สำหรับเจดอน ซานโช่ ดาวรุ่งพรสวรรค์สูงของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ตกเป็นข่าวอย่างหนักกับทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนใจอยากได้ตัวไปร่วมทีม ในสนนราคามากถึง 108 ล้านปอนด์ โดยถือเป็นการย้ายทีมที่น่าสนใจเอามากๆ
ช่วงนี้ เราย้อนกลับไปดูเส้นทางลูกหนังของดาวเตะทีมชาติอังกฤษ รายนี้กันหน่อย กับการเริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก ไปดูกันว่า ทัศนคติ และมุมมองที่เขามีต่อฟุตบอลเป็นอย่างไร ผ่านการบอกเล่าจากคนใกล้ตัว ที่เห็นพัฒนาการมาตั้งแต่อายุยังน้อย
ซานโช่ คือเด็กที่เกิด และเติบโตมาที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับวัตฟอร์ด ด้วยวัยเพียง 8 ขวบ สำหรับเด็กวัยประถมอย่างเขา นี่ถือเป็นความท้าทาย เพราะเขาต้องออกจากบ้าน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ผ่านระยะทางรวม 45 ไมล์ เพื่อเดินทางไปฝึกซ้อม และแข่งขันกับทีมอะคาเดมี่
ซานโช่ ทำแบบนี้แบบซ้ำไปซ้ำมา กระทั่งล่วงเข้าสู่อายุ 11 ด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกล กับการเดินทางเกินราว 2 ชั่วโมง ส่งผลให้วัตฟอร์ด ยื่นข้อเสนอให้เขามาอยู่กินที่ศูนย์เลี้ยงดูนักเตะเยาวชน โดยในช่วงแรก เขาไม่อยากทำแบบนั้น และรับมือกับความโดดเดี่ยวไม่ได้
ผลสุดท้าย จากการให้คำแนะนำของคนในครอบครัว ส่งผลให้เขายอมตัดสินใจออกจากบ้าน และไปเล่นฟุตบอลอย่างเต็มตัว อย่างไรก็ตาม มันก็ต้องแลกกับการที่เขาต้องเติบโตเกินวัย พร้อมกับการอยู่ห่างจากคนในครอบครัว และต้องทำอะไรต่ออะไรด้วยตัวเอง
คริส แม็คเกวน หัวหน้าอะคาเดมี่ของวัตฟอร์ด ออกมาย้อนความทรงจำ ถึงลูกศิษย์รายนี้เอาไว้ว่า “สโมสรของเรา ต้องการให้เด็กมีชีวิตอย่างที่ควรเป็น เราไม่ต้องการให้พวกเขากิน และนอนอยู่บนรถ นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราถึงอยากให้พวกเขามาอยู่ที่ศูนย์เยาวชน”
อย่างที่บอกไป แม้จะเป็นเด็กที่สืบเชื้อสายมาจากชาวตรินิแดด แอนด์ โตเบโก้ ที่มาเกิด และเติบโตที่ประเทศอังกฤษ ซานโช่ กลับมีฮีโร่ในดวงใจคือโรนัลดินโญ่ ศิลปินลูกหนังของทีมชาติบราซิล พร้อมกับใช้เวลาดูทักษะการเล่นผ่านคลิปวิดีโอเป็นประจำ นอกจากนี้ เขายังเป็นเด็กที่มีทัศนคติที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
แม็คเกวน กล่าวต่อว่า “สิ่งที่เขามีไม่เหมือนคนอื่นๆ นั่นก็คือความหิวกระหายที่จะประสบความสำเร็จ โดยสิ่งนั้นในตัวเขาถือว่ายิ่งใหญ่มาก เขามักไปเผชิญหน้ากับกองหลังที่เก่งสุดของฝ่ายตรงข้ามเสมอ เพราะเขาไม่ต้องการอะไรง่ายๆ และอยากท้าทายตัวเองอยู่ตลอด”
“ซานโช่ เป็นเด็กประเภทที่ว่า ระหว่างเกมการแข่งขัน เขามักจะวิ่งมาแถวริมเส้นข้างสนาม พร้อมกับถามถึงคำแนะนำ รวมไปถึงคำติชมที่มีต่อตัวเขาเอง ซึ่งเขาจะลงมือแก้ไขทันที หากได้รับการบอกว่า สิ่งที่ทำอยู่ไม่ถูกต้อง” หัวหน้าอะคาเดมี่ของวัตฟอร์ดทิ้งท้าย
กระทั่งอายุ 15 เขาต้องออกเดินทางอีกครั้ง ด้วยการเข้าระบบเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ในการปั้นนักเตะอายุน้อย ส่งผลให้เขาพัฒนา จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอังกฤษ รุ่นยู-17 ชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก และรองแชมป์ยูโร ซึ่งเขาได้รับคำชมจากเป็ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ของ "เรือใบสีฟ้า" เป็นอย่างมากเลยทีเดียว
กระนั้น เมื่อมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ เขายอมปฏิเสธค่าเหนื่อยมากกว่า 30,000 ปอนด์จากทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนย้ายไปร่วมทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งเขามองว่า ดอร์ทมุนด์ ถือเป็นสโมสรที่ชอบเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งลงสนาม และแสดงฝีมือในเกมระดับอาชีพ
แน่นอนว่า ซานโช่ ไม่ทำให้ต้องผิดหวัง โดยเฉพาะผลงานในบุนเดสลีกา เมื่อฤดูกาล 2019-20 ที่ผ่านมา เขามีส่วนร่วมกับการทำประตูของทีมมากถึง 33 ลูก แบ่งออกเป็นการยิง 17 ประตู กับอีก 16 แอสซิสต์ แน่นอนว่า ทั้งสองสถิตินั้น สูงที่สุดในทีม “เสือเหลือง” ถือเป็นนักเตะที่อันตรายมาก ทั้งการทำประตู และการสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม
แม้จะเป็นเด็กวัย 20 ที่กลายเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลก ทว่าเขายังคงเป็นเด็กที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน และไม่ได้เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง ตามประสานักฟุตบอลวัยรุ่นที่ถูกชื่อเสียง และเงินทองเข้ามาทักทายอย่างรวดเร็ว เขายังพยายามเป็นคนเดิมเสมอ เหมือนที่เคยเป็นมา
ชีวิตนอกสนามของซานโช่ แม้ว่าตัวของเขาจะอยู่ที่เยอรมัน ทุกวันนี้ เขายังคงส่งเสื้อฟุตบอลกลับไปยังอังกฤษ อยู่เป็นประจำ เพื่อมอบให้กับเด็กท้องถิ่น ที่อาศัยอยู่ในย่านที่เขาเติบโตมา เพื่อเป็นการสร้างความฝัน และแรงบันดาลใจแก่เด็กรุ่นต่อไป .... น่าสนใจเหลือเกินว่า จุดหมายต่อไปของเขา จะคือสโมสรใด ?
