ศึกบุนเดสลีกาเพิ่งปิดฉากฤดูกาล 2019-2020 ที่เผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส'โควิด-19'ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนลีกเมืองเบียร์ซีซั่นที่ 58 จะเริ่มต้นอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนนี้ 

จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะส่งผลกระทบต่อสถานะการเงินของทุกสโมสร แต่ละทีมจึงต้องปรับนโยบายมาใช้งานกลุ่มนักเตะที่มีอยู่ในปัจจุบันพร้อมการผลักดันผู้เล่นสายเลือดใหม่อายุน้อยสู้ศึกซีซั่นหน้า ซึ่งมีแข้งวัยรุ่นอย่างน้อย 10 คนที่น่าจับตามองในฤดูกาล 2020-2021 ส่วนมีใครบ้างไปดูกันครับ 

1.โจวานนี่ เรย์น่า 

อายุ : 17 ปี 

สโมสร : ดอร์ทมุนด์ 

ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวรุก/ปีก 

ดอร์ทมุนด์ จับหนุ่มเรย์น่าหย่อนลงน้ำตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมา หลังการออกสตาร์ทกับทีมชุดยู-19 ปี 11 เกม ก่อนลงประเดิมเวทีบุนเดสลีกาในช่วงเดือนมกราคมปี 2020 และจบซีซั่นที่ผ่านมาด้วยการลงสนาม 15 เกมและลงเล่นทุกรายการ 18 นัด แน่นอนว่ามิดฟิลด์วัย 17 ปีถูกส่งลงสนามเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อรอวันก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังหลักในอนาคตของทีมเสือเหลือง 

แข้งหนุ่มชาวมะกันลงเล่นตัวจริง 2 เกมสุดท้ายในซีซั่นที่ผ่านมากับ แอร์เบ ไลป์ซิก และ ฮอฟเฟนไฮม์ ซึ่ง เรย์น่า แอสซิสต์ให้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยิงประตูเบิกร่องในเกมชนะทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์ 2-0 และคาดว่ามิดฟิลด์วัย 17 ปีจะมีบทบาทกับทีมเสือเหลืองมากขึ้นในซีซั่นหน้า หลังการย้ายทีมของ มาริโอ เกิตเซ่ รวมถึงการประกาศยกเลิกสัญญาและแขวนเกือกในเวลาต่อมาของ อันเดร เชือร์เล่ 

หนุ่มเรย์น่าจะเป็นอีกหนึ่งแข้งวัยรุ่นที่น่าจับตามองในซีซั่นหน้าโดยเฉพาะการประสานงานแนวรุกร่วมกับ ฮาแลนด์, ธอร์กกาน อาซาร์ กับ เจดอน ซานโช่ ถ้าหากปีกดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษยังไม่ย้ายออกจากถ้ำเสือเหลืองในช่วงซัมเมอร์นี้ 

2.โจชัว เซิร์คซี่ 

อายุ : 19 ปี

สโมสร : บาเยิร์น มิวนิค

ตำแหน่ง : กองหน้า

กองหน้าหนุ่มชาวดัตช์ค่าเฉลี่ยยิงหนึ่งประตูต่อเกมในการเล่นระดับยู-17 ปีและยู-19 ปี ก่อนกองหน้าวัย 19 ปีจะได้ลงเจิมทีมชุดใหญ่ในช่วงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาในเกมดวล ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ตามด้วยการลงประเดิมเวทีบุนเดสลีกาด้วยการลงเล่นฐานะสำรองช่วงนาที 90 ของเกมกับ ไฟร์สบวร์ก เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ขณะที่สกอร์เสมอ 1-1 

เซิร์คซี่ พังประตูแรกกับทีมเสือใต้สำเร็จจากการผ่านบอลของ แซร์ช นาบรี้ ช่วงนาที 92 นั่นคือการสับไกยิงครั้งที่ 3 จากการลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของกองหน้าหนุ่มชาวดัตช์ ก่อน นาบรี้ จะกดปิดท้ายช่วงนาที 95 นำ บาเยิร์น มิวนิค บุกคว้าชัย 3-1 

3 วันต่อมา เซิร์คซี่ ถูกส่งลงเล่นแทน ฟิลิปเป้ กูตินโญ่ ช่วงนาที 83 และกองหน้าวัย 19 ปี ทำประตูให้ทีมเสือใต้ขึ้นนำ 1-0 นาที 85 จากการผ่านบอลของ โธมัส มุลเลอร์ ก่อน นาบรี้ จะซัดประตูปิดกล่องช่วงนาที 89 นำ บาเยิร์น มิวนิค สยบ โวล์ฟสบวร์ก 2-0 ตามด้วยการกดอีกหนึ่งประตูในเกมบุกขย่ม ฮอฟเฟนไฮม์ 6-0 ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนจะซัดประตูเบิกร่องในเกมชนะ กลัดบัค 2-1 ในช่วงรีสตาร์ทซีซั่นช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 

เซิร์คซี่ ลงเล่นบุนเดสลีกาซีซั่นแรกในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาพร้อมการทำ 4 ประตู เขายังมีสัญญากับทีมเสือใต้จนถึงปี 2023 และตอนนี้เป็นช่วงเวลาพิสูจน์ว่าเขาจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในฐานะทายาทของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกชาวโปล ด้วยสัญชาตญาณในการทำประตู, ความแข็งแกร่งในการเล่นกับบอลและความโดดเด่นในการเล่นลูกกลางอากาศ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สตาฟฟ์เทรนเนอร์มองเห็นและกองหน้าหนุ่มชาวดัตช์จะได้โอกาสลงเล่นมากขึ้นในซีซั่นหน้า 

3.ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ 

อายุ : 17 ปี

สโมสร : เลเวอร์คูเซ่น

ตำแหน่ง : ปีก

หนุ่มคนหนึ่งหรือควรจะเป็นแค่เด็กชาย? เวิร์ตซ์ เติบโตมาจากทีมเยาวชน โคโลญจน์ ก่อนจะเซ็นสัญญาเข้าสังกัด เลเวอร์คูเซ่น ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการหยุดชะงักของฤดูกาลเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส หลังการสร้างเป็นที่รู้จักของโค้ชทีมห้างยาชุดยู-19 ปีทั้ง แพทริค ไวเซอร์ และ มาร์คุส ฟอน อาห์เล่น จากการยิง 2 ประตูและทำ 3 แอสซิสต์จากการลงเล่น 4 เกม หลังย้ายมาจากทีมแพะบ้าชุดยู-17 ปีที่เขายิง 8 ประตูจากการลงสนาม 10 เกม 

ปีเตอร์ บอสซ์ เทรนเนอร์ เลเวอร์คูเซ่น ทราบดีว่าเขาต้องการทีมขนาดใหญ่ขึ้นสำหรับการรีสตาร์ทซีซั่น นั่นจึงเป็นโอกาสของหนุ่มเวิร์ตซ์ ที่ไม่เพียงแค่การลงฝึกซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่เท่านั้น แต่เขายังได้โอกาสลงประเดิมสนามตั้งแต่เกมแรกของการรีสตาร์ทกับ แวร์เดอร์ เบรเมน เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยลงเล่นเกมดังกล่าวราวหนึ่งชั่วโมง 

อีก 19 วันต่อมา หนุ่มเวิร์ตซ์ สร้างชื่อเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ทำประตูบนเวทีบุนเดสลีกา หลังการยิงประตูปิดท้ายในเกมพ่าย บาเยิร์น มิวนิค 2-4 ด้วยวัย 17 ปี กับ 34 วัน นั่นทำให้โลกลูกหนังเริ่มรู้จักนักเตะชื่อ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ซึ่ง บอสซ์ ปกป้องนักเตะจากแสงสปอตไลท์ด้วยการไม่ส่งแข้งวัย 17 ปีลงสนามมากเกินความจำเป็น แต่หนุ่มเวิร์ตซ์จะก้าวขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัวเมื่อถึงเวลาเหมาะสมและจะเป็นอาวุธแนวรุกทางกราบขวาที่น่ากลัวของทีมห้างยาในอนาคต 

4.ดาเนียล โอลโม่ 

อายุ : 22 ปี

สโมสร : แอร์เบ ไลป์ซิก

ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวรุก 

'ผมรู้ว่ามันถึงเวลาที่จะก้าวต่อไปและ ไลป์ซิก แสดงให้เห็นถึงความสนใจอย่างมากในตัวผม' โอลโม่ กล่าวหลังย้ายมาจาก ดินาโม ซาเกร็บ สู่เวทีบุนเดสลีกาในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการยกระดับอาชีพค้าแข้งทีละขั้นตอน หลังเริ่มต้นด้วยการเป็นเด็กฝึกหัดของ บาร์เซโลน่า ศึกษาศาสตร์ลูกหนังในศูนย์ฝึก 'ลา มาเซีย' นาน 7 ปี ก่อนตัดสินใจอย่างห้าวหาญด้วยการย้ายมาเซ็นสัญญากับ ดินาโม ซาเกร็บ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2015 ด้วยวัยเพียง 16 ปี 

การเลือกย้ายมาค้าแข้งกับทีมดังโครเอเชียเพราะเขารู้ว่าจะได้โอกาสลงสนามอย่างที่ต้องการมากกว่าการอยู่กับทีมอาซูลกราน่าเพื่อเฝ้ารอโอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและก้าวต่อไปคือการย้ายไปพิสูจน์และยกระดับฝีเท้าในลีกที่ยากกว่าอย่างบุนเดสลีกา แม้ว่าจะใช้เวลาพอสมควรในการลงหลักปักฐานกับทีมใหม่, สภาพแวดล้อมใหม่, ประเทศใหม่และยังเป็นการย้ายทีมช่วงกลางซีซั่นด้วย 

โอลโม่ ทำผลงานโดดเด้งในช่วง 8 เกมสุดท้ายของฤดูกาลและทำ 3 ประตูในสีเสื้อทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์ พร้อมตั้งเป้าหมายต่อยอดไปจนถึงฤดูกาล 2020-2021 ด้วยการทำประตูมากขึ้น, แอสซิสต์มากขึ้นและมีอิทธิพลต่อทีมมากขึ้นในความท้าทายของ แอร์เบ ไลป์ซิก สำหรับพัฒนาการขั้นตอนต่อไปของพวกเขาและคว้าแชมป์รายการใดรายการหนึ่งกับสโมสร 

5.จูด เบลลิงแฮม

อายุ : 17 ปี

สโมสร : ดอร์ทมุนด์ 

ตำแหน่ง : มิดฟิลด์

'ผมตื่นเต้นมากที่ได้มาร่วมกับหนึ่งในสโมสรยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรป' เบลลิงแฮม กล่าวหลังการเซ็นสัญญา 5 ปีกับ ดอร์ทมุนด์ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทีมเสือเหลืองต่อสู้อย่างดุเดือดจนฉกมิดฟิลด์วัย 17 ปีมาด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร หลังหนุ่มจูดจารึกชื่อตนเองเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของ เบอร์มิงแฮม ในฐานะนักเตะอายุน้อยสุดและผู้เล่นที่ทำประตูด้วยอายุน้อยสุดของสโมสร 

'เส้นทางของ เดเฟาเบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางที่พวกเขาช่วยพัฒนาผู้เล่นวัยรุ่นให้ดีขึ้นทำให้การตัดสินใจเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับผมทั้งเป็นการส่วนตัวและสำหรับครอบครัวทั้งหมดของผม' โดยมีเฉพาะ ดอร์ทมุนด์ เท่านั้นที่สามารถเสนอเงื่อนไขดังกล่าวเพื่อโน้มน้าวให้แข้งทีมชาติอังกฤษชุดยู-17 ปี เลือกย้ายมาสู่ลีกใหญ่เหมือนที่พวกเขาเคยทำกับ คริสเตียน พูลิซิช, เจดอน ซานโช่ หรือ โจวานนี่ เรย์น่า ก่อนหน้านี้ 

เบลลิงแฮม ซึ่งเป็นมิดฟิลด์ที่เล่นสไตล์ 'บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์' ได้รับการคาดหมายว่าจะส่องแสงบนเวทีที่ใหญกว่าบุนเดสลีกาและจากการทำผลงานที่โดดเด่นเกินวัยกับ เบอร์มิงแฮม ทำให้สาวกทีมเสือเหลืองและแฟนบอลบุนเดสลีกาตื่นเต้นกับการมาของหนุ่มจูด 

6.เปาลินโญ่ 

อายุ : 20 ปี

สโมสร : เลเวอร์คูเซ่น

ตำแหน่ง : ปีก

นักเตะบราซิเลียนชื่อ เปาลินโญ่ มีมากมายหลายคน แต่สำหรับแนวรุกวัยรุ่นของ เลเวอร์คูเซ่น คือ เปาโล เอ็นรีเก้ ซามไปโย่ ฟิลโญ่ วัย 20 ปีย้ายจาก วาสโก ดา กาม่า มาค้าแข้งกับทีมห้างยาในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ด้วยค่าตัว 20 ล้านยูโร ซึ่งเด็กหนุ่มจาก รีโอ เดอ จาไนโร เหมือนกับนักเตะร่วมชาติหลายคนที่ต้องใช้เวลาปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมใหม่ 

เปาลินโญ่ เดินทางกลับบราซิลเพื่อลงเล่นกับทีมแซมบ้าชุดทำศึกรอบคัดเลือกของฟุตบอลโอลิมปิกเกมส์ช่วยจุดประกายได้เป็นอย่างดีหลังการยิง 3 ประตูและทำ 4 แอสซิสต์จากการลงเล่น 7 เกม ซึ่งช่วยเสริมความความเชื่อมั่นให้กับปีกวัย 20 ปี 

หลังเสร็จภารกิจกับทีมชาติบราซิลชุดยู-23 ปี เขากลับมาลงเล่นกับทีมห้างยา ก่อนยิง 3 ประตูและทำ 2 แอสซิสต์ เมื่อเขามีความเข้าใจแนวคิดของเทรนเนอร์ ปีเตอร์ บอสซ์ มากขึ้นและแน่นอนว่าแฟนๆเลเวอร์คูเซ่นจะได้เห็นผู้เล่นหมายเลข 7 ของพวกเขาลงวาดลวดลายบนสนามมากขึ้นในฤดูกาลหน้า 

7.คริสตอฟ บอมการ์ทเนอร์ 

อายุ : 20 ปี

สโมสร : ฮอฟเฟนไฮม์

ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวรุก 

หนึ่งในมิดฟิลด์ที่สมบูรณ์แบบสุดของศึกบุนเดสลีกาซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้คุณพร้อมที่จะรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับ บอมการ์ทเนอร์ มิดฟิลด์ชาวออสเตรียนวัย 20 ปีมากขึ้น หลังการมีส่วนร่วมกับ 13 ประตูในช่วงฤดูกาลล่าสุดและเป็นการยิงเอง 7 ประตู นั่นเป็นเพียงส่วนน้อยเมื่อดูจากผลงานการเล่นทำทีม ฮอฟเฟนไฮม์ ชุดยู-19 ปี ที่เขายิง 9 ประตูและทำ 15 แอสซิสต์ 

แต่ผลงานดังกล่าวก็เพียงพอสำหรับการเปิดตัวบนเวทีบุนเดสลีกาภายใต้การดูแลของ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ ในซีซั่น 2018-2019 บอมการ์ทเนอร์ ชื่นชอบการเล่นบทบาทหมายเลข 10 เขาสามารถขยับขึ้นเล่นกองหน้า, ถ่างออกซ้ายหรือขวา หรือบัญชาเกมบุกด้วยตัวเอง ซึ่งมันเป็นข้อพิสูจน์เพียงพอสำหรับเขาในการลงเล่นกับทีมระดับหัวแถวของบุนเดสลีกาและคาดว่าเขาจะมีบทบาทมากขึ้นสำหรับซีซั่นหน้า 

8.ยูสซูฟา มูโกโก้ 

อายุ : 15 ปี

สโมสร : ดอร์ทมุนด์

ตำแหน่ง : กองหน้า 

เด็กหนุ่มที่เกิดและเติบโตในแคเมอรูน ก่อนย้ายมาอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ตั้งแต่อายุ 12 ปี ว่ากันว่า มูโกโก้ กำลังคุกคามสถิตินักเตะอายุน้อยสุดที่ลงเล่นบุนเดสลีกาของ นูรี ชาฮิน ศิษย์เก่า ดอร์ทมุนด์ ที่ลงเล่นด้วยวัย 16 ปี,  11 เดือนกับ 1 วัน หลังการเปลี่ยนแปลงกฎเปิดโอกาสให้กองหน้าชาวแคเมอรูนมีโอกาสเปิดตัวในฐานะแข้งทีมเสือเหลืองบนเวทีบุนเดสลีกาทันทีที่เขาอายุครบ 16 ปีในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ 

มูโกโก้ ประสบความสำเร็จในระดับเยาวชนของทีมเสือเหลืองหลังกด 34 ประตูกับทีมชุดยู-19 ปี ทั้งที่เขาต้องเผชิญหน้ากับแนวรับที่อาวุโสมากกว่าถึง 4 ปี หลังการทำสถิติกระทุ้ง 50 ประตูจากการลงเล่นกับทีมชุดยู-17 ปี ในซีซั่น 2018-2019 นับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเล่นกับทีมรุ่นดังกล่าวตอนอายุเพียง 12 ปีและยิงรวมกันมากกว่า 100 ประตู ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าประพลาดใจหาก ลูเซียง ฟาฟร์ เทรนเนอร์ทีมเสือเหลืองจะจับหนุ่มมูโกโก้ลงเจิมกับทีมชุดใหญ่ทันทีที่เขาอายุครบเกณฑ์ 

9.อิสมาอิล ยาค็อบส์ 

อายุ : 20 ปี

สโมสร : โคโลญจน์ 

ตำแหน่ง : ปีก 

หนุ่มยาค็อบส์เลื่อนชั้นขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่พร้อม โนอาห์ คัตเทอร์บัค ภายใต้การดูแลของโค้ช อาคิม ไบเออร์ลอร์เซอร์ ช่วงเริ่มต้นซีซั่น 2019-2020 แต่การบาดเจ็บทำให้เราต้องรอจนถึงเกมที่ 11 ในเกมดวล ฮอฟเฟนไฮม์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ซึ่ง ยาค็อบส์ ถูกส่งลงเล่นวิงแบ็กฝั่งซ้าย เขาใช้เวลาเพียง 5 นัด ทำประตูแรกบนเวทีบุนเดสลีกาสำเร็จหลังการยิงประตูปิดท้ายในเกมชนะ ไฟร์บวร์ก 4-0 

ปีกวัย 20 ปียังมีส่วนร่วมกับการพลิกสถานการณ์จากที่ตกเป็นฝ่ายตามหลัง แฟร้งค์เฟิร์ต 0-2 ก่อนนำทีมแพะบ้าบุกแซงคว้าชัย 4-2 ซึ่งหนุ่มยาค็อบส์เป็นคนยิงปิดท้ายเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นั่นเป็นเกมคัมแบ็กดีสุดในฤดูกาลที่ผ่านมาของ โคโลญจน์ ก่อนปีกวัย 20 ปีจะคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำเดือนดังกล่าว 

ยาค็อบส์ ปิดฉากฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยการยิง 2 ประตูและทำ 2 แอสซิสต์จากการลงเล่นรวมกัน 1,678 นาทีจาก 20 นัด ซึ่งเป็นการลงเล่นตัวจริงทั้งหมด ส่วนการกลับมาอีกครั้งในซีซั่น 2020-2021 คาดว่าจะทำผลงานดีกว่าเดิมถ้าหากเขาปราศจากอาการบาดเจ็บรบกวนและสามารถลงเล่นตลอด 34 เกมช่วงฤดูกาลหน้า 

10.รูเบน วาร์กาส 

อายุ : 21 ปี

สโมสร : เอาก์สบวร์ก 

ตำแหน่ง : ปีก

วาร์กาส ย้ายมาเยอรมันในช่วงซัมเมอร์ปีที่ผ่านมาหลังการลงเล่น สวิส ซูเปอร์ลีก 50 เกมกับ ลูเซิร์น มันเป็นการเข้ามาพบการทดสอบที่ยิ่งใหญ่กว่าของเขาในหนึ่งลีกใหญ่ของยุโรป เขาลงประเดิมสนามตั้งแต่เกมแรกของซีซั่นกับ ดอร์ทมุนด์ แต่ เอาก์สบวร์ก พ่ายยับในเกมดังกล่าว 1-5 อีกหนึ่งสัปดาห์ถัดมากองหน้าเชื้อสายโดมินิกันทำประตูแรกในลีกเมืองเบียร์สำเร็จหลังยิงให้ต้นสังกัดขึ้นนำ 1-0 ก่อนเกมกับ อูนิโอน เบอร์ลิน จะลงเอยด้วยการเสมอ 1-1 

จากนั้น วาร์กาส ยังกระทุ้งอีก 2 ประตูในเกมพ่าย แวร์เดอร์ เบรเมน 2-3 ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวสวยหรูด้วยการยิง 3 ประตูจากการลงเล่น 3 เกมแรก ก่อนจะปิดฉากฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยการยิง 6 ประตู เป็นดาวซัลโวอันดับ 3 ของสโมสรถัดจาก ฟลอเรียน นีเดอร์เลชเนอร์ (13 ประตู) และ ฟิลิปป์ มักซ์ (8 ประตู) ตอนนี้แววตาของแนวรุกวัย 24 ปีมีความกระตือรือร้นมากขึ้นสำหรับการลงเล่นฤดูกาลที่สองในลีกเมืองเบียร์ซีซั่น 2020-2021 พร้อมความคาดหวังว่าเขาจะทำผลงานดีกว่าเดิม