:::     :::

1ก.ค.วันประกาศอิสรภาพ

วันพุธที่ 01 กรกฎาคม 2563 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
1,080
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
1 กรกฏาคม กลายเป็นวันประกาศอิสรภาพของ 127 นักเตะพรีเมียร์ลีก ที่หมดสัญญากับต้นสังกัดอย่างเป็นทางการ

ตัวเลขดังกล่าวไม่ใช่ทั้งหมดของนักเตะที่หมดสัญญากับทีมพรีเมียร์ลีกในช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะยังมีบางส่วนที่ขยายสัญญาระยะสั้นออกไปจนจบฤดูกาล 2019-20 อาทิ วิลเลียน, เปโดร, อดัม ลัลลานา, ดาบิด ซิลบา, ยาน แฟร์ทองเก้น เป็นต้น

ขณะที่ 127 นักเตะที่กลายเป็นฟรีเอเยนต์ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม ไม่มีการยืดสัญญาระยะสั้นออกไปจนจบฤดูกาล ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น สโมสรไม่มอบสัญญาให้ หรือ ปฏิเสธสัญญาจากสโมสร
และนี่คือสิบเอ็ดนักเตะที่ดีที่สุดในแต่ละตำแหน่ง ที่กลายเป็นอิสระไปเรียบร้อย พร้อมที่จะเซ็นสัญญาแบบไม่มีค่าตัวกับสโมสรใดก็ได้ทุกเมื่อ
ผู้รักษาประตู - โจ ฮาร์ท
เกือบลืมไปเลยว่า ฮาร์ท เพิ่งอายุ 33 ปีเท่านั้น หลังยึดครองตำแหน่งมือหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทีมชาติอังกฤษมาอย่างยาวนาน แต่จุดเปลี่ยนในชีวิตอยู่ที่การมาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในปี 2016 และการเลือกสโมสรผิดตอนย้ายถาวรออกจาก เอติฮัด สเตเดี้ยม
สองปีที่แล้ว ฮาร์ท ได้รับการแจ้งจาก เรือใบสีฟ้า ให้ย้ายทีมได้เลย และเจ้าตัวก็เลือก เบิร์นลี่ย์ ทั้งที่ทีมของ ชอน ไดช์ มีสองผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ ทอม ฮีตัน และ นิค โพ๊ป แย่งมือหนึ่งกันอยู่ เพียงแต่ในช่วงต้นซีซั่น 2018-19 ทั้งสองคนบาดเจ็บ
ฮาร์ท ได้ลงเฝ้าเสาไป 21 เกม พอ ฮีตัน หายเจ็บกลับมาก็ทวงตำแหน่งคืน และพอ โพ๊ป ฟิตกลับมาอีกคน ก็บีบให้ ฮีตัน ต้องย้ายไป แอสตัน วิลล่า เมื่อซัมเมอร์ปีก่อน ปล่อยให้ ฮาร์ท นั่งสำรองก้นด้านในเกมพรีเมียร์ลีก ที่ไม่ได้ลงเฝ้าเสาเลยสักเกมในซีซั่นนี้
ที่เจ็บปวดกว่านั้นคือ เบิร์นลี่ย์ ไม่เพียงแต่ไม่เสนอสัญญาฉบับใหม่ให้ แต่ยังไม่มอบสัญญาระยะสั้น (ราวๆ สองเดือน) ยืดอายุการใช้งานในถิ่น เทิร์ฟ มัวร์ จนจบฤดูกาลนี้ด้วย
คราวหน้า จะเลือกต้นสังกัดใหม่ ควรคิดให้รอบคอบกว่านี้นะ ฮาร์ท
กองหลัง - เนธาเนียล ไคลน์
ตอนย้ายมา ลิเวอร์พูล ใหม่ๆ เจอร์เก้น คล็อปป์ เคยเอ่ยปากชม ไคลน์ ว่าทรงพลังและทรหดเหมือนเครื่องจักร หลังจากทั้งคู่ย้ายมาในปีเดียวกัน 2015 แต่กุนซือชาวเยอรมันมาทีหลังราวๆ สามเดือน
โชคร้ายที่อาการบาดเจ็บเอ็นไขว้ข้อเข้าด้านหน้าฉีกขาดอย่างรุนแรง (เอซีแอล) ส่งผลให้ ไคลน์ เสียตำแหน่งทั้งกับต้นสังกัด ลิเวอร์พูล และทีมชาติอังกฤษ ที่ก่อนหน้านี้เบียดบี้กันมากับ ไคล์ วอล์คเกอร์ และการกลับคืนสนามก็เป็นเรื่องที่ยากลำบาก เพราะปัญหาเดิมๆ ที่คอยซ้ำเติม
ประกอบกับการค้นพบ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ดาวรุ่งจากทีมเยาวชน ก็ทำให้ความคิดของ คล็อปป์ เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
นับตั้งแต่ ไคลน์ ย้ายมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ในปี 2015 สัญญาระยะเวลา 5 ปี เป็นสัญญาฉบับเดียวในถิ่น แอนฟิลด์ ไม่เคยมีการต่อสัญญาฉบับใหม่ ทำให้ฟูลแบ็กวัย 29 ปี ต้องอำลา แอนฟิลด์ อย่างเจ็บปวด เพราะไม่ได้รับแม้กระทั่งสัญญาระยะสั้นจนจบซีซั่นนี้ ขณะที่เพื่อนร่วมทีมกำลังจะฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างยิ่งใหญ่
กองหลัง - มายะ โยชิดะ
กองหลังทีมชาติญี่ปุ่น ทำท่าว่าจะครองใจกุนซือ ราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิล อยู่แล้วเชียว แต่ความฉิบหายในแนวรับของเกมที่แพ้คารัง เซนต์ แมรี่ส์ ต่อ เลสเตอร์ 0-9 ก็ทำให้เจ้าตัวไม่ได้ลงสนามอีกเลย
ในเดือนมกราคม เซาธ์แฮมป์ตัน โละ โยชิดะ ไปให้ ซามพ์โดเรีย ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล ทั้งที่สัญญากำลังจะสิ้นสุดลงในช่วงซัมเมอร์นี้อยู่แล้ว แต่การไปเล่นในอิตาลีก็ได้ลงสนามเพียง 4 เกมเท่านั้น
ถึงตอนนี้ กองหลังวัย 31 ปี ต้องยุติช่วงเวลา 8 ปีกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เคยร่วมงานกับกุนซือมากมายหลายคน ตั้งแต่ ไนเจล แอ๊ดกิ้นส์, เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่, โรนัลด์ คูมัน, โคล้ด ปูแอล, เมาริซิโอ เปเยกรีโน่, มาร์ค ฮิวจ์ส และคนปัจจุบัน ฮาเซนฮึทเทิล
แต่ก็ถือเป็นนักเตะญี่ปุ่นที่อยู่ค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกได้ยาวนานที่สุด และครั้งหนึ่งเคยสวมปลอกแขนกัปตันทีม เดอะ เซนต์ส ด้วย
กองหลัง - ปาโบล ซาบาเลต้า
การมาถึง เวสต์แฮม ของ ซาบาเลต้า เมื่อปี 2017 ถูกตั้งความหวังว่าจะเพิ่มประสบการณ์ในแนวรับให้แข็งแกร่งขึ้น จากที่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาแล้ว แต่ปรากฏว่าด้วยอายุอานามที่โรยราบวกกับความเชื่องช้า กองหลังอาร์เจนไตน์ จึงกลายเป็นบ่อน้ำมันให้คู่แข่งเจาะ
ในวัย 34 ปี ซาบาเลต้า ไม่เป็นที่ต้องการของ เดวิด มอยส์ กุนซือ เดอะ แฮมเมอร์ส คนปัจจุบัน ที่หวังสร้างแนวรับจากสายเลือดใหม่ จึงไม่เห็นความสำคัญของแบ็กขวาอาร์เจนไตน์อีกต่อไป แม้กระทั่งช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้
แต่ถึงกระนั้น ซาบาเลต้า ก็ยังภาคภูมิใจได้กับการเป็นนักเตะอาร์เจนไตน์คนแรกที่ลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกถึงหลัก 300 เกม และเป็นคนที่สามจากทวีปอเมริกาใต้ที่ได้สัมผัสความยิ่งใหญ่นี้
กองหลัง - คาเมรอน บอร์ธวิค-แจ๊คสัน
ครั้งหนึ่ง 'ซีบีเจ' เคยถูก หลุยส์ ฟาน กาล เรียกตัวขึ้นมาใช้งานในทีมชุดใหญ่ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด และแบ็กซ้ายที่ตอนนั้นมีชื่อรับใช้ทีมชาติอังกฤษ ชุดยู-19 ก็ได้ประเดิมสนามก่อนด้วย
ด้วยรูปร่างผอมบางที่เป็นจุดด้อย แต่ก็แลกมาด้วยจุดเด่นคือความเร็วและการเติมเกมรุกเต็มเหนียว จนในปี 2016 บอร์ธวิค-แจ๊คสัน ก็คว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร
การมาถึงของ โชเซ่ มูรินโญ่ ทำให้โอกาสลงเล่นของดาวรุ่งลดน้อยลง ดังนั้น 'ซีบีเจ' จึงต้องไปเรียกฟอร์มกับสโมสรอื่นให้ได้ในสัญญายืมตัว แต่การเล่นกับ วูล์ฟส์ (ชปช.), ลีดส์ (ชปช.), สคันธอร์ป (ลีกวัน), ทรานเมียร์ (ลีกวัน), โอลด์แฮม (ลีกทู) ก็ไม่ประสบความสำเร็จเลยแม้แต่ที่เดียว
ดังนั้นบทสรุปที่ได้รับคือการถูกปล่อยตัวเป็นอิสระ เหมือนอย่างดาวรุ่งหลายต่อหลายคนที่ต้องอำลา ผีแดง ก่อนหน้านี้
กองกลาง - แจ๊ค โคลแบ็ค
ไม่บอกไม่รู้จริงว่า โคลแบ็ค ยังคงมีสัญญากับ นิวคาสเซิ่ล จนถึงปี 2020 เพราะเงียบหายไปเลยในฤดูกาลนี้ ครั้งสุดท้ายที่ได้ยินชื่อคือการไปเล่นกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในแชมเปี้ยนชิพ ด้วยสัญญายืมตัวซีซั่นก่อน
ในอดีต โคลแบ็ค เคยสร้างความโกรธแค้นให้กับแฟนๆ ซันเดอร์แลนด์ เมื่อย้ายมาร่วมทีมคู่ปรับสำคัญ นิวคาสเซิ่ล ในปี 2014 กลายเป็นตัวหลักของทีมอยู่สามฤดูกาล แต่พอ สาลิกาดง เลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกในปี 2017 มิดฟิลด์ผมแดงเพลิงก็ไม่ได้สวมชุด ลายทางขาว-ดำ ลงสนามอีกเลย
ด้วยอายุอานามเพียง 30 ปี ยังมีระยะเวลาในการเล่นฟุตบอลอีกหลายปี และตอนนี้ถือเป็นของดีที่หลายทีมแชมเปี้ยนชิพรุมแย่งตัวไปร่วมงานในฤดูกาลหน้า
กองกลาง - การ์ลอส ซานเชซ
  การเสริมทัพอย่างบ้าคลั่งของ เวสต์แฮม ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ไม่ว่าจะเป็น เฟลีเป้ อันแดร์ซอน, อันเดร ยาร์โมเลนโก้, ลูคัส ฟาเบียนสกี้, อิสซ่า ดิย็อป, ลูกัส เปเรซ, แจ๊ค วิลเชียร์ และ การ์ลอส ซานเชซ
ประสบการณ์ของกองกลางวัย 34 ปีที่รับใช้ทีมชาติโคลอมเบียมากกว่า 80 เกมไม่ได้ช่วยอะไรเลยกับการย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก แถมยังเจอฝันร้ายจากอาการบาดเจ็บหัวเข่า จนต้องเข้ารับการผ่าตัดด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้สัญญาระยะเวลาสองปี ไม่ได้รับการต่อออกไป
ถึงตอนนี้ การเล่นในลีกสูงสุดของยุโรปต่อไปก็เป็นเรื่องยากด้วย จึงมีโอกาสสูงที่ ซานเชซ อาจต้องย้ายกลับไปเล่นในลีกบ้านเกิด
กองกลางตัวรุก - จอร์ดอน ไอบ์
ในอดีต ปีกวัย 24 ปี ย้ายจาก ลิเวอร์พูล มาอยู่กับ บอร์นมัธ ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ เป็นสถิติของสโมสรเมื่อปี 2016 แต่ได้ลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกไปเพียง 44 นัดเท่านั้นตลอดเกือบๆ 4 ฤดูกาล และยิงไป 3 ประตู
นอกจากฟอร์มที่ไม่เอาไหนแล้ว เรื่องระเบียบวินัยคือปัญหาที่ติดตัวของ ไอบ์ แบบแก้ไม่หาย ตั้งแต่คดีขับรถชนแล้วหนีเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดเพิ่งถูกสโมสรสอบสวนกรณีแหกกฏการเว้นระยะห่างทางสังคม หลังโพสต์รูปตอนตัดผมลงโซเชียลมีเดีย
จึงไม่น่าแปลกใจที่ บอร์นมัธ ยอมเสียค่าโง่ ปล่อยฟรี ไอบ์ หลังจบเดือนมิถุนายน ไม่สนแม้กระทั่งการต่อสัญญาระยะสั้นยืดออกไปจนจบฤดูกาลนี้ จึงเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิตที่ต่อจากนี้ไปจะดิ่งลงหนักกว่าเดิมแน่ หากยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติ
กองกลางตัวรุก - ไรอัน เฟรเซอร์
  ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมจากฤดูกาล 2018-19 ที่เป็นถึงรองดาวแอสซิสต์ของพรีเมียร์ลีก ทำให้หลายสโมสรใหญ่ให้ความสนใจ หนึ่งในนั้นคือ อาร์เซน่อล ที่ดึงดูดใจจน เฟรเซอร์ ไม่ต้องการต่อสัญญาจากที่จะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ปี 2020
เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือ บอร์นมัธ ยอมรับการสูญเสีย ที่เป็นการสูญเสียแบบไม่มีค่าตัวด้วย แต่ที่เจ็บปวดที่สุดคือการที่ เฟรเซอร์ ปฏิเสธการต่อสัญญาระยะสั้น ช่วยทีมในช่วงเดือนสุดท้าย กรกฏาคม ขณะที่ทีมกำลังดิ้นรนหนีการตกชั้นอย่างหนัก และการที่ฤดูกาลถูกยืดออกไป (เพราะโควิด-19) ก็ไม่ใช่ความผิดของสโมสรแต่อย่างใด
เหตุผลของปีกทีมชาติสกอตแลนด์คือต้องการให้สภาพร่างกายของตัวเองฟิตสมบูรณ์ที่สุด และไม่ต้องการเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ ที่อาจส่งผลต่อการได้รับข้อเสนอจากสโมสรใหญ่ด้วย
กองกลางตัวรุก - อารอน เลนน่อน
เลนน่อน ผ่านช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และไม่เคยกลับไปถึงจุดนั้นอีกเลย ไม่ว่าจะกับ เอฟเวอร์ตัน หรือ เบิร์นลี่ย์
เดอะ คลาเรตส์ ตัดสินใจเซ็นสัญญาสองปีครึ่งกับ เลนน่อน ในช่วงเดือนมกราคมปี 2018 แม้อายุอานามตอนนั้นใกล้จะ 31 ปีแล้ว และตลอดช่วงเวลาสองปีครึ่งที่ เทิร์ฟ มัวร์ เลนน่อน มีเพียงประตูเดียวจากการลงเล่น 55 เกม ที่หนักไปทางตัวสำรองซะเยอะ
ฤดูกาลนี้ เลนน่อน ในวัย 33 ปี ไม่ใช่ตัวความหวังของทีมอีกต่อไปแล้ว จึงไม่มีสัญญาฉบับใหม่จากสโมสร และไม่มีการเสนอสัญญาระยะสั้นให้จนจบฤดูกาลนี้ด้วย หลังจากนี้จึงมีโอกาสไม่น้อยที่ เลนน่อน จะต้องไปปิดฉากอาชีพในลีกรอง แชมเปี้ยนชิพ
กองหน้า - อูมาร์ นิอาส
หลังย้ายมาจาก โลโคโมทีฟ มอสโก ในช่วงเดือนมกราคมปี 2016 จากการดึงตัวของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ก็ไม่ได้รับความสนใจจากกุนซือคนต่อมาอย่าง โรนัลด์ คูมัน ถึงขั้นไม่มีเบอร์เสื้อในทีมให้ด้วย พร้อมประโยคที่ว่า "ถ้า นิอาส อยากเล่นฟุตบอลต่อไป เขาก็ต้องย้ายออกจาก เอฟเวอร์ตัน"
เวลาผ่านไปเพียง 10 เดือน นิอาส หาทีมใหม่ไม่ได้ และต้องลงไปเล่นกับทีมยู-23 ก่อนปล่อยตัวให้ ฮัลล์ ซิตี้ ยืมใช้งานในปีต่อมา ที่ซึ่งได้ร่วมงานกับ มาร์โก ซิลวา ที่ เคคอม สเตเดี้ยม
นิอาส กลับมามีบทบาทในถิ่น กูดิสัน พาร์ค ฤดูกาล 2017-18 หลังจาก คูมัน ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง ก่อนที่จะจบฤดูกาลพร้อมกับอีกสองกุนซือ เดวิด อันสเวิร์ธ และ แซม อัลลาร์ไดซ์ ด้วยการทำ 9 ประตู จาก 25 เกม

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด