:::     :::

กองหลังดาวซัลโว

วันอังคารที่ 07 กรกฎาคม 2563 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
1,933
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีม เรอัล มาดริด เป็นผู้เล่นตำแหน่งกองหลังที่ทำประตูมากสุดของวงการลูกหนังที่ยังค้าแข้งในปัจจุบัน แต่ยังมีอีก 5 ผู้เล่นแนวรับที่ทำผลงานดีกว่าเขา

เซร์คิโอ รามอส กองหลังกัปตันทีม เรอัล มาดริด กดจุดโทษให้ทัพ'โลส บลังโกส'บุกชนะ แอธเลติก บิลเบา 1-0 นั่นคือการทำยอดรวม 120 ประตูตลอดอาชีพค้าแข้ง 18 ปีของกัปตันชุดขาว 

จากประตูล่าสุดยังทำให้ รามอส กลายเป็นผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กคนแรกที่ทำอย่างน้อย 10 ประตูบนเวทีลีกา นับตั้งแต่ เฟร์นานโด เอียร์โร่ อดีตกองหลัง เรอัล มาดริด เคยทำได้ในซีซั่น 1993-1994 และเป็นการสังหารจุดโทษประสบความสำเร็จ 22 ครั้งติดต่อกันของแนวรับวัย 34 ปีด้วย 

นอกจากนี้กองหลังชาวเซบียาโน่ยังเป็นเจ้าของสถิติทำประตูมากสุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลลีกาทำลายผลงานเดิมของ โรนัลด์ คูมัน อดีตกองหลังชาวดัตช์ของ บาร์เซโลน่า ที่ครองสถิติ 68 ประตูมาเป็นเวลานานด้วย 

อย่างไรก็ตามกัปตันรามอสยังอยู่เพียงอันดับ 5 ในทำเนียบกองหลังที่ทำประตูมากสุดในประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังเท่านั้น ส่วนจะมีใครบ้างที่อยู่ในทำเนียบ 10 คนแรกไปดูกันครับ


10.ฟร้านซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ (109 ประตู)

อดีตกัปตันทีมชาติเยอรมันตะวันตกรับบทปัดกวาดแนวรับฐานะ 'สวีปเปอร์' และเป็นความจริงที่่ว่าเขาเป็นนักเตะที่อยู่ห่างจากกรอบประตูคู่แข่งมากสุด ยกเว้นผู้รักษาประตู แต่ยังมีการกล่าวถึงการเติมขึ้นมาทำประตูที่กล้าหาญของเขา 

เบ็คเค่นบาวเออร์ เป็นที่รู้จักสำหรับความคิดสร้างสรรค์ของเขาและยังผ่านบอลอย่างยอดเยี่ยมเหมือนกับทักษะในการเล่นเกมป้องกัน 

ตลอดอาชีพค้าแข้ง 19 ปี เบ็คเค่นบาวเออร์ ทำรวมกัน 109 ประตู ทำมากสุดกับ บาเยิร์น มิวนิค รวม 64 ประตูจากการลงสนาม 439 นัด และทำ 14 ประตูจากการลงเล่นกับทีมชาติเยอรมันตะวันตก 103 เกม 


9.โรแบร์โต้ การ์ลอส (113 ประตู)

ฐานะคนทำประตู เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิงฟรีคิกดีที่สุดตลอดกาลของวงการลูกหนัง อีกทั้ง โรแบร์โต้ การ์ลอส ยังได้รับการยกย่องให้เป็นฟูลแบ็กที่เล่นเกมโจมตีดีที่สุดในโลกด้วย

แบ็กซ้ายชาวบราซิเลียนเป็นหนึ่งในสมาชิกของ 'กาลาคตีกอส' ยุคเริ่มต้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 2000 และกลายเป็นที่รู้จักสำหรับการเติมเกมตลอดฝั่งซ้ายไปจนถึงตำแหน่งการทำประตู เขาทำมากสุดกับ เรอัล มาดริด รวมกัน 47 ประตูจากการลงเล่น 370 เกมและกระทุ้งกับทีมแซมบ้า 11 ประตูจากการลงสนาม 125 เกม 

