การกลับมารีสตาร์ทซีซั่นของลีกาสามารถช่วยเยียวยาจิตใจของชาวเมืองกระทิงที่เผชิญกับความทุกข์และสูญเสียคนที่รักจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัสมรณะ'โควิด-19' ตลอดช่วง 3-4 เดือนที่่ผ่านมา 

หลายคนมีความสุขกับการรีสตาร์ทโดยเฉพาะ ฆาเบียร์ เตบาส ประธาน ลา ลีกา เนื่องจากมันช่วยเยียวยาเศรษฐกิจลูกหนังเมืองกระทิงไม่ให้เสียหายมากไปกว่านี้ 

ทว่ามีบางคนไม่แฮปปี้กับการกลับมารีสตาร์ทเช่นกันหลังการสูญเสียงานในช่วงเวลาดังกล่าวทั้ง โจน ฟรานเซสซ์ เฟร์เรร์ ซีซีเลีย หรือ 'รูบี้', อาเบลาร์โด้ เฟร์นานเดซ และรายล่าสุด อัลเบิร์ต เซลาเดส 

'รูบี้' เข้ามารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ เรอัล เบติส ในช่วงซัมเมอร์ปีที่ผ่านมา ทีมเบตีโก้ลงทุนเสริมทัพตามความต้องการของเทรนเนอร์วัย 50 ปีด้วยการเซ็นสัญญากับ นาบิล เฟคีร์, บอร์ฆา อีเกลเซียส, ฆวน มิเกล ฆีเมเนซ โลเปซ ฆวนมี่, เอแมร์ซอน เดอ ซูซ่า, อเล็กซ์ โมเรโน่ และ กีโด้ โรดรีเกซ รวมถึงการยืมตัว การ์เลส อาเลนญ่า กับ อัลฟอนโซ่ เปดราซ่า จาก บาร์เซโลน่า และ บียาร์เรอัล ตามลำดับ 

การลงทุนเสริมทีมด้วยเม็ดเงินมากกว่า 70 ล้านยูโร แน่นอนว่าสโมสรตั้งเป้าหมายไว้สูงถึงการลุ้นทำอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปซีซั่นหน้า แต่ รูบี้ ทำผลงานต่ำกว่าระดับที่คาดหวังและส่อแววเสียงานมาตั้งแต่ก่อนลีกจะถูกระงับเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 

เมื่อฟุตบอลลีกากลับมารีสตาร์ทอีกครั้ง รูบี้ มีโอกาสทำงานเพียง 3 เกมและสถานการณ์ไม่ดีขึ้นเก็บได้เพียงแต้มเดียว ก่อนสโมสรสั่งปลดออกจากตำแหน่งหลังเกมพ่าย แอธเลติก บิลเบา 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนตั้ง อเล็กซิส ตรูฆีโย่ รับผิดชอบกุมบังเหียนตลอดช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้ 

ตรูฆีโย่ วัย 54 ปี เป็นอดีตมิดฟิลด์ของ เรอัล เบติส ค้าแข้งกับทีมเบตีโก้ในช่วงปี 1993-2000 ปัจจุบันทำงานฐานะผู้จัดการสโมสร เขาเคยรับหน้าที่คุมทีมชั่วคราวช่วง 2 เกมสุดท้ายของซีซั่น 2016-2017 ก่อนกลับมาทำงานฐานะเทรนเนอร์อีกครั้งหลังการปลด รูบี้ แม้จะเริ่มต้นสวยด้วยการชนะ เอสปันญ่อล 1-0 แต่ออกทรงเดิมนัดล่าสุดที่พ่าย เลบันเต้ ยับเยิน 2-4 

ภารกิจช่วงที่เหลือของ ตรูฆีโย่ คือการประคองตัวให้ทีมเบตีโก้จบฤดูกาลด้วยการคงสถานะอยู่บนเวทีลีกาต่อไป ก่อนจะกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ในซีซั่นหน้า 

การตกงานของ รูบี้ ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่มาถึง อาเบลาร์โด้ เฟร์นานเดซ โดยตรง เนื่องจากการเข้ารับงานเกมแรกของ ตรูฆีโย่ คือการเปิดสังเวียน'เบนีโต้ บียามาริน'รับมือ เอสปันญ่อล ก่อนเทรนเนอร์รักษาการของทัพเบตีโก้จะนำทัพเบตีโก้เชือดนิ่มทีมนกแก้วจากการทำประตูโทนของ มาร์ก บาร์ตร้า ก่อนเทรนเนอร์วัย 50 ปีจะถูกปลดในเวลาต่อมาพร้อมตั้ง ฟรานซิสโก้ รูเฟเต้ ฐานะผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาทำหน้าที่ดูแลทีมจนจบซีซั่น

เอสปันญ่อล ดึง อาเบลาร์โด้ อดีตเทรนเนอร์ของ สปอร์ติ้ง คีฆอน และ อลาเบส ซึ่งว่ากันว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพาทีมหนีการตกชั้น หลังทีมนกแก้วสั่งปลด ปาโบล มาชิน ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา 

อาเบลาร์โด้ ประเดิมงานฐานะเทรนเนอร์ เอสปันญ่อล อย่างยอดเยี่ยมด้วยการแบ่งแต้มกับทีมคู่ปรับร่วมเมือง บาร์เซโลน่า จากผลเสมอ 2-2 ทว่าสถานการณ์หลังจากนั้นมีแต่ทรงๆทรุดๆ วนเวียนอยู่ในโซนตกชั้นไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น แม้จะเริ่มรีสตาร์ทด้วยการเก็บ 4 คะแนนจากการลงเล่น 2 เกมแรก แต่ก็พ่ายมาตลอด 2 เกมต่อมาจนกระทั่งเด้งตกเก้าอี้ในที่สุด เขาคุมทีมลงเล่น 17 เกม ชนะ 5 เสมอ 5 แพ้ 7 

'เอสปันญ่อล ยืนยันว่า อาเบลาร์โด้ เฟร์นานเดซ หมดหน้าที่จากความรับผิดชอบของเขาฐานะเทรนเนอร์ทีมชุดใหญ่' แถลงการณ์ของสโมสรเอสปันญ่อลระบุ 

'สโมสรทำการตัดสินใจครั้งสำคัญครั้งนี้มาจากผลงานด้านกีฬาของทีมชุดใหญ่และด้วยความชัดเจนในการอยู่รอดปลอดภัยบนเวทีลีกา' 

'สตาฟฟ์เทคนิคส่วนที่เหลือจะออกจากตำแหน่งเช่นเดียวกันทั้ง โตมาส เอร์บาส และ อินญากี้ เตฆาด้า' 

เอสปันญ่อล จบฤดูกาลที่ผ่านมาฐานะทีมอันดับ 7 พร้อมคว้าตั๋วไปเล่นรายการยูโรปาลีกฤดูกาลนี้ ก่อนจะกระเด็นตกรอล 32 ทีมหลังการปราชัยต่อ วูล์ฟแฮมป์ตัน ด้วยสกอร์รวม 3-6 และส่อแววว่าจะกลับมาไปเริ่มต้นใหม่บนเวทีเซกุนด้าในซีซั่นหน้าด้วย 

ส่วน ฟรานซิสโก้ รูเฟเต้ อดีตปีกวัย 43 ปี เคยเล่นกับ เอสปันญ่อล ในช่วงปี 2006-2009 และเข้ามาทำงานฐานะผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของสโมสรเมื่อ 2 ปีก่อน  

'ผมต้องการแสดงให้แฟนบอลทุกคนเห็นว่าการตัดสินใจครั้งนี้มาจากความเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้งในโปรเจ็กกีฬานี้และด้วยความตั้งใจแน่วแน่ที่จะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ เป้าหมายในการอยู่รอดสามารถทำได้จากความมุ่งมั่นและความสามัคคีของผู้เล่นทีมนกแก้วทุกคน'

รูเฟเต้ ซึ่งเคยคุม 'อีบีซ่า' สโมสรระดับ เซกุนด้า เบ (เทียบเท่าดิวิชั่น 3) ช่วงสั้นๆในปลายซีซั่น 2017-2018 ประเดิมสนามด้วยการปราชัยต่อ เรอัล มาดริด 0-1 ทีมนกแก้วจึงมีเพียง 24 คะแนน ห่างจากเซฟตี้โซนถึง 10 แต้ม ขณะที่เหลือโปรแกรมลงเตะอีกเพียง 6 เกมจึงต้องหวังสร้างปาฏิหาริย์เท่านั้นในการรักษาสถานะบนเวทีลีกาต่อไป

เทรนเนอร์คนล่าสุดที่ตกเก้าอี้ในช่วงรีสตาร์ทซีซั่นคือ อัลเบิร์ต เซลาเดส หลังเทรนเนอร์วัย 44 ปี นำทีมค้างคาวชนะเพียง 2 ครั้งจากการคุมทีมลงสนามทุกรายการ 13 เกมหลังสุด

บาเลนเซีย มีปัญหามาตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลนี้ แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจาก ปีเตอร์ ลิม เจ้าของสโมสรชาวสิงค์โปร์ที่ใช้ความคิดของตนเองเป็นที่ตั้งในการบริหารงาน ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับเจ้าของกิจการ ทว่าการบริหารธุรกิจจนประสบความสำเร็จอาจไม่สามารถนำมาใช้กับการบริหารงานลูกหนังได้เสมอไป 

นับตั้งแต่มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยสุดติด 10 อันดับแรกของประเทศสิงค์โปร์เข้ามาครอบครองกิจการสโมสรบาเลนเซียเต็มตัวในปี 2014 มิสเตอร์ลิมเปลี่ยนเทรนเนอร์เป็นว่าเล่นนับจนถึง อัลเบิร์ต เซลาเดส เป็นรายที่ 6 

เริ่มจาก นูโน่ เอสปีรีโต้ ซานโต, แกรี่ เนวิลล์, ปาโก้ อาเยสตาราน, เชซาเร่ ปรันเดลลี่, มาร์เซลีโน่ การ์เซีย โตราล มาจนถึง อัลเบิร์ต เซลาเดส ซึ่ง มาร์เซลีโน่ ทำงานยาวนานสุดกว่า 2 ซีซั่นพร้อมนำทีมค้างคาวประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาด้วย 

ทว่า มาร์เซลีโน่ มีความคิดเห็นไม่ลงรอยกับ ปีเตอร์ ลิม จนถูกเขี่ยออกจากตำแหน่งในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก่อนสโมสรจะแต่งตั้ง เซลาเดส เป็นเทรนเนอร์คนใหม่ แต่ถูกเตะโด่งออกจากตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 

สาวกบาเลนเซียนีสต้าหงุดหงิดมาตั้งแต่ ปีเตอร์ ลิม สั่งปลด มาร์เซลีโน่ ออกจากตำแหน่งแล้ว หลายคนแสดงความเห็นในโลกออนไลน์ว่าสโมสรจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นคือการจากไปของมหาเศรษฐีชาวสิงค์โปร์มากกว่า

เซลาเดส เคยยื่นใบลาออกจากตำแหน่งหลังเกมพ่าย เออิบาร์ 0-1 แต่สโมสรไม่อนุมัติ แม้ว่ากลุ่มนักเตะจะเห็นว่าสมควรมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากเทรนเนอร์วัย 44 ปีไม่ได้รับการหนุนหลังจากนักเตะ หลังมีความขัดแย้งกับ มักซี่ โกเมซ หัวหอกชาวอุรุกวัย ก่อนสโมสรจะตัดสินใจปลดออกจากตำแหน่งหลังเกมพ่าย บียาร์เรอัล 0-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

'บาเลนเซีย ขอแจ้งให้ทราบว่า อัลเบิร์ต เซลาเดส จะออกจากตำแหน่งของเขาฐานะเทรนเนอร์ทีมชุดใหญ่โดยมีผลทันที'

'สโมสรอยากขอบคุณเขาอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชนสำหรับการทำงานและความทุ่มเทของเขาในช่วงเวลาที่อยู่กับสโมสร ช่วงเวลาที่เราได้ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์แชมเปี้ยนส์ลีกและชัยชนะสำคัญในสนามที่เขาไม่เคยชนะ'

'สโมสรยังให้ความสำคัญกับความช่วยเหลือของเขานับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งเทรนเนอร์ทีมชุดใหญ่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากและต้องการให้เขาประสบความสำเร็จทุกครั้งในความพยายามในอนาคตของเขา'

'ตั้งแต่วันอังคาร โบโร่ กอนซาเลซ จะเข้ามาดูแลทีมชุดใหญ่ไปจนกระทั่งจบฤดูกาลปัจจุบัน' แถลงการณ์ของสโมสรบาเลนเซียระบุ

เซลาเดส อำลาตำแหน่งเทรนเนอร์ของ บาเลนเซีย พร้อมสถิติการคุมทีมค้างคาวลงสนาม 41 เกม ชนะ 15 เสมอ 12 แพ้ 14 

ส่วน ซัลบาดอร์ กอนซาเลซ มาร์โก หรือ 'โบโร่' ซึ่งเป็นลูกจ้างที่ทำงานกับสโมสรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสตาฟฟ์เทรนเนอร์ของทีมชุดใหญ่ เขาทำงานกับทีมเยาวชนของบาเลนเซียมาตั้งแต่ปี 2002 และก้าวขึ้นมารับหน้าที่คุมบังเหียนชั่วคราวเป็นครั้งที่ 6 

ครั้งแรกในช่วงปลายซีซั่น 2007-2008 หลังสโมสรสั่งปลด โรนัลด์ คูมัน ออกจากตำแหน่ง ก่อน 'โบโร่'จะคุมทีมลงเล่น 5 เกม สถิติชนะ 4 แพ้ 1 ช่วยทีมรอดพ้นการตกชั้นสำเร็จก่อนจะหลีกทางให้ อูไน เอเมรี่ เข้ามารับงานในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น

โบโร่ ยังทำหน้าที่คุมทีมลงเล่น 1 เกมในช่วงเดือนธันวาคมปี 2012 หลังการปลด เมาริซิโอ เปเยกรีโน่ ขัดตาทัพก่อนทีมค้างคาวจะดึง เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เข้ามารับตำแหน่งเทรนเนอร์ 

จากนั้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนปี 2015 โบโร่ ขึ้นมาคุมทีมลงเล่น 2 เกม หลัง นูโน่ เอสปีรีโต ซานโต ลาออกจากตำแหน่ง ก่อน ปีเตอร์ ลิม จะดึง แกรี่ เนวิลล์ อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษมารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของทีมค้างคาว

สโมสรมอบหน้าที่ให้ โบโร่ คุมทีมชั่วคราวอีก 3 เกม ในช่วงเดือนกันยายนปี 2016 หลังการปลด ปาโก้ อาเยตาราน ต่อด้วยการก้าวขึ้นมารับงานในช่วงเดือนมกราคมปีถัดมาหลังการลาออกจากตำแหน่งของ เชซาเร่ ปรันเดลลี่ เขาคุมทีมจนกระทั่งจบฤดูกาลนั้น นำทัพค้างคาวลงเล่น 25 เกม ชนะ 10 เสมอ 4 แพ้ 11 จนกระทั่งก้าวขึ้นมานั่งเก้าอี้ตัวเดิมเป็นครั้งที่ 6 หลัง อัลเบิร์ต เซลาเดส เด้งตกเก้าอี้ 

ทั้งหมดเป็นการเปลี่ยนแปลงของ 3 สโมสรลีกเมืองกระทิงหลังการกลับมารีสตาร์ทซีซั่นเพียง 5 เกม แต่คาดว่าเทรนเนอร์ที่ถูกเขี่ยพ้นตำแหน่งคงไม่มีแต่เฉพาะ 3 คนนี้จากการลงเล่นช่วง 6 เกมสุดท้ายของฤดูกาล เพียงแต่จะมีเพิ่มเติมอีกกี่รายเท่านั้น