:::     :::

"ลั่นกลองรบ" : คืนเผาเล้าไก่=คู่มือการใช้ POGBRU

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน 2563 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
6,017
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ลั่นกลองรบ เตรียมเปิดศึกใหญ่ ภารกิจปราบไก่เพื่อไล่ขยี้สิงห์บลูส์ได้เริ่มขึ้นแล้ว และถ้าหากเรามีคู่มือการใช้ป็อกบากับบรูโน่ร่วมกันได้ เล้าไก่ต้องราบเป็นหน้ากลอง

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่แฟนผีรอคอยกันแล้ว เมื่อแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดของเรากำลังจะกลับมาลงเตะอีกครั้งในคืนวันศุกร์ที่ 19 มิถุนายนนี้ เวลาตี2.15นาที เป็นเกมเยือนที่ต้องพบกับท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่30ของทั้งคู่ แมนยูมี45แต้ม ส่วนสเปอร์มี 41

ทางด้านทีมของแมนยูไนเต็ดเราอย่างที่ทราบกันแล้วว่า นักเตะตอนนี้อยู่ในสภาพFull Team และกำลังคึกสุดขีดเพราะได้ตัวหลักสำคัญๆที่เจ็บไปนาน กลับมาฟิต100%กันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ที่ได้กลับมาก่อนคนอื่นไปแล้ว, ปอล ป็อกบา ที่เจ็บยาวตลอดฤดูกาล และมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ยังรักษาไม่หาย ตอนนี้กลับมาสมบูรณ์แล้วเช่นกัน ส่วนกองหน้าอย่างมาร์คัส แรชฟอร์ดที่มีอาการกระดูกแตกบริเวณส่วนหลัง ก็กลับมาเล่นได้ตามปกติแล้ว จากการติดตามข้อมูลข่าว และสังเกตภาพการซ้อมของทีมในช่วงที่ผ่านมา

1.เหย้าเยือนแทบไม่มีความหมาย

เกมแรกในการกลับมารีสตาร์ทลีกของแมนยูนั้นถือว่า เจอเกมค่อนข้างหนักเลยทีเดียวเพราะต้องไปเยือนสเปอร์ แต่อยากบอกว่า ในยุคโควิดนี้ สิ่งที่ผมคาดการณ์เอาไว้มันเป็นจริงซะแล้ว เมื่อไม่มีคนดู ความได้เปรียบในการเล่นในบ้านถือว่าลดน้อยลงมากจนเกือบๆจะเรียกได้ว่าไม่มีผลอีกต่อไป คือไม่มีแรงกดดัน ไม่มีเสียงเชียร์และกำลังใจจากแฟนเจ้าถิ่นเหมือนเดิม จะได้เปรียบก็เพียงแค่สภาพสนามที่คุ้นเคยเท่านั้น แต่หลังจากดูสถิติจากลีกอื่นอย่างบุนเดสก็พบว่า จากเดิมเจ้าบ้านจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ยุคโควิดกลับกลายเป็นว่า สถิติเจ้าบ้านชนะลดน้อยลงมากๆอย่างมีนัยสำคัญ

ดังนั้นในการจะคาดเดาผลการแข่งขัน ต้องดูกันที่ฟอร์มการเล่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแล้ว ตัดความได้เปรียบเรื่องเหย้าเยือนทิ้งไปทั้งหมดได้เลย มาวัดกันหน้างานอย่างเดียวว่า ทีมไหนแข็งกว่ากัน

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ในคำว่า "ไปเยือนสเปอร์" ของแมนยูไนเต็ดนั้นจึงไม่ได้เสียเปรียบสเปอร์ในเรื่องนี้อีกต่อไป เพราะไม่ว่าจะเตะสนามไหนฟีลก็คล้ายๆกัน คือไม่มีคนดู เตะกันเองแห้งๆนี่แหละแล้วให้ทีมกราฟฟิคไปใส่เสียง ใส่ภาพคนดูเป็นเหลี่ยมๆแบบในวินนิ่งกันเอาเอง

2.ตัวของเขา

มาดูฝั่งสเปอร์กันก่อนว่า ใครที่คาดว่าน่าจะลงสนามกันบ้าง เริ่มจากฟร้อนท์ทรี ค่อนข้างเชื่อว่า ซอน กับ เคน คงจะได้ลงสนามก่อนแน่ๆเพราะหายเจ็บกลับมาหมดแล้ว แต่อีกตำแหน่งหนึ่งอาจจะเป็นลูคัส มูร่า ลูกรักน้ามูที่ก่อนจะหยุดไปก็ทำผลงานได้ดี

ตรงกลางสนามมีคนโดนแบนไปอยู่นั่นก็คือ "ลินการ์ดแห่งลอนดอนเหนือ" เดลเล่ อัลลี่ ที่จะไม่ได้ลงสนาม ส่วนตัวสำคัญอย่างLo Celso ไม่ได้ร่วมซ้อมในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึง Tanganga ที่มีปัญหาบาดเจ็บ ดังนั้นสเปอร์อาจจะใช้วิงคส์ เอ็นดอมเบเล่ ซิสโซโก้ ยืนตรงกลาง และแผงหลังก็คงเป็น แฟร์ทองเก้นจับคู่อัลเดอไวเรลด์ โดยมีเบน เดวิส และ อูริเย่ร์ ยืนประจำแบ็คซ้ายขวาตามลำดับในระบบ 4-3-3 อาวุธคู่กายน้ามู

แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือไม่เห็นหน้าคริสเตียน อีริคเซ่นแล้วนี่ละ โคตรสบายใจ!

3.แผนของเรา

ทางฝั่งแมนยูไนเต็ดเราต้องบอกว่า ตอนนี้โคตรของโคตรฟูลทีม เรียกง่ายๆว่าพร้อมบวกมากๆ ดังนั้นความเป็นไปได้ในการจัดแผนจัดตัวลงสนามนี่แทบจะเป็นอนันต์เลย จะคาดเดาให้ถูกเป๊ะๆ100%ทุกตำแหน่งคงจะยาก ดีที่สุดคือคาดเดาตามความน่าจะเป็นเท่านั้น ซึ่งจากการสังเกตที่ผ่านๆมา เวลาเจอกับทีมใหญ่ สูตร"หลังสาม"ของแมนยู มักจะฆาตกรรมทีมใหญ่ตายกันมานักต่อนักแล้ว ส่วน 4-2-3-1 เท่าที่เห็นส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาจะเปิดเกมบุกใส่ทีมที่เล็กกว่า หรือทีมที่ได้แต่ตั้งรับกับเราเท่านั้น

ดังนั้น สูตรที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะใช้ในคืนพรุ่งนี้ 60%เชื่อว่าน่าจะเป็นแผน "5-3-2"

(หรือจะเรียกเป็น 3-4-1-2 ก็เรียกได้ถ้าซอยไลน์ยืนย่อยๆออกไป)

สาเหตุที่เป็นแผนนี้เพราะว่าเป็นการขันเกมรับให้แน่นปั้กด้วยกองหลังตัวกลางสามตัว บวกกับแบ็คที่วิ่งไล่ปีกริมเส้นในเกมรับด้วย เราจะได้ไลน์ป้องกันแข็งๆ ยืนเรียงขวางสนามกันในรูปคล้ายๆถ้วยที่กระจายน้ำหนักในการเล่นเกมรับออกไปทั่วทั้งพื้นที่ ต่อให้หลุดแบ็คมาก็จะเจอกับเซ็นเตอร์ด้านข้าง และยังซ้อนด้วยกองหลังตัวกลางที่เป็นกึ่งๆสวีปเปอร์อีก1คนสุดท้าย จึงจะไปถึงมือโกล ส่วนด้านหน้าก็จะมีมิดฟิลด์ผึ้งงานสองคนคอยวิ่งไล่ดูแลหน้าแผงหลังอีกชั้น


กองหลังเซ็นเตอร์สามตัวกลาง ค่อนข้างเชื่อว่าน่าจะใช้เป็น ชอว์-แมกไกวร์-ลินเดอเลิฟ ตามปกติที่เป็นตัวเลือกแรกในซีซั่นนี้ ถ้าหากพลิกโผก็อาจจะเป็น ชอว์-แมกไกวร์-ไบญี่ อันนี้ก็เป็นได้ แต่ถ้าถามว่าโอเล่จะเอาCBลงพร้อมกันสามตัวเลยเป็น ลินเดอเลิฟ-แมกไกวร์-ไบญี่ เลยหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าไม่ เพราะโอเล่ก็ไม่ค่อยชอบจัดแบบนี้ มักจะใช้ชอว์หุบมากลางมากกว่า ซึ่งเจ้าตัวสามารถยืนกลางได้ และโดดเด่นด้านเกมรับมากๆ ส่วนลินเดอเลิฟก็ยังคงเล่นได้ตามฟอร์มตัวเองที่จะใช้การดักทาง และทำหน้าที่ช่วยขึ้นเกมจากแนวหลัง

สาเหตุและข้อดีของการใช้สูตรที่เป็นกองหลัง3นี้ ชัดเจนมากๆก็คือ โอเล่มักจะใช้แผนหลังสามในการเจอทีมใหญ่เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วทุกทีมจะเป็นทีมที่มีเกมรุกน่ากลัว ดังนั้นการเลือกแผนที่เน้นเกมรับแน่นไว้ก่อนเป็นหลัก จะมีโอกาสชนะมากๆ ซึ่งในการที่จะเผชิญกับทีมที่ "กองหน้าโหดมากๆ" อย่างท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่มีทั้งแฮรี่ เคน ซอนเฮืองมิน ยืนจู่โจมอยู่แนวหน้านั้นอันตรายมากๆถ้าจะใช้หลังแค่สองตัวซึ่งมีโอกาสโดนเผาเครื่องเละเทะสูง แถมยังไม่นับตัวเจาะอย่างมูร่าด้วย ดังนั้น เมื่อเจอทีมที่กองหน้าโหดๆ เกมรุกคมๆเช่นนี้ การเลือกหลังสามคนน่าจะเป็นสูตรที่ใช้ได้ผลและเมคเซนส์ที่สุดแล้ว

วิงแบ็คทั้งสองข้าง ในเมื่อเลือกลุค ชอว์หุบไปยืนกลาง ดังนั้นซ้ายจึงตกเป็นโควตาของเจ้าหนูวิลเลียมส์อย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนวิงแบ็คขวา แน่นอนว่าตัวอีดิตอย่างบิสซาก้า กำลังรอที่จะเชือดหนูมินอยู่แล้วอย่างแน่นอนในคืนพรุ่งนี้


ในตำแหน่งกองกลางสามตัว รูปแบบการเล่นน่าจะเดาไม่ยากหากใช้แผนหลังสาม โอเล่มักจะใช้เป็นกองหน้าคู่รอใช้ความเร็วสวนกลับ ดังนั้นกลางสามตัว คู่double pivot มิดฟิลด์คู่ไล่ตรงกลาง ตรงนี้คิดว่าคนที่จะได้ลงสนามก่อนน่าจะเป็นคู่ของ "เฟร็ด กับ แม็คโทมิเนย์"  เฟร็ดในตำแหน่งกองกลางตัวเชื่อมเกม ส่วนแม็คโทมิเนย์เล่นเป็น Box 2 Box สายDefensiveอย่างเต็มตัว เพื่อที่จะวิ่งพล่านเติมเกมในจุดต่างๆทั้งสนาม รวมถึงเข้าเกมปะทะเพื่อเอาชนะแดนกลางของสเปอร์ที่เป็น "สายเสริมพลัง" ที่ใช้แรงปะทะบวกกันทั้งนั้นโดยเฉพาะเอ็นดอมกับซิสโซโก้ที่บวกกับกลางเรามันส์แน่ๆ

มิดฟิลด์ตัวรุก คงเป็นหน้าที่ของบรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่จะได้ยืนหนึ่งเป็นตัวจริงตำแหน่งนี้ก่อนอย่างแน่นอน โดยที่บรูโน่นั้นเป็นกลางรุกที่จะขึ้นจากตำแหน่งตัวเอง เติมสูงขึ้นไปเป็นตัวที่จะยิงจบสกอร์ด้วยตัวเองอีกคนด้วย เหมือนได้ตัวรุกคนที่สามที่ยืนอยู่ตรงตำแหน่งTrequartista (มิดฟิลด์ตัวรุกกึ่งกองหน้าแบบ 3ใน4 นั่นแหละ) โดยหน้าที่หลักๆคือ ปั้นเกมรุก เป็นคนเปิดบอล เชื่อมบอลให้ตัวจู่โจมด้วยความเร็วสองตัวข้างหน้า ไม่ว่าจะในเกมสวนกลับ หรือเซ็ตเกมบุกขึงคู่แข่งตรงกลางนั่นเอง โดยที่เวลาครองบอลบุก บรูโน่จะได้ตัวช่วยริมเส้นเป็นวิงแบ็คทั้งสองข้างที่เติมขึ้นมาด้วย ทำให้ภาระเขาไม่มากถึงขนาดต้องถ่างออกไปเล่นริมเส้นด้วยตัวเอง

สาเหตุที่หลายๆคนสงสัยว่า อ้าว ไหนว่า ป็อกบาหายกลับมาแล้วไง ทำไมไม่ส่งลงสนาม ต้องบอกว่าข้อนี้คือการคาดเดาเฉยๆ ถึงวันจริงอาจจะลงมาพร้อมกันเป็นแพ็ค บรูโน่ ป็อกบา เฟร็ด ก็เป็นได้ ไม่มีใครรู้ แต่ประมวลจากข่าวที่ออกมาและการให้สัมภาษณ์ของโอเล่ ก็มีโอกาสที่นักเตะตัวที่ไม่ได้สัมผัสกับเกมเลยในซีซั่นนี้อย่างป็อกบา อาจจะต้องนั่งสำรองไปก่อน เพราะจังหวะการเล่นต่างๆอาจจะยังไม่เข้าและไม่คุ้นเคยกับtempoของซีซั่นนี้ที่ทีมเล่นกัน

อย่างที่หลายๆคนกังวลเหมือนผมนั่นแหละว่า ป็อกบามาแล้ว จังหวะการเล่นของทีมที่ลื่นๆจะเสียอีกไหม จากลักษณะการเล่นของป็อกบาที่ชอบครองบอลไว้กับตัวนานๆ


ซึ่งโอเล่ก็บอกเอาไว้ และอาจจะรวมถึงการปรับจูนให้เข้ากับทีมด้วย ดังนั้นผมค่อนข้างเชื่อว่า เกมกับสเปอร์ ป็อกบาได้ลงแน่นอน แต่คงจะลงในช่วงต้นๆครึ่งหลังสักนาที60ก็คงจะมาแล้ว และเดี๋ยวเราได้ดูคู่ป็อกบาบรูโน่แน่ๆ แต่อาจจะเป็นตอนแก้เกมในครึ่งหลังนั่นเอง

กองหน้าคู่ ค่อนข้างเชื่อมากๆว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด น่าจะได้จับคู่กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล โดยตรงเลย ในการที่จะรอเล่นเกมสวนกลับเร็วจากความผิดพลาดที่สเปอร์บุกพลาด สองตัวนี้มีโอกาสได้เล่นเกม run&gun เยอะมากถ้าได้ตัวจ่ายดีๆอย่างบรูโน่ที่รอแทงบอลให้วิ่งอยู่ ซึ่งสิ่งเดียวที่ทำให้แรช ถูกพิจารณาต่างจากป็อกบาทั้งๆที่เจ็บยาวไปเหมือนกัน นั่นก็คือ แรชฟอร์ดเป็นนักเตะตัวหลักที่ลงเล่นต่อเนื่องในซีซั่นนี้อยู่แล้ว ดังนั้นแทบจะไม่ต้องปรับจังหวะและแผนการเล่นอะไรมากมายเลย ร่างกายกลับมาหายเจ็บก็น่าจะลงตัวจริงได้ทันที

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้นั้น 11ตัวจริงและแผนที่คืนพรุ่งนี้จะใช้ในการพิชิตสเปอร์นั้น จึงออกมาเป็นสูตร 5-3-2 ตามนี้

5-3-2 แมตช์พิฆาตไก่ original by ศาลาผี

ในส่วนที่เป็นสูตร 4-2-3-1 นั้นถามว่ามีโอกาสไหม ก็มีโอกาสเหมือนกันแต่น่าจะน้อยกว่า เพราะโอเล่เน้นความแน่นอนพอสมควรในการเจอทีมใหญ่ ส่วน4-2-3-1 เอาไว้เล่นกับทีมที่อ่อนชั้นกว่า อย่างที่เกริ่นไปแล้ว แต่พรุ่งนี้ก็ยังมีโอกาสได้เห็นอยู่ในช่วงท้ายๆเกมที่ หากสถานการณ์เปลี่ยน เช่นแมนยูต้องการประตูไล่ตาม หรือบุกเพื่อเอาชนะ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนformationเป็นสูตรนี้ก็ได้ และที่สำคัญตัวเลือกในมือโอเล่เยอะมาก การจะเอาตัวเลือกลงมาเพื่อเปลี่ยนแผน ถือเป็นอาวุธสำคัญที่ไม่มีใครคาดเดาได้ วิลเลียมส์อาจจะถูกถอดออก ดันชอว์ออกไปเล่นแบ็ค แล้วนำกองหน้าลงไปเพิ่มหนึ่งคนไม่ว่าจะเป็นเมสัน กรีนวู้ด หรือ อิกาโล่เอง ก็สอดแทรกตรงนี้มาได้เช่นกันในเรื่องของการเปลี่ยนสูตร โดยที่คนสำคัญในแผนนี้คนนึง นั่นก็คือปีกแท้อย่าง แดเนียล เจมส์ นี่แหละที่จะใส่ลงตรงไหนในสูตรก็ได้ทั้งสองข้าง

ท้ายเกมก็มีโอกาสที่จะได้เห็นเช่นกัน

4. คู่มือการใช้ "POGBRU"

หนึ่งในเรื่องที่ทุกคนพูดกันหนาหูมากที่สุดนั่นก็คือ การเล่นร่วมกันเป็นครั้งแรกของป็อกบา กับบรูโน่ ที่วันก่อนตอนแข่งซ้อมกับWBAนั้นก็มีคลิปให้ได้เห็น มีประเด็นพูดคุยกันมากมายตลอดเวลาว่า "หากป็อกบากลับมา จะเล่นคู่กับบรูโน่ยังไง?" จะเอาใครไปยืนตรงไหน คิดว่าพรุ่งนี้เราน่าจะได้คำตอบกันแล้วแน่ๆเพราะป็อกบาน่าจะได้ลง ดีไม่ดีลง11คนแรกเลยจะหนาว

ประเด็นตรงนี้นั้นขอเรียกมันว่าเป็น "คู่มือการใช้ POGBRU" แล้วกัน

สูตรแรก วิธีการที่จะใช้งานป็อกบา คู่กับบรูโน่นั้น ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลเลย มันอยู่ใกล้ตัวมากที่สุด นั่นก็คือ วิธีการใช้งานสองคนนี้คู่กัน มันคือสิ่งเดียวกันกับ "แผนพิฆาตไก่" เลยด้วยซ้ำ นั่นก็คือ "สูตรหลังสาม" นี่แหละที่จะปล่อยอิสระให้ป็อกบากับบรูโน่ได้ดีที่สุด

ดียังไง?

สูตรสามเซ็นเตอร์นั้นเป็นสูตรที่ถือว่าทำให้เกมรับแข็ง และเหนียวแน่นมากเป็นเบส เน้นไม่เสียประตูเป็นหลัก ดังนั้นในเรื่องของเกมรับ สูตรนี้จะ"ลดภาระนักเตะข้างหน้า ตัั้งแต่แดนกลาง ไปจนถึงกองหน้า ให้ไม่ต้องกังวลกับการถอยมาเล่นรับมากกว่าปกติ"

ใช้คำว่ามากกว่าปกตินะ ก็คือไม่ต้องถอยมาเล่นรับเยอะเกินไป อาจจะมีลงต่ำมาช่วยไล่บอล บังทางบ้างนิดหน่อย แต่ไม่ต้องถึงขนาดต้องลงมารับทั้งทีมกันอุตลุด

เมื่อกองหลังแข็งแล้วด้วยไลน์ที่มีตัวรับแน่ๆอย่างต่ำ5คนรวมวิงแบ็คไปด้วย สูตรหลังสามมันจะทำให้ มิดฟิลด์ของทีมมีอิสระมากขึ้น อย่างที่กล่าวไป เพราะเกมรับไปตกอยู่ที่กองหลังเยอะแล้ว ส่วนมิดฟิลด์ตรงกลางที่อยู่หน้าแผงหลัง ก็อาจจะไม่ต้องเล่นเกมรับหนักมากเกินไปกว่าการแค่คอยวิ่งบังทางและคุมโซนพื้นที่ตรงนั้นเท่านั้น แต่ไม่ต้องพุ่งเข้าแทคเกิล หรือเล่นเกมหนักที่อาจจะเสียฟาล์วในจุดยิงฟรีคิกได้  ปล่อยเกมสกัด เกมป้องกันให้ด้านหลังรับผิดชอบไปเลย

ซึ่งตรงนี้จะเห็นชัดว่า เข้าทางป็อกบาชะมัด เพราะนางไม่ชอบเล่นเกมรับไงล่ะ!(ฮา แต่เรื่องจริงนะ)

เมื่อเป็นเช่นนี้ ความอิสระของมิดฟิลด์ที่จะได้รับจึงมีสูงมากที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องลงไปค้ำตัวต่ำแบบมิดฟิลด์ตัวรับ ที่ยืนdeepมากๆปักหลักอยู่หน้าแผงหลังอีกตัว แต่มิดฟิลด์ตรงกลางทุกคนในเกมบุก จะสามารถมีอิสระในการเล่นได้โดยไม่ต้องเสียตัวไหนมาคอยรับหน้าที่คอยป้องกันเลย

ถ้ามิดฟิลด์ตรงกลางซ้ายขวาคือมือสองข้างละก็ ในสูตรนี้มือของเราจะเป็นอิสระเลย จะโรมมิ่งไปอยู่ตรงไหนของสนามก็สามารถทำได้ ซึ่งนั่นแหละ คืออีกจุดแข็งนึงของป็อกบา เพราะอย่างที่กูรูต่างประเทศทุกคนพูดแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน รวมถึงความคิดเห็นตัวเราเองด้วยว่า หากให้ป็อกบาปักหลักอยู่แค่ตรงกลางสนามแบบdeep lying playmakerละก็ พูดได้เลยว่าเสียของ ก็เห็นๆอยู่ว่าเวลาป็อกบาเติมเกมรุกสูง มันโหดขนาดไหน

แผนนี้จึงเป็นแผนที่ให้อิสระป็อกบามากๆหากเลือกที่จะให้เขาลงเป็น1ใน2มิดฟิลด์คู่กลาง ส่วนมิดฟิลด์ตัวรุกด้านบนอย่างบรูโน่นั้นก็อยู่ในเซ็ตทีมรุกอยู่แล้ว ก็จะมีตัวเลือกในการเข้าจู่โจมตรงพื้นที่สุดท้ายเพิ่มเป็น3ตัว (กองหน้า2+บรูโน่1) กลายเป็นว่าเราได้ฟร้อนท์ทรีเอาไว้ใช้ ในเกมที่เล่นCB 3คนด้วยซ้ำไป


นอกจากนี้คู่มือการใช้ป็อกบาร่วมกับบรูโน่นั้น ยังมีอีกหลายวิธี และสามารถเลือกใช้ได้หลากหลายด้วย เราข้ามประเด็นของสูตรหลังสาม แล้วลองมองในกรณีของการเล่นในแผงกองกลาง ไม่ว่าจะเป็นสูตรอื่นอย่าง 4-2-3-1 หากจะใช้ป็อกบาในสูตรนี้ ลงตำแหน่ง "มิดฟิลด์ตัวกลาง" เหมือนเคสข้างบนแล้วนั้น กลางคู่อีกคนนึงจะต้องเป็น มาติช หรือไม่ก็ แม็คโทมิเนย์ เท่านั้น คือตัวคู่ป็อกบาหากลงในสูตรแบ็คโฟร์ ต้องมีตัวไล่เกมรับคนนึง ไม่งั้นมันจะไม่มีคนจัดการคู่ต่อสู้ตรงกลางเลย นี่คือเงื่อนไขแรก

สูตรที่สอง คือ การจับป็อกบายืนในตำแหน่ง"หมายเลข10" แทนบรูโน่ ก็เป็นสิ่งที่ทำได้เช่นกัน

โดยสิ่งที่เราจะทำก็คือ สลับให้บรูโน่ แฟร์นันด์ส ลงมายืนต่ำคอยคุมบอล และคอนโทรลเกมข้างสนามคู่กับเฟร็ดหรือแม็คในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ตัวต่ำ แล้วปล่อยอิสระให้ป็อกบาขึ้นไปเล่นno.10 ประสานงานกับแรช+หมาก โดยตรง เพื่อปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงในการเล่นรุกของป็อกบาออกมา แบบนี้ก็ทำได้เช่นกัน

จุดสำคัญที่ทำให้วิธีการนี้เป็นไปได้นั่นก็คือ ความสามารถในการเล่นกองกลางของบรูโน่ เพราะจริงๆแล้วบรูโน่หลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่า นี่เป็นนักฟุตบอลที่เป็น "มิดฟิลด์แท้" นะครับ เพียงแค่ว่ามันเป็นมิดฟิลด์ที่ดันทะลึ่งยิงได้เยอะ แอสซิสต์ได้ประจำเท่านั้นเอง แต่มิติการเล่นเขาเล่นเป็นกองกลางธรรมชาติได้

ดังนั้นจะสลับป็อกบาให้ขึ้นสูง ดึงบรูโน่มาคุมจังหวะเกมกลางสนามยังได้เลย แล้วโจมตีด้วยบอลยาวเอา

จะใช้ป็อกบาเป็นNo.10 แบบนี้ใน4-2-3-1ก็ย่อมได้

สูตรที่สาม ป็อกบายืนระนาบเดียวกับบรูโน่ในสูตร 4-3-3

โดยที่สูตรนี้ จะใช้กองกลางสามตัว โดยให้มีมิดฟิลด์ตัวรับหนึ่งตัวแท้ๆ ยืนปักหลักต่ำหน้ากองหลังเลย น่าจะเป็นแม็คหรือไม่ก็มาติช แล้วจากนั้น ใช้กองกลางสองตัวด้านหน้า คุมเกมทั้งหมดของสนาม นั่นก็คือป็อกบา บรูโน่นั่นเอง หากเป็นรูปแบบนี้ ในแดนหน้าที่เป็นตัวจบสกอร์นั้น เราจะสามารถใช้ตัวยิงเพียวๆล้วนๆเป็น "หน้าสาม" ได้ ซึ่งมองข้ามช็อตไปสามารถใช้ 4-3-3 ทรงนี้ได้เลยยามที่ซานโช่มา หากใครนึกไม่ออกว่า กองกลางแบบป็อกบา ยืนคู่ระนาบเดียวกันกับบรูโน่เลยยังไง ไปดูเจมส์ แมดดิสันของเลสเตอร์ได้ ที่ยืนคู่กับเพื่อนเลย ไม่ได้ยืนเป็นกลางรุกเดี่ยว

สูตรที่3 แผนผังตามในรูปนี้เลย เล่น4-3-3 ดึงแม็คโทมิเนย์ลงต่ำหน่อย แล้วเปลี่ยนเจมส์เป็นซานโช่ นี่ก็คือแผนปีหน้าได้เลย

วิธีการใช้งานนักเตะสองคนนี้เล่นร่วมกันนั้นถือว่าทำได้หลากหลายมากๆ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของคู่มือการใช้ POGBRU ทุกเงือนไขก็คือ ทีมจะต้องไม่ขาด "เกมรับที่เหนียวแน่น" เป็นหลักก่อน (ไม่งั้นเละ เพราะไอ้สองตัวนี้มันเกิดมาเพื่อบุกแหลก)

ดังเช่นที่กล่าวเอาไว้ว่า สูตรกองหลังสามคน เป็นแผนที่เหมาะกับการใช้ป็อกบาคู่บรูโน่ ที่ทำให้มิดฟิลด์ด้านหน้ามีอิสระในการเล่นสูงเพราะเกมรับด้านหลังแข็งมากจาก 3CB แถมด้วยวิงแบ็คด้านข้างก็เป็นกองหลังเช่นกัน ลักษณะเหมือนสามเหลี่ยมเกมรับสองอัน ประกบกันซ้ายขวา

หรือถ้าไม่เล่นระบบหลังสาม กองกลางก็จะต้องมีหนึ่งตัวจริงๆที่ทำหน้าที่คอยปัดกวาดด้านหลังให้ป็อกบากับบรูโน่สามารถเล่นเกมรุกได้อิสระมากๆ ซึ่งคนเดียวที่จะทำให้เกมรับแข็งสุดของแดนกลางได้ มีเพียงแม็คโทมิเนย์เท่านั้นเองหากโอเล่จะเน้นroleให้เขาทำเกมรับเป็นหลัก มากกว่าจะเติมจนสุดกรอบเขตโทษสเปอร์ เพราะมาติชเกมรับไม่ค่อยดี ส่วนเฟร็ดตัดบอล วิ่งไล่ ดีมาก แต่อาจจะเบรคเกมคู่ต่อสู้เป็นหลักๆไม่ดีเท่าแม็คที่ร่างกายแข็งและหนากว่า + เกมรับดีกว่าโดยเฉพาะลูกกลางอากาศ

5. คืนเผาเล้าไก่

ผมเชื่อว่าแฟนบอลหลายๆคนฮึกเหิมกันมากไม่เว้นแม้กระทั่งผู้เขียนเลย เรามาด้วยความมั่นใจเพราะว่าฟอร์มตั้งแต่มีบรูโน่เข้าทีมมา แมนยูไนเต็ดแข็งแกร่งขึ้นแบบกลายเป็นคนละทีม และทำผลงานสุดหรูอย่างการเชือดเชลซีและแมนซิตี้แบบขาดๆให้เห็น ผมรู้ว่าทุกคนมั่นใจ ผมเองก็มั่นใจ

แต่สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นพรุ่งนี้ มันอาจจะแตกต่างออกไป

หากใครได้ดูเกมการแข่งขันเมื่อคืนแล้วจะพบว่า จังหวะการเล่นของแต่ละทีมที่เพิ่งกลับมาลงสนามจริงๆนั้น จะยังไม่เหมือนเดิม100%กับฟอร์มช่วงก่อนที่จะหยุดไป ทั้งจังหวะและสปีดบอลในการเล่น จะต้องใช้ความคุ้นเคยสักพัก เกมหรือสองเกม จึงจะเริ่มดีขึ้นและกลับมาอยู่ในฟอร์มเดิม

ใครที่คาดหวังว่าแมนยูจะต้องไปถล่มแน่ๆ อย่าลืมว่าสเปอร์เองก็มีตัวอันตรายในแดนหน้าอยู่ครบ ข้อนี้สำคัญมากที่อาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ กับการเจอทีมของคนที่เขี้ยวลากดินอย่างโจเซ่ มูรินโญ่ ที่ไม่น่าจะยอมให้เราเจาะเค้าง่ายๆแน่ๆ

ในทรรศนะของผม มีโอกาสเสมอ 0-0 ค่อนข้างมาก เพราะสเปอร์นั้นชื่อชั้นและระบบการเล่นของทีมใกล้เคียงเรามากจริงๆ โอกาสที่จะเล่นกันแบบระมัดระวังตัวทั้งคู่มีสูงมากๆ แมนยูก็ใช้หลังสามอย่างที่เห็น และอาจจะไม่มีจังหวะสวนกลับ ส่วนน้ามูก็คงจะเน้นลูกทีมเซ็ตบอลกันชัวร์ๆเป็นหลัก เมื่อรวมกับการเล่นของทั้งสองทีมที่น่าจะเรียกฟอร์มเดิมกลับมายังไม่เต็ม100 โอกาสที่พรุ่งนี้จะออกเสมอสูงมากๆ เพราะเกมกับสเปอร์ คือหนึ่งในงานยากที่เหลือของแมนยูไนเต็ด และอาจจะออกหน้าเสมอ หรือแพ้ก็ได้ทั้งนั้น

พูดงี้แล้วโอกาสชนะล่ะ?

กรณีที่พรุ่งนี้เรามีโอกาสจะชนะได้นั่นก็คือ

-กองหลังต้องเอา ซอน เคน มูร่า 2ใน3คนนี้ให้อยู่ ไม่ว่าใครจะลง ส่วนกองกลางไม่ห่วง เหนือกว่าชัดเจน

-กองหน้า ค่อนข้างคาดหวังการกดอัลติของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในเกมเปิดตัวการกลับมาลงสนามอีกครั้งของเค้า ซึ่งหมอนี่ชอบยิงจริงๆนัดเปิดตัว หากพี่แกกระหายจัดๆและสามารถปลดล็อคทำประตูได้ พรุ่งนี้เราชนะแน่ๆ

-และปัจจัยสุดท้ายคือ หากโอเล่สามารถใช้งานPogba คู่ Bruno ในวันพรุ่งนี้พร้อมเลยตั้งแต่คัมแบ็คนัดแรก ถ้าเล่นร่วมกันได้ผลขึ้นมา ไม่ว่าจะจาก11ตัวจริงแรกเลย หรือช่วงครึ่งหลัง  

หากเงื่อนไข 2ใน3นี้เกิดขึ้น และแมนยูทำสำเร็จ มีโอกาสสูงมากที่พรุ่งนี้เราจะชนะและบุกไปคว้า3แต้มไล่บี้ติดเชลซีทันที

และทันทีที่ POGBRU เข้าขากันเมื่อไหร่ กองหลังพรีเมียร์ทีมไหนก็เอาไม่อยู่

-ศาลาผี-

References

https://www.standard.co.uk/sport/football/tottenham-xi-vs-man-united-confirmed-team-news-predicted-lineup-latest-injuries-a4471941.html

https://www.buildlineup.com/lineup/5eeb68fb4e5ac404cc46983b

https://tribuna.com/en/manutd/news/2020-06-11-solskjaer-reportedly-ready-to-play-pogba-in-no10-role-ahead-of-bruno-after-interfriendly-/

https://utdreport.co.uk/2020/06/14/the-3-4-1-2-can-compliment-both-paul-pogba-and-bruno-fernandes/

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})