โรแบร์โต้ การ์ลอส ยังเป็นจอมสังหารฟรีคิกมือฉมังทั้งกับสโมสรต้นสังกัดและทีมชาติบราซิล ดังนั้นสถิติการทำประตูส่วนใหญ่ของเขาจึงมาจากลูกนิ่งทั้งฟรีคิกและจุดโทษ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะคิดถึงนักฟุตบอลคนอื่นที่มีพลังการยิงด้วยเท้าซ้ายรุนแรงกว่าแบ็กชาวบราซิเลียน


8.พอล ไบรท์เนอร์ (113 ประตู)

เหมือนกับ ฟร้านซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์, ไบรท์เนอร์ เป็นนักเตะที่มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของทีมชาติเยอรมันตะวันตกและ บาเยิร์น มิวนิค แบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงทศวรรษที่ 1970 

ไบรท์เนอร์ เป็น 1 ใน 4 นักเตะที่ทำประตูในนัดชิงชนะเลิศของศึกฟุตบอลโลก 2 สมัย เขายังมีส่วนช่วยเพื่อนร่วมทีมทำอีก 3 ประตูในเกมชิงดำของศึก 'เวิลด์ คัพ' ปี 1974 ด้วย

แม้ว่า ไบรท์ตัน จะขยับขึ้นมาเล่นกองกลางในช่วงท้ายของอาชีพค้าแข้งก็ตาม แต่การทำประตูส่วนใหญ่ของเขามาจากการเล่นตำแหน่งแนวรับ โดยยิงมากสุดในช่วงที่ค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค สองช่วงเวลา 83 ประตู จากการลงสนาม 255 เกมและยังยิงให้ทีมชาติเยอรมันตะวันตก 10 ประตูจากการลงเล่น 48 เกม


7.สตีฟ บรูซ (113 ประตู) 

กองหลังชาวอังกฤษชื่นชอบที่จะดันขึ้นมาทำประตูในจังหวะเล่นลูกตั้งแต่โดยเฉพาะกับ แมนฯยูไนเต็ด แต่ยังมีส่วนร่วมกับการทำประตูพอสมควรกับ จิลลิ่งแฮม, นอริช และ เบอร์มิงแฮม ยกเว้นต้นสังกัดสุดท้าย เชฟฯยูไนเต็ด เท่านั้น

การทำประตูที่สร้างชื่อให้ สตีฟ บรูซ มากสุดเกิดขึ้นในเกมกับ เชฟฯเว้นส์เดย์ ในซีซั่น 1992-1993 จากการทำคนเดียวสองประตูนำทัพปีศาจแดงของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 26 ปีสำเร็จ 

ส่วนผลงานดีสุดของอดีตกองหลังวัย 59 ปี เกิดขึ้นในช่วงฤดูกาล 1990-1991 ทำรวม 19 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 50 เกม และทำยอดกับทีมปีศาจแดงทั้งสิ้น 51 ประตูจากการลงสนาม 414 เกม 


6.เซร์คิโอ รามอส (120 ประตู)

ไม่มีกองหลังคนใดในโลกลูกหนังปัจจุบันที่ทำประตูได้มากกว่า เซร์คิโอ รามอส และสิ่งที่น่าประทับใจคือกัปตันทีม เรอัล มาดริด ยังทำประตูในช่วงเวลาสำคัญตัดสินเกมหลายครั้ง โดยเฉพาะผลงานล่าสุดที่กดจุดโทษให้ทีมชุดขาวบุกชนะ แอธเลติก บิลเบา 1-0 จนขยับเข้าใกล้การคว้าแชมป์ลีกเมืองกระทิงซีซั่นนี้ 

เซร์คิโอ รามอส ยังเคยทำสองประตูสำคัญในรอบชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ทั้งสองครั้งกับทีมคู่ปรับสำคัญอย่าง แอตเลติโก มาดริด ทั้งการทำประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ก่อนทีมชุดขาวจะพาเหรดยิง 3 ประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษคว้าแชมป์ยุโรปในซีซั่น 2013-2014 

รามอส ยังทำประตูให้ทีมชุดขาวออกนำ 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศของซีซั่น 2015-2016 แม้จะถูก แอตเลติโก มาดริด ตามตีเสมอจาก ยันนิค การ์ราสโก้ ก็ตาม แต่ทัพ'โลส บลังโกส'ยังดวลเป้าชนะทีมตราหมี 5-3

กองหลังวัย 34 ปียังรับหน้าที่เป็นมือสังหารจุดโทษของ เรอัล มาดริด หลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ซึ่งกัปตันรามอสทำผลงานน่าเหลือเชื่อโดยยิงไม่พลาด 22 ครั้งติดต่อกัน นอกจากนี้ยังสร้างชื่อเป็นกองหลังที่ทำประตูมากสุดของเวทีลีกาจากผลงาน 70 ประตูด้วย 


5.แกรห์ม อเล็กซานเดอร์ (130 ประตู)

อดีตแบ็กขวาชาวสกอตต์ค้าแข้งกับสโมสรเล็กๆอย่าง สคันธอร์ป, ลูตัน ทาวน์, เปรสตัน, เบิร์นลี่ย์ ตบท้ายด้วย เปรสตัน อีกครั้งจนกระทั่งแขวนเกือกในปี 2012 พร้อมสร้างชื่อเป็นหนึ่งในกองหลังทำประตูมากสุดของวงการลูกหนัง

อเล็กซานเดอร์ มีหน้าที่สังหารจุดโทษให้ต้นสังกัดและการทำประตูจำนวนมากของเขามาจากการยิงจุดโทษนั่นเอง แต่กองหลังชาวสกอตต์ยังมีความสามารถที่น่าประทับใจที่เติมขึ้นมายิงประตูในจังหวะ'โอเพ่น-เพลย์' ฐานะแบ็กขวาเช่นเดียวกัน

แต่ที่น่าประหลาดใจคือ อเล็กซานเดอร์ กลับไม่เคยยิงประตูในการลงเล่นกับทีมชาติสกอตแลนด์ 40 เกม 


4.โลร็องต์ บล็องก์ (153 ประตู)

อดีตกองหลังทีมชาติฝรั่งเศสและอดีตเทรนเนอร์ทีมตราไก่ ถูกจารึกชื่อว่าเป็นแนวรับที่ทำประตูกับ มงต์เปลลิเย่ร์ ต้นสังกัดแรกมากสุดของสโมสร หลังการทำ 76 ประตูจากการลงเล่น 243 เกมในช่วง 8 ฤดูกาล นั่นเป็นเพราะเขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก!! ก่อนจะถอยร่นลงมาเรื่อยๆจนกลายเป็นสวีปเปอร์ ส่วนใหญ่มาจากการเล่นลูกตั้งเตะ

บล็องก์ ยังทำ 16 ประตูจากการลงเล่นกับทีมชาติฝรั่งเศส 97 เกม ประตูที่สร้างชื่อเสียงมากสุดคือการเป็นฮีโร่ของทีมตราไก่ทำประตูชัยเหนือ ปารากวัย ในรอบ 16 ทีมของศึกฟุตบอลโลกปี 1998 ก่อนทัพตราไก่จะเดินหน้าคว้าแชมป์โลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์สำเร็จ

อดีตกองหลังชาวฝรั่งเศสยังทำประตูกับต้นสังกัดที่เขาลงเล่นด้วยทุกทีมทั้ง มงต์เปลลิเย่ร์, นาโปลี, นีมส์, แซงต์ เอเตียน, โอแซร์, บาร์เซโลน่า, มาร์กเซย, อินเตอร์ มิลาน และ แมนฯยูไนเต็ด


3.เฟร์นานโด เอียร์โร่ (163 ประตู)

เอียร์โร่ จารึกชื่อเป็นหนึ่งในนักเตะของทีมชาติสเปน และ เรอัล มาดริด ที่มีความสามารถในการทำประตูยิ่งใหญ่ตลอดกาล ฐานะกัปตันทีมกระทิงและทัพชุดขาว ซึ่งรับหน้าที่สังหารลูกจุดโทษและยิงฟรีคิก 

อดีตกองหลังทีมชาติสเปนยังดันขึ้นมาเล่นลูกกลางอากาศทุกครั้งที่ทีมได้จังหวะเล่นเซ็ตพีซทั้งฟรีคิกและเตะมุม ซึ่งหลายคนบอกว่า เรอัล มาดริด ยังไม่สามารถค้นพบตัวแทนที่แท้จริงของอดีตกัปตันทีมของพวกเขา 

เอียร์โร่ ทำรวมกัน 102 ประตูจากการลงเล่นกับ เรอัล มาดริด 439 เกม และทำอีก 29 ประตูจากการลงเล่น 89 นัดกับทีมชาติสเปน เขายังทำประตูได้กับทุกทีมที่ค้าแข้งทั้ง เรอัล บายาโดลิด, เรอัล มาดริด, อัล รายยาน และ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 


2.ดาเนียล ปาสซาเรลล่า (175 ประตู)

ปาสซาเรลล่า ขึ้นชื่อว่าเป็นกองหลังดีที่สุดของทวีปอเมริกาใต้ ฐานะแนวรับที่ทำประตูมากสุดของวงการลูกหนังด้วยตัวเลขที่น่าประหลาดใจ ทั้งที่หลายคนปรามาสว่านักเตะตัวเล็กอย่างเขา (สูง 5 ฟุต 8 นิ้ว) ไม่น่าจะเก่งในการเล่นเกมป้องกันฐานะเซนเตอร์แบ็ก แต่ ปาสซาเรลล่า ทำให้พวกวิจารณ์หุบปากสนิทเพราะนอกจากจะเล่นเกมรับเหนียวแน่นแล้วยังมีส่วนร่วมกับการดันขึ้นมาทำประตูอีกด้วย 

ถ้าจะกล่าวถึงแนวรุกของ อาร์เจนตินา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทุกคนต้องนึกถึงชื่อ ดีเอโก้ มาราโดน่า และ ลิโอเนล เมสซี่ แต่จากผลงานของ ปาสซาเรลล่า ทำให้สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเขาเป็นหนึ่งในตำนานของทีมฟ้าขาวเช่นเดียวกัน 

เขาเป็นกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1978 และยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมฟ้าขาวชุดแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1986 ด้วย เขาทำผลงานเด่นสุดกับ ริเวอร์ เพลท ด้วยการยิง 90 ประตูจากการลงเล่น 226 เกม และยิง 22 ประตูจากการลงเล่นกับทีมชาติอาร์เจนตินา 70 เกม 


1.โรนัลด์ คูมัน (253 ประตู)

คูมัน บันทึกชื่อตัวเองเป็นกองหลังที่ทำประตูมากสุดตลอดกาลของวงการลูกหนังและคงเป็นเรื่องยากที่จะมีใครทำลายสถิติดังกล่าวของอดีตปราการหลังทีมชาติฮอลแลนด์ที่ยิงรวมกันตลอดอาชีพ 253 ประตู

อดีตกองหลังชาวดัตช์เคยเป็นผู้เล่นแนวรับที่ทำประตูมากสุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลลีกาจากจำนวน 67 ประตู ฐานะนักเตะบาร์เซโลน่า ก่อนสถิติดังกล่าวจะถูก เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีมคนปัจจุบันของ เรอัล มาดริด ทำลายเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ 

คูมัน ยังเคยทำถึง 26 ประตูในซีซั่นเดียวกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ช่วงฤดูกาล 1987-1988 และยังเคยทำ 19 ประตูถึงสองครั้งกับ บาร์เซโลน่า ในซีซั่น 1989-1990 และ 1993-1994 จากการยิงฟรีคิก, จุดโทษ และการยิงไกล ส่วนการทำประตูจากฟรีคิกสร้างชื่อของ คูมัน คือเกมชนะ ซามพ์โดเรีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ของนัดชิงชนะเลิศของศึก ยูโรเปี้ยน คัพ ซีซั่น 1991-1992 คว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรกของสโมสร 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด