:::     :::

"Mason กับ Morrison" พรสวรรค์ที่อยู่บนเส้นขนาน

วันจันทร์ที่ 06 กรกฎาคม 2563 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
32,376
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ราเวลและเมสันทั้งคู่มีพรสวรรค์ระดับที่เหนือกว่าเด็กอายุ18ปีในรุ่นเดียวกัน และเก่งพอจะเป็นตัวจริงของทีมได้ ราเวลคือคนที่ป๋ายกย่องว่าเก่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา ขณะที่เมสัน กรีนวู้ด ก็เป็นนักเตะระดับปรากฏการณ์เช่นกัน แต่เขาจะไม่พลาดไปเส้นทางเดียวกับราเวลอย่างแน่นอน

สองประตูที่กรีนวู้ด ยิงใส่บอร์นมัธในเกมลีกนัดที่ผ่านมานั้น คือประตูสำคัญระดับที่ "ตัดสินเกม" ได้เลยทีเดียว ทั้งการปลดล็อคประตูแรกไล่ตามตีเสมอ 1-1 จากที่ตกเป็นรองก่อนอย่างอึดอัด และการยิงขึ้นนำ 4-2 อีกครั้งเพื่อเปลี่ยนโมเมนตัมที่กำลังถูกกดดันเพื่อตีเสมอนั้น เป็นสองลูกที่ทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทิ้งห่างคู่แข่ง และการันตีสามแต้มได้สำเร็จ

ในยามที่ทีมกำลังต้องการประตู และนักเตะรุ่นพี่คนอื่นๆในทีมไม่สามารถผลิตสกอร์กันได้นั้น แต่เด็กคนนี้กลับทำได้ แถมที่สำคัญก็คือ สองประตูที่ว่านี้มีคุณภาพอยู่ในระดับ "ท็อปคลาส" อย่างแท้จริง ด้วยลูกยิงใบมีดโกนที่มีความคมระดับ8K ที่คมกว่าจอ4Kขณะกำลังฉายรูปดาบโชไดคิเทสึซะอีก

นี่คือผลงานของ Mason Greenwood เด็กอายุ"18ปี" ..ผลผลิตอันน่าภาคภูมิใจของอะคาเดมี่แมนยูไนเต็ด

ต้องบอกว่า ไม่เคยเห็นนักฟุตบอลเด็กอายุ18คนไหนมี"การยิง"ที่คมขนาดนี้มาก่อนจริงๆ

คือ..โอเคว่า เมสัน กรีนวู้ด อาจจะไม่ได้เป็นเด็กอายุ18ที่"เล่นฟุตบอลเก่ง"ที่สุดในโลก สมัยก่อนเราก็มีนักเตะพรสวรรค์สูงมากตั้งแต่อายุน้อยๆแบบนี้มาก่อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูนีย์, โอเว่น, เมสซี่ โรนัลโด้ ฯลฯ เป็นเรื่องธรรมดามากๆที่จะมีนักเตะระดับwonderkidเช่นนี้ขึ้นมาในGenนั้นๆ

แต่ถ้าเป็นเฉพาะเรื่องของการ "ยิงประตู" ล่ะก็ เมสันกรีนวู้ดน่าจะเป็นเด็ก18ที่ยิงโหดที่สุดในระดับ one of the best แน่ๆ

ลูกที่เคยยิงมาก่อนหน้านี้หลายๆนัด และรวมถึงเมื่อเกมที่แล้วกับบอร์นมัธ ที่เมสัน กรีนวู้ด เปิดโหมดเนตรสีเพลิงตั้งแต่ต้นเกม แล้วใช้ "ห้วงเวลาจักรพรรดิ" ที่สามารถยิงประตูได้จากเท้าทุกข้างแบบ100% กดทั้งซ้ายและขวา บอลพุ่งเป็นจรวดเข้าไปตุงตาข่ายจนแรมสเดล โกลของบอร์นมัธต้องร้องขอชีวิต

เป็นประตูชนิดที่ไม่น่าเชื่อว่าจะยิงได้.. ไม่ได้แค่เพราะว่าเป็นเด็กอายุน้อยยิงเพียงอย่างเดียว เพราะถึงจะเป็นนักบอลที่มีอายุขึ้นมาหน่อย นี่ก็เป็นประตูที่unbelievableอยู่ดีที่ยิงได้ขนาดนี้

ดังนั้นเมื่อกลับมาระลึกกันได้ว่า กรีนวู้ดที่ช่วงนี้ฟอร์มโหดกว่ารุ่นพี่สองคนอย่างหมากแรช แถมอายุน้อยกว่าสองคนนี้ถึง4ปีและ6ปีตามลำดับ(แรช22,หมาก24) กรีนวู้ดนั้นเพิ่งจะมีอายุ18ปีเอง มันทำให้เราหวนระลึกไปถึง "นักเตะเยาวชนที่มีพรสวรรค์ฟ้าประทาน" ในรุ่น18ปีแบบนี้อีกคนนึงของแมนยูไนเต็ดสมัยก่อน

นักเตะคนนั้นคือ "Ravel Morrison"

ราเวล มอร์ริสันนั้นอยู่กับเรามาสมัยเป็นนักเตะเยาวชนตั้งแต่ปี2009 ตอนอายุ16ปี และเล่นร่วมทีมชุดเดียวกับพวกป็อกบา ลินการ์ด คว้าแชมป์ FA Youth Cup ปี2011 ด้วยวัย18ปี ที่เอาชนะเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดของแฮรี่ แมกไกวร์(ในตอนนั้น)ไปด้วยประตูรวม 6-3 ก่อนที่จะมีโอกาสได้ลงเล่นกับนักเตะชุดใหญ่ในเกมลีกคัพมาแล้วในตอนนั้น แต่สุดท้ายด้วยปัญหาต่างๆของตัวเขา ปี2012จึงถูกขายออกไปในที่สุด

ถามว่า แล้วราเวล มอร์ริสัน ที่พูดๆถึงกันนี่เก่งระดับไหน อวยกันเองแต่ในจากรุ่นพี่ในแมนยูรึเปล่า? มันก็จะมีแฟนบอลที่ยังคิดแคบๆแบบนั้นอยู่ สิ่งที่บ่งชี้ว่ามันไม่ได้เป็นการอวยกันเองแค่ภายใน ก็คือตำแหน่งแชมป์เอฟเอยูธคัพปี2011นั่นแหละที่เป็นของจริง ซึ่งราเวล มอร์ริสันในตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวรุกของทีมนั้น เป็นตัวจักรสำคัญที่เด่นมากๆ ยิงประตูแบกทีมเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแทบจะทุกนัดจนแมนยูเป็นแชมป์ในที่สุด ไล่ตั้งแต่การกดสองประตูในนัดไล่แซงลิเวอร์พูล 2-3 ด้วยลูกวอลเล่ย์จากเท้าซ้ายอย่างสุดสวย รอบชิงก็ยิงกันอีกคนละ2ประตูกับวิล คีน พาแมนยูเป็นแชมป์ในที่สุด

แชมป์เอฟเอยูธคัพรุ่นClass of 2011 ยุคนั้นประกอบไปด้วยตัวหลักๆที่เราพอจะรู้จักกันบ้าง โดยมี Paul Pogba เป็นมิดฟิลด์ตัวหลัก , Larnell Cole ปีกขวาตัวจี๊ดที่ฟอร์มฮอตมาก, Will Keane กองหน้าที่โคตรนิ่งเกินอายุและยิงคมมาก ตามมาด้วยน้องไมค์ Michael Kean ที่ตอนนั้นมีเล่นเป็นแบ็คขวาซะด้วยซ้ำ, Tyler Blackett กองหลังดาวรุ่งที่เคยขึ้นมาช่วงสั้นๆยุคหลุยส์ฟานกัล, โดยที่มีRavelเป็นแกนหลักทำหน้าที่รับผิดชอบการเปิดเกมรุกให้ทีม และที่มีมิดฟิลด์ตัวที่สามเป็นคนปัดกวาดเกมรับ อย่างจอมโหด Ryan Tunnicliffe อยู่ด้วยเช่นกัน

ซึ่งแน่นอน ทีมชุดนั้นจะขาด 1 ใน 3 Trinity ชุดคว้าแชมป์ไม่ได้ ป็อกบา ราเวล และ .. ใช่แล้ว เขานั่นเอง Jessie Lingard!

Tunnicliffe Lingard Pogba Morrison 4 มิดฟิลด์ชุดแชมป์ FA Youth Cup 2011

ถามว่า ราเวล มอร์ริสัน ที่ว่ากันว่าเป็นนักเตะดาวรุ่งที่เก่งที่สุดเท่าที่ป๋าเคยเจอมานั้น เก่งขนาดไหน? คำยกย่องที่นักฟุตบอลรุ่นพี่หลายๆคนในทีมยังต้องซูฮกในตัวเขา รวมถึงผู้จัดการทีมด้วย เป็นคำยืนยันว่าราเวลเป็นของจริงในยุคนั้นแน่นอน

Paddy Crerand บอกว่า อดีตนักเตะและผู้บรรยายของสโมสรนั้นยกย่องราเวลเอาไว้ว่า เก่งที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา นับตั้งแต่สมัยจอร์จ เบสต์เลย (ครีแรนด์ทันเบสต์ปี1963)  ขนาดว่าทีมมีป็อกบาที่เล่นด้วยกันอยู่ตอนนั้น เขายังเก่งโดดเด่นกว่าป็อกบาอย่างเห็นได้ชัดจริงๆ

Paul Mcguinness อดีตผู้จัดการทีมชุดU-18ของแมนยู บอกว่าเขามีคุณสมบัติของ"นักเตะที่เก่งที่สุด"อยู่ในตัว

Gary Neville ถึงกับบอกว่านี่อาจจะเป็นแกสซ่า พอล แกสคอยน์ คนถัดไปที่ร่ายรำในตำแหน่งมิดฟิลด์ เขาจะเลี้ยงผ่านใครก็ได้แล้วไปทำประตูสบายๆ

Rooney เล่าให้ฟังว่าราเวลนั้นเก่งกว่าคนอื่นแบบลิบลับ แถมยังเคยลอดดากคนระดับวิดิชได้3ครั้งซ้อนภายในนาทีเดียวตอนช่วงซ้อม

และคำยกย่องสูงสุดเท่าที่ราเวลเคยได้รับ เพื่อยืนยันความสามารถจริงๆนั้น ก็คือคำพูดจาก Sir Alex Ferguson ที่ปกติแล้วจะมีวิธีการคุมทีมและดูแลนักเตะอย่างเข้มงวด แต่เขาก็มอบ "ข้อยกเว้น" ต่างๆให้กับนักเตะแค่3คนเท่านั้น นั่นคือต้องระดับเอริค คันโตน่า กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เท่านั้นที่ป๋ายกเว้นให้ .. และใช่แล้ว คนที่สามก็คือ ราเวล มอริสัน นั่นเอง

ป๋าตีค่าความสามารถของราเวล มอร์ริสันตอนเด็กๆสูงกว่า พอล สโคลส์ และ ไรอัน กิ๊กส์ ซะอีก โดยที่คำยกย่องสูงสุดแบบที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้จากป๋าก็คือ "นี่เป็นดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดที่เราเคยเซ็นสัญญาด้วยเลยทีเดียว"

-He possessed as much natural talent as any youngster we ever signed. ("Leading" : Ferguson A., 2015)

ตอนนั้นแม่งโคตรเท่ โคตรมา

ส่วนถ้าถามตัวผู้เขียนว่า จะนิยามRavel Morrison ยังไงดีให้เห็นภาพความเก่งของหมอนี่ชัดที่สุด เท่าที่เคยดูๆหมอนี่มา สามารถเทียบง่ายๆได้เลยว่า ราเวลนั้นเป็นเหมือน "เมสซี่ โรนัลโด้ ของนักฟุตบอลในGenเดียวกับเขาในตอนนั้น" เลย

คือโดดเด่นเก่งกว่านักเตะอายุ18รุ่นเดียวกันช่วงนั้นแบบทาบไม่ติด เด่นขนาดไม่มีใครทาบได้ เก่งสุดโต่งเกินผู้เกินคนยิ่งกว่าตัวอีดิตของรุ่น แถมน่าจะเก่งกว่านักบอลรุ่นพี่ที่อายุมากกว่าเขาบางคนอีกซะด้วยซ้ำ

ถ้าให้เปรียบเทียบกัน ลองเอานักเตะในทีมปัจจุบันลงไปเทียบเคียงแล้ว ก็อย่างที่บอกว่า ราเวลนั้นเล่นตำแหน่งกลางรุกแบบเดียวกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส แต่ผมรู้สึกว่าดูความแพรวพราว ทักษะ อาจจะเหนือกว่าบรูโน่ซะอีกถ้าหากสมมติว่าราเวล เติบโตขึ้นมาอย่างถูกทางและไม่มีปัญหานอกสนาม สกิลกับเซนส์บอลของเขามันเหนือชั้นมาก

[นอกเรื่อง : เหตุสำคัญอย่างนึงที่นำราเวลมาโยงกับบรูโน่ นอกจากเรื่องตำแหน่งแล้ว มันชวนคิดไปว่า นี่น่าจะเป็นคอมโบแดนกลางที่ดีที่สุดสำหรับป็อกบาด้วย นั่นก็คือ มีตัวด้านหลังปัดกวาดให้ป็อกบาหนึ่งตัว (ก็องเต้/มาติช/ทันนิคลิฟฟ์) โดยมีป็อกบาที่บาลานซ์สมดุลของมิดฟิลด์ทั้งตัวต่ำและตัวสูง โดยมีตัวรุกด้านหน้าป็อกบาอีกทีที่บุกอย่างอิสระ (บรูโน่2020, ราเวล2011)

ป็อกบาอาจจะรอคอยplaymakerที่เก่งสุดๆ ผู้ซึ่งจะยืนอยู่ด้านหน้าตัวเขาอีกที อาจจะรอคนแบบบรูโน่มาตลอดก็ได้ เพื่อทดแทนคอมโบที่ลงตัวในตอนที่เขาคว้าแชมป์ปี2011 ที่มีราเวลกับไรอันเล่นด้วยกันตรงกลางสนามนั่นเอง]

นอกจากเทคนิคแพรวพราวแล้ว ราเวล มอร์ริสันยัง "เร็ว และ แรง" ยิ่งกว่าลัมโบกินี่ที่สามารถเอาชนะได้ทุกคนบริเวณกลางสนาม แล้วพาบอลโซโล่ขึ้นไปยิงประตูเองได้ทุกเมื่อ จะเปิดจะจ่ายบอลให้เพื่อนก็ได้ มีสกิลการไปกับลูกบอล เทคนิคสูง และที่สำคัญมี "ความเร็ว" เลี้ยงล็อคหลบเข้าไปยิงประตูได้คมเท่ากับกองหน้าดีๆคนนึง

ดังนั้นคำกล่าวและคำยกย่องราเวลเหล่านี้ ผู้อ่านจะต้องเข้าใจก่อนว่า ทุกคนที่พูดนั้น รวมถึงผมด้วย ทุกคนกล่าวใน "บริบทของเวลาช่วงนั้น(2011)โดยเทียบกับนักเตะรุ่นเดียวกันเอง(ดาวรุ่งอายุ17-18ปี)" เท่านั้น เทียบในวัย18ปีของเขาที่คว้าแชมป์เอฟเอยูธคัพปี 2011

มีหลายคนถามมากมายว่า แล้วถ้าราเวล โตขึ้นมาอย่างถูกต้อง ไม่ออกนอกลู่นอกทางล่ะ ตอนนี้จะเก่งระดับไหน?

คิดง่ายๆว่า อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในระดับที่ "เก่งกว่าป็อกบา"นั่นแหละ ซึ่งป็อกบามันก็เวิร์ลด์คลาสแล้ว คนที่เก่งกว่าระดับเวิร์ลด์คลาส เก่งกว่าป็อกบา มันจะมีใครล่ะ ก็เลเวลuniversal-class แบบมนุษย์ต่างดาวอย่าง "เมสซี่ & โรนัลโด้" ไง ซึ่งหากราเวลมีระเบียบวินัย มีพรแสวง มีความตั้งใจ ไม่ออกนอกลู่นอกทางแล้วละก็ ปัจจุบันก็น่าจะเก่งระดับโด้เมส ชัวร์ๆ

ที่กล้าพูดเช่นนี้ก็เพราะว่า ตอนที่ป๋าพูดประโยคยกย่องราเวลว่าเป็นดาวรุ่งที่เก่งที่สุด มันคือยุคภายหลังที่จบจากยุคโรนัลโด้สมัยดาวรุ่งกับแมนยูไปแล้ว นั่นแปลว่า ถ้าป๋าพูดว่าเก่งที่สุด แสดงว่ามันเหนือกว่าCR7ตอนที่มาอยู่กับเราใหม่ๆซะอีกซึ่งตอนนั้นโด้ก็ยังดูจะ "ดิบ" กว่าราเวลปี2011 จริงๆด้วยซ้ำที่ดูครบเครื่อง และเหมือนโด้ร่างสมบูรณ์ซะมากกว่าโด้ตอนเด็กเสียอีก

"ราเวล2011 คล้ายๆโด้ร่างสมบูรณ์ มากกว่า โด้ตอนเป็นดาวรุ่ง" อืม.. Inceptionชะมัด

แต่หวังว่าคนอ่านจะเข้าใจ เพราะราเวลตอนนั้นคือ ทั้งกระชากบอลเลี้ยงกินตัวได้ง่ายๆ สับขาเล่นเทคนิคโยกเอวหลอก และยิงทำประตูเป็นกอบเป็นกำ ครบขนาดนี้ก็โด้เมสร่างพีคๆนั่นแระ!


ปิดท้ายเรื่องราวของราเวล มอร์ริสันว่า ที่เขาไม่ได้ไปต่อ และถูกขายให้กับเวสต์แฮมที่อยากลองของ ในราคา650,000ปอนด์ในปี2012 ออกไปพร้อมๆกับป็อกบาที่ไปเซ็นฟรีกับยูเว่นั้น สาเหตุสำคัญของเขาคือ"เรื่องนอกสนาม" ทั้งนั้นเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่ปัญหาในสนาม

เท่าที่ดูเหมือนกับว่า เจ้าตัวเองก็ยอมรับว่าเขานั้นไม่สามารถแยกแยะได้เลยในช่วงนั้น ว่าอะไรคือสิ่งที่ผิด อะไรคือเรื่องที่ถูก ด้วยสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี รวมถึงการมีตรรกะความคิดป่วยๆที่แยกไม่ออกได้เลยว่าอะไรผิดอะไรถูกเหมือนคนบางกลุ่มในสังคมเรา จนกระทั่งถึงขนาดกลายไปเป็นพยานรู้เห็นเรื่องการเอามีดไปจี้ผู้เสียหายด้วย ทำสิ่งต่างๆเหล่านี้แล้วก็ยังไม่คิดว่ามันเป็นความผิด หรือจะต้องไปแจ้งตำรวจอะไรแบบนี้เป็นต้น

ป๋าบอกว่า มันน่าเสียดายที่เรามีเคสตัวอย่างอยู่ก่อนแล้วของนักเตะที่แบ็คกราวน์คล้ายๆกันอย่าง กิ๊กส์ กับ โรนัลโด้ ที่เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูง และสามารถก้าวข้ามอดีตอันเจ็บปวดและปีศาจภายในใจได้สำเร็จ แต่ราเวลกลับเป็นเคสที่น่าเศร้าที่สุดในบรรดาเรื่องเหล่านี้ เพราะเขาเป็นดาวรุ่งพรสวรรค์สูงสุดตั้งแต่แมนยูเคยมีมา มันปวดใจมากที่ต้องตัดใจขายให้กับเวสต์แฮมในเดือนมกราคมปี2012เพราะเขาอาจจะกลายเป็นผู้เล่นที่มหัศจรรย์ได้ แต่เพราะปัญหานอกสนามที่บานปลายขึ้นเรื่อยๆของเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ต้นสังกัดนั้นไม่มีทางเลือก

แมนยูพยายามจะรักษาเพชรเม็ดงามนี้ให้ได้จนถึงที่สุดแล้ว ไม่ใช่ไม่พยายาม แต่พฤติกรรมไม่ไหวจริงๆ

ด้วยสังคมของเขาที่เต็มไปด้วยกุ๊ยอันธพาลที่ก่อเรื่องตลอดเวลา เขาจึงหยุดพัฒนา และแถมยังไม่สามารถลงเล่นให้เหมือนนักฟุตบอลปกติคนอื่นๆด้วยซ้ำ ดูจากการที่ต้องพเนจรย้ายสโมสรมาจนถึงตอนนี้ก็ครบ10สโมสรเข้าไปแล้ว โดยที่แต่ละที่ลงเล่นให้ต้นสังกัดยังไม่ถึง30นัดเลยสักที่ ทำให้ทุกวันนี้ในวัยเขาก็ยังคงถูกปล่อยยืมตัวอยู่ที่เดอะโบโร่

แต่ราเวลที่เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้วในตอนนี้ เขาก็เริ่มคิดได้ และก็พยายามจะกลับมาอยู่กับการเล่นฟุตบอลให้เหมือนเดิมอยู่ แม้อาจจะไม่ได้กลายเป็นเหมือนอย่างเมสซี่ โรนัลโด้ เพราะหยุดพัฒนาไปแล้วตั้งแต่อายุ19 แต่การที่ได้เห็นราเวลยังคงเล่นฟุตบอลอยู่อย่างมีความสุขอีกครั้ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีๆเรื่องนึง ที่แค่น่าเสียดายเท่านั้นเองว่า เราไม่ได้ต่อยอดดาวรุ่งพรสวรรค์ระดับท็อปคลาสคนนี้ได้สำเร็จ แต่ความสัมพันธ์กับเพื่อนเก่าอย่างป็อกบากับลินการ์ดยังคงดีอยู่ ล่าสุดก็ยังเห็นออกมาซ้อมวิ่งเรียกความฟิตอยู่กับลินการ์ดช่วงโควิดนั่นไง

กลับมาที่ Mason Greenwood ดาวรุ่ง18ปีแห่ง "Class of 2019" กันบ้างที่ประกอบไปด้วยพวก วิลเลียมส์ ชอง โกเมส การ์เนอร์ พวกนี้ สิ่งที่ทำให้เราเห็นกรีนวู้ดแล้วนึกถึงราเวลนั้น เป็นเพราะว่าสองคนนี้มีจุดร่วมที่เหมือนกันมากอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือ การเป็น "นักเตะดาวรุ่งพรสวรรค์สูงสุด"  นั่นเอง ที่นำเอาไปเทียบกับราเวลยุคนั้นได้ ก็เพราะว่ามันเป็นการเปรียบเทียบบนวัย18ปีเท่ากัน นั่นก็คือ Greenwood 2020 VS Morrison 2011 นั่นเอง จึงเป็นที่มาของบทความนี้

เมสันแสดงให้เห็นแล้วว่า เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่ ดาวรุ่งฝีเท้าดีแห่งอนาคตธรรมดาๆ แต่ดาวรุ่งที่ฝีเท้าแซงนำดาวรุ่งในวัยเดียวกันไปไกลโขแล้ว ขนาดที่ฟอร์มช่วงนี้ในตำแหน่งกองหน้ายังโดดเด่นกว่ารุ่นพี่เขาสองคนในทีมอย่างหมากแรชที่แก่กว่าหลายปีเสียอีก ช่วงนี้เมสัน กรีนวู้ด แทบจะแบกการยิงประตูตัดสินเกมให้แมนยูไนเต็ดเลยจริงๆ

2ลูกจากนัดบอร์นมัธ เป็นประตูนรกแตกระดับท็อปคลาส ซึ่งคุณภาพแบบนี้มันอยู่เลเวลกองหน้าตัวเทพๆของทีมชั้นนำแล้วที่ยิงได้ โดยเฉพาะประตูที่2ที่กระชากไปกดด้วยขวาเองคนเดียว ทำให้เกมนั้นแทบจะจบลงเลยนั่นคือมหัศจรรย์มาก

ความรู้สึกตอนที่นั่งดูกรีนวู้ด มันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นในฟีลเหมือนตอนเห็นโด้ลงสนาม"วันแรก"เป๊ะ เปลี่ยนลงมาพร้อมผมทรงหยิกหยอย และลงมาสับๆๆขากระชากใส่โบลตันในเกมเดบิวต์ปี2003อย่างสุดอลังการ ซึ่งนั่นก็โด้วัย18ปีเช่นกันทำให้เราครางฮือในลำคอกันอย่างไม่ขาดปาก

นั่นแหละ ความรู้สึกเดียวกันนั้นเลย มันจึงทำให้เรารู้สึกว่า เมสัน กรีนวู้ด มันน่าจะโคตรเก่งกว่าที่แฟนผีคิดซะแล้วล่ะ

เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงนึกถึงคนที่ว่ากันว่า"เก่งที่สุดเท่าที่ป๋าเคยเห็นมา" นั่นเอง

หากจะเปรียบเทียบกันระหว่างสองคนนี้ ผมคิดว่าราเวล มอร์ริสัน ตอน18 เหนือกว่า เมสัน กรีนวู้ดอยู่นิดหน่อยแบบเหลื่อมๆในด้านของการพาบอลขึ้นไปบุก กระชากเลี้ยงเอาชนะคู่ต่อสู้ และความสามารถแบบall-around และเหมือนว่ามันจะกินตัวเอาชนะได้ทุกคนจริงๆ ด้วยทักษะการเลี้ยงที่ติดเท้า และความเร็วในการไปกับลูกบอลถือว่า โคตรน่ากลัวมากๆ จุดนี้คล้ายๆเมสซี่

เรื่องนี้ยังคงต้องให้ราเวลจริงๆ ทั้งเร็ว แรง และ"ครบเครื่อง"

แต่ในส่วนของกรีนวู้ดเองก็มีทักษะด้านการเลี้ยง และไปกับบอลด้วยความเร็วสูงไม่ได้ด้อยกว่าราเวลมาก น้องเป็นตัวรุกที่ไปกับบอลได้ดี ก็ถือว่าใช้งานได้เหมือนกับราเวล แถมระยะหลังยังกล้าเลี้ยง กล้าเล่นบอลเยอะขึ้นกว่าเดิมด้วย ร่างกายก็แข็งแกร่งขึ้น ไม่กลัวเกมปะทะที่จะโดนเบียดกระเด็นได้ง่ายๆอีกแล้ว(เพิ่มกล้ามเนื้อมาชัดเจนมากๆภายในระยะไม่กี่เดือน)

แต่มีจุดนึงที่ผมคิดว่า เมสัน กรีนวู้ดในวัยเดียวกัน ก้าวข้ามเหนือราเวล มอร์ริสันไปแล้ว นั่นก็คือเรื่องการ"ยิงประตู"นั่นแหละ ที่ทางราเวล มอร์ริสันนั้น ก็ยิงประตูได้ทุกรูปแบบและยิงมากมายเช่นกันจากตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก แต่หากให้เปรียบเทียบเรื่องจังหวะยิง เทียบกันด้านเรื่องนี้ เมสัน กรีนวู้ด ในตำแหน่งกองหน้าชนะราเวลเรียบร้อย

เด็กคนนี้มีการยิงระดับที่ นักเตะรุ่นพี่กองหน้าตัวท็อปๆทีมชั้นนำอื่นจะต้องหันมามอง ด้วยความเหนือชั้นในเรื่องที่ว่าเขาสามารถ ยิงได้ดีจากทั้งสองเท้าไม่ว่าซ้ายหรือขวา แถมดีเท่ากันด้วยจนไม่รู้ว่ามันถนัดข้างไหนกว่าจริงๆกันแน่

ตัวประกบไม่มีทางรู้เลยว่าหมอนี่จะยิงมุมไหน แถมที่สำคัญคือ "ไม่รู้ว่าจะยิงเมื่อไหร่ด้วยซ้ำ" เพราะเมสันตีนไวมาก เขาเปลี่ยนจังหวะการเล่นจากที่สับๆขาหลอกอยู่ จะตวัดหวดยิงเมื่อไหร่ก็ได้โดยที่กองหลังขยับบล็อคลูกยิงทันได้ยาก

กว่าจะรู้ก็โดนซัดเข้าไปตุงตาข่าย เสียประตูไปเรียบร้อย เหมือนที่เคนชิโร่บอกนั่นแหละว่า โอมาเอวะ โม ชินเดอิรุ หรือว่า "เจ้าน่ะตายไปแล้ว" นั่นเอง

(ได้ชื่อท่าไม้ตายของกรีนวู้ดแล้ว 5555)

หน่านิ๊!?

ถึงแม้เราอาจจะพูดไม่ได้ว่า เมสัน กรีนวู้ด เป็นดาวรุ่งที่พรสวรรค์สูงกว่าราเวล มอร์ริสันในตอน18ปีหรือไม่ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไรนัก แต่ที่แน่ๆ เขาคือเด็กอายุ18ปีที่น่าจะโหดที่สุดคนนึงของโลก ณ ขณะนี้แล้ว เพราะจำนวนประตูที่มากที่สุดในบรรดาเด็กอายุไม่เกิน18ปี จาก5ลีกใหญ่ ที่ยิงนำแม้กระทั่งดาวรุ่งตัวท็อปของบาร์ซ่าอย่างAnsu Fatiไป2-3ลูกแล้วด้วยนั้น น่าจะเป็นตัวบ่งบอกได้อย่างดีว่า เขาคือนักเตะแบบที่เรียกว่า "สุดของรุ่น" ได้เหมือนกับที่ ราเวล มอร์ริสัน เคยได้รับคำนี้

แฟนแมนยูไนเต็ดที่เคยตื่นเต้นกับการได้กองหน้าอย่างแรชฟอร์ดขึ้นมาจากอะคาเดมี่นั้น เพียงแค่อะคาเดมี่ไม่กี่รุ่นถัดไปเราก็ได้เมสันขึ้นมาประดับทีมต่อเนื่องอีกหนึ่งคนเลยทันที ดีไม่ดีพรสวรรค์เขาอาจจะสูงกว่าแรชฟอร์ดด้วยซ้ำ แต่ทั้งคู่จะไปได้ไกลแค่ไหนอันนี้ไม่มีใครรู้เพราะมันเป็นอนาคต แต่ที่แน่ๆนี่คือ "สายเลือดอันน่าภาคภูมิใจ" ของแมนยูไนเต็ดขนานแท้ทั้งคู่จริงๆ

เรื่องสำคัญอย่างหนึ่งที่หลายคนอาจจะมีความกังวลนิดๆว่า เมสัน กรีนวู้ด จะรักษาศักยภาพแบบนี้ในระยะยาวได้หรือไม่ หรือพอโตขึ้นเขาจะเริ่มหลงแสงสี และขาดวินัยจนเริ่มที่จะไม่พัฒนา เหมือนอย่างที่ดาวรุ่งบางคนหลงระเริง และทำได้แค่เป็น ดาวรุ่งตลอดกาล ฝีเท้าเท่าเดิมเหมือนตอนเด็กๆ จนสุดท้ายกลายเป็นนักเตะดาดๆทั่วไปไหม

ผมเชื่อว่าเคสของ เมสัน กรีนวู้ด น่าจะไม่เป็นแบบนั้นด้วยสาเหตุใหญ่ๆสามข้อ นั่นก็คือ

1.เมสัน กรีนวู้ด แจ้งเกิดขึ้นมาจริงๆแล้ว มันทำให้เขาเป็นที่รู้จักแบบเต็มๆ เรียกง่ายๆว่า ดังมากๆแล้ว เพราะอยู่ในสถานะกองหน้าตัวจริงของแมนยูในฟร้อนท์ทรีเรียบร้อย ทุกคนต้องหันมามองฝีเท้าของเขาเรียบร้อยโดยที่ไม่เกี่ยวกับอายุอีกต่อไป เมื่อเป็นเช่นนี้ก็น่าจะได้รับการไกด์ไลน์และดูแลจากทุกๆฝ่ายอย่างดี เพราะเป็นคนสำคัญที่ต้องดูแลให้ดีๆ แถมเจ้าตัวยังมีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิตที่ดีด้วย ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่


2.เมสันอยู่ในยุคที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชาคุมทีม ผู้ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมที่ให้ความสำคัญกับการทำทีมที่ใช้นักเตะอายุน้อยเป็นแกนหลัก และให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมองค์กร ด้วยการผลักดันนักเตะเยาวชนท้องถิ่นให้ขึ้นมาทีมชุดใหญ่ให้ได้ ผู้จัดการทีมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้มั่นใจว่า เมสันจะถูกดันจนขึ้นไปถึงบนสันสูงสุดของเทือกเขาได้แน่


3.แมนยูไนเต็ดจะไม่ยอมเสียเพชรเม็ดงามที่ประเมินมูลค่านี้ไม่ได้ จากที่มีบทเรียนมาแล้วมากมาย รวมถึงเคสของราเวลด้วยที่พยายามแล้วแต่ทำไม่สำเร็จ เพราะงั้นสโมสรจะทำทุกอย่างเพื่อประคบประหงมเด็กคนนี้ให้เติบโตขึ้นมาเป็นนักเตะตัวสำคัญของเราในอนาคตอีกสิบกว่าปีข้างหน้าอย่างแน่นอน

ดังนั้น "Mason กับ Morrison" จึงเป็นนักเตะดาวรุ่งพรสวรรค์สูงเหมือนกัน แต่จะไม่มีวันเดินไปในทางที่ผิดพลาดเหมือนกันอย่างแน่นอน เปรียบดังเส้นขนานที่อยู่ระนาบเดียวกัน แต่จะไม่มีวันบรรจบที่จุดเดียวกันได้เลยตลอดไป

ปลายทางของเมสันจะไปได้ไกลแค่ไหน ไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆตอนนี้ถ้าเทียบในวัยเดียวกัน พวกเขาก็มีสถานะที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดินแล้ว ราเวลวัย18ปี ยังทำได้เพียงแค่ลงในนัดลองเด็กอย่างเกมลีกคัพเท่านั้น แต่กับเมสัน กรีนวู้ด เขาขึ้นมายึดตำแหน่ง 11ตัวจริงของทีมชุดใหญ่ได้เรียบร้อยแล้วในขณะนี้ เหมือนๆกับสิ่งที่ไรอัน กิ๊กส์ เคยทำเอาไว้ และสร้างปรากฏการณ์ได้เหมือนกับที่เราเคยเห็นจากนักเตะอย่าง รูนีย์ ตอนอยู่เอฟเวอร์ตัน จนแมนยูต้องทุ่มเงินซื้อตัวเข้ามานั่นแหละ

ดังนั้นหากวัดเรื่องความสำเร็จในด้านอาชีพบนวัยเดียวกัน กรีนวู้ดก็ไปไกลกว่ามอร์ริสันมากแล้วจริงๆ

3M on fire

นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้นเอง ถึงจะบอกว่าเก่งมากขนาดไหนแล้ว แต่อย่าลืมว่าหมอนี่ "เพิ่งอายุ18" เมสัน กรีนวู้ด ยังสามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้อีกเยอะ ยังมีเวลาเก็บชั่วโมงบินในการลงเล่นได้อีกเพียบ ทั้งเรื่องของร่างกายที่เพิ่งจะเข้าช่วงแรกของการอัพเกรดไปสู่ร่างผู้ชายตัวเต็มวัยด้วยซ้ำ ยังแข็งแกร่งดุดันได้มากกว่านี้อีกเยอะ พร้อมด้วยสกิลอีกหลายๆด้านที่เด็กคนนี้ยังสามารถพัฒนาได้ไกลยิ่งกว่านี้ ขนาดตอนนี้ยังแบกการทำประตูได้ขนาดนี้ อีก5ปีข้างหน้ากรีนวู้ดจะเก่งขนาดไหน เกินจินตนาการจะหยั่งถึงจริงๆ

บทความนี้แด่ "Ravel Ryan Morrison" และ "Mason Will John Greenwood"

หนึ่งในโคตรดาวรุ่งที่เก่งที่สุดตั้งแต่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเคยมีมา

-ศาลาผี-


References

https://talksport.com/football/435276/sir-alex-ferguson-manchester-united-ravel-morrison/

https://newslead.in/india/32055/

https://www.premierfootballuk.com/the-strange-case-of-ravel-morrison/

https://www.fourfourtwo.com/features/where-earth-did-it-all-go-wrong-ravel-morrison

https://www.youtube.com/watch?v=ZchW7MBe6OA

https://www.youtube.com/watch?v=UciWzba7GT0

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด