ชื่อของ ทาเคฟูสะ คูโบะ กลับมาร้อนแรงอีกครั้งหลัง ลา ลีกา ฤดูกาล 2019-20 รูดม่านลง พร้อมๆการตกชั้นของ เรอัล มายอร์ก้า สโมสรที่ยืมตัวเขาไปจาก เรอัล มาดริด
การร่วงหล่นไปอยู่ในระดับ เซกุนด้า ดิบิซิออน มันชัดเจนในตัวอยู่แล้วว่า คูโบะ จะต้องแยกทางกับทีม ‘ชาวเกาะ’ เพราะไม่มีทางที่ มาดริด ต้นสังกัดที่แท้จริงจะยอมให้เพชรงามเม็ดนี้ต้องลดระดับการเล่นลงเนื่องจากส่งผลเสียต่อการพัฒนาฝีเท้า
นั่นเองจึงเป็นที่มาของคำถามว่า “คุโบะ จะไปไหนในฤดูกาลหน้า ?”
“จะกลับ เรอัล มาดริด หรือจะไปเล่นกับสโมสรอื่นแบบยืมตัวอีกครั้ง?”
ฤดูกาลที่ผ่านมาแม้จะไม่ได้ร่วมกับ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ลา ลีกา หนแรกในรอบ 3 ปี แถมทีมที่ตัวเองย้ายไปเล่นให้ก็ยังตกชั้นเสียอีก ทว่าส่วนตัวแล้วนับได้ว่า คูโบะ สร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ถือเป็นหนึ่งในสีสีนของ ลา ลีกา
ฤดูกาลที่ผ่านมามิดฟิลด์วัย 19 ปี ลงเล่นให้ทีม ‘ชาวเกาะ’ ทั้งสิ้น 35 เกม เป็นตัวจริง 23 เกม,สำรอง 12 เกม ยิง 4 และ แอสซิสต์ 4 ประตู ซึ่งได้เตะตาหลายสโมสรทั้งในและนอกสเปน จนยื่นข้อเสนอขอยืมตัวไปเล่นด้วย
แน่นอนว่าเป้าหมายสูงสุดของ คูโบะ คือการกลับไปเล่นให้ เรอัล มาดริด ชุดใหญ่ แต่เวลานี้เขาเองอยู่ในขอบข่ายเดียวกันกับ มาร์ติน โอเดการ์ด ที่ มาดริด ยังไม่มีพื้นที่ว่างให้สอดแทรก แถมยังมีเรื่องของโควต้านอกอียูเข้ามาเป็นอุปสรรคสำคัญ
ตามโควต้าของ ลา ลีกา จะอนุญาตให้มีนักเตะนอกอียู หรือที่ไม่ใช่ประชาคมยุโรปอยู่ในทีมได้ 3 คน ซึ่งเวลานี้ ‘โลส บลังโกส’ มี วินิซิอุส จูเนียร์,เอแดร์ มิลิเตา และ โรดรีโก้ โกเอส จับจองโควต้าอยู่แล้ว
เหตุนี้ ความชัดเจนในอนาคตของ คูโบะ ก็คือเขาจะไม่ได้กลับไปยัง เรอัล มาดริด ในฤดูกาลหน้า และจะถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวไปใช้งานอย่างแน่นอน แต่ก็อย่างที่จั่วหัวไว้ข้างต้นนั่นแหละครับ ปัญหาสำคัญที่ต้องขบคิดก็คือว่า “สโมสรใดดี ?”
เวลานี้มีถึง 6 สโมสรที่แสดงความต้องการดึงตัว คูโบะ ไปอยู่ด้วย ไล่เรียงตั้งแต่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม,เซบีย่า,เรอัล เบติส,เรอัล โซเซียดาด,โอซาซูน่า และ กรานาด้า
กับ อาแจ็กซ์ แม้จะเป็นสโมสรใหญ่และมีชื่อเสียงระดับโลก แต่ถ้าจะให้น้ำหนักไปที่การพัฒนาฝีเท้าควบคู่ไปกับการสร้างความคุ้นเคยกับสไตล์การเล่นแบบ ลา ลีกา ก็ออกจะดูเป็นการเดินห่างจากเป้าหมายออกไปอีก
หากไปที่นั่น นอกจาก คูโบะ จะต้องไปเจอกับทีมใหม่ เพื่อนร่วมทีมใหม่ ระบบการเล่นใหม่ สไตล์ใหม่แล้ว เขายังจะต้องเสียเวลาไปกับการเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมและภาษาใหม่อีกด้วย
จะอย่างไรเสีย เรอัล มาดริด ก็วางไว้แล้วว่าจะดึงเขากลับมาใช้งาน ดังนั้นน่าจะเป็นการดีกว่าที่ คูโบะ ไม่ต้องเสียเวลาไปปรับตัวใหม่และอยู่ห่างจากฟุตบอลที่เขาควรจะเรียนรู้และสร้างความคุ้นเคยให้มากที่สุดอย่าง ลา ลีกา
ดังนั้นอีก 5 ทีมใน ลา ลีกา น่าจะมีภาษีมากกว่าทีมนอกสเปนอย่าง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
เซบีย่า มีอดีตกุนซือของ เรอัล มาดริด อย่าง ยูเลน โลเปเตกี คุมทีม หากเลือกทีมนี้ คูโบะ จะได้เล่นในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเป็นรายการใหญ่ที่สุด น่าจะช่วยยกระดับฝีเท้าและเพิ่มพูนประสบการณ์ที่จำเป็นกับเขาได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ เซบีย่า ยังมีรูปแบบการเล่นที่คล้ายคลึงกับ เรอัล มาดริด มีทั้ง 4-3-3 และ 4-2-3-1 นักเตะส่วนใหญ่มีคุณภาพสูงมาก แต่ข้อเสียก็อยู่ตรงนี้ อาจเป็นแรงกดดันสำหรับ คูโบะ มากเกินไป อีกทั้งโอกาสสอดแทรกแย่งตำแหน่งตัวจริงก็ค่อนข้างยาก
ตัวรุกที่ เซบีย่า ยามนี้ถือว่าไม่ธรรมดา ไล่เรียงตั้งแต่ ลูกัส โอกัมโปส ดาวเตะอาร์เจนไตร์ที่ถูกโหวตให้เป็นการเซ็นสัญญาแห่งปี, โอลิเบร์ ตอร์เรส,ฟรังโก้ บาสเกซ,โยน ฆอร์ดาน,เอเวร์ บาเนก้า,มูนีร์ เอล อัดดาดี้,ดาบิด ซูโซ่ แถมปีหน้า การ์ลอส เฟร์นานเดซ กองหน้าดาวรุ่งก็กลับมาจากการยืมตัวจาก กรานาด้า และไม่แน่ว่า บรียาน คิล มิดฟิลด์ดาวโรจน์ที่เล่นกับ เลกาเนส เมื่อซีซั่นที่ผ่านมาก็อาจจะย้ายกลับมาด้วย
โดยรวม เซบีย่า เป็นทีมที่ดีมาก ทั้งในแง่คุณภาพ,รูปแบบการเล่นและทัวร์นาเมนท์ที่ลงเล่น แต่คู่แข่งขัน คูโบะ นั้นเยอะมากจริงๆ จนอาจทำให้เขาไม่ได้รับโอกาสอย่างที่ควรจะเป็น
ต่อมา เรอัล เบติส สโมสรที่อยู่ในเมืองเซบีย่า เป็นทีมที่มีรูปแบบการเล่นสวยงาม เน้นบอลสั้น เจาะตามช่อง ซึ่งเหมาะสมกับสไตล์การเล่นของ คูโบะ ไม่แพ้กับ เซบีย่า
ในแง่คุณภาพ เบติส ดูจะด้อยกว่าและโอกาสที่จะลงเล่นในรายการใหญ่อย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก นั้นจะไม่มี แต่ข้อที่ เบติส ดูจะเอื้อประโยชน์ให้ คูโบะ มากกว่าก็คือโอกาสแย่งตัวจริงหรือลงสนามในจำนวนเกมที่มากเพียงพอ
ฤดูกาลหน้า ‘เอล เบตีโก้’ มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญเกิดขึ้นนั่นคือตัวเทรนเนอร์ที่ถูกเปลี่ยนจาก ฟรานเซส รูบ มาเป็น มานูเอล หลุยส์ เปเยกรีนี่ กุนซือชาวชิลี
การเปลี่ยนกุนซือใหม่ เท่ากับว่านักเตะในทีมจะออกสตาร์ทจากจุดที่ใกล้เคียงกัน หาก คูโบะ ย้ายไปก็ได้เริ่มทำผลงานเอาชนะใจกุนซือไปพร้อมๆกับเพื่อนร่วมทีม
นอกจากนี้แล้ว เปเยกรินี่ เองก็ยังเคยคุม เรอัล มาดริด มาก่อน ทำให้ คูโบะ จะไม่ใช่แข้งโนเนมในสายตาของเขาอย่างแน่นอน
เบติส มีแนวรุกสำคัญๆอย่าง ฆัวกิน ซานเชซ,เซร์คิโอ กานาเลส,นาบิล เฟคีร์,อันเดรส กวาร์ดาโด้,ดีเอโก้ ไลเนส ส่วนคนอื่นๆถือว่าค่อนข้างโนเนม ยิ่งปีนี้ไม่มี การ์เลส อาเลนญ่า ที่ย้ายกลับไป บาร์เซโลน่า อีกทั้ง ฆัวกิน เองก็อายุ 39 แล้ว ทำให้มีช่องว่างในทีมอยู่พอสมควร
ว่ากันตามเกณฑ์มาตราฐานของ เรอัล เบติส แม้จะไม่ได้เป็นทีมระดับท็อปของลีกเหมือนเช่น เซบีย่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่ในระดับที่อ่อนเกินไป ดังนั้นจึงนับว่านี่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆสำหรับ คูโบะ ที่จะมาพัฒนาฝีเท้าที่นี่
ลำดับที่ 4 กรานาด้า สโมสรขนาดย่อม ไซส์เดียวกับ เรอัล มายอร์ก้า เป็นทีมแดนใต้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่บิ๊กเนมเหมือน เบติส หรือ เซบีย่า
กรานาด้า สร้างเซอร์ไพรส์คว้าโควต้าลุยยูโรป้า ลีก ในซีซั่นหน้า ดังนั้นทีมจึงต้องการนักเตะคุณภาพดีเข้ามาเสริมทัพเพื่อเพิ่มขนาดทีมให้ใหญ่ขึ้น
กรานาด้า เล่นด้วยระบบการเล่นที่หลากหลาย ทั้ง 4-4-2,4-2-3-1 และ 4-3-3 ตัวรุกที่ใช้งานเป็นประจำมีทั้ง ดาร์วิน มาชีส,อันโตนิโอ ป้วยร์ต้าส,เฟเด บีโก้ ซึ่งเทียบวัดคุณภาพแล้ว พูดได้ว่า คูโบะ สามารถสอดแทรกลงสนามเป็นตัวจริงของทีมได้ไม่ยากนัก เผลอๆจะกลายเป็นตัวหลักด้วยซ้ำ
นอกจากนี้แล้วการได้ลงเล่นใน ยูโรป้า ลีก ก็ถือว่าไม่เลวเลย นี่เป็นเวทีที่สามารถพัฒนาฝีเท้า สร้างกระดูกให้กับ คูโบะ ได้เป็นอย่างดี
กระนั้นปัญหาที่ต้องขบคิดก็คือรูปแบบการเล่นของทีม ซึ่งที่ผ่านมา ดีเอโก้ มาร์ติเนซ กุนซือของทีมมักเน้นเกมรับให้เหนียวแน่นไว้ก่อน
ในแผงกองกลาง มาร์ติเนซ จะวางมิดฟิลด์ตัวรับไว้ 2 คนเสมอ และอาศัยการโจมตีทางริมเส้นไม่เน้นการครอบครองบอลหรือสร้างเกมรุกจากตรงกลางสนาม ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเสียบอลเนื่องจากด้วยคุณภาพแล้วผู้เล่นของ กรานาด้า หากเน้นการต่อบอลก็จะเป็นรองคู่แข่ง
ดูจากสไตล์แล้ว คำถามสำคัญก็คือว่า คูโบะ จะได้อะไรจากการเล่นให้ กรานาด้า ? ประสบการณ์ที่เพิ่มพูนขึ้นอันนี้ได้รับแน่นอน เพียงแต่ว่าทับทิมเม็ดงามแดนใต้นี้คือบททดสอบความสามารถที่ท้าทายและเป็นโจทย์ที่ยากขึ้นกว่าที่ มายอร์ก้า หรือไม่ ?
มาถึง เรอัล โซเซียดาด นี่คือตัวเลือกที่ดีเยี่ยมอีกทีม ได้โควต้าลุยฟุตบอลยุโรป (ยูโรป้า ลีก) แถมยังมีนักเตะดาวรุ่งอายุน้อยเล่นเป็นตัวหลักร่วมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มิเกล โอยาซ่บัล,มิเกล เมรีโน่,อันเดร์ เกบาร์ร่า,อิกอร์ ซูเบลเดีย และแน่นอน มาร์ติน โอเดการ์ด
คูโบะ จะได้รับคำแนะนำดีๆที่นั่นจาก โอเดการ์ด ในฐานะที่เป็นแข้งปล่อยยืมจาก มาดริด เหมือนกัน แต่อุปสรรคก็คือระดับการเล่นของ โซเซียดาด นั้นไม่ต่างจาก เซบีย่า มากนัก คือการแข่งขันค่อนข้างสูง และทีมเวลานี้ของ อิมานอล อัลกวาซิล ก็ค่อนข้างลงตัว เป็นงานยากไม่น้อยที่ คูโบะ จะสอดแทรก
สุดท้าย...โอซาซูน่า สโมสรที่ตั้งอยู่ทางเหนือของสเปน อยู่ในแคว้นนาบาร์ร่า มีอะไรหลายๆอย่างคล้ายคลึงกับ กรานาด้า โดยเฉพาะสไตล์การเล่นของทีมค่อนข้างเน้นการโจมตีทางริมเส้น เวลารับจะรับลึกอัดแน่นหน้ากรอบเขตโทษ และคอยหาโอกาสตัดบอลและโจมตีจากจังหวะสวนกลับ
ตัวหลักของทีมที่ใช้เมื่อฤดูกาลก่อนอย่าง โรเบร์โต้ ตอร์เรส,รูเบน การ์เซีย (สองคนแรกได้รับโอกาสมากที่สุด) โรเบิร์ต อิบานเญซ,กีเกร์ บาร์ฆา,โยน มอนกาโยล่า และ ดาร์โก บราซานัช ดูจากชื่อชั้นแล้ว คูโบะ สู้ได้สบาย มีโอกาสยึดตำแหน่งตัวจริงไม่ยากเย็น
ว่ากันตามความเหมาะสม เรอัล โซเซียดาด,เซบีย่า,เรอัล เบติส ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทยในแง่ของฟุตบอล ยิ่งในยุคหลังมานี้ เรอัล มาดริด ค่อนข้างใส่ใจกับคุณภาพ และสไตล์การเล่นของสโมสรที่พวกเขาจะปล่อยนักเตะให้ยืมไปใช้งานก็ยิ่งตอบโจทย์
อย่างไรก็ช่วง 1-2 วันมานี้ปรากฏข่าวนึงที่น่าสนใจซึ่งอาจมีผลต่ออนาคตในฤดูกาลหน้าของ คูโบะ นั่นคือการที่ ADIDAS ยักษ์ใหญ่จากเยอรมันบรรลุข้อตกลงเข้าเป็นสปอนเซอร์ชุดแข่งให้กับ โอซาซูน่า แทน HUMMEL
ว่ากันว่า ADIDAS ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ของ เรอัล มาดริด และทีมชาติญี่ปุ่นต้องการให้ คูโบะ ย้ายไปเล่นกับ โอซาซูน่า เพื่อเหตุผลทางการตลาด โดยพยายามกดดัน โรเบร์โต้ ทาคูดะ เอเยนต์ของดาวเตะญี่ปุ่นให้ตอบรับข้อเสนอ
แหล่งข่าววงในบอกว่ามีโอกาสไม่น้อยที่ คูโบะ จะตัดสินใจเลือก โอซาซูน่า เพราะนอกจากจะได้ใส่เสื้อสีแดงเหมือนสมัยเล่นกับ เรอัล มายอร์ก้า แล้ว เมืองปัมโปลน่า (ที่ตั้งของ โอซาซูน่า) ยังเป็นหนึ่งในเมืองสุดโปรดของชาวญี่ปุ่นเวลามาเที่ยวที่ยุโรปอีกด้วย
ครับ ก็ต้องจับตามมองกันต่อไปว่า คูโบะ จะย้ายไปเล่นกับสโมสรใดในฤดูกาลหน้า จะเลือกด้วยเหตุผลฟุตบอลเพียวๆ หรือจะฟุตบอลบวกผลประโยชน์ตามแรงเหวี่ยงของสปอนเซอร์
เจมส์ ลา ลีกา
