:::     :::

บัลลงดอร์...บัลลังก์โด้

วันเสาร์ที่ 09 ธันวาคม 2560 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
1,991
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เขาคือ โรนัลโด้!!!

    ใช่เขาคือ โรนัลโด้!!!

    เออ...ใช่ เขาคือโรนัลโด้!!!

    มึงจะเขียนซ้ำไปซ้ำมาทำมะเขือเทศอะไรวะ

    หลังจากเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาพักใหญ่ สุดท้าย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ผงาดคว้ารางวัลบัลลงดอร์ 2017 ได้ตามคาด

    ถามว่าเหมาะสมไหม

    ???

    เอาง่ายๆ มีอะไรที่ โรนัลโด้ ไม่เหมาะสมดีกว่า

    หลายคนบ่นเบื่อเหลือเกิน 10 ปีหลังสุดมีแต่ ลีโอเนล เมสซี่ กับ โรนัลโด้ ที่เข้าวินไปอยู่สองคน

    แล้วไอ้พวกคนอื่นๆ มันมีใครเด่นเท่านี้ไหมล่ะ

    ถึงช่วงต้นซีซั่นใหม่นี้ ฟอร์มของ โรนัลโด้ จะเหมือนตกๆ ลงไป แต่ผลงานของดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสในปี 2017 นั้นชัดเจนมาก

    เขาพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ลา ลีกา อย่างยิ่งใหญ่

    ไม่พอแค่นั้นยังต่อยอดไปถึงถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกอีก

    จนถึงตอนนี้ เขาทำสถิติยิงไป 50 ประตูจาก 57 นัดเมื่อนับตั้งแต่ต้นปี

    แค่นี้พอไหมสำหรับบัลลงดอร์สมัยที่ 5 ของเจ้าตัว

    พูดถึงรางวัลนี้ หลายคนอาจสงสัยมันมีที่มาที่ไปยังไงจนกลายเป็นของขวัญอันทรงเกียรติสำหรับนักเตะอาชีพบนโลกนี้ไปแล้ว

    จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อปี 1956 บัลลงดอร์ในปัจจุบันหรือลูกบอลทองคำกำเนิดขึ้นครั้งแรก และมีอยู่ช่วงในระหว่างปี 2010-2015 ที่ไปจับมือกับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) โดยใช้ชื่อรางวัลว่า "ฟีฟ่าบัลลงดอร์"

    สำหรับคนแรกที่ก้าวขึ้นไปคว้ารางวัลนี้ก็คือ เซอร์ สแตนลี่ย์ แม็ตธิวส์ ตำนานแข้งทีมชาติอังกฤษ และ แบล็คพูล ก่อนที่ปีถัดมาจะเป็นของ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ตำนานแข้ง เรอัล มาดริด

    ส่วนมากแล้ว ยอดแข้งเท่านั้นที่จะได้รับการโหวตให้ซิวบัลลงดอร์ เขาจะต้องเป็นคนที่แสนพิเศษ ดูโดดเด่น ล้ำเส้นคนอื่นๆ แบบทะลุขึ้นมาจากพื้นน้ำ

    แน่นอนสำหรับแฟนบอลบ้านเราก็จะคุ้นชินกับลีกอังกฤษ นักเตะเชื้อสายผู้ดีเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีขุนพลสิงโตคำรามน้อยคนนักที่จะเคยสัมผัสมัน ไมเคิ่ล โอเว่น ซึ่งเคยผงาดคว้าลูกบอลทองคำนี้มาแล้วในปี 2001 กลายเป็นคนสุดท้ายของสายเลือดผู้ดี

    นอกจากนี้ มันก็ยากมากถึงยากที่สุดที่จะมีนักเตะตำแหน่งนายทวารชนะเลิศการโหวต โดยหนึ่งเดียวคนนั้นคือ เลฟ ยาชิน ตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติสหภาพโซเวียต และ ดินาโม มอสโก ที่ได้รางวัลนี้เมื่อปี 1963 และเป็นชาวรัสเซียคนแรกที่ได้บัลลงดอร์

    ก่อนจะเข้าสู่ยุคของ เมสซี่ และ โรนัลโด้ อันที่จริงก็มีเหล่ายอดแข้งมากมายที่น่าจะได้เข้าสู่ความภาคภูมิใจของอาชีพนักเตะ แต่พวกเขาเหล่านั้นต้องผิดหวังไป อาทิ เปาโล มัลดินี่, อันเดรีย ปีร์โล่, เธียร์รี่ อองรี, เคนนี่ ดัลกลิช, จานลุยจิ บุฟฟ่อน,  แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด, อันเดรียส อิเนียสต้า, ชาบี เอร์นานเดซ, เฟเรนซ์ ปุสกัส และ เปเล่

    นั่นหมายความว่ารางวัลนี้ไม่ใช่ตาสีตาสาที่ไหนก็จะมาเอาไปครองไว้ได้ง่ายๆ

    วกกลับมายังเรื่องของ โรนัลโด้

    นี่คือนักเตะที่เหมาะแก่การเกิดมาเพื่อเป็นราชันตัวจริง

    จากเด็กน้อยผอมบางของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน จนได้รับการปลุกปั้นจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กระทั่งโยกสู่รังซานติอาโก้ เบร์นาเบว ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์

    นั่นมาจากความพยายามของเขาล้วนๆ

    จะให้พูดตามตรง โรนัลโด้ ไม่ได้เป็นนักเตะที่พรสวรรค์สูงดั่ง เมสซี่ แต่เขาใช้โรงยิม และสนามซ้อม ทำให้พรแสวงแซงหน้าหลายคนไปไกล

    จำนวนเกมทั้งหมดตั้งแต่ออกสตาร์ทอาชีพ 882 นัด เขายิงได้ถึง 620 ประตู และทำไป 202 แอสซิสต์

    รางวัลความสำเร็จกับ 3 สโมสรคือ แชมป์ลีก 5 สมัย, ถ้วยอื่นๆ 9 สมัย, ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย, สโมสรโลก 3 สมัย และแชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย

    ส่วนระดับนานาชาติ แม้จะไม่เคยเฉียดใกล้ถ้วยฟุตบอลโลก แต่ก็มีแชมป์ยูโรมาประดับเมื่อปีที่แล้วด้วย

    ซูเปอร์สตาร์ของ เรอัล มาดริด ได้กล่าวว่านี่ถือเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมากๆ สำหรับตน หลังจากที่เขาได้รับการโหวตให้เป็นเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ในปีนี้

    "ผมดีใจมากๆ มันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในอาชีพการค้าแข้งของผม ผมเฝ้ารอคอยช่วงเวลานี้มาเนิ่นนาน"

    "นี่เป็นปีที่ยอดเยี่ยม เราได้ทั้งถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก และลา ลีกา ขณะที่ในด้านผลงานส่วนตัวนั้น ผมก็ได้เป็นดาวซัลโวของแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย"

    "การได้แชมป์มันช่วยทำให้ผมได้รางวัลเหล่านี้ และเราก็ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทีมของผมทั้งที่มาดริดและโปรตุเกสจากใจจริง มันเป็นรางวัลที่สำคัญมากๆ สำหรับผม"

    "ผมหวังว่าตัวเองจะยังเล่นได้ในระดับนี้อีกหลายปี"

    "ผมหวังว่าการดวลกับเมสซี่จะยังคงดำเนินต่อไป หลายอย่างมันเกิดขึ้นก็เพราะมีเหตุผลของมัน"

    "ผมรู้สึกดีกับการเล่นในฤดูกาลนี้ และเราจะมารอดูกันว่าเราจะได้แชมป์อะไรบ้างตอนจบฤดูกาลไปแล้ว"

    "ส่วนเนย์มาร์เองก็มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม เขามีศักยภาพชั้นยอด และผมมั่นใจว่าเขาจะมีโอกาสได้รางวัลนี้ในอนาคต"

    ย้อนกลับไปปี 2012 เมสซี่ ชนะเลิศบัลลงดอร์ไปแล้วถึง 4 ครั้ง ส่วน โรนัลโด้ เพิ่งจะออกสตาร์ทนับหนึ่งเท่านั้น

    แต่พอมาปี 2017 โรนัลโด้ กับ เมสซี่ นั้นเท่ากันแล้ว

    ทุกอย่างมันมาจากร่างกาย ความสามารถ และความพยายามที่ไม่หยุดหย่อนของเขา

    และนี่แหละ คือสิ่งตอบแทนอันล้ำค่าที่เหมาะสมสำหรับชายผู้นี้

    คริสเตียโน่ โรนัลโด้


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด