:::     :::

3 แต้มทองคำในวันที่แสนอึดอัดของ บาร์ซ่า

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บาร์ซ่า ผ่าน แอธ.บิลเบา ชนิดหืดจับ ยังคงความหวังลุ้นแชมป์กับ เรอัล มาดริด ต่อไป หากแต่ลึกลงไปในรายละเอียด มีบางอย่างที่น่าห่วงไม่น้อย

        สาวก 'กูเล่ส์' เป่าปากอย่างโล่งอก หลังเห็น อีวาน ราคิติช ดอดขึ้นไปซัดเต็มข้อผ่าน อูไน ซิมอน !! 

สกอร์ 1-0 เพียงพอที่จะทำให้ บาร์เซโลน่า กลับขึ้นไปนำจ่าฝูงอีกครั้งด้วยการมีแต้ม 68 โยนความกดดันใส่ เรอัล มาดริด ที่มีคิวลงเล่นกับ เรอัล มายอร์ก้า ที่ ดิ สเตฟาโน่ 

.................................

บาร์ซ่า ชนะในเกมที่ต้องชนะ ถ้ามองในแง่ดี คือทีมผ่านด่านหินไปได้อีกนัด หล่อเลี้ยงความหวังลุ้นแชมป์ต่อไป เพราะต่อให้ มาดริด ชนะ มายอร์ก้า ได้..จะอย่างไรเสีย พวกเขาก็ยังไม่หลุดวงโคจร 

จากสถิติที่พบกันมาช่วง 3-4 ปีหลัง เล่นกับ บิลเบา ทีไร ไม่ว่าที่ไหน ไม่เคยง่าย แข้งชาวบาสก์คือคู่ต่อสู้ที่ตึงมือเสมอสำหรับ บาร์เซโลน่า หนก่อนก็คงจำกันได้ในนัดเปิดสนาม ลา ลีกา ที่ บาร์ซ่า พลาดท่าโดน อาริตซ์ อาดูริซ ลอยตัวตีลังกายิงจนพ่ายแพ้ 

กระนั้น หากจะมองหาเหตุ หาข้อบกพร่องเพื่อให้เกิดการพัฒนา ก็จะเห็นว่ามีจุดให้กังวลอยู่พอสมควร เพราะ 3 ก็จริง แต่เกมของ บาร์ซ่า ไม่ค่อยน่าพอใจนัก 

กาอิซก้า การีตาโน่ วางระบบ 4-2-3-1 ลงมาสู้ แต่ระบบไม่สำคัญเท่ากับยุทธวิธีที่ใช้สู้  กุนซือบิลเบาวางเดิมพันไว้ที่เกมรับของทีม ใช้เป็นทั้งจุดตั้งรับและเปิดเกมรุก 

แผงแบ็กโฟร์ของทีม โดยเฉพาะคู่เซนเตอร์ อูไน นูนเญซ กับ เยราย อัลลาเรซ  ยืนปักหลักรักษาตำแหน่งแทบไม่เคลื่อนออกจากพื้นที่ 

ตั้งแต่แดนกลางจนถึงหน้ากรอบเขตโทษเป็นที่หน้าของ มิเกล เบสก้า กับ อูไน โลเปซ ไล่ตัดเกม พัวพัน ซึ่งก็รวมไปถึงไอ้หนู ออยอาน ซานเซ็ท ที่แม้จะเล่นหน้าต่ำ แต่ได้รับคำสั่งให้เป็นด่านแรกที่เล่นเกมรับ รบกวนการลำเลียงจากแดนหลังของ บาร์ซ่า ให้ได้มากที่สุด 

แดนกลางของ บาร์ซ่า ครอบครองบอลไว้เกือบเบ็ดเสร็จ จบเกมได้เล่นกับบอลมากถึง 67%  สาเหตุเพราะฝีเท้าและองค์ประกอบทีมเหนือกว่า แต่อีกด้านนึงเพราะ บิลเบา ปล่อยให้ครองด้วย บางจังหวะพวกเขาถอนลงมาเล่นเกมรับในแดนหน้าตัวเองทั้ง 11  ตำแหน่ง 

แดนหน้า บิลเบา พยายามเพรสซิ่ง เมื่อบอลเข้าจังหวะ และเห็นว่ามีโอกาสเอาได้  

ซานเซ็ท ช่วยกันกับ อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ ขยับเข้าหา ปีเก้ กับ ล็องเล่ต์ แต่ บาร์ซ่า ก็แกะออกได้อย่างไม่ยากเย็น เซเตียน แก้ปัญหานี้ด้วยการใช้ แทร์ ชตีเก้น ขยับออกมาช่วยเซ็ท จุดประสงค์เพื่อเพิ่มจำนวนผู้เล่นให้มากกว่าจาก 2-2 เป็น 3 ต่อ 2 ทำให้มีเวลาคิด+ช้อยส์ในการรับส่งมากกว่าเดิม 

บาร์ซ่า ครองได้ แต่ทำอะไรไม่ถนัด ทักษะความสามารถของ เมสซี่ อาจจะผ่านได้ 2 ด่านสบายๆ แต่เจอด่านที่ 3-4 ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ตัว 1 เข้า ตัว 2 ตาม ตัว 3 คอยดักทาง ตัว 4 เก็บกิน 

         

บาร์ซ่า เจาะตรงกลางไม่เข้าเลยเพราะพื้นที่เหลือน้อย ลูกจ่ายทะลุช่องแทบไม่ผ่านไปถึง หลุยส์ ซัวเรซ เลย  

ปัญหาทางกราบ ส่งผลต่อเกมด้วยรวมของ บาร์ซ่า เพราะเมื่อคืน เซเมโด้ กับ อัลบา รวมถึงตัวรุกทางกราบอย่าง กริซมันน์ ขาดความลึกในการเล่น 

ฟูลแบ็กทั้งสองข้างไปถึงเส้นหลังน้อยมาก โดยเฉพาะฝั่ง เซเมโด้ ที่แม้เกมรับจะทำได้ดี แต่เกมรุกถือว่าน่าผิดหวัง ขณะที่ กริซมันน์ เล่นง่ายเกินไป ระมัดระวังเกินเหตุ  ไม่กล้าเสี่ยง ไม่กล้าลุย จังหวะตัวต่อตัว ลากเจาะเข้าไปไม่มีให้เห็นเลย แต่ทั้งนี้ก็ต้องชมเกมแพลนของ การีตาโน่ และระเบียบวินัยของนักเตะบิลเบา 

เลก้วย ปีกขวาไม่เคยปล่อยให้ ออสการ์ เด มาร์กอส ดวลตัวต่อตัวกับ อัลบา หรือ กริซมันน์ เลย ขณะที่ อูไน โลเปซ ก็คอยซัพอร์ตตลอดหากบอลของ บาร์ซ่า ตัดเข้ามาตรงกลาง เช่นเดียวกับอีกฝั่งที่ อินญิโก้ ก็ขยันลงมาช่วย บาเลนเซียก้า โดยที่มี มิเกล เบสก้า คอยช่วยไล่  

เมื่อเกมด้านข้างตีโซนของ บิลเบา ไม่แตก ไปไม่ถึงเส้นหลัง บอลจึงถูกลำเลียงกลับมาตรงกลางบ่อยครั้ง ซึ่งพื้นที่นี้มีจำนวนผู้เล่นบิลเบาอัดแน่น  ทำให้ถ้าการพาสซิ่งของ บาร์ซ่า ไม่เป๊ะจริงๆ แทบจะไม่ได้ยิงเลย 

ผมชอบ ริกิ ปุช มาก เขาลงมาทำในสิ่งที่ตัวสำรองควรจะทำ นั่นคือเปลี่ยนแปลง 

        

ดาวรุ่งวัย 20 ทำให้เกมตรงกลางของ บาร์ซ่า ที่ดู flat แบนราบ จากการขวางบอลไปมาของ อาร์ตู เมโล่ ให้กลายเป็นมีมิติ เร็วขึ้น ด้วยการออกบอลที่มีจินตนาการของเขา 

ปุช ไม่เสียบอลเลย ขณะที่เกมรับ เขาใช้ความเร็วและคล่องชิงบอลกลับมาให้ทีมได้ทุกครั้ง 

อีกคนที่ต้องชม คือ อันซู ฟาติ ซึ่งทำให้เห็นว่าโซนรับทางกราบของ บิลเบา สามารถเจาะได้ ถ้ามั่นใจและเจ๋งพอ จังหวะแหวก 2 หรือลากตัดลุยเข้ากลาง สร้างความปั่นป่วนให้โซนรับของ บิลเบา แตกต่างจาก กริซมันน์ ชัดเจน และเขานี่แหละเป็นคนสร้างโอกาสให้ เมสซี่ ได้ยิงประตู ซึ่งทั้งทีมแทบไม่มีใครทำได้แบบนั้น

กับประตูชัย เกิดขึ้นในจังหวะที่เป๊ะมากๆ ระหว่างที่บอลยังไม่สมบูรณ์ บาร์ซ่า พยายามหนุนเข้ามาจนมาถึง เลโอ เมสซี่ ที่พยายามหักหลบ เยราย ก่อนที่บอลจะทะลักออกมา และเป็น ราคิติช พุ่งเข้ามาเกี่ยวบอลเอาเข้าไปยิง

อาจไม่ใช่ลูกยิงที่สวยงามที่สุดของมิดฟิลด์โครแอต แต่ลูกนี้แสดงให้เห็นถึงเซนส์บอลที่เหนือชั้นและการอ่านจังหวะที่แม่นยำ สอดเข้ามาถูกที่ถูกเวลา 

เกมชี้ขาดกันแค่ลูกนั้น บิลเบา เมื่อเสียประตู ก็หมดแต้มต่อ เกมรับแล้วโต้หายไป เพราะ บาร์ซ่า ระวังหลังมากขึ้น หันไปเล่นกับเวลา หนามยอกเอาหยามบ่ง 

จบเกม บาร์ซ่า ทำได้ตามเป้า แต่ เซเตียน หน้ามุ่ยเดินเข้าห้องเพรส หงุดหงิดกับการเล่นของลูกทีม แต่ลึกลงไปในใจเขารู้ตัวว่าโชคดีที่อาตัวรอดมาได้ในวันที่แสนยากเข็ญเช่นนี้  

ผ่านเกมกับ บิลเบา แฟนบาร์ซ่าผ่อนลมหายใจออกปากเบาๆด้วยความโล่งอก แต่อีก 7 เกมที่รออยู่ ส่อเค้าแววไม่แคล้วเจอกับสถานการณ์เช่นนี้อีก 

ตั้งแต่ เลกาเนส,เซบีย่า จนถึง บิลเบา ทั้ง 3 คู่ดวลล้วนแล้วแต่ใช้วิธีการเดียวกันเล่นงานพวกเขา 

เมื่อคืนวันอังคาร ทีมผ่านมาได้อย่างฉิวเฉียด แต่เกมต่อๆไป ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีการ หรือยกระดับรายละเอียดบางอย่างให้ดีขึ้นกว่านี้ มีโอกาสหลุดวงโคจรได้ง่ายๆเหมือนกัน พูดเลย 

       ......................................

       คะแนนความสามารถนักเตะบาร์เซโลน่าเมื่อคืนที่ผ่านมา

       แทร์ ชตีเก้น 5.5,เนลซอน เซเมโด้ 4, เคราร์ด ปีเก้ 6,เกลม็อง ล็องเล่ต์ 6,ยอร์ดี้ อัลบา 5,เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ 5,อาร์ตูโร่ วีดัล 5,อาร์ตู เมโล่ 5,ลิโอเนล เมสซี่ 7.5,หลุยส์ ซัวเรซ 6,อองจวน กริซมันน์ 4,ริกิ ปุช 7,อันซู ฟาติ 7,อีวาน ราคิติช 8,มาร์ติน เบรทเวต ไม่มีคะแนน

เจมส์ ลา ลีกา 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด