นักเตะที่เคยเป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุดในฟุตบอลโลก แม้ว่าสถิติดังกล่าวจะโดนทำลายลงไปแล้ว แต่เขายังคงถือครองสถิติที่ยากจะทำลาย นั่นคือผู้เล่นที่อายุมากที่สุดที่ทำประตูในรอบสุดท้าย
มิลล่า ในวัย 42 ปีกับ 39 วัน ลงสนามในฐานะตัวสำรองพร้อมกับทำประตูในเกมดวล รัสเซีย แม้ว่าพวกเขาจะแพ้ไปอย่างเละเทะ แต่นั่นคือสถิติที่ยังคงยั่งยืนมาถึงตอนนี้กว่า 26 ปี ...
ผ่านมา 26 ปีแล้ว ที่คุณลงสนามดวลกับ รัสเซีย และกลายมาเป็นนักเตะที่อายุมากที่สุดที่ทำประตูในศึกฟุตบอลโลก คุณรู้สึกอย่างไรบ้างในตอนนั้น?
โรเจอร์ มิลล่า: พึงพอใจมากๆ คุณอาจจะเคยได้เห็นการฉลองของผม แม้ว่าเกมนั้นเราจะปราชัยไปก็ตาม แต่วันนี้ผมก็ยังคงภูมิใจอย่างมาก ในความคิดของผม ประตูดังกล่าวและสถิติได้แสดงให้กับคนที่สงสัยในตัวผมว่าผมยังคงมีของ แม้ว่าจะอายุมากแล้วก็ตาม สภาพร่างกาย แน่นอนว่าไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ผมยังมีเรื่องเทคนิค มันเป็นสถิติที่ดีมากๆ
ประตูนั้นเป็นประตูที่คุณภูมิใจมากที่สุดในชีวิตหรือไม่?
โรเจอร์ มิลล่า: ไม่ ผมไม่คิดเช่นนั้น มันดีเพราะเป็นความสำเร็จส่วนตัว แต่ไม่ได้ทำให้ผมพอใจมากที่สุดมากไปกว่าการช่วย แคเมอรูน ให้ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1990 นั่นคือประวัติศาสตร์ของชาติและทวีปของพวกเราทำได้ในปี 1990 แต่โชคไม่ดีที่เราทำไม่ได้
ในตอนที่คุณเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อลงเตะฟุตบอลโลก คุณได้คิดถึงสถิติดังกล่าวไว้ในใจหรือไม่?
โรเจอร์ มิลล่า: ผมไม่ได้คิดถึงผลงานส่วนตัวทั้งหมดในตอนที่ผมเดินลงสนาม หรือแม้แต่ในช่วงก่อนถึงรายการแข่งขัน ความคิดในการทำลายสถิติไม่ได้อยู่ในหัวผมเลย ถ้าผมทำประตูได้และเราไม่ชนะ ผมจะไม่พอใจอย่างมากเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมของผม พวกเราต้องการทำได้ดีกว่าตอนที่ทำได้ในปี
คุณวางสถิติที่คุณทำได้อยู่ในระดับใดของบรรดาสถิติที่ยอดเยี่ยมทั้งหมดในฟุตบอลโลก?
โรเจอร์ มิลล่า: ทุกๆ สถิติมีเรื่องราวในตัวมันเอง ผมไม่สามารถเอาเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาก่อนได้ ทุกๆ คนในบรรดานักเตะเหล่านั้นสร้างสถิติในฟุตบอลโลกด้วยเส้นทางของพวกเขาเอง ในฐานะตัวทำประตู ผมสามารถกล่าวได้ถึงสถิติของ (มิโรสลาฟ) โคลเซ่ และ ฌุสต์ ฟงเตน แต่ผมไม่สามารถใส่ลำดับให้พวกเขาได้ สถิติของผมเป็นเพียงหนึ่งในจำนวนมากมาย สำหรับผม สถิติเดียวที่ตราตรึงในใจเป็นของ 'O Rei' เปเล่ ที่ได้แชมป์ฟุตบอลโลก 3 ครั้ง ไม่มีคำที่อธิบายได้กับสิ่งที่เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังหนุ่ม
คุณคิดว่าสถิติของคุณจะถูกทำลายลงในสักวันหนึ่งหรือไม่?
โรเจอร์ มิลล่า: ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แต่มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ในการทำลายสถิติ วันนี้ฟุตบอลเป็นกีฬาที่แตกต่างออกไป และมันยากที่จะเห็นใครสักคนที่นอกเหนือผู้รักษาประตูที่จะเล่นถึงอายุ 42 ปี และอย่างที่เราทราบกันผู้รักษาประตูไม่ได้ทำประตูบ่อยนัก ผมคิดว่าสถิติของผมยังมีต่อไปอีกพอสมควร
ตอนนั้น โอเล็ก ซาเลนโก้ ทำไป 5 ประตู ซึ่งเป็นสถิติที่เขายังครองเอาไว้อยู่ คุณประทับใจกับสถิติของเขาหรือไม่?
โรเจอร์ มิลล่า: คณไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากประทับใจผลงานเช่นนั้น โดยเฉพาะในฟุตบอลโลก แม้ผมจะคิดว่าเราจะเป็นคนมอบโอกาสให้ เกมนั้นเราไม่ดีพอ พวกเราทั้งคู่ต่างทำสถิติในเกมนั้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่เราถ่ายรูปคู่กันในช่วงจบเกม
ในตอนนั้นอะไรอยู่หัวของคุณมากกว่า สถิติส่วนตัวหรือความพ่ายแพ้แบบเละเทะ?
โรเจอร์ มิลล่า: มันเป็นอารมณ์ที่ผมสมปนเป เพราะเราตกรอบและไม่พอใจที่เราไม่สามารถทำได้ตามที่คนคาดหวัง ผมยังรู้ด้วยว่าผมลงเล่นเป็นเกมสุดท้ายในฟุตบอลโลก และผมกำลังกล่าวอำลาการแข่งขัน ดังนั้นผมแค่พยายามมองไปรอบๆ และเก็บเกี่ยวทุกๆ ช่วงเวลา ในตอนนั้น ผมไม่ได้คิดถึงสถิติมากนักเพราะประตูมีผลกับเกมไม่มาก แต่หลังจากหลายปีผ่านไปมันมีความหมายมากๆ และผมภูมิใจกับมัน
แล้วตอนนี้ล่ะ? คุณยังคงรู้สึกแบบเดิมหรือไม่?
โรเจอร์ มิลล่า: ตอนที่ผมมองย้อนกลับไปผมพยายามมองในแง่ดี ซึ่งก็คือสถิติ ผมยังคงมีความเสียใจเล็กน้อย เพราะมันคือฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของผม และผมอยากไปไกลกว่าและจบให้ดีกว่านั้น
กลับไป 4 ปีก่อนหน้านั้น ใน อิตาลี 1990 เมื่อ แคเมอรูน เป็นทีมจากแอฟริกาทีมแรกที่เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลก คุณจำความรู้สึกในตอนนั้นได้หรือไม่?
โรเจอร์ มิลล่า: คุณไม่สามารถอธิบายมันออกมาได้ มีความรู้สึกที่ปลื้มปิติออย่างมาก พวกเรามีความสุขและช่วยให้พวกเรามีความมั่นใจเพิ่มขึ้น พวกเราอยากไปไกลกว่านั้นเพราะพวกเราอยากทำมากกว่านั้น ผมไม่ต้องการแพ้ในเกมเจออังกฤษ แต่ในตอนที่ผมมองย้อนกลับไปในตอนนี้มีความเสียใจเพียงเล็กน้อย ผมเชื่อว่าเราสามารถผ่านไปได้ตลอดทาง เราได้รับการต้อนรับอย่างกับฮีโร่ในตอนที่เรากลับไป แคเมอรูน และเป็นตอนที่คุณตระหนักได้ว่าคุณประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
คุณเปิดส้นทางให้กับทีมจากแอฟริกาแต่ที่ผ่านมามีเพียง เซเนกัล 2002 และ กานา 2010 ที่ทำสถิติเทียบเท่ากับพวกคุณ ฟุตบอลแอฟริกันต้องทำอย่างไรเพื่อจะเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศได้?
โรเจอร์ มิลล่า: เซเนกัล และ กานา แสดงให้เห็นว่ามันเป็นไปได้ เรายังคงมีบางเรื่องที่ตามหลังทีมจากยุโรปดังนั้นมันจึงยากที่จะไปตรงจุดนั้น แต่ผมยังคงมองในแง่ดี ผมรู้สึกว่าบางครั้งนักเตะรุ่นปัจจุบันขาดความเชื่อมั่นและความตั้งใจ เหมือนเราในตอนนั้น เราต้องเชื่อมั่นในตัวเองถ้าเราอยากสร้างผลงานแบบนั้นทุกๆ ครั้งในฟุตบอลโลก
