ในที่สุด ยูฟ่า ก็ประกาศเส้นทางเดินต่อของทั้ง แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูโรปาลีก นั่นคือการเล่นแบบ 'มินิ ทัวร์นาเมนต์' ที่มีเจ้าภาพจัดการแข่งขันที่เดียวจบ
กว่าที่ ยูฟ่า จะคอนเฟิร์มการแข่งขันต่อ และรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงใหม่ เน้นกระชับ ร่นระยะเวลา การเดินทาง และมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ต้องเข้มงวด และมีความเป็นหนึ่งเดียว
ดังนั้นเจ้าภาพเดิมที่จะจัดนัดชิงในปีนี้ อย่างสนาม อตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดี้ยม ในกรุงอิสตันบูล ซึ่งเป็นสนามกีฬาแห่งชาติของตุรกี ก็จำเป็นต้องถูกถอดถอนไปโดยปริยาย
แต่ อตาเติร์ก ก็ไม่ต้องเสียใจไป เพียงแค่ถูกขยับไปอีกหนึ่งปี ไปเป็นเจ้าภาพปี 2021 หมายความว่า เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ก็จะขยับจาก 2021 เป็น 2022, มิวนิค ขยับจาก 2022 เป็น 2023, เวมบลีย์ ขยับจาก 2023 เป็น 2024
และคณะกรรมการของ ยูฟ่า ได้เลือกสนาม เอสตาดิโอ ดา ลูซ ในกรุงลิสบอน รองรับการแข่งขัน ไม่เพียงแค่รอบชิงฯ แต่ยังรวมถึงรอบก่อนรองฯ (รอบ 8 ทีม) และรอบรองฯ (รอบ 4 ทีม) ด้วย เป็นการแข่งขันแบบเกมเดียวรู้เรื่อง เฉกเช่น ฟุตบอลโลก ตั้งแต่รอบน็อกเอาท์เป็นต้นไป
เอสตาดิโอ ดา ลูซ
ถึงตอนนี้ยังไม่มีการวางผังที่ชัดเจนว่าเกมคู่ไหนจะใช้สนามไหน แต่ ยูฟ่า ได้เลือกสองสนามเอาไว้แล้ว ก็คือ เอสตาดิโอ ดา ลูซ กับ เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาลาด ที่ตั้งอยู่ในเมืองลิสบอนทั้งสองสนาม โดยจะใช้มาตรการเดียวกับเกมฟุตบอลลีกที่กลับมาเตะกันต่อ นั่นคือไม่เปิดให้แฟนบอลเข้าชมเกมในสนาม
เรื่องกฏกติกาก็มีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม การเปลี่ยนตัวทำได้มากที่สุด 5 คนในเวลา 90 นาที และสามารถเปลี่ยนคนที่ 6 ได้หากเกมดำเนินไปถึงช่วงต่อเวลา
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนตัวของแต่ละทีมจะสามารถทำได้ 3 ช่วงเวลาเท่านั้น และช่วงที่ 4 จะเกิดขึ้นในการต่อเวลา ไม่นับรวมช่วงพักครึ่ง ก่อนเริ่มการต่อเวลา และช่วงพักครึ่งของการต่อเวลา
เรื่องระยะเวลาของการจัด 'มินิ ทัวร์นาเมนต์' หรือ 'ไฟนอล เอจ ทัวร์นาเมนต์' ในครั้งนี้ จะใช้เวลาแข่งขันภายใน 12 วัน เริ่มต้นจากวันที่ 12 สิงหาคม ไปสิ้นสุดรอบชิงฯ วันที่ 23 สิงหาคม
อย่าลืมว่าเวลานี้ แชมเปี้ยนส์ลีก กำลังคาราคาซังอยู่ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่เตะไปแล้ว 4 คู่ และยังไม่ได้เตะอีก 4 คู่ ดังนั้น ยูฟ่า จึงวางคิวให้เตะระหว่างวันที่ 7-8 สิงหาคม เพื่อเคลียร์คิวให้ทันรอบก่อนรองฯ
แต่หากทุกอย่างไม่สามารถดำเนินไปตามแผนที่วางเอาไว้ หรือทีมเจ้าบ้าน (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, บาเยิร์น มิวนิค, ยูเวนตุส, บาร์เซโลน่า) ไม่สามารถใช้สนามเหย้าของตัวเองได้ ยูฟ่า ก็เตรียมสนามของ ปอร์โต้ และ กีมาไรส์ เอาไว้รองรับเพิ่มเติม
เมื่อบทสรุปออกมาเป็นหน้าตาแบบนี้ แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2019-20 จึงกลายเป็นโอกาสทองของบรรดาทีม 'ม้ามืด' ที่จะมีโอกาสได้สัมผัสแชมป์ อย่าง 4 ทีมที่เข้าสู่รอบก่อนรองฯ ไปแล้ว ล้วนเป็น 'ม้ามืด' แทบทั้งสิ้น นำโดย ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง, แอตเลติโก มาดริด, อตาลันต้า และ แอร์เบ ไลป์ซิก
ขณะเดียวกัน ในถ้วยเล็ก ยูโรปาลีก ก็มีรูปแบบคล้ายคลึงกัน นั่นคือ 'มินิ ทัวร์นาเมนต์' แต่เพิ่มเติมเล็กน้อย คือสองคู่ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ถูกเลื่อนออกมาตั้งแต่นัดแรก คือ อินเตอร์ มิลาน เจอ เคตาเฟ่ และ เซบีย่า เจอ โรม่า จะถูกบรรจุเข้าไปอยู่ในทัวร์นาเมนต์ด้วย เป็นการเตะนัดเดียวจอด
'มินิ ทัวร์นาเมนต์' ของ ยูโรปาลีก จะแข่งขันกันที่ประเทศเยอรมนี โดยนัดชิงจะเล่นที่ ไรน์เอเนอร์กี้ สตาดิโอน ในเมืองโคโลญจน์ ทำให้เจ้าภาพนัดชิงเดิม สตาดิโอน เอเนอร์กา กดังค์ ประเทศโปแลนด์ ต้องถูกเลื่อนออกไปในรูปแบบเดียวกับถ้วยใหญ่
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันทั้งหมดมีกำหนดการดังนี้
5-6 สิงหาคม ยูโรปาลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสองอีก 6 คู่ที่เหลือ และ 2 คู่ที่จะเตะนัดเดียวรู้ผล
7-8 สิงหาคม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสองอีก 4 คู่ที่เหลือ
10-11 สิงหาคม ยูโรปาลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย
12-15 สิงหาคม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย
16-17 สิงหาคม ยูโรปาลีก รอบรองชนะเลิศ
18-19 สิงหาคม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ
21 สิงหาคม ยูโรปาลีก รอบชิงชนะเลิศ
23 สิงหาคม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ
กว่าจะได้บทสรุปจนถึงขั้นนี้ได้ ยูฟ่า ต้องเคลียร์เรื่องโปรแกรมฟุตบอลลีกของแต่ละประเทศมาก่อนเป็นอันดับแรก ถึงตอนนี้ต้องภาวนาไม่ให้โควิด-19 กลับมาเล่นงานยุโรประลอกใหม่ ไม่งั้นทุกอย่างที่วางแผนมาอาจจะพังครืนลงทั้งหมด
