความเป็นผู้นำ ดุดัน ห้าวหาญ ไม่กลัวใคร ทว่าก็แฝงไว้ด้วยความเฉลียวฉลาดเจ้าเล่ห์ 


นอกจากการเกมรับที่สุดยอดแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของ รามอส ก็คือเรื่องการทำประตู เขาเป็นนักเตะในตำแหน่งกองหลังที่มีเซนส์เรื่องนี้สูงมาก 

รามอส จบสกอร์ได้ดีในหลากหลายรูปแบบ 

เขาเป็นเพชรฆาตสังหารจุดโทษที่ชัวร์มากๆ เขาทำประตูจากจุดโทษ 10 ลูกด้วยกัน โดยที่ผ่านมา รามอส พลาดจุดโทษเพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น แล้วก็ให้น่าเบังเอิญที่ว่ามันเป็นเกมที่ เรอัล มาดริด พบกับ เซบีย่า 

สไตล์การยิงประตูของ รามอส นั้นก็หลากหลาย มีทั้งหนัก ทั้งเบา ยิงมุม ยิงกลางประตู ซึ่งรวมถึงลูกยิงแบบ ปาเนนก้า ซึ่งเขามักงัดมาใช้อยู่บ่อยครั้ง 

อย่างไรก็ตาม อย่างที่ได้เขียนถึงไปข้างต้นว่า รามอส เป็นคนที่มีเซนส์เรื่องการยิงประตูสูงกว่ากองหลังทั่วไป เพราะหากตัดจุดโทษ 11 ลูกออกไป เขาก็ยังซัดได้ในเกมปกติมากถึง 56 ลูกด้วยกัน ซึ่งตรงนี้เมื่อนำไปเทียบกับ คูมัน จะเห็นได้ชัดว่ากองหลังฮอลแลนด์ที่สร้างสถิติได้ถึง 67 ลูกใน ลา ลีกา นั่นเพราะมีจุดโทษช่วยหนุนค่อนข้างมากถึง 52 ลูกหรือคิดเป็น 68.65% จากจำนวนประตูทั้งหมด ขณะที่ส่วนของ รามอส คิดเป็นแค่ 16.4% เท่านั้น

ในฤดูกาลนี้ รามอส รั้งรองดาวซัลโซของ มาดริด โดยยิงไป 8 ประตู ตามหลัง คาริม เบนเซม่า (14 ประตู) เพียงคนเดียวเท่านั้น โดย 8 ลูกแยกออกเป็น ลา ลีกา 6 และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 (คลับ บรูช กับ กาลาตาซาราย) และเกมที่เหลืออีก 10 นัดข้างหน้า รามอส ต้องการอีกเพียงแค่ 1 ประตูเท่านั้นก็จะขึ้นแท่นเป็นกองหลังที่ยิงประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ลา ลีกา แซงหน้า คูมัน ทันที 

กระนั้นก็ตาม สำหรับ รามอส ผมเชื่อว่า แฟนบอลไม่ได้จดจำเขาเพียงแค่จำนวนประตู หากแต่เพราะหลายๆประตูที่เขาทำได้ ยังมีความหมาย และพิเศษอย่างมาก 

เช่นลูกโขกตีเสมอ บาร์ซ่า 1-1 ในช่วงทดเจ็บเกมเอลกลาซีโก้ ที่คัมป์ นู เมื่อเดือนธันวาคม 2016 ช่วยให้ เรอัล มาดริด ยืดสถิติไร้พ่ายออกไป

ลูกโขกใส่ บาเยิร์น มิวนิค ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2014 ซึ่งลงเอยแล้ว เรอัล มาดริด บุกถล่ม เสือใต้ ยับ 4-0 

และที่สุดของที่สุด คงไม่มีใครลืมลูกโขกนาทีที่ 90+3 ใน แชมเปี้ยนส์ลีกไฟนั่ล ที่ ลิสบอน, มันไม่ใช่แค่ลูกโขกที่ทรงพลัง สมบูรณ์แบบในท่วงท่า ทว่ามันพลิกโฉมหน้าของเกมไปโดยสิ้นเชิง 

ประตูตีเสมอ แอตเลติโก 1-1 ในช่วงอึดใจสุดท้ายช่วยให้ มาดริด ฮึดกลับมา และพลิกสถานการณ์ไล่ขโยก 4-1 คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกสมัยที่ 10 หรือ ลา เดซิม่า ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ กลายเป็นดราม่าในนัดชิงที่ยากจะลืมเลือน 

ส่วนตัวผมมองว่า การยิงประตูแม้จะไม่ง่าย แต่นักเตะทั่วไปสามารถทำได้ ทว่ามีเพียงซูเปอร์สตาร์เท่านั้นที่ยิงประตูในช่วงเวลาสำคัญ ประตูที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ และส่วนนี้คือหนึ่งในคุณสมบัติของ รามอส 

เช่นนี้แล้ว ต่อให้อนาคตข้างหน้า จะมีกองหลังคนไหนยิงประตูได้มากกว่า รามอส เขาก็อาจไม่เป็นที่จดจำเท่าก็เป็นได้ หากว่าประตูนั้นมันไม่ได้พิเศษจริงๆ 

เจมส์ ลา ลีกา

………………………………..


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด