แถมยังเก็บคลีนชีตเป็นเกมที่ 6 จาก 9 เกมหลัง ซึ่งในจำนวนนี้เสียแค่ 4 ประตูเท่านั้น
ทว่านายด่านชาวสเปนยังคงโดนวิจารณ์อย่างหนักจากนักวิจารณ์ โดยเฉพาะทาง รอย คีน ที่ใส่เต็มที่บอกว่านี่คือผู้รักษาประตูที่ถูกยกย่องเกินจริง อย่างว่าอดีตกัปตันทีมปีศาจแดงก็ไม่ค่อยจะวิจารณ์ทีมในทิศทางที่ดีเท่าไรอยู่แล้ว ยิ่งในช่วงปีที่ผ่านมาผลงานไม่ดีด้วยก็ยิ่งมีเรื่องให้ด่านั่นแหละ
อันที่จริงแล้วคงเพราะว่า ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ทีมปล่อยให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยืมตัวทำผลงานได้ดีเลยถูกจับมาเปรียบเทียบซะมากกว่า
นั่นเลยทำให้คุณค่าของ ดาบิด เด เคอา ลดน้อยถอยลงไปแม้จะมีผลงานดีก็ตาม
ที่เค้าว่ากัน ผู้รักษาประตูเซฟเป็นสิบครั้งไม่มีใครพูดถึง แต่พลาดเพียงครั้งเดียวจะโดนด่าทันที
ดาบิด เด เคอา ก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูที่ได้รับการยกย่องว่าดีติดอันดับต้นๆของโลกในช่วง 4-5 ปีก่อนหน้านี้หลังโชว์ผลงานยอดเยี่ยมมาอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่าใน 2 ปีหลังที่ผลงานของ "ปีศาจแดง" หล่นฮวบลงไป กลายเป็นส่งผลกับนายด่านผู้นี้ไปด้วย
ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็มาจากตัวเองด้วยที่จะมั่นใจเกินไปหรืออะไรก็ตาม ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2018 ที่พลาดในเกมเปิดสนามกับ โปรตุเกส หลังจากกลับมาก็เหมือนเจ้าตัวจะผิดพลาดบ่อยครั้ง ถึงจะมีจังหวะเซฟไม่น้อยก็ตาม
แน่นอนว่ามันทำให้เกิดเสียงวิจารณ์มากมายในทัวร์นาเม้นต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แถมทีมยังไปไม่ถึงไหนอีก ในขณะที่ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงแย่งตำแหน่งอีก
ด้วยความยอดเยี่ยมก่อนหน้านี้ทำให้ ดาบิด เด เคอา ถูกคาดหวังอย่างสูงกับผลงานเฝ้าเสาแต่ละเกม เช่นเดียวกับสายตาที่จับจ้อง เมื่อพลาดกลายเป็นว่าโดนซ้ำเติมหนักกว่าเดิม
นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นเหยื่อของความสำเร็จของตัวเองไปซะแล้ว ตลอด 9 ปีที่เฝ้าเสาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาคือนักเตะคนเดียวที่เหลือรอดในทีมที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกหนสุดท้ายเมื่อปี 2013
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เพื่อนร่วมทีมทำผลงานย่ำแย่ เขาคือคนเดียวที่ยืนหยัดทำผลงานได้คงเส้นคงวามากที่สุด ถึงขนาดได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรถึง 3 ครั้ง ในปี 2013/14, 2104/15 และ 2017/18
แถมยังติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีกถึง 5 จาก 7 ปีหลังสุด (ไม่รวมปีนี้)
แต่ทว่าในตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกคนจะลืมเรื่องนี้กันไปหมดแล้ว
เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีที่ ดาบิด เด เคอา เจอมรสุมหนักที่สุด เรียกได้ว่าหนักกว่าตอนย้ายมาอยู่กับทีมใหม่ๆที่โดนตำหนิเรื่องการเล่นลูกกลางอากาศที่พลาดบ่อยครั้ง แต่ลูกยิงของคู่แข่งเขาไม่เคยพลาดง่ายๆเหมือนในปีนี้
จังหวะเซฟอันยอดเยี่ยมจากลูกยิงของ ซน ฮึง-มิน ในเกมเดียวกันกับที่ปล่อยให้ลูกยิงของ สตีเว่น เบิร์กไวน์ เข้าประตูกลับไม่ถูกพูดถึง ซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วในโลกออนไลน์ยุคปัจจุบัน
เมื่อพิจารณาจากมาตรฐานระดับสูงที่เข้าตัวทำเอาไว้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่แปลกว่าความผิดพลาดจะถูกพูดถึง รวมถึงถูกมองว่านายทวารเลือดกระทิงกำลังอยู่ในช่วงถอยหลังทั้งที่อายุอยู่ในวัย 29 ปี ซึ่งสำหรับผู้รักษาประตูนั้นยังเหลือเวลาอีกเพียบ
ทางเดียวที่จะแก้ไขสิ่งผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็คือก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือไม่ก่อให้เกิดความผิดพลาดแบบนั้นอีก
สิ่งที่สามารถสบายใจได้ก็คือการที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่ของทัพปีศาจแดงยังคงให้การหนุนหลังกับผลงานตัวเลขอย่างที่บอกไป พร้อมชี้ให้เหล่าแฟนบอลหรือกูรูทั้งหลายหันไปมองการเซฟของเจ้าตัวมากกว่าที่จะมองเรื่องผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้
ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือของตัวเองเป็นอย่างดี เพราะแต่ละนัดเหมือนเป็นเกมชิงชนะเลิศทั้งในลีกที่ต้องเน้นเพื่อทำอันดับไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ในเอฟเอ คัพ รวมถึงในรายการยูโรปา ลีก
หากสามารถช่วยทีมคว้าแชมป์มาครองได้พร้อมผลงานที่ยอดเยี่ยม เชื่อได้ว่าแฟนบอลจะลืมเรื่องนี้ไปได้แหละ
