:::     :::

จบที่รุ่นเรา

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2563 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
1,163
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
คุณเคยรอคอยอะไรนานๆ ไหมครับ ถ้าเคยมีประสบการณ์การรอคอยอะไรซักอย่างนานๆ แล้วล่ะก็ น่าจะรู้ถึงความอึดอัดและรสชาติของความทรมาณในการรอคอยนั้นดีอยู่แล้ว ยิ่งนานเท่าไรความทุกข์นั้นก็ยิ่งเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ แต่ถ้าการรอคอยนั้นสิ้นสุดลงแล้วละก็รสชาติของมันกลับยิ่งหอมหวานเพิ่มขึ้นกว่าปกติแบบเป็นเท่าทวีเลยทีเดียวล่ะครับ


ค่ำคืนประวัติศาสตร์

   

          ลิเวอร์พูลนั้นลงสนามมาในเกมนี้แบบไม่กดดันอะไรมากมายแล้วครับ สถิติต่างๆ ที่พวกเขาเคยมีลุ้นนัั้นก็แทบจะหมดลุ้นไปหมดแล้วทุกอย่าง จะเหลือก็แต่เพียงสถิติทำแต้มสูงที่สุดเกิน 97 แต้มของตัวเองให้ได้แค่นั้นเอง แต่ถึงแม้พวกนักเตะและแฟนๆ จะไม่เหลืออะไรให้ลุ้นแล้วก็ตามค่ำคืนที่ผ่านมานี้ก็เป็นค่ำคืนที่เหล่าเดอะ ค็อปและทีมเฝ้ารอคอยมาเนิ่นนาน และเป็นค่ำคืนที่จะประกาศให้โลกรู้อย่างเป็นทางการได้เต็มภาคภูมิว่าลิเวอร์พูลนั้นคือแชมป์พรีเมียร์ลีกของฤดูกาลนี้แล้วนั่นเอง แววตาของนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชทุกคนรวมถึงกองเชียร์นั่นดูเปี่ยมไปด้วยความสุขและปลื้มปริ่มอย่างบอกไม่ถูก  สิ่งดีๆ ที่ทุกคนเฝ้ารอกำลังจะจบลงในค่ำคืนนี้แล้ว และเมื่อความกดดันและนักเตะทุกคนเล่นได้อย่างสบายใจ ฟอร์มการเล่นในสนามนั้นก็พลอยดีไปด้วยนั่นแหละครับ
    
ซุปเปอร์เอนเตอร์เทน

          ไม่แน่ใจเเหมือนกันนะครับว่าก่อนเเกมนี้นั้น ทั้งสองทีมตั้งใจจะให้มันสนุกสนานแบบนี้หรือเปล่า แต่โดยธรรมชาติของทั้งลิเวอร์พูลและเชลซีในยุคนี้นั้น ก็เป็นทีมที่เน้นเกมรุกอยู่แล้ว แต่ลิเวอร์พูลนั้นจะมีกองหลังที่เหนียวแน่นและไว้ใจได้มากกว่าเชลซีเท่านั้นเอง แต่ว่า ...... นั่นก็เป็นเรื่องของก่อนที่จะเกิดการเบรคยาวจากโควิทไปนั่นแหละครับ พอหลังจากกลับมาจากหยุดยาวแล้ว กองหลังลิเวอร์พูลก็ดูเหมือนจะดร็อปลงไปในระดับนึง และยิ่งหลังจากที่พวกเขาการันตีการเป็นแชมป์ไปแล้วนั้นความเหนียวแน่่นของกองหลังลิเวอร์พูลก็แทบจะมลายหายไปจนหมดสิ้นมันซะงั้น เหมือนกับว่าพวกเขานั้นเพ่งสมาธิในเรื่องนี้มานานตลอดฤดูกาล พอภารกิจของพวกเขาจบสิ้นสมาธิและโฟกัสของเกมรับพวกเขาก็ผ่อนคลายลงไปจนแทบหมดสิ้น  ส่วนเชลซีนั้นขึ้นชื่อลือชาว่ามีปัญหาในเรื่องของเกมรับอยู่แล้ว เมื่อทุกอย่างมาประกอบกันแบบนี้จึงทำให้เราเห็นการยิ่งประตูกันถล่มทลายแบบที่เห็นนี่แหละครับ ทางด้านลิเวอร์พูลนั้นก็ปล่อยของในเกมรุกเสียเต็มที่  นาบี เกอิต้า ที่ฟอร์มหลุดหายไปนานจากอาการบาดเจ็บก็กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และเกมนี้ลูกยิงไกลของเขาก็แทบจะปิดปากกองเชียร์ที่เรียกร้องนักเตะเพลเมกเกอร์และตัวยิงไกลให้เงียบไปได้เลยทีเดียว จากการลากไปยิงไกลอย่างสุดสวยเป็นประตูนำให้แชมป์เปี้ยนนำไปก่อน 1-0 และหลังจากนั้นก็ได้ประตูตามมาอย่างติดๆ กัน จากฟรีคิกของเทรนท์ อาโนลด์และจินี่ ไวนัลดุ้ม และเมื่อนำห่างขนาดนี้พวกเขาก็ผ่อนคลายเกมของพวกเขาลงอย่างเห็นได้ชัดเลย จนมาเสียประตูตีไข่แตกดื้อๆ จากชีรูด์ก่อนหมดครึ่งแรกไป แต่ไม่มีใครตำหนิอะไรใครเท่าไรแล้วครับ ชั่วโมงนี้ที่แอนฟิลด์นั้นอบอวลไปด้วยความสุขจริงๆ 



ยังไว้ลาย !


          เริ่มครึ่งหลังมาได้ไม่ถึง 10 นาทีความสุขของแฟนๆ ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่นั้นปลดล๊อกทำประตูแรกในแอนฟิลด์ได้เสียที จากการโฉบมาโหม่งลูกเปิดจากเทรนท์ อาโนลด์ได้อย่างเหมาะเหม็ง เรียกได้ว่าต้องรอกันถึงนัดสุดท้ายไปเลยกว่าจะทำประตูแรกในบ้านได้ ตอนนี้เรียกได้ว่าทั้งแฟนๆ และนักเตะของลิเวอร์พูลนั้นใจลอยไปถึงภาพฉลองแชมป์หลังเกมไปหมดแล้ว แต่แล้วก็ต้องถูกกระชากให้กลับมาลงสู้พื้นดินอย่างรวดเร็วด้วยฝีเท้าของคริสเตียน พูลิซิสอดีตเป้าหมายของเจอร์เก้น คล็อปป์นั่นเอง  ตั้งแต่พูลิซิสลงสนามมานั้นเขาปั่นป่วนเกมรับของหงส์แดงจนมึนงงและเสียขวนไปหมด จนทำให้เชลซีนั้นทำประตูไล่มาเป็น 4-2 และ 4-3 แบบติดๆ กันเลย ตอนนี้แฟนๆ เองก็เริ่มๆ จะหวั่่นๆ แล้วว่า การเฉลิมฉลองครั้งนี้อาจจะงานกร่อยหน่อยๆ แล้วก็ได้ เพราะเกมรับของลิเวอร์พูลในนัดนี้นั้นต้องเรียกได้ว่าเข้าขั้น “เละเทะ” ได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะเจ้าหนูโจ โกเมส ที่หลังจากได้แชมป์แล้วฟอร์มก็ออกทะเลไปไกลจริงๆ แต่กระนั้นลิเวอร์พูลเองก็ยังแสดงให้เห็นว่าทำไมพวกเขาถึงสมควรเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ เมื่อพวกเขาโชว์การฉวยโอกาสพลิกเกมจากตั้งรับเปลี่ยนเป็นประตูซึ่งเป็นอาวุธเด็ดของพวกเขาให้เห็นอีกครั้ง จากที่่พวกเขามีลุ้นว่าจะโดนตีเสมอ 4-4 กลับมาเป็นฝ่ายนำ 5-3 ได้อย่างสวยงามจากการสวนกลับและโชโล่เดี่ยวไปของโรเบิร์ตสันและครอสไปให้อ๊อกเหลด เชมเบอร์เลนยิงอย่างเด็ดขาด พอลิเวอร์พูลทิ้งห่างไปได้อีกครั้งแบบนี้ เชลซีเองก็แทบจะถอดใจไปแล้ว และเกมที่สุดเอนเตอร์เทนนี้ก็จบลงด้วยสกอร์อันมโหฬาร 5-3 ที่เห็นนี่แหละครับ สมเป็นค่ำคืนที่สนุกตื่นเต้นและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขของแฟนๆ ลิเวอร์พูลจริงๆ
   

ภาพนี้ที่รอคอย


          ทุกคนรู้อยู่แล้วครับ ว่าลีลาการฉลองและชูถ้วยรางวัลของกัปตันจอร์แดน เฮนเดอร์สันนั้นเป็นอย่างไร แต่ยังไงจินตนาการก็ไม่เท่าได้เห็นของจริงกับตาอยู่ดีล่ะครับ เมื่อราวๆ 3-4 ปีก่อนนั้นแฟนๆ ทีมอื่นยังมาแซวลิเวอร์พูลเรื่องกัปตันเฮนโด้ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกจำลอง อย่างเอเชียน พรีเมียร์ลีก โทรฟรี่อยู่เลยซึ่งเชื่อได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่คาดคิดมาก่อนแน่ๆ ล่ะครับว่าลิเวอร์พูลเองจะก้าวกระโดดมาได้เร็วถึงขนาดนี้ เส้นทางการต่อสู้ของพวกเขาในฤดูกาลนี้ต้องบอกว่ามันเหลืิอเชื่อและสมบูรณ์แบบเอามากๆ  ผมเองไม่แน่ใจหรอกครับว่าจะมีใครยกย่องพวกเขาไว้มากแค่ไหน แต่สำหรับผมเองพวกเขาสมควรคู่กับคำว่า “ตำนาน” แล้วจริงๆ และเชื่อว่าหลายๆ คนเองก็น่าจะเห็นด้วยกับผมไม่น้อยเช่นกัน การรอคอยที่แสนยาวนานของพวกเราจบลงแล้วครับ มันสิ้นสุดแล้วที่รุ่นของพวกเรานี่เอง ขอเชิญดื่มด่ำกับภาพของการเฉลิมฉลองแชมป์ของลิเวอร์พูลกันให้เต็มที่ครับ และประกาศศักดาให้โลกนี้รู้ได้เต็มที่ไปเลยครับว่า พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-2020 นี้  “ลิเวอร์พูลคือแชมป์เปี้ยน” .... YNWA  ครับทุกคน

 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